เวย์ใช้เวลาเปลี่ยนล้อรถนานพอสมควรเพราะเครื่องมือช่างที่เธอมีนั้นมีไม่กี่อย่างทำให้ยากต่อการถอดล้อ ปกติเขาจะพกกล่องเครื่องมือช่างติดรถตัวเองไว้ตลอดแต่วันนี้เขาเอารถมาส่งให้ลูกค้าคนเดียวไม่คิดว่าบ้านของลูกค้าจะต้องเข้ามาซอยลึกขนาดนี้ เมื่อส่งรถให้ลูกค้าเสร็จเวย์ก็เดินมาตามซอยเพื่อไปหารถแท๊กซี่ตามถนนใหญ่ก็มาเจอรถของนิชาจอดอยู่ข้างทางพร้อมกับได้ยินเสียงเรียกตะโกนขอความช่วยเหลือเขาจึงรีบวิ่งไปช่วยแต่ไม่คิดว่าจะเป็นสาวผมแดงที่ชอบยืนเถียงกับเขาถึงสองครั้ง ขณะที่เวย์กำลังนำล้อใหม่ใส่รถอยู่นั้นก็ต้องชะงักเมื่อเห็นนิชามายืนอยู่ข้างๆ เขา
“ให้ช่วยอะไรมั้ย”
นิชาเอ่ยถามเวย์ด้วยน้ำเสียงปกติไม่มีวีนหรือแว๊ดเสียงใส่เขาเหมือนทุกครั้งจนเวย์ถึงกับต้องเงยหน้ามองด้วยความสงสัยทันที
“พวกนั้นมันเอายาอะไรให้คุณกินรึเปล่า”
เวย์เงยหน้าถามนิชาพร้อมกับคิ้วขมวดใส่เธอ
“เปล่านะ พวกนั้นไม่ได้เอาอะไรให้ฉันกินเลย ทำไมหรอ”
นิชาถามเวย์กลับด้วยความสงสัย
“เห็นพูดเพราะ ไม่แว๊ดเสียงเหมือนปกติที่เจอกัน ก็คิดว่าโดนยาจนเบลอซะอีก”
“ไอ้คนบ้า ฉันอุตส่าห์ถามดีๆ ยังมาพูดกวนอีก ชิ”
นิชาแว๊ดเสียงใส่เวย์ทันทีเมื่อโดนเขาพูดกวนใส่
“หึ แบบนี้ค่อยปกติหน่อย เมื่อกี๊คุณพูดดีด้วยทำเอาผมขนลุกเลยนะจะบอกให้ นึกว่าคุณโดนยามาแล้วเกิดมาปล้ำผมกลางป่านี่ผมซวยเลยนะ เดินมาดีๆ ก็ได้มาเป็นผัวคน”
“กรี๊ดด ไอ้คนบ้า ใครอยากเอานายเป็นผัวกัน”
“โอ๊ย! นี่คุณเล่นเตะผมเลยหรอ เจ็บนะคุณ”
เวย์ร้องเจ็บทันทีเมื่อนิชาทั้งด่าเขาแล้วยังมาเตะเข้าที่หลังเขาจนหน้าคว่ำลงไปที่รถจนเวย์ต้องเอามือยันรถเธอไว้
“นายเลี้ยงหมาไว้ในปากรึไง คำพูดคำจาแต่ล่ะอย่างพูดแต่เรื่องไม่ดีออกมา เสร็จรึยัง ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”
นิชายืนกอดอกแว๊ดเสียงใส่เวย์ด้วยความโมโห
“สั่งเหมือนผมเป็นลูกน้องเลยนะคุณ เดี๋ยวก็ใส่น๊อตให้ไม่ครบปล่อยให้ล้อหลุดเลยนิ”
เวย์พูดขึ้นอย่างกวนๆ
“ถ้ากล้าก็ลองสิ แค่น๊อตฉันใส่เองก็ได้”
นิชาพูดใส่เวย์อย่างไม่ยอม
“โอเค งั้นคุณก็ใส่น๊อตที่เหลือเองแล้วกัน ผมไปล่ะ”
พูดจบเวย์ก็วางเครื่องมือลงพื้นแล้วลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินไปทันที
“งืออ เดี๋ยวนาย นายจะไปจริงๆ หรอ”
เวย์ยิ้มมุมปากทันทีเมื่อนิชานั้นมาจับแขนเขาไว้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้
“ก็คุณบอกว่าทำเองได้ ผมก็จะกลับไงครับ จะอยู่ให้เสียเวลาทำไม”
เวย์แกล้งพูดเสียงเรียบพร้อมกับทำหน้านิ่งจนนิชาถึงกับหน้าถอดสีเพราะคิดว่าเขาจะไปจริงๆ
“ยะ…อย่าพึ่งไป นายมาช่วยใส่ล้อรถให้เสร็จก่อนสิ”
นิชาพูดขึ้นพร้อมกับมองเวย์ด้วยสีหน้าอ้อนวอนจนเวย์ถึงกับรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นสีหน้าอ้อนของเธอ
‘เชี่ยย ทำหน้าแบบนี้ แม่ง โคตรน่ารัก แข็งใจไว้ไอ้เวย์อย่าหลงใจอ่อนให้เค้าง่ายๆ นะมึง’
เวย์คิดในใจทันทีเมื่อความรู้สึกข้างในมันกำลังบอกว่าคนตรงหน้านั้นกำลังทำท่าทางน่ารักใส่ตัวเอง จึงรีบสลัดความคิดแล้วปรับสีหน้ามานิ่งขรึมทันที
“อยากให้ทำให้ก็พูดขอร้องผมดีๆ สิ”
“ฉันก็พูดขอร้องนายไปแล้วไง”
นิชาพูดขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเมื่อได้ยินคำพูดของเวย์
“หึ เมื่อกี๊นี่คือพูดขอร้องหรอ ผมคิดว่าคุณสั่งผมซะอีก พอดีอยากได้ยินคำพูดเพราะๆ เสียงหวานๆ น่ะครับ แบบว่า คุณขา ช่วยทำต่อให้เสร็จก่อนได้มั้ยคะ นะคะคุณขา อะไรประมาณนี้น่ะ”
นิชาถึงกับเบิกตากว้างใส่เวย์เมื่อได้ยินประโยคที่เขาอยากให้เธอพูดเพราะเขานั้นทำเสียงล้อเลียนใส่ด้วย
“ไม่มีทาง ฉันไม่พูดแบบนั้นแน่นอน แค่คิดก็จะอ้วกแล้ว”
นิชาพูดขึ้นอย่างไม่ยอม
“ไม่พูด งั้นคุณก็ทำเองแล้วกัน ไปล่ะ”
พูดจบเวย์ก็หันหลังแกล้งจะเดินไปแต่ก็โดนนิชาดึงแขนไว้เหมือนเดิม
“ดะ…เดี๋ยวสินาย งืออ โอเคๆ ฉันยอมพูดก็ได้”
เวย์กระตุกยิ้มพอใจทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเธอจึงหันหน้ากลับมาหาเธอเหมือนเดิม
“พูดมาสิครับ”
เวย์พูดขึ้นพร้อมกับยืนกอดอกพิงรถของเธอแล้วส่งยิ้มกวนๆ ใส่รอฟังเธอพูด จนนิชาได้แต่ขบกรามแน่นมองค้อนใส่เวย์อย่างคาดโทษเมื่อเห็นท่าทางและสีหน้ากวนๆ ของเขา เมื่อไม่มีทางเลือกนิชาจึงต้องยอมทำตามที่เขาบอก
“คุณขา ช่วยเปลี่ยนล้อรถให้เสร็จก่อนได้มั้ยคะ พอใจรึยัง”
นิชากัดฟันพูดประโยคที่เวย์ให้พูดพร้อมกับมองเขาอย่างไม่พอใจ ส่วนเวย์ก็ยิ้มชอบใจเมื่อเอาชนะเธอได้
“ยัง”
“อะไรของนาย ฉันก็พูดไปแล้ว นายอย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ”
นิชาแว๊ดเสียงใส่เวย์ทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“มันยังขาดอีกประโยคสุดท้าย พูดให้จบสิครับ เร็วสิ ไม่งั้นผมไปจริงๆ”
“งืออ พูดก็ได้”
นิชาพูดขึ้นอย่างจำยอมจนเวย์ได้แต่กระตุกยิ้มพอใจไม่หุบ
“คุณขา ช่วยเปลี่ยนล้อรถให้เสร็จก่อนได้มั้ยคะ นะคะคุณขา ฉันพูดหมดแล้วมาทำให้ฉันเลย”
นิชารีบพูดขึ้นทันทีด้วยความไม่พอใจเมื่อเธอนั้นแพ้ทางให้กับคนตรงหน้า
“หึ พูดแบบนี้ค่อยน่าช่วยหน่อย รอสักครู่นะครับคุณผู้หญิง”
พูดจบเวย์ก็นั่งลงใส่น๊อตให้นิชาต่อ ส่วนนิชาก็ได้แต่กัดฟันมองค้อนใส่เขาอย่างคาดโทษ
‘ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้คนนิสัยไม่ดี’
นิชากัดฟันคิดในใจขณะที่ยืนมองเวย์ใส่น๊อตกับล้อรถให้เธออยู่ สักพักเขาก็ทำเสร็จแล้วเก็บล้อรถเดิมพร้อมกับเครื่องมือไว้ที่หลังรถให้เธอ
“เสร็จแล้วคุณ”
เมื่อเอาของเก็บใส่หลังรถให้เธอเรียบร้อยแล้วเวย์ก็เดินมาหานิชาที่ยืนอยู่ข้างประตูฝั่งคนขับทันที
“อืออ งั้นฉันไปล่ะ”
พูดจบนิชาก็ตั้งท่าจะขึ้นรถแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเวย์เรียกก่อน
“เดี๋ยวสิ”
“นายมีอะไรอีก”
นิชาหันมาถามเวย์ด้วยความสงสัย
“ขอบคุณสักคำน่ะมีมั้ยครับ”
เวย์พูดขึ้นทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อไม่ได้ยินคำขอบคุณจากเธอ
“ขอบคุณ”
พูดจบนิชาก็ขึ้นรถแล้วขับไปทันที
“แม่ง พูดขอบคุณแบบไม่เต็มใจแบบนี้จะพูดทำไมวะ ทำความดีไม่ขึ้นจริงๆ เลยกูนิ”
เวย์พูดบ่นให้นิชาทันทีแล้วเดินไปอย่างอารมณ์ไม่ดี เพราะลืมว่าตัวเองต้องเดินไปยังถนนใหญ่อีกไกลแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรถของเธอถอยหลังกลับมาหาเขา เวย์จึงหยุดเดินจนรถของเธอมาจอดตรงที่เขายืนอยู่ จากนั้นนิชาก็ลดกระจกฝั่งข้างคนขับลงเพราะเวย์ยืนอยู่ตรงนั้น
“ล้อรถมีปัญหาหรอคุณ”
เวย์เอ่ยถามทันทีพร้อมกับมองไปที่ล้อรถเพื่อจะเช็คเพราะเรื่องซ่อมรถเขานั้นใส่ใจรายละเอียดมาก
“เปล่า”
ขณะที่เวย์กำลังจะเดินไปดูล้อรถก็ต้องชะงักหันกลับมามองนิชาเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ
“แล้วคุณถอยรถกลับมาทำไม”
เวย์เอ่ยถามนิชาด้วยความสงสัย
“ฉันพึ่งสังเกตว่าคุณไม่มีรถ เลยถอยรถกลับมาถามว่าคุณจะไปไหน”
นิชาพูดขึ้นเสียงเรียบแต่ก็ทำสีหน้าเชิดใส่เพราะกลัวเสียฟอร์มจนเวย์ได้แต่ยิ้มมุมปากใส่เธอ
“ผมเอารถมาส่งให้ลูกค้าเลยจะเดินไปหาแท็กซี่กลับที่ถนนใหญ่”
เวย์ตอบนิชาไปตามตรง
“ขึ้นรถสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
เวย์มองนิชาด้วยสีหน้าอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าเธอจะชวนเขาขึ้นรถ
“ยืนนิ่งทำไม จะไปมั้ยเนี่ย ถ้าไปก็รีบๆ ขึ้นมาสิ”
นิชาแว๊ดเสียงใส่เวย์ทันทีเมื่อเห็นเขามองเธออย่างอึ้งๆ
“ไปสิครับ กำลังตกใจว่าผีเข้าคุณอยู่รึเปล่า”
เวย์พูดขึ้นอย่างกวนๆ แล้วเปิดประตูขึ้นรถทันที
“ไอ้บ้า เอะอะก็ว่าฉันโดนยา เอะอะก็ว่าฉันโดนผีเข้า ในหัวนายคิดแต่เรื่องแปลกๆ แบบนี้ตลอดรึไง”
นิชาพูดขึ้นเสียงใส่เวย์เสียงดังทำเอาเวย์ถึงกับรีบปิดหูอย่างเร็ว
“คุณจะพูดเสียงดังทำไมเนี่ย หูผมอื้อหมดแล้ว”
“ก็ใครให้นายมาพูดกวนฉันก่อนล่ะ หยุดพูดกวนฉันเลยนะฉันไม่มีสมาธิขับรถ”
นิชาพูดดักเวย์ทันทีเพราะกลัวเขาจะเถียงกับเธอต่อ
“หึ งั้นให้ผมขับก็ได้นะ คุณจะได้มีสมาธิเถียงกับผมต่อ”
นิชาหันไปมองค้อนใส่เวย์ทันทีแต่ไม่พูดอะไรต่อเพราะกำลังใช้สมาธิกับการขับรถอยู่ ส่วนเวย์เมื่อเห็นดูเธอจะตั้งใจขับรถจึงเงียบเสียงไม่พูดกวนเธอต่อ ตาคมมองร่างบางที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่เงียบแล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว