Chapter.4 เด็กหมอ

1171 Words
ผมใช้เวลาผ่าตัดก้อนเนื้อออกจากช่องท้องน้อยของเธอนานเกือบสามชั่วโมง ไม่ง่ายเลยเธอมีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง ความดันขึ้นลงไม่คงที่ อัตราการเต้นของหัวใจเสี่ยงล้มเหลวเพราะร่างกายอ่อนแอมาก เป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง แต่ในที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยดี เธอถูกพาไปห้องพักฟื้นเรียบร้อย ผมจัดห้องพิเศษที่ดีที่สุดของทางโรงพยาบาลเอาไว้ให้ ในเมื่อตั้งใจดูแลก็จะทำให้เต็มที่และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอ "พู่ไหมปลอดภัยแล้ว หมอทำการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออกเรียบร้อย แต่เชื้อมะเร็งยังเหลืออยู่ เซลล์มะเร็งกำลังลุกลามไปตามอวัยวะสำคัญ พู่ไหมต้องรักษาโดยการทำคีโม " ผมรายงานอาการของพู่ไหมและแนวทางการรักษาขั้นต่อไปให้พ่อกับแม่ของเธอฟัง ตอนนี้คือเวลานอนของผม แต่ผมต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อน เรื่องนอนเมื่อไหร่ก็ได้ผมมันพวกอดนอนเก่งอยู่แล้ว "นี่คือค่ารักษาคร่าวๆ ที่พวกคุณจะต้องจ่ายให้กับทางโรงพยาบาล สิทธิ์นี้เป็นสิทธิพิเศษ " ผมยื่นบิลค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ให้ทั้งสองคนดู แม้ได้รับสิทธิ์การรักษาแต่ราคาก็ค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร โรคนี้ต้องรักษาจนกว่าจะหายและจนกว่าจะมั่นใจว่ามันตายไปจากร่างกายแล้วจริงๆ ตายใจไม่ได้ต้องตรวจเช็กอย่างละเอียดและรอบคอบ "เอ่อ คือเราสองคน ไม่มีเงินเยอะขนาดนี้หรอกค่ะ ทำเรื่องย้ายไปโรงพยาบาลอื่นได้ไหมคะ ผ่าเสร็จแล้วไม่ใช่หรือ" "เอาล่ะ ผมมีข้อเสนอ พู่ไหมจะได้รักษาจนหายเป็นปกติ รวมทั้งได้รับการดูแลอย่างดีเป็นคนไข้พิเศษของทางโรงพยาบาล และจะได้เรียนจนจบ แต่คุณสองคนจะต้องเซ็นยินยอมให้ผมเป็นคนดูแลเธอ" เธอจะหนีผมไปไหนไม่ได้อีกแล้ว รอยยิ้มและความสดใสที่ผมเฝ้ารอคอยมาตลอด "คงไม่ได้หรอกค่ะ ขาดยัยพู่ไปบ้านเราก็คงแย่หนักกว่าเดิม เราจะปล่อยให้มันไปอยู่สุขสบายไม่ได้หรอกค่ะ มันต้องตอบแทนพ่อแม่ " ความคิดและคำพูดเห็นแก่ตัว ต้องเก็บกลั้นอารมณ์คุกรุ่นเอาไว้ ระเบิดตอนนี้เรื่องคงจบแน่ "ไหนบอกผมมาสิ ว่าคุณสองคนเก็บพู่ไหมมาจากไหน ผมรู้ทุกอย่าง คุณกำลังทำให้อนาคตของเด็กคนนี้ดับด้วยคำว่าตอบแทนบุญคุณอย่างนั้นหรือ " "พู่ไหมเป็นลูกของเรา หมออย่ามาพูดมั่วซั่วแบบนี้นะ คิดว่าเราจนไม่มีทางสู้อย่างนั้นเหรอ หน็อย ขอแล้วไม่ให้ยังจะมาขู่อีก ไปพ่อไปทำเรื่องย้ายลูกกัน" "หนี้ทุกบาททุกสตางค์ ผมจะเป็นคนชดใช้ให้ และจะให้เงินอีกก้อนเอาไว้ไปตั้งตัว พอจะทำให้เปลี่ยนใจได้ไหม" พูดกับคนพวกนี้ก็ต้องพูดด้วยเงิน ไม่อย่างนั้นวันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่อง "แล้วฉันจะเชื่อหมอได้ยังไงเกิดหมอรับลูกสาวเราไปแล้วไม่ทำตามอย่างที่พูดพวกเราก็ตายน่ะสิ" "คนอย่างผมพูดจริงทำจริง อย่าลืมว่าผมเป็นหมอ ผมมีจรรยาบรรณรักษาคำพูดพอ ผมต้องการรับพู่ไหมมาดูแลจริงๆ " ผมเปิดลิ้นชักหยิบเช็คขึ้นมาเขียนตัวเลขจำนวนหนึ่ง มากพอที่จะทำให้สองผัวเมียคู่นี้อยู่ได้สบายไปตลอดชีวิต ผมทุ่มไม่อั้นขอแค่ทำตามข้อตกลงที่เสนอให้ต่อไปนี้ได้ก็พอ "โห พ่อดูสิ ตกลงค่ะ คุณหมอเอายัยพู่ไปได้เลย จะเอามันไปทำเมียทำคนใช้ที่บ้านได้หมดเลยค่ะ" ถ้าพู่ไหมมาได้ยินจะรู้สึกยังไง? "ส่วนเรื่องหนี้สินที่พวกคุณก่อเอาไว้ ผมจะตามใช้ให้จนหมด แต่มีข้อแม้" "ข้อแม้อะไรคะ " "พวกคุณจะต้องออกไปจากชีวิตของพู่ไหม เพราะถ้าพวกคุณยังอยู่ ผมคิดว่าพู่ไหมต้องไม่ยอมกับเรื่องนี้แน่นอน " อย่าหาว่าใจร้ายนักเลย แค่อยากให้ทุกอย่างที่ทำเป็นระบบระเบียบตามแบบแผนที่วางเอาไว้ อย่างที่บอกพู่ไหมต้องไม่ยอมมาอยู่กับผมโดยทิ้งพ่อกับแม่เอาไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน ถ้าบอกความจริงเรื่องที่ทั้งสองคนไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงคงยังไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป รอให้เธอปรับตัวแล้วโตขึ้นกว่านี้อีกหน่อย วันนั้นเธอจะได้รู้ทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง และเธอก็จะยอมรับด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ "ทำไมละคะ แล้วจะให้พวกเราไปอยู่ที่ไหน" "ผมเตรียมไว้ให้แล้ว ห้ามติดต่อ ห้ามมาให้เห็น ผมขอแค่นี้ แล้วก็เซ็นเอกสารข้อตกลงนี้ให้ผมด้วย" ข้อตกลงปากเปล่าคงอยู่ได้ไม่นาน ต้องมีลายลักษณ์อักษรข้อตกลงเป็นหลักฐาน เป็นหมอพ่วงมาเฟียต้องรอบคอบเสมอ " ยังไงซะพวกเราก็เลี้ยงมันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ฝากมันด้วยนะคะ พ่อกับแม่มันก็ไม่มีพวกเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่ามันเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฝากด้วยนะหมอ" "ผมเข้าใจ ขอบคุณมากที่ไว้ใจผม พู่ไหมจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแน่นอน ส่วนเรื่องพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอผมจะจัดการเอง " "ขอเข้าไปดูอาการมันหน่อยได้ไหมคะ " อย่างน้อยผัวเมียคู่นี้ก็เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องห้าม "ได้สิ อีกครึ่งชั่วโมงเธอจะฟื้น ผมให้ไม่เกินสิบนาที" "ได้ครับ/ค่ะ" ............... ผมให้พยาบาลพาทั้งสองคนไปเปลี่ยนชุดแล้วให้เข้าเยี่ยมตามเวลาที่กำหนด ส่วนผมของีบยี่สิบนาทีก่อนเธอจะฟื้น ผมสั่งคนมารับทั้งสองหน้าโรงพยาบาลพาไปส่งบ้านพักที่เตรียมไว้ให้ "แม่เพลงครับ ให้คนเข้าไปทำความสะอาดคอนโดให้ผมด้วยนะครับ" "ได้สิครับ จะเข้าไปอยู่หรือลูก " "เปล่าครับ พอดีมีคนไข้ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดไม่มีที่พัก ผมก็เลยจะให้ไปอยู่ที่คอนโด " "ใกล้ชิดขนาดไหนนะ ลูกชายแม่ถึงได้ยอมให้ไปอยู่คอนโดสุดหวงได้ แม่จะให้คนเข้าไปจัดการให้นะครับ" แม่พูดแบบนี้เพราะผมมันเป็นโรคหวงที่อยู่ หวงทุกอย่างที่เคยอยู่เคยใช้ ปกติผมจะใช้ชีวิตอยู่โรงพยาบาล คอนโดป่านนี้คงกลายเป็นห้องร้างไปแล้ว ต้องทำความสะอาดปัดฝุ่นใหม่ทั้งหมด "ครับแม่ ขอบคุณครับ รักแม่เพลงนะครับ" ผู้หญิงที่ผมรักและหวงที่สุด เสร็จงานเมื่อไหร่ว่าจะกลับไปกอดและหอมให้ชื่นใจ "ยินดีต้อนรับเข้าสู่การเป็นเด็กหมอ " .............................................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD