ตั้งแต่นายเถื่อนออกจากห้องไปฉันก็รีบตัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยทันที คิดแล้วอายเป็นบ้า ร่างกายของฉันนายเถื่อนเห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วหากรู้ถึงไหนคงอายถึงนั้นไม่น่าหลวมตัวเลย อีข้าวเอ้ยอยากจะฟาดตัวเองด้วยไม้เรียว
ก็อก ก็อก ก็อก
ฉันเดินไปเปิดประตูโดนไม่ดูตาแมว ทันทีที่เปิดออกคนตรงหน้าของฉันคือนายเถื่อน
“เอ่ออ” ฉันอั้มอึ้งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดีนึกถึงเหตุผลเมื่อกี้หน้าก็ร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
“ไปอาบน้ำจะพาไปกินข้าว” นายเถื่อนพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาในห้องราวกับเป็นห้องของตัวเอง
“ไปไหน” ฉันถามขึ้นอีกครั้ง อยู่ๆ ก็มาชวนโดยไม่บอกอะไรแบบนี้
“ไปกินข้าวฟังไม่รู้เรื่องหรือไง” นายเถื่อนตอบกลับมาพร้อมน้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่ารำคาญฉันแน่ๆ
“ที่ไหนละ” เพราะที่ฉันถามคือฉันอยากรู้ว่านายคนนี้จะพาฉันไปที่ไหน รู้ตั้งแต่แรกที่พูดออกมาจากปากว่ากินข้าวแต่กินที่ไหนละ
“มึงอยากไปที่ไหนก็คิดเอาแล้วไปอาบน้ำก่อนที่กูจะไปอาบให้” ประโยคแรกเหมือนใจดีแต่ประโยคหลังไม่ต้องพูดถึงฉันไม่ตอบอะไรกลับไปเดินตรงเข้าห้องไปอาบน้ำเพราะฉันเชื่อแล้วว่านายเถื่อนทำจริงแน่นอน
ภายในเวลาไม่นานฉันก็ออกมาในชุดที่สบายๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้นชุดประจำที่ฉันชอบใส่
“กางเกงหรือผ้าเช็ดตีน” นายเถื่อนทักขึ้นทันทีเมื่อฉันเดินออกมาจากห้อง
“ผ้าเช็ดตีนบ้านนายสิ” ฉันพูดอีกครั้งกล้านักมาว่ากางเกงของฉันตัวนี้ซื้อมาตั้งแพงกล้ามากที่มาเทียบกางเกงของฉันกับผ้าเช็ดตีน
“สั้นขนาดนี้มึงจะใส่ไปอ่อยใคร” นายเถื่อนไม่พูดเปล่าแถมยังเดินมาใกล้ๆ ฉันอีกด้วย
“กะ...ก็ใส่ปกติน่า” น้ำเสียงกระตุกๆ ของฉันดังขึ้นทันทีเพราะนายเถื่อนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“ไปเปลี่ยน” นายเถื่อนพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ไปเลยเหอะฉันหิวนะ” ฉันพูดเปลี่ยนเรื่องขึ้นทันทีเพราะปกติฉันก็ใส่ของฉันแบบนี้อยู่แล้ว
“อย่าให้กูได้เป็นผัวนะกูจะเผาทิ้งให้หมด” พูดจบก็เดินนำฉันออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้ฉันยืนยิ้มกับคำพูดของเขาอยู่คนเดียว
ข้อดีของนายเถื่อนคือถึงปากจะหมาแต่ก็ทำให้เขินได้
“มึงจะกินอะไร” นายเถื่อนถามขึ้นอีกครั้งขณะที่เราสองคนกำลังลงลิฟต์
“อยากกินอาหารตามสั่งใต้คอนโด” ฉันตอบกลับไปนายเถื่อนที่เดินออกจากลิฟต์เป็นคนแรกก็พยักหน้าเป็นอันรับรู้
เมื่อเข้ามาถึงร้านฉันก็เลือกโต๊ะแล้วเดินเข้าไปนั่งทันทีส่วนนายเถื่อนก็เดิมตามมาติดๆ
“อ้าวไอ้เถื่อน” เสียงผู้ชายโต๊ะข้างๆ ทักขึ้น
“เห้ยทำไมสภาพงี้” ผู้ชายโต๊ะข้างๆ คนเดิมถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นแผลบนใบหน้าของนายเถื่อน
“กูไปช่วยไอ้แบงค์มาจากลูกน้องไอ้กรณ์” นายเถื่อนตอบกลับไปทันที
“ไม่บอกว่ะจะได้แจม” โต๊ะข้างๆ พูดอีกครั้ง
ฉันไม่ได้สนใจบทสนทนาของเขาหรอกนะแค่มันได้ยินเฉยๆ เพราะโต๊ะเราติดกัน
“ทำปากดีไอ้ชิมวันก่อนยังมาเรียกกูให้ไปช่วยอยู่เลย” นายเถื่อนพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินมานั่งข้างฉัน
“เมียมึง” ผู้ชายที่ชื่อชิมถามขึ้นอีกครั้ง
“มะ..ไม่ใช่ค่ะ” ฉันรีบปฏิเสธทันทีเพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายเถื่อนสักหน่อย
“เออใช่” ฉันหันหน้ามองนายเถื่อนตาขวางทันที
“เหี้ยไรกันแน่” ผู้ชายที่ชิมพูดขึ้นอีกครั้งมองฉันกับนายเถื่อนสลับกันไปมา
“เมียกู” นายเถื่อนพูดย้ำอีกครั้งและดูเหมือนเสียงของนายเถื่อนจะดังจนผู้ชายที่มองฉันอยู่หันกลับไปหมด ฉันไม่ได้คิดไปเองแต่นายเถื่อนกำลังห่วงฉันอยู่จริงๆ เพราะไม่ใช่แค่คำพูดของนายเถื่อนเท่านั้นแต่สายตาของนายเถื่อนยังไล่มองผู้ชายทุกคนในที่นี่อยู่ด้วย
“กูไม่น่าให้มึงใส่กางเกงตัวนี้มาเลยหงุดหงิดฉิบหาย” นายเถื่อนพูดขึ้นพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นดื่มส่วนคิ้วก็ขมวดกันเป็นปมท่าทางหงุดหงิดแบบนี้เขากำลังหึงฉัน
“มีอะไรน่าหงุดหงิดนายคิดไปเอง” ฉันพูดขึ้นทันที
“เห็นไหมว่าพวกมันมองมึง” นายเถื่อนพูดพร้อมกวาดสายตาไปทั่วร้าน หน้าตาเถื่อนๆ สายตาโหดๆ ทำผู้ชายทุกคนต้องก้มหน้าหนี
“อย่าไปสนใจสิ ฉันเดินไปเอาข้าวก่อนนะ” ฉันตอบกลับไปทันทีเมื่อเห็นว่าข้าวของเราได้แล้ว
“กางเกงก็สั้นยังอยากเสือกจะเดินนั่งนี่เดี๋ยวกูไปเอาเอง” พูดจบนายเถื่อนก็ลุกเดินไปเอาข้าวทันที
หลังจากกินข้าวใต้คอนโดเสร็จฉันก็ยื่นอยู่หน้าคอนโดก่อนจะพูดขึ้น
“กลับบ้านนายไปได้แล้ว” ฉันพูดขึ้นทันที
“ขอนอนด้วย” นายเถื่อนตอบกลับมาทันที
“บ้าหรือเปล่าจะมาขอนอนด้วยทำไมดูก็ไม่เจ็บแผลแล้ว” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมไล่มองแผลนายเถื่อนที่ไม่ค่อยจะบวมช้ำสักเท่าไหร่
“โอ้ย…เจ็บแผลขึ้นทันทีเลย” นายเถื่อนพูดพร้อมกับทำท่าเอามือจับแผลบอกคำเดียว...
"ปลอมมาก” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้ามาในลิฟต์ทันที
“ตามมาทำไมอีกเนี่ย” ฉันถามนายเถื่อนอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขาตามฉันเข้ามาในลิฟต์
“ไปห้องกู” นายเถื่อนพูดจบก็กดลิฟต์ไปที่ชั้นสามสิบ ห้องกูที่นายเถื่อนหมายถึงอยู่ที่นี่หรอ คือยังไงแล้วมาขอนอนกับฉันทำไมนายเถื่อนนายคนนี้มันเจ้าแผนการที่สุด
“อยู่ที่นี่แล้วมาขอนอนห้องฉันทำไมทำเหมือนบ้านตัวเองไกลนักไกลหนา” ฉันพูดขึ้นทันทีเมื่อเข้ามาถึงห้องนายเถื่อนจะว่าไปห้องนายคนนี้สวยมา และกว้างกว่าห้องของฉันมากและพึ่งสังเกตว่าชั้นสามสิบมีแค่สองห้องเท่านั้นคือรวยไปไหนอะ
“ก็บอกว่าอยากนอนด้วยแต่มึงไม่ให้นอนงั้นมานอนห้องกูละกันตามสบายนะคิดว่าห้องตัวเอง” ในเมื่อเจ้าของห้องอนุญาตฉันก็เดินสำรวจทันทีห้องฉันที่ว่าวิวสวยแล้วเจอห้องนายเถื่อนเข้าไปวิวสวยกว่ามากยิ่งบรรยากาศยามเย็นแบบนี้ท่ามกลางแสงไฟจากเสาไฟบนถนนและไฟต่างๆ ของตึกมันสวยมาก
“ห้องกูวิวดีถ้าชอบก็ย้ายมาอยู่ได้” นายเถื่อนพูดขึ้นอีกครั้ง
“ฝันเหอะฉันจะกลับละ” ฉันพูดพร้อมกับปลีกตัวออกมา ขืนอยู่ต่อที่นี่ฉันไม่ปลอดภัยแน่ๆ
“ค่อยกลับดูหนังกันก่อน” นายเถื่อนพูดพร้อมกับหยิบรีโมทเปิดทีวีเข้า Netflix ก่อนจะนอนลงบนเตียงพร้อมกับเอามือตบเตียงที่ว่างข้างๆ เป็นเชิงบอกว่าฉันควรลงมานอนบนเตียงได้แล้ว
“แค่ดูหนังมึงจะคิดอะไรมากพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ไม่ต้องไปโรงเรียน” นายเถื่อนพูดอีกครั้งฉันจึงจำยอมจะว่าไป ฉันควรเปิดใจให้นายเถื่อนเรื่องความรักฉันควรเปลี่ยนทัศนคติที่ว่าเวลาไม่ได้เป็นตัวกำหนดอะไรหากมันใช่ก็คือใช่แต่ยังไงก็ต้องใช้เวลาในการศึกษาดูใจแต่สำหรับนายเถื่อนฉันก็พูดได้เต็มปากว่าหลายครั้งที่นายเถื่อนทำให้ฉันเขินทำให้ฉันรู้สึกดีแต่ติดที่ว่าเราพึ่งรู้จักกันคำนี้มันค้ำคอสำหรับฉัน จึงไม่สามารถเชื่ออย่างที่นายเถื่อนพูดได้หมดแต่ฉันก็พูดแล้วว่าจะเปิดใจเอาจริงๆ ก็เปิดมาตั้งแต่วันที่นายเถื่อนเข้ามาในห้องฉันแล้วแหละ เพราะถ้าไม่ชอบไม่สนใจฉันจะยอมแบบนี้หรอ
นายเถื่อนเปิด Netflix เรื่องสามร้อยหกสิบห้าวัน
“เรื่องนี้หรอ” ฉันถามขึ้นทันทีหนังเรื่องนี้ออกมาสักพักแล้วถ้าถามว่าเคยดูไหมบอกเลยว่าไม่
หนังมันดูอนาจารมากเลยสำหรับฉันแต่ถ้าพูดถึงพระเอกบอกเลยหล่อมาก
“เออเรื่องนี้กูไม่เคยดูแต่คนอื่นบอกเด็ด”
❤️
ฝากติดตามกดถูกใจ คอมเมนท์ได้นะคะ ขอบคุณค่ะ