เป็นของข้าครั้งที่ 9

3422 Words
ปีศาจจิ้งจอกตนนั้น... เป็นของข้า เป็นของข้าครั้งที่ 9 หงเฟยจวินที่ยืนกอดอกอยู่ส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเห็นว่าไป่ถิงถิงยิ้มกว้างทันทีที่ได้เจอหน้าเขา ร่างสูงค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะวางมือบนหน้าผากเล็ก “เป็นอย่างไรบ้าง” ไป่ถิงถิงส่ายหน้า “ข้าไม่ได้เป็นอะไรเลยท่านเฟยจวิน แค่รู้สึกง่วงเท่านั้น” “ข้ากลับไปที่สวรรค์จนกลับมาที่แดนจิ้งจอกอีกครั้ง เจ้าก็ยังจะนอนอีกหรือ” หงเฟยจวินเลิกคิ้ว “เช่นนั้นข้าจะลุกขึ้นพูดคุยกับท่าน” ไป่ถิงถิงลุกขึ้นนั่งแต่ก็โดนหงเฟยจวินดันตัวเอาไว้ “นอนเถิด ข้าเพียงพูดเล่นเท่านั้น” ไป่ถิงถิงเลิกคิ้ว “ท่านน่ะหรือพูดเล่น” “แล้วข้าพูดเล่นไม่ได้หรืออย่างไร เหตุใดเจ้าต้องทำหน้าตาเช่นนั้น” “ข้าก็แค่รู้สึกประหลาดใจเท่านั้นเอง” หงเฟยจวินส่ายหน้า “เจ้าพักผ่อนเถิด ข้าจะออกไปพูดคุยกับบิดาของเจ้า” “เช่นนั้นข้าไปด้วย” ไป่ถิงถิงดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที “เจ้านอนพักเถิด” หงเฟยจวินดันไป่ถิงถิงให้นอนลง “ไม่เอา ข้าจะไปด้วย” “เจ้าเพิ่งใช้พลังไปอย่างมหาศาล ควรพักผ่อนจะเป็นการดีที่สุด” “ไม่ ข้าจะได้ด้วย” “นอนพักเสีย” “ไม่!! ข้าจะไป” “ไป่ถิงถิง” “หงเฟยจวิน” ทั้งคู่ส่งสายตาฟาดฟันกัน จนในที่สุดหงเฟยจวินก็ถอนหายใจออกมายาวๆ “เช่นนั้นก็ลุกขึ้นมา จะได้ไปพร้อมกัน” ไป่ถิงถิงยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นเดินตามหงเฟยจวินออกไป ร่างสูงได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความดื้อรั้นของว่าที่พระชายาที่อยู่ตรงหน้า แต่อย่างไรเสียเขาและไป่ถิงถิงก็ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในอีกไม่นาน หงเฟยจวินคงจะต้องทำใจให้ชินเสียตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อมานั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของบิดามารดาและพี่ชาย ไป่ถิงถิงก็ได้แต่นั่งก้มหน้า เนื่องจากรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องรับรองนี้ค่อนข้างน่าอึดอัด ร่างบางขยับไปหาหงเฟยจวินก่อนจะดึงชายเสื้อของร่างสูงเบาๆ “ท่านไม่กล่าวอะไรหน่อยหรือ เรานั่งเงียบกันแบบนี้มาราวสองเค่อได้แล้วนะ ท่านเฟยจวิน” “เจ้าใจร้อนหรือ” ไป่ถิงถิงที่เห็นว่าน้ำเสียงของหงเฟยจวินดูหยอกเย้าจึงเงยหน้ามอง “แล้วท่านจะมานั่งนิ่งๆ ให้ท่านพ่อกับพี่เล่อจ้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหนเล่า” “เจ้าไม่ชอบหรือ” หงเฟยจวินเลิกคิ้ว ไป่ถิงถิงทำปากยื่น “ข้าอึดอัด รู้สึกหายใจไม่ออก” “อะแฮ่ม..” เสียงกระแอมของไป่หานเล่อทำให้ไป่ถิงถิงเด้งตัวออกจากหงเฟยจวิน “เจ้าไม่มานั่งข้างพี่หรือถิงถิง” ไป่ถิงถิงหันไปมองพี่ชายก่อนจะส่ายหน้า “ข้าอยากนั่งตรงนี้ขอรับพี่เล่อ” “มานั่งกับพี่ดีกว่า เดี๋ยวพี่ให้สาวใช้เอาขนมมาให้” “ข้าอยากนั่งตรงนี้ขอรับ” ไป่ถิงถิงพยายามดึงดัน จนไป่หานเล่อกัดฟันแน่นเนื่องจากทำอะไรไม่ได้ “เอาเถิดๆ น้องอยากนั่งตรงนั้น เจ้าจะไปบังคับน้องทำไม” ไป่เซียวเหอหันไปพูดกับไป่หานเล่อ ก่อนจะหันมาหาหงเฟยจวิน “ท่านมีอะไรจะพูดหรือไม่ท่านมหาเทพ” หงเฟยจวินยิ้มน้อยๆ “อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีแล้วว่า ข้ากับไป่ถิงถิง” หงเฟยจวินหันไปมองไป่ถิงถิง “เป็นคู่ครองกัน” ไป่ถิงถิงเม้มปากอย่างเขินอาย ก่อนจะหลบสายตาหงเฟยจวิน “ท่าน.. พูดอะไรก็ไม่รู้” ไป่ถิงถิงพูดเสียงเบา “ข้าล้วนทราบดีท่านมหาเทพ” ไป่เซียวเหอตอบ “ความจริงแล้วเทพกับปีศาจไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ อีกทั้งเทพเซียนบนสวรรค์ทั้งหลายก็ต่างไม่เห็นด้วย” หงเฟยจวินพูดช้าๆ ไป่ถิงถิงหันขวับ “อ้าว..” “หลังจากที่ข้าได้เรียกประชุมเหล่าเทพเซียนทั้งหลายอยู่หลายวัน ก็ได้ความเห็นที่ว่า ข้ากับไป่ถิงถิงจะอภิเษกกันได้ก็ต่อเมื่อ ไป่ถิงถิงมีหางครบทั้งเก้าหางเท่านั้น” ไป่ถิงถิงอ้าปากค้าง “...” “แล้ว.. เรื่องที่เทพทั้งหลายชอบยกทัพมาสู้รบกับเหล่าปีศาจเล่า เรื่องเหล่านี้ยังจะเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าหากท่านอภิเษกกับบุตรชายข้า” ไป่เซียวเหอถาม หงเฟยจวินยิ้ม “ข้าล้วนทำทุกทางให้เรื่องนี้จบลง” “แล้วท่านจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าท่านจะทำได้” ไป่หานเล่อถาม “เพราะพลังของผู้รองที่ข้าเก็บรักษาเอาไว้ เหล่าเทพเซียนต่างรู้ดีว่า พลังนี้ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรได้ ถ้าหากไม่ยอมให้ข้าอภิเษกกับไป่ถิงถิง ข้าก็จะคืนพลังนี้กลับคืนให้กับปีศาจจิ้งจอก” หงเฟยจวินยิ้มมุมปาก “แค่นี้เหล่าเทพเซียนทั้งหลายก็ยอมอ่อนข้อให้แล้ว” “แล้วถ้าหากน้องชายข้าไปอยู่กับท่าน ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าน้องชายของข้าจะมีความสุข” หงเฟยจวินหันไปมองหน้าไป่ถิงถิง “คงไม่มีเทพหรือปีศาจตนใด ที่อยากจะละเลยผู้เป็นดั่งดวงใจของตน ไม่ว่าเป็นผู้ใดก็ต้องรักษาและดูแลให้ดีที่สุดอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” ไป่ถิงถิงที่ก้มหน้าอยู่นั้นค่อยๆ เงยหน้ามองหงเฟยจวิน ก่อนจะรู้สึกว่าแก้มกลมทั้งสองข้างนั้นกำลังร้อนมากกว่าที่เคยเป็น ส่วนทางด้านไป่หานเล่อนั้นก็ได้แต่หงุดหงิดอย่าไม่พอใจ เพราะดูท่าแล้วอย่างไรเขาก็ต้องเสียไป่ถิงถิงให้กับมหาเทพหน้าหล่อนี่ “เมื่อไป่ถิงถิงมีหางครบทั้งเก้าแล้ว ท่านจะกลับมารับเขาใช่หรือไม่” ไป่เซียวเหอถาม หงเฟยจวินหันกลับมามองไป่เซียวเหอก่อนจะถอนหายใจ “อย่างไรก็ดี นี่เป็นข้อตกลงที่ข้าพยายามตกลงกับเทพเซียนทั้งหลายแล้ว” หงเฟยจวินหันกลับไปมองไป่ถิงถิง “ไป่ถิงถิงจะได้เป็นพระชายาของข้าเมื่อมีหางครบทั้งเก้าก็จริง แต่ว่าเขาจะต้องไปฝึกวิชาด้วยตนเองที่โลกมนุษย์เท่านั้น” ไป่เซียวเหอขมวดคิ้ว “ท่านว่าอย่างไรนะ” “เหตุใดน้องชายของข้าต้องไปอยู่ที่โลกมนุษย์ ในเมื่อเขาสามารถฝึกวิชาที่แดนปีศาจจิ้งจอกนี้ก็ได้” “เพราะเหล่าเทพเซียนต่างคิดว่า ถ้าหากไป่ถิงถิงฝึกวิชาอยู่ที่แดนจิ้งจอกแห่งนี้ เขาก็จะสามารถมีหางครบทั้งเก้าได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเขายังเป็นผู้รอง ไม่เกินห้าพันปีเขาก็ต้องมีหางทั้งเก้าครบแน่นอน” ไป่หานเล่อพยักหน้า “ก็ใช่น่ะสิ” “แต่เหล่าเทพเซียนต่างคิดว่าถ้าหากทำแบบนั้น ไป่ถิงถิงจะไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นพระชายาของข้า” ไป่หานเล่อขมวดคิ้ว “เป็นพระชายาของท่านมันต้องเป็นนักรบหรืออย่างไร เหตุใดน้องชายของข้าต้องไปอยู่ถึงโลกมนุษย์” “ท่านไป่หานเล่ออย่าเพิ่งเป็นกังวล ข้ารับปากว่าจะส่งไป่ถิงถิงไปอยู่ในที่ที่ดี เขาจะไม่ต้องพบเจอกับความลำบาก” “เอาล่ะๆ อย่างไรเสียเราค่อยมาพูดคุยเรื่องนี้กันอีกครั้งก็ได้” หลี่มู่ฟางเอ่ยขึ้น “ไปทานอาหารว่างกันดีหรือไม่ ข้าให้เด็กๆ เตรียมขนมและอาหารเอาไว้มากมายเชียว” “ขนมหรือท่านแม่” ไป่ถิงถิงยิ้มกว้าง “เห็นทีข้าคงต้องขอตัวกลับก่อนแล้ว” หงเฟยจวินพูด “อ้าว..” ไป่ถิงถิงหันไปมองก่อนจะทำหน้าเสียดาย “ท่านไม่อยู่นานกว่านี้อีกหน่อยหรือ” หงเฟยจวินมองหน้าไป่ถิงถิงก่อนจะยิ้มน้อยๆ “ข้าจะไปที่โลกมนุษย์ เพื่อตรวจสอบดูว่าจะพาเจ้าไปอยู่ที่ใดได้บ้าง” “แล้ว..” “เอาไว้เมื่อข้าจัดการเสร็จสิ้น ข้าจะกลับมาหาเจ้า ตกลงหรือไม่” ไป่ถิงถิงทำหน้ายู่ ก่อนจะพยักหน้า “อือ ข้าจะรอท่านนะ” “ข้าจะรีบกลับมา” ไป่ถิงถิงมองตามหงเฟยจวินที่ค่อยๆ เดินกลับไปในลูกแก้วเคลื่อนที่ ร่างบางถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะหันมามองบิดา แต่เมื่อเห็นสายตาของทั้งไป่เซียวเหอและไป่หานเล่อ ร่างบางก็ยิ้มแห้ง “แหะๆ ท่านพ่อ.. พี่เล่อ..” ไป่หานเล่อกอดอก “ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลย ว่าเจ้าอยากเป็นพระชายาอะไรนั่นหรือไม่” “ถ้าหากเจ้าไม่อยากเป็น บอกพ่อมาคำเดียว แล้วพ่อจะจัดการทุกอย่างให้เจ้าเอง” ไป่เซียวเหอพูด ไป่ถิงถิงส่ายหน้าพลางโบกมือทั้งสองข้าง “ไม่ๆๆ ข้าอยากเป็นขอรับ” “แต่เจ้าต้องไปอยู่ผู้เดียวที่โลกมนุษย์ ข้าเป็นห่วง” ไป่หานเล่อพูดเสียงอ่อย “ข้าอยู่ได้ พี่เล่อไม่ต้องเป็นห่วง ท่านเฟยจวินรับปากแล้วว่าจะหาที่ที่ข้าอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่เล่อ พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงเลย” “แต่..” “ข้าน่ะ...” ไป่ถิงถิงกลืนน้ำลายลงคอ “ข้ารักท่านหงเฟยจวินตั้งแต่หนึ่งหมื่นห้าพันปีที่แล้ว” ไป่หานเล่อตาโต “แต่นั่น.. เจ้าเพิ่งพบกับเขาครั้งแรกนะ!” ไป่ถิงถิงทำหน้าเขินอาย “ตั้งแต่ข้าเกิดมา ข้ามักจะได้ยินเสียงบ่นอยู่เสมอ ว่าข้านั้นดื้อและซุกซน แต่พอข้าได้อยู่กับท่านเฟยจวิน เขาไม่เคยบ่นข้าแม้แต่น้อย” ไป่ถิงถิงก้มมองมือตัวเอง “อีกทั้งเขายังคอยเอาใจข้า ไม่ว่าข้าอยากกินหรือทำอะไร เขาก็ยินดีทำและหาให้อยู่เสมอ” “แต่นั่นอาจไม่ใช่ความรักก็ได้ถิงถิง เจ้าลองคิดดูดีๆ เถิด” ไป่หานเล่อเถียง ไป่ถิงถิงส่ายหน้า “ถึงแม้ว่าข้านั้นจะไม่เคยมีความรักมาก่อน แต่ข้าก็มั่นใจว่าสิ่งที่ข้ารู้สึกกับท่านเฟยจวินนั้น.. คือความรัก” ไป่ถิงถิงเงยหน้า “ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่เล่อ ข้ารักท่านเฟยจวินจริงๆ ขอรับ” ไป่เซียวเหอถอนหายใจ “เอาล่ะๆ แยกย้ายกันไปพักผ่อนเสีย เราค่อยมาพูดเรื่องนี้กันภายหลัง” เมื่อพูดจบก็ลุกขึ้นเดินจูงมือหลี่มู่ฟางเดินออกไปทันที ทางด้านไป่หานเล่อได้แต่มองหน้าน้องชายด้วยสายตากระเง้ากระงอด “เจ้าลองคิดดูอีกครั้งไม่ได้หรือ มันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้” “พี่เล่อ... ข้ามั่นใจขอรับ” ไป่หานเล่อถอนหายใจเสียงดังก่อนจะเดินฟึดฟัดออกไป ไป่ถิงถิงที่นั่งอยู่ตนเดียวก็ได้แต่ถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะล้วงมือหยิบเอาของที่หงเฟยจวินแอบยื่นให้มาดู “กระจกหรือ” ร่างบางพลิกกระจกขนาดกะทัดรัดในมือ ก่อนจะมองอย่างสงสัย ไม่นานภาพของหงเฟยจวินก็โผล่ขึ้นมา “เย้ย” ไป่ถิงถิงสะดุ้งตกใจ ก่อนจะค่อยๆ ขยับหน้าเข้าไปใกล้กระจกใบนั้น หงเฟยจวินที่อยู่ในกระจกถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะหันมามองไป่ถิงถิง “ข้าให้กระจกสวรรค์ไปกับเจ้า ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะหยิบมันออกมาดูเมื่อไหร่ก็ได้” “ข้า.. ข้าก็แค่อยากรู้ว่าท่านให้อะไรข้ามา” ไป่ถิงถิงพยายามหุบยิ้ม “เช่นนั้นข้ามีข้อตกลงกับเจ้า” “ข้อตกลงอะไรหรือ” ไป่ถิงถิงเอียงคอ “เราจะพูดคุยกันผ่านกระจกสวรรค์นี้ในยามห้าย (21.00-22.59) เท่านั้น” ไป่ถิงถิงขมวดคิ้ว “แล้วเหตุใดต้องเป็นแค่ยามห้ายด้วยเล่า” “ข้าก็มีหน้าที่มหาเทพที่ข้าต้องไปทำ เจ้าจะให้ข้านั่งเฝ้ากระจกสวรรค์ทั้งวันหรือ” ไป่ถิงถิงเบะปาก “ยามห้ายก็ยามห้าย” หงเฟยจวินยิ้มน้อยๆ “เมื่อใดที่เจ้าฝึกวิชาจนมีหางครบทั้งเก้าหาง เมื่อนั้นเจ้าจะได้มองใบหน้าข้าจนรู้สึกเบื่อ” ไป่ถิงถิงเม้มปาก “ข้าน่ะหรือจะเบื่อท่าน ไม่มีทางเสียหรอก” “ข้าหมายถึงตัวข้าเองต่างหาก ที่จะเบื่อเจ้า” “ท่านเฟยจวิน!!!” “ฮะๆๆ ใบหน้าของเจ้าช่างตลกยิ่งนัก” หงเฟยจวินหัวเราะ ไป่ถิงถิงทำปากยื่น “แต่ข้ากลับคิดว่า ถ้าหากท่านได้มาอยู่กับข้า เป็นท่านนั่นแหละที่จะหลงข้าหัวปักหัวปำ” “หรือ?” หงเฟยจวินพยักหน้า “เห็นทีเจ้าก็คงต้องรีบทำให้หางทั้งเก้าของเจ้าจุติให้ครบเสียที เราจะได้รู้กันว่าข้านั้นจะหลงเจ้าหัวปักหัวปำ อย่างที่เจ้าพูดจริงหรือไม่” พูดจบภาพในกระจกก็หายไปทันที “ท่านเฟยจวิน ท่าน! เฟยจวิน!” ไป่ถิงถิงทำหน้าบึ้งก่อนจะปากระจกสวรรค์ทิ้งไปอีกด้าน “หน็อย หากวันใดท่านหลงข้าหัวปักหัวปำขึ้นมา ข้าจะทำให้ท่านรักข้าจนโงหัวไม่ขึ้นแน่นอน” ไป่ถิงถิงตีอกชกตัวเองเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะขยับหยิบกระจกสวรรค์ขึ้นมาถือแล้วเดินออกไปด้านนอกทันที ร่างบางเลือกที่จะไปที่ครัวใหญ่ประจำตำหนัก เนื่องจากได้ยินจากหลี่มู่ฟางว่าแม่ครัวทำขนมเอาไว้หลายอย่าง “อันนี้อร่อยมาเลย ข้าชอบ” ไป่ถิงถิงชูขนมขึ้นให้แม่ครัวดู “มันคือเซ่าปิ่งเจ้าค่ะ เป็นขนมของพวกมนุษย์ ข้าเห็นว่าท่านไป่น้อยจะต้องไปอยู่ที่นั่นแล้ว ก็เลยอยากลองทำให้ท่านลองชิม จะได้รู้สึกคุ้นลิ้น ไม่ต้องอยู่กินอย่าลำบาก” ไป่ถิงถิงพยักหน้าก่อนจะเอาเซ่าปิ่งเข้าปากอีกคำใหญ่ “ข้าจำได้นะว่าอาหารของพวกมนุษย์นั้นอร่อยมาก เมื่อตอนอายุห้าพันปีข้าเคยลองกินมาบ้างแล้ว ท่านไม่ต้องห่วง” แม่บ้านส่ายหน้าน้อยๆ “ท่านไป่น้อยอยู่ที่แดนจิ้งจอกมาตลอด จะต้องไปอยู่ไกลหูไกลตา ข้าและปีศาจจิ้งจอกตนอื่นก็ต้องรู้สึกเป็นห่วง เป็นเรื่องธรรมดาเจ้าค่ะ” “แต่ข้าว่าพวกท่านน่าจะชอบ เพราะไม่มีข้าคอยมาขโมยของกิน” ไป่ถิงถิงเบะปาก เสียงหัวเราะของเหล่าแม่ครัวดังลั่น ก่อนที่ไป่ถิงถิงจะเดินถือเซ่าปิ่งออกมาจากในครัวถ้วยใหญ่ ร่างบางเดินไปด้วยหยิบขนมเข้าปากไปด้วยอย่างมีความสุข ก่อนจะเดินตรงเข้าไปที่ป่าต้นท้อเพื่อนั่งเล่นตามเคย “มาอยู่นี่เอง” “ท่านแม่” ไป่ถิงถิงหันไปยิ้มกว้างให้มารดา “ลงมาคุยกับแม่ได้หรือไม่” หลี่มู่ฟางเลิกคิ้ว ไป่ถิงถิงหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะกระโดดลงจากต้นท้อ “มาแล้วขอรับ” “มาเถิด นั่งลงพูดคุยกัน” ไป่ถิงถิงเดินเข้าไปหาหลี่มู่ฟางก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งลงใต้ต้นท้อ หลี่มู่ฟางมองหน้าบุตรชายคนเล็กพร้อมยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะยื่นมือขึ้นจับผมของไป่ถิงถิงที่หล่นไปเหน็บไว้ที่ข้างหู “แม่ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโตถึงขนาดที่เจอคู่ครองแล้ว” “ท่านแม่...” หลี่มู่ฟางส่ายหน้า “แม่ไม่ได้รู้สึกเศร้า แค่เพียงใจหายเล็กน้อย เจ้าปีศาจตัวป่วนในวันนั้นเติบโตถึงเพียงนี้แล้วหรือ แม่คิดว่าเพิ่งผ่านมาไม่นานเท่านั้น” ไป่ถิงถิงกุมมือหลี่มู่ฟางเอาไว้ “ท่านแม่ไม่ต้องห่วง แม้ว่าข้าจะได้เป็นพระชายาของท่านเฟยจวินก็ตาม แต่ข้าก็ยังคงเป็นไป่ถิงถิง บุตรชายของท่านแม่ไม่เปลี่ยนแปลง” หลี่มู่ฟางยิ้ม “เจ้ามั่นใจหรือว่าถ้าหากไปอยู่โลกมนุษย์แล้ว เจ้าจะสามารถฝึกวิชาด้วยตนเองเพียงลำพังได้” ไป่ถิงถิงพยักหน้า “ขอรับท่านแม่” “ทั้งๆ ที่อยู่ที่แดนจิ้งจอก มีอาจารย์คอยสอน เจ้ายังไม่ตั้งใจเรียนแบบนี้น่ะหรือ” “แหะ.. ท่านแม่ขอรับ” ไป่ถิงถิงยิ้มแหย ก่อนจะสวมกอดหลี่มู่ฟางเพื่อออดอ้อน “เจ้าเข้าใจเหตุผล ที่ท่านมหาเทพต้องส่งเจ้าไปฝึกวิชาที่โลกมนุษย์หรือไม่” ไป่ถิงถิงส่ายหน้า “ไม่เข้าใจขอรับ” ร่างบางขยับนั่งหลังตรงก่อนจะมองหน้าหลี่มู่ฟาง “ท่านแม่เข้าใจหรือ” “ก็เพราะว่าที่โลกมนุษย์นั้นไม่มีพลังช่วยส่งเสริมเจ้า อีกทั้งยังไม่มีอาจารย์คอยบอกสอน แม่คิดว่าที่เทพเซียนทั้งหลาย อยากส่งเจ้าไปที่โลกมนุษย์นั้น เป็นการถ่วงเวลา” “แต่ข้าจะทำให้ได้ขอรับท่านแม่ ท่านไม่ต้องห่วง” หลี่มู่ฟางเลิกคิ้ว “เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจเช่นนั้น” ไป่ถิงถิงทำท่าเขินอาย “ข้าเชื่อว่าความรักที่ข้ามีต่อท่านเฟยจวินนั้น จะทำให้ข้าจุติหางจนสำเร็จให้ได้” “เจ้าช่างอ่อนหัดยิ่งนัก” หลี่มู่ฟางส่ายหน้า “ท่านแม่” ไป่ถิงถิงสวมกอดมารดาอีกครั้ง “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะทำมันได้อย่างแน่นอน แล้วข้าจะนำความสำเร็จของข้าไปกระแทกหน้าเทพเซียนทั้งหลาย เอาให้รู้ไปเลยว่าข้าน่ะเก่งมากเพียงใด” หลี่มู่ฟางลูบหลังไป่ถิงถิง “อืม อืม แม่จะรอดู” ไม่นานวันที่ต้องเดินทางไปยังโลกมนุษย์มาถึง ไป่ถิงถิงยืนน้ำตาคลออยู่หน้าประตูแดนจิ้งจอก เนื่องจากจู่ๆ ก็รู้สึกกลัว หลี่มู่ฟางได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหาไป่ถิงถิง “เป็นอะไร เหตุใดถึงมีน้ำตาเสียได้” หลี่มู่ฟางลูบแก้มไป่ถิงถิงเบาๆ ไป่ถิงถิงเบะปาก “ท่านแม่... ข้ากลัว” หลี่มู่ฟางส่ายหน้าก่อนจะดึงบุตรชายเข้ามาสวมกอด “ไป่ถิงถิงที่เคยพูดอย่างมั่นใจว่าจะทำให้ได้ เหตุใดจึงกลายเป็นไป่ถิงถิงขี้แยเช่นนี้ได้เล่า” “อึก.. ท่านแม่..” หงเฟยจวินค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้สองแม่ลูก “ท่านไม่ต้องเป็นกังวล ข้าเตรียมคนเอาไว้คอยดูแลถิงถิงแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะต้องอยู่ที่โลกมนุษย์ แต่ท่านเชื่อใจข้าได้เลยว่าเขาจะอยู่อย่างสุขสบาย” ไป่ถิงถิงคลายกอดมารดาก่อนจะหันไปหาหงเฟยจวิน “ท่าน อึก.. ท่านเตรียมผู้ใดเอาไว้หรือ” “เขาคือมนุษย์ที่เป็นผู้ศรัทธาของข้าเอง ข้าเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาจึงเต็มใจอย่างยิ่งที่จะเข้าไปดูแลเจ้าแทนข้า” “แล้ว.. ข้าต้องอยู่นานแค่ไหนหรือ” หงเฟยจวินมองหน้าบูดเบี้ยวเต็มไปด้วยน้ำตาของไป่ถิงถิงแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเอ็นดู “เรื่องนี้ก็คงแล้วแต่เจ้าแล้ว ว่าจะฝึกวิชาจนจุติหางครบทั้งเก้าได้เร็วแค่ไหน” ไป่ถิงถิงยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา “เช่นนั้น ฟืดดดด ข้าจะตั้งใจฝึกวิชา ท่านไม่ต้องห่วง” หงเฟยจวินพยักหน้า “เช่นนั้นข้าก็จะรอเจ้า” ไป่ถิงถิงยิ้มกว้างให้หงเฟยจวินก่อนจะหันไปกอดล่ำลาครอบครัวที่มารอส่ง ไป่ถิงถิงอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของบิดาและมารดาอยู่สักพัก ก่อนที่จะโดนไป่หานเล่อดึงเข้าไปกอดเสียบ้างเนื่องจากรอนานแล้ว “หากเจ้าอยากกลับมาที่แดนจิ้งจอก ส่งข่าวมาบอกได้เสมอ พี่จะไปรับเจ้าเอง” เมื่อพูดออกไปแบบนั้นไป่หานเล่อก็ถูกหลี่มู่ฟางดึงหูทันที “โอ้ยๆๆๆๆ ท่านแม่ ข้าเจ็บ” “เราพูดเรื่องนี้กันกี่ครั้งแล้วหานเล่อ” หลี่มู่ฟางหันไปดุบุตรชายคนโต ก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มให้บุตรชายคนเล็ก “ไปเถิด แม่และทุกคนจะรอเจ้าอยู่ที่นี่” ไป่ถิงถิงพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปจากประตูแดนจิ้งจอก ร่างบางหันไปมองหงเฟยจวินที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ก่อนจะเอียงคอมองอย่างสงสัยเมื่อร่างสูงยื่นมือมาให้ “ไปเถิด ป๋อฮุ่ยหลินรอเจ้าอยู่” ไป่ถิงถิงยิ้มกว้างก่อนจะยื่นมือไปจับกับมือของหงเฟยจวิน “ข้าจะรีบจุติหางให้ครบเร็วๆ” “ข้าจะรอ” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนที่หงเฟยจวินจะพาไป่ถิงถิงเดินเข้าไปในประตูมิติที่เปิดรอเอาไว้ Talk. ส่งลูกไปอยู๋แดนมนุษย์ ที่ที่น้องถิงจะซนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย สงสารก็แต่ตระกูลป๋อ ที่คอยผลัดเวียนกันมาดูแลน้องตั้งหลายพันปี ไม่รู้ว่ารับความแสบซนจากน้องไปมากขนาดไหน ในส่วนของกระจกสวรรค์นี่ จู่ๆ ตี้ก็แบบ คิดถึงมือถือก็เลยเขียนเข้าไป คงไม่อ่านแล้วดูขัดๆ เนอะ ก็โลกเทพเซียนนี่นา ทุกๆ อย่างเหนือจินตนาการอยู่แล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD