“เป็นไงบ้างยัยขิม ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า”
กรรชัยถามลูกสาวขณะที่เขากำลังเดินออกจากห้องประชุมซึ่งก็พอดีกับที่เทียมหทัยกำลังจะเข้าไปสมทบหลังจากที่แก้ไขปัญหาเรื่องลูกค้าเสร็จเธอก็รีบมาเลย แต่คิดว่าคงจะสายไปแล้ว เพราะเห็นกรรชัย และแขกทั้งสองเดินออกมาพร้อมกับพนักงานด้านการเงินอีกสองท่าน
“เรียบร้อยค่ะ คุณพ่อประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ ขิมกำลังจะมาดูว่าเสร็จกันหรือยัง” เธอตอบพร้อมทั้งกวาดสายตาไปหาแขกทั้งสองท่าน
“เรียบร้อยแล้วจ้ะ แต่พ่อมีนัดกินข้าวกับลูกค้ารายใหญ่อีกรายอีก งั้นยัยขิมช่วยดูแลคุณธรรทรแทนพ่อด้วยนะ รู้จักกันแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะคุณพ่อ”
“ผมขอตัวนะคุณธรรทร ทุกอย่างก็เป็นไปตามในที่ประชุม ส่วนขั้นตอนต่อไปก็ประสานงานกับยัยขิมได้เลย” กรรชัยมองหน้าสองหนุ่มที่ยืนเคียงข้างกันอยู่
“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องขอบคุณ คุณลุงกรรชัยมากที่ให้โอกาสผมมาร่วมงานด้วย งั้นผมจะนัดคุณเทียมหทัยไปสำรวจที่ให้เร็วที่สุดครับ ถ้าไม่ติดขัดอะไร ก็คงจะได้ดำเนินการเร็วๆ นี้ เชิญตามสบายครับผม”
อลงกรณ์ตอบแทนเจ้านาย ก่อนที่กรรชัยจะผละไปในที่สุด และเขาก็สังเกตเห็นว่ากรรชัยก็ไม่ได้สนใจว่าใครคือใครเท่าไหร่ เพราะกรรชัยเองก็ให้ความสำคัญกับทั้งเขาและธรรทรพอๆ กัน เพราะเจ้านายเขาบอกกรรชัยเองว่า เขาเองก็มีสิทธิในการที่จะตัดสินใจได้ในหลายๆ เรื่องแทนธรรทรเหมือนกัน
“งั้นเชิญคุณธรรทรและคุณอลงกรณ์ทางนี้เลยค่ะ” หญิงสาวนำทาง
“เดี๋ยวดิฉันจะพาไปทานข้าวค่ะ ร้านอาหารของเรามีอะไรอร่อยๆ หลายอย่าง ดิฉันเองก็ยังไม่ได้ทานข้าวเลยค่ะ” หญิงสาวเชิญทั้งสอง โดยไม่ต้องไตร่ถามอะไรมาก เพราะเธอก็เข้าใจว่าคงยังไม่ทานอะไรมากันเลย
“แหม.. คุณเทียมหทัยนี่เข้าใจผมดีจริงๆ เลยครับ”
อลงกรณ์ในคราบธรรทรกล่าว พร้อมทั้งออกอาการดีใจเกินเหตุ จนธรรทรต้องกระแอมเบาๆ เพื่อเตือนสติ ทำให้เขาต้องกลับมาวางมาดธรรทรนักธุรกิจหนุ่มอีกครั้ง โชคดีที่หญิงสาวยังไม่ทันได้สังเกต
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเอารถไปรับคุณเทียมหทัยแต่เช้าเลยนะครับ” ธรรทรบอกขณะทานอาหารในห้องอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันเอารถไปที่ไร่เองอยู่แล้วค่ะ เพราะทุกๆ วันศุกร์ก็จะไปอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างดิฉันยังไม่ได้กลับพร้อมกับพวกคุณพรุ่งนี้ค่ะ จะกลับอีกทีก็วันเสาร์เย็นๆ”
เธออธิบายกิจวัตรประจำของเธอ เพราะก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอชอบการทำไร่มากกว่าที่จะทำงานในออฟฟิศแบบนี้ จนกรรชัยกับพรรณีเปรยๆ ไว้ว่าถ้าปลายกลับมาดูแลกิจการแทนทั้งสอง เขาก็จะให้เทียมหทัยไปทำไร่อย่างเต็มตัว
และก็จะยกกิจการไร่ดอกไม้และไร่องุ่นให้เป็นสมบัติติดตัวไปเลย แต่เธอก็ปฏิเสธขอแค่ไปดูแลบริหารก็พอแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร เพราะที่ทั้งสองให้ก็มีครบทุกอย่างแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทั้งกรรชัย พรรณี และคุณพร้อมรักและเอ็นดูเทียมหทัยเพิ่มเข้าไปอีก
“งั้นคุณเทียมหทัยให้ผมไปรับแล้วขับรถให้ก็แล้วกันนะครับ ส่วนคุณธรรก็ให้ขับรถไปเองเลย” ธรรทรเอ่ย พร้อมทั้งขยิบตาให้อีกฝ่ายรับต่อ
“จะดีหรือคะ คุณธรรทรขับรถไกลๆ เหนื่อยนะคะ”
“เอ่อ! ไม่เป็นไรครับผมชอบขับรถครับ เพราะปกติก็จะขับเป็นประจำอยู่แล้ว” อลงกรณ์พูดเชิงเหน็บเจ้านาย
“งั้นก็ได้ค่ะ” เธอรับปากไปในที่สุด ซึ่งทำให้ธรรทรฉายแววตาดีใจอยู่ในที
“อ้าว! แล้วคุณธรรทรล่ะคะ ไม่เห็นขับรถตามมาเลยคะคุณอลงกรณ์”
หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงพร้อมลุยงานถามเพราะความสงสัย เมื่อเห็นเขามายืนรอที่ห้องรับแขกแต่เช้า ซึ่งทั้งบ้านยังไม่มีใครออกมาต้อนรับเขา เว้นแต่เด็กรับใช้ยกกาแฟมาให้เท่านั้นเองสงสัยป้าอรของเธอคงจะดูแลคุณย่าเหมือนทุกๆ วัน
“อ๋อ! คุณธรรทรล่วงหน้าไปแล้วครับป่านนี้คงน่าจะครึ่งทางแล้วครับ”
“อ๋อ! เหรอคะ งั้นเราไปกันเลยนะคะ เพราะเดียวจะสายแดดจะร้อนค่ะ” เธอพูดพลางเดินนำไปที่จอดรถ พร้อมยื่นกุญแจให้เขาตามที่ตกลงกันเอาไว้ ซึ่งเขาก็รับไปโดยดี พร้อมทั้งเดินไปเปิดประตูให้อย่างสุภาพ
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณอลงกรณ์รู้จักกับคุณธรรทรมานานหรือยังคะ”
เธอถามขณะเขาขับรถออกชานเมือง เพราะไม่อยากให้บรรยากาศในรถเงียบเกินไป เพราะกลัวจะเป็นการเสียมารยาทของผู้ร่วมเดินทาง
“ความจริงคุณเทียมหทัยเรียกผมว่ากรณ์เฉยๆ ก็ได้ครับ และก็เรียกตัวเองว่าขิมกับผมก็ได้ครับ ฟังดูแล้วดูสนิทมากกว่า” เขาพูดพร้อมมองมาทางเธอ
“เอ่อ! ก็ได้ค่ะงั้นคุณก็ต้องเรียกดิฉันเอ้ย เรียกขิมว่า ‘ขิม’ ก็ได้ค่ะ”
“ได้เลยครับคุณขิม” เขาพูดพลางอมยิ้มอย่างสุขใจ เหมือนไม่เคยได้รู้สึกอย่างนี้กับใครมานานแสนนาน
“ผมรู้จักกับคุณธรรเรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดครับ เพราะแม่ผมกับแม่คุณธรรเป็นเพื่อนกันมานาน แล้วพอดีพ่อผมประสบอุบัติเหตุ แม่คุณธรรก็เลยรับเราสองแม่ลูกมาอยู่ที่บ้านด้วย แล้วก็แบ่งที่ดินให้แปลงหนึ่งพร้อมปลูกบ้านให้หลังหนึ่งในบริเวณเดียวกันกับบ้านคุณธรรครับ และแม่ผมก็คอยดูแลแม่คุณธรรตั้งแต่นั้นมา” เขาบอกเรื่องจริงทั้งหมด ผิดตรงที่เขาคือธรรทรเท่านั้นเอง
“โห..คุณธรรทรกับคุณแม่เขาก็ใจดีนะคะ ไม่เหมือนกับคนมีเงินคนอื่นๆ ที่เอาแต่ได้อย่างเดียว” เธอพูดตามความคิด
“ครับผมก็ว่าอย่างงั้นแล่ะ ผมกับแม่ก็เลยตอบแทนพระคุณท่านโดยการช่วยงานลูกชายท่านทุกอย่าง แล้วท่านยังส่งให้ไปเรียนเมืองนอกพร้อมๆ กับคุณธรรด้วยนะครับ และก็ให้ผมคอยดูแลคุณธรรไปด้วย”
“คุณธรรของคุณนี่น่าอิจฉาจังเลยนะคะ แต่ขิมดูคุณธรรแล้ว ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ติดดินนะคะ ไม่เห็นจะถือตัวเจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนหลายๆ คน ที่ขิมรู้จักมาเลย”