กระท่อมน้อย

1932 Words
​ นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงเหมยได้เข้ามาในมิติ เธอมองสิ่งของที่เธอซื้อมามันถูกจัดอยู่ให้เป็นหมวดหมู่อย่างเรียบร้อย และเป็นไปตามที่ท่านผู้เฒ่าบอกเอาไว บ้านของเธอทั้งหลังตอนนี้เข้ามาตั้งอยู่ในมิติเป็นที่แล้วเช่นกัน หนิงเหมยจึงรีบอุ้มลูกน้อยที่กำลังหิวจัดขึ้นไปห้องนอนของเธอ อุแว้ อุแว้ อุแว้ "แป้บเดียวลูก แม่กำลังอุ่นนมให้หนูแล้ว ต่อไปนี้เสี่ยวอันของแม่จะมีนมให้กินเยอะ ๆ เลยดีไหม" มือข้างหนึ่งของหนิงเหมยอุ้มลูกน้อยไปด้วย แต่อีกข้างก็รีบเปิดตู้เย็นหยิบนมในสต๊อกออกมาแช่น้ำอุ่นที่เตรียมไว้ถึง 2 ถุง ระหว่างที่รอให้นมละลายเธอก็รีบใช้สำลีชุบน้ำเช็กทำความสะอาดตามใบหน้าให้ลูกน้อยทั้งน้ำตา "ฮึก แม่โชคดีมาก ลูกคิดอย่างนั้นไหมเสี่ยวอัน แม่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ต่อไปนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะลูก" "แอ้ แอ้" หนูน้อยที่ถูกเช็ดทำความสะอาดร่างกาย พร้อมกับเปลี่ยนผ้าอ้อมผืนใหม่ก็หยุดร้องไห้ลงทันที ซ้ำยังส่งเสียงอ้อแอ้ตอบกลับมารดาอย่างรู้ความ "ที่แท้ก็ไม่สบายตัวเหรอลูก" ระหว่างที่รอนมละลาย หนิงเหมยก็เริ่มครุ่นคิดว่าเธอจะทำยังไงหากสามีกลับมา ตอนนี้ร่างกายของเธอยังถูกพิษไข้เล่นงานอยู่ เธอจึงไม่อยากให้ลูกดื่มนมจากเต้าของเธอเพราะกลัวคนตัวเล็กจะติดไข้ "รอแม่อยู่บนเตียงนะเด็กดี" พูดจบหนิงเหมยก็หยิบเปลนอนแบบโยกได้ขึ้นมาวางบนเตียง จากนั้นก็อุ้มลูกขึ้นไปนอนในนั้นแล้วเอาของเล่นมาห้อยเพื่อหลอกล่อหนูน้อย พอจัดการกับลูกเสร็จเธอก็รีบเดินไปกินยาลดไข้ พร้อมกับชงน้ำขิงสำเร็จรูปดื่มเพื่อไล่พิษไข้และบำรุงน้ำนม สักพักต่อมา "ได้เวลาหม่ำ ๆ แล้ว ค่อย ๆ กินก็ได้ลูก ไม่มีใครแย่งหนูหรอก" หนิงเหมยนั่งป้อนนมเสี่ยวอันที่กำลังดูดกินนมจากขวดอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานนม 4 ออนซ์ก็ถูกเจ้าลูกหมูตัวน้อยสวาปามจนหมดแล้วก็นอนหลับไปอย่างมีความสุข เมื่อเห็นว่าลูกหลับไปแล้วหนิงเหมยจึงออกมาดูกระท่อมน้อยนอกมิติอีกครั้งให้เต็มตา "เสี่ยวอันนอนรอแม่อยู่ในนี้นะลูก เดี๋ยวแม่ขอออกไปทำความสะอาดในกระท่อมก่อน" พอออกมาจากมิติหนิงเหมยก็ลงมือกับมุ้งและเตียงนอนเป็นที่แรก ผ้าห่ม หมอน มุ้ง เสื้อผ้าของสามี ของลูกและของร่างนี้ ถูกเธอเก็บเข้าไปซักแล้วอบด้วยเครื่องซักผ้าในมิติจนหมด จากนั้นเธอก็ออกมาเริ่มปัดหยากไย่แล้วเช็ดถูทำความสะอาด หน้าต่างบานเล็กถูกเปิดออกรับลมเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ในกระท่อมนี้ไม่มีอะไรมากนอนจากหีบเก็บของใบขนาดกลางที่เป็นของร่างนี้ ซึ่งโจวอี้เฉินก็ไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องของส่วนตัวของเธอ ด้านหน้าก็เป็นชานบ้านเล็ก ๆ สำหรับถอดรองเท้าเท่านั้น ใบกระท่อมมีโต๊ะตัวเตี้ยไว้ให้นั่งกินข้าว "ประตูนี้เป็นครัวสินะ" แอดดดดด หนิงเหมยเปิดประตูหลังบ้านออกไปก็พบกับครัวเล็ก ๆ จะเรียกว่าครัวก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก เครื่องปรุงแต่ละอย่างก็มีเพียงน้อยนิด หนิงเหมยเดินไปดูข้าวสารมีอยู่เพียงค่อนไหเท่านั้น บนเตามีหม้อเล็ก ๆ ที่มีข้าวต้มอยู่ในนั้นครึ่งหม้อ บนฝาหม้อหนิงเหมยเห็นไข่ไก่อยู่ 1 ฟอง เธอจำได้ว่าไข่ฟองนี้โจวอี้เฉินได้มาจากการไปรับจ้างขนฟืนให้หัวหน้าหมู่บ้านในช่วงเย็นของเมื่อวาน เขาเลือกที่จะต้มไว้ให้ภรรยา ส่วนตัวเองก็คงกินแต่ข้าวต้มโรยเกลือเท่านั้น "สามีดีขนาดนี้จะหาจากไหนได้อีก" ใบหน้าของหนิงเหมยเผยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงสามีของเธอ จากนั้นเธอก็เริ่มลงมือเก็บครัวใหม่และเติมเครื่องปรุงให้พูนขึ้นมาอีกเล็กน้อย ในครัวมีเพียงหม้อ 2 ใบ กระทะ 1 ใบ ถ้วยจานอย่างละ 3 ใบและมีดอีก 1 เล่ม พร้อมกับเขียงที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน ยังดีที่ครัวมีกำแพงล้อมรอบอย่างมิดชิด กำแพงด้านบนจะมีปล่องให้ระบายควันอากาศออกไปได้บ้าง แต่สำหรับหนิงเหมยเธอก็ยังมองว่ามันยังอันตรายต่อเสี่ยวอันเกินไปที่จะให้เด็กต้องมาอยู่ใกล้ควันไฟแบบนี้ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าที่เป็นแบบนี้เพราะความจำเป็น "หน้าหนาวอยู่กันยังไงเนี่ย" แน่นอนว่าบ้านในยุคนี้ต้องอาศัยเตียงเตา หน้าหนาวที่ผ่านมาโจวอี้เฉินต้องหาฟืนมามากมายเพื่อทำให้กระท่อมน้อยของเขาอุ่นอยู่เสมอ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่เคยดีพอในสายตาของผู้เป็นภรรยาเลยสักครั้ง แอดดดด หนิงเหมยเปิดประตูด้านหลังครัวออกไปก็พบว่ามีบ่อน้ำและแปลงผักเล็ก ๆ ที่อี้เฉินปลูกเอาไว้ ไม่ใกล้ ๆ กันมีห้องน้ำที่ใช้ไม้ไผ่สานทำเป็นกำแพงกั้นพอให้ได้ใช้งาน พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ไปยุ่งวุ่นวายกับบ้านใหญ่ แต่ข้าวและส่วนแบ่งรวมไปถึงเงินที่อี้เฉินทำงานได้มาจากคอมมูน ต้องถูกส่งเข้าไปเป็นกองกลางในบ้านใหญ่ทั้งหมด จากนั้นนางหวงกุ้ยฮวาจึงจะเป็นคนแบ่งบางส่วนมาให้ทั้งคู่ ซึ่งมันก็น้อยนิดไม่พอให้ประทังชีวิตได้พ้นฤดู นั่นจึงเป็นเหตุผลที่อี้เฉินต้องรับจ้างทำงานให้เพื่อนบ้านในช่วงเย็นหลังจากเลิกงาน "เป็นแบบนี้เองสินะ รสชาติชาติของความยากลำบาก" หนิงเหมยกลับเข้ามาในครัว จากนั้นเธอก็ตักข้าวต้มที่สามีทำไว้ใส่ถ้วยมากิน พร้อมกับไข่ต้ม 1 ฟองที่อี้เฉินตั้งใจหามาให้เธออย่างสุดความสามารถ จากนั้นเธอก็เข้าไปดูลูกสาว เมื่อเห็นว่าเสี่ยวอันยังนอนหลับอยู่ หนิงเหมยจึงรีบเอาเครื่องนอนออกมาจัดให้เข้าที่เข้าทาง รวมไปถึงเสื้อผ้าที่นำไปซัก เธอก็เก็บมาพับไว้อย่างเป็นระเบียบ "ยิ่งเห็นก็ยิ่งปวดใจ คนอะไรมีเสื้อผ้าอยู่แค่ 3 ชุด เฮ้อ" คนเป็นแม่รีบกลับเข้าไปในมิติอีกครั้งเพื่อค้นหากระติกเก็บน้ำร้อนอันเก่าของคุณยาย ซึ่งมันก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนของในยุคนี้พอดี หนิงเหมยนำไปล้างทำความสะอาด จากนั้นก็ต้มน้ำร้อนเติมเอาไว้จนเต็ม "ช่วงกลางคืนที่พี่อี้เฉินอยู่ คงต้องให้ยายหนูกินนมผงไปก่อน รอให้แม่หายเป็นไข้ก่อนนะลูก" ความทรงจำของร่างนี้บ่งบอกได้ชัดเจนว่าการป่วยไข้เป็นเรื่องยากลำบากหากเทียบกับยุคที่เธอจากมา คนส่วนใหญ่ไม่มีเงินก็ต้องอาศัยการต้มยาสมุนไพรกินเอง หรือไม่ก็ต้องไปขอซื้อยากับหมอที่ตำบล หากหมู่บ้านไหนอยู่ใกล้หมู่บ้านตำบลก็โชคดีไป เพราะแบบนี้หนิงเหมยจึงไม่อยากให้ลูกของเธอต้องติดไข้จากเธอ พอได้น้ำร้อนเธอก็ไปเตรียมตักนมผงใส่ถุงพลาสติกไว้ประมาณ 10 ถุง และเตรียมขวดนมไว้ 2 ขวด และขวดน้ำสะอาดให้ลูกน้อยอีก 1 ขวด "นอนหลับปุ๋ยเลย แม่ขอไปอาบน้ำทำความสะอาดตัวก่อนนะลูก" ถึงจะเป็นไข้อยู่แต่หนิงเหมยก็ทนกับความเหนียวเหนอะหนะของร่างนี้ไม่ไหว เธอจึงรีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นก็พาลูกน้อยกลับออกไปอยู่ในกระท่อมนอกมิติ เพื่อไม่ให้เงียบเกินไปจนผิดปกติ ที่นอนที่ซักเสร็จใหม่ ๆ จะหอมขึ้นก็จริง แต่ก็ยังบางเฉียบและดูน่าปวดหลังอยู่ดี หนิงเหมยจึงเอาที่นอนในห้องนอนของเธอมาปูไว้ข้างล่าง แล้วเอาที่นอนเก่าทับไว้ข้างบนอีกชั้น จากนั้นก็เอาที่นอนนุ่มอันใหม่ที่ลูกของเธอชอบนอนออกมาจัดไว้ในมุ้งให้ลูกน้อย "ของใช้หนูครบทุกอย่างแล้วนะลูก แม่จะบอกพ่อว่ายายกับน้าหวังเหล่ยมาเยี่ยมหนู เลยเอาของติดไม้ติดมือมาฝาก หนูต้องช่วยแม่ตอบพ่อด้วยนะ" หนูน้อยเสี่ยวอันที่ตื่นขึ้นมากินนมรอบ 2 ไปอีก 2 ออนซ์ ตอนนี้ก็นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงโดยไม่ตื่นขึ้นมาสนใจมารดาเลยด้วยซ้ำ นอกจากนมแล้วหนิงเหมยยังเตรียมแผ่นรองฉี่ ผ้าอ้อม แป้ง และเสื้อผ้าของลูกน้อยออกมาไว้อีก 4-5 ชุดเพื่อให้พร้อมกับการใช้งาน ปกติแล้วสิ่งเหล่านี้มีแต่โจวอี้เฉินที่วิ่งหน้าตั้งทำทุกอย่างไว้ให้ลูกสาวก่อนออกไปทำงาน หรือไม่ก็ตอนกลับมาจากทำงานในช่วงค่ำ หนิงเหมยมีเวลาว่างเธอจึงเปิดหีบของร่างนี้ออกมาสำรวจ ด้านในมีเสื้อผ้าของเธออยู่เกือบ 10 ชุด และมีเครื่องสำอางกับเงินอีก 150 หยวนที่เธอซ่อนเอาไว้อย่างดี "ลูกผัวลำบากแทบตาย เธอก็ประหยัดเงินไว้ซื้อของให้ผู้ชายกิน สิ้นคิดจริง ๆ" นึกเห็นความทรงจำของร่างนี้หนิงเหมยก็อดไม่ได้ที่จะเหนื่อยหน่ายกับความคิดของเธอ เงินเหล่านี้เธอก็ได้มาจากมารดาซึ่งให้ติดตัวมา ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นเงินก้อนสุดท้ายของแม่กับน้องชาย เธอก็ยังเห็นแก่ตัวแล้วรีดไถเอามาจนหมด "ไว้พรุ่งนี้ว่าง ๆ แม่จะพาหนูออกเดินทางแต่เจ้าไปหาคุณยายกับน้าหวังเหล่ยที่บ้านดีไหมลูก ตั้งแต่หนูคลอดมายายเพิ่งได้เห็นหนูแค่ครั้งเดียวเองนะ" พอถึงช่วงบ่ายหนิงเหมยก็พาลูกน้อยเข้าไปอาบน้ำอุ่น ๆ ในมิติเพื่อความสะดวก พร้อมกับทำกับข้าวเอาไว้ 2 อย่าง คือสามชั้นตุ๋นผักดอง กับทอดไข่เจียว 2 ฟอง จากนั้นก็กลับออกมาหุงข้าวหอมะลิร้อน ๆ ไว้หนึ่งหม้อ แล้วเดินออกไปเก็บผักในสวนข้างบ้านมาผัดใส่น้ำมันหอยกับกระเทียม ที่หนิงเหมยต้องทำอาหารในมิติก็เป็นเพราะไม่อยากให้กลิ่นของเนื้อลอยไปเข้าจมูกคนในบ้านใหญ่ อย่างที่รู้กันว่ายุคนี้กว่าจะได้กินเนื้อสักมื้อมันยากลำบากขนาดไหน แค่ได้กินไข่ไก่เดือนละ 1-2 ฟองก็ถือว่าได้กินดีอยู่ดีมากแล้ว ​ รอดูกันว่าพอโจวอี้เฉินกลับมาแล้วเห็นภรรยาเปลี่ยนไป พ่อจะทำตัวยังไง? ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD