ที่รักพาผักหวานเดินเข้าไปข้างในโซนที่จัดเป็นห้องๆ โดยที่ไม่ลืมจับมือของเพื่อนสาวไปด้วยเพราะแสงภายในดูสลัวๆ แค่พอมองเห็นเท่านั้น ผู้คนแต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้าบ้าง ชุดสวยๆ บ้าง ดูเยะแยะเต็มไปหมดที่รักกวาดสายตามองไปรอบๆ รอบนี้น่าจะได้เยอะพอที่จะทำงานนี้เป็นครั้งสุดท้ายเพราะต่อจากนี้ไปเธอคิดว่าเธอจะเลิกเป็นนางแมวล้วงของแล้วจะหางานทำระหว่างเรียนจะดีกว่าเพราะงานนี้มันเสี่ยงเกินไปกับอนาคตในวันข้างหน้าของเธอ ว่าแต่ทำไมเพื่อนของเธอถึงเดินแข็งทื่อแบบนี้ละ
"อย่าเกร็งสิทำตัวตามสบายนะผักหวานเดี๋ยวพอได้เยอะแล้วเราก็ออกไปจากที่นี่กันเลย" ที่รักกระซิบบอกเพื่อนรักเบาๆ แล้วมองสอดส่องไปทั่ว ตอนนี้ผู้คนเดินคุยกันบ้างยืนคุยบ้างแต่ทุกคนล้วนใส่หน้ากากรวมถึงเธอกับผักหวานด้วย งานนี้เป็นใจให้เธอมากคิดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
"แล้วผักหวานต้องทำอะไรบ้างละที่รัก" ผักหวานกระซิบถามหน้าตาจริงจัง
"ไม่ต้องทำเลยแค่คอยยืนรอที่รักก็พอเดี๋ยวที่รักจัดการเอง"
"จ๊ะ มีอะไรให้ช่วยบอกผักหวานนะ" ผักหวานยิ้มส่งให้ที่รักเหมือนเป็นกำลังใจให้กับเพื่อน
"ได้เลยจ้าเพื่อนรัก" ทั้งสองคนยิ้มกว้างให้กันในความสลัวนั่น แล้วที่รักก็ขอตัวไปทำงานโดยให้ผักหวานยืนรออยู่ที่ทางเข้าไปด้านหลังเพราะผักหวานคงไม่เหมาะที่จะเป็นนักล้วงแบบเธอแน่นอน ผักหวานใสซื่อเกินไปกับงานแบบนี้ที่รักส่ายหัวไปมาเบาๆ เมื่อคิดถึงหน้าเพื่อนสาวที่พามาด้วย
เธอเดินเบียดเสียดผู้คนไปเรื่อยๆ โดยมองหาเหยื่อที่เริ่มมึนเมาแล้วโยกตัวไปตามเสียงเพลงแล้วเธอก็ลงมือฉกสิ่งมีค่าจากบรรดาผู้ชายซะส่วนใหญ่เพราะพวกนี้มักจะพกกระเป๋าเงินมากกว่าพวกผู้หญิง แต่แล้วเธอก็สะดุดตากับผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้กับเธอตรงหน้าเขามีผู้หญิงอีกคนกำลังกอดนัวเนียกันอยู่ตรงมุมมืดดูท่าจะกำลังเข้าถึงอารมณ์แบบนี้เสร็จแน่
ที่รักขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะยื่นมือเรียวไปที่กระเป๋ากางเกงของผู้ชายตรงหน้าก่อนที่จะล้วงเข้าไปหาของที่ต้องการอย่างแน่บเนียนแล้วแผ่วเบา
“เจอแล้ว” หญิงสาวพึมพำแล้วยิ้มเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ส่วนมือน้อยๆ ก็ค่อยๆ ดึงของที่ต้องการออกมาจากกระเป๋ากางเกงราคาแพงนั่นช้าๆ จวบจนจะพ้นออกมาแล้วแต่
หมับ!
เฮือก!!
“ฉิบหายแล้ว!” หญิงสาวเบิกตาโตเมื่อมีมือมาจับทาบทับบนมือน้อยๆ ของเธอที่โผล่พ้นออกมาแล้วจนเธอสะดุ้งก่อนจะหันไปมองที่ชายคนนั้นที่ตอนนี้จับมือเธอแน่นแต่ยังไม่ทันที่ชายคนนั้นจะหันกลับมาเธอก็สะบัดมือแรงๆ จนหลุดแล้ววิ่งฝ่าฝูงชนที่กำลังมึนเมามุ่งหน้าไปหาเพื่อนรักเพื่อหลบหนีอย่างรวดเร็วตามแบบฉบับนางแมวตีนเบา
“จับมันมาให้ได้!!” น้ำเสียงเยือกเย็นที่ตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงเพลงไม่อาจทำให้เธอหยุดนิ่งได้ขืนหยุดพ่อได้ยัดเขากรงแน่
"ฟู่ว์~ โล่งจัง" ผักหวานเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างสบายใจ แล้วเดินกลับมายังจุดเดิมที่ที่รักบอกให้รอแต่ยังไม่ทันถึงที่ก็มีอันต้องปลิวตามแรงกระชากของเพื่อนสาว
"ผักหวานหนีเร็ว!!" ที่รักวิ่งฝ่าผู้คนเข้าไปหาผักหวานแล้วดึงให้วิ่งตามเธอเข้ามาข้างในของร้าน เธอพาผักหวานวิ่งลัดเลาะเข้าไปด้านในที่ค่อนข้างเงียบกริบแถมยังแบ่งเป็นห้องๆ ประตูแต่ละบานปิดสนิท
"หยุดนะเว้ย!!"
ตึก ตึก ตึก ตึก!!
เสียงผู้ชายเกือบสิบคนที่วิ่งตามมาตะโกนให้พวกเธอหยุดที่รักกับผักหวานหันไปมองพร้อมกับวิ่งหนีไปด้วย
"ที่รักนี่มันอะไรกัน" ผักหวานถามไปพร้อมกับที่เธอพาเพื่อนวิ่งทะลุเข้าออกไปทั่ว
"อย่าพึ่งถามออกไปได้เดี๋ยวบอก" หันมองข้างหลังพวกชายเหล่านั้นยังวิ่งตามไม่ลดละ บ้าฉิบ! นี่พวกมันจะวิ่งไล่กวดพวกเธอไปถึงเมื่อไหร่กันนะเธอคิดพลางจับมือเพื่อนวิ่งหนีไปเรื่อยเพื่อหาทางออก
"จับตัวมันมาให้ได้!! เร็ว!!" เสียงสั่งของหัวหน้าชายพวกนั่นดังลั่น
ที่รักพาผักหวานวิ่งเข้ามาด้านในซึ่งไม่เห็นมีทางออก มันดูเงียบแล้วก็มีแต่ห้องที่ถูกปิดประตูไว้เหมือนเป็นโซนวีไอพีสำหรับคนมีเงินนี่เธอคิดผิดหรือคิดถูกกันนะที่วิ่งหนีมาทางนี้
"ผักหวานเราต้องหลบในนี้ก่อน เร็ว" ดึงเพื่อนแสนซื่อวิ่งหาห้องที่ไม่ได้ล็อกไว้จนเกือบสุดทาง จนได้ยินเสียงฝีเท้าของชายพวกนั่นวิ่งมาจนจะถึงแล้วบวกกับจังหวะที่ที่รักกับผักหวานดันผลักประตูห้องได้คนละฝั่งกัน ที่รักหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ทำท่าจะวิ่งข้ามมาฝั่งของเธอแต่ไม่ทันแล้วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกนั้นเข้ามาใกล้เต็มทีเธอเลยรีบปิดประตูทั้งที่ในใจซักจะเป็นห่วงผักหวานกลัวผักหวานจะไม่ซ่อนตัวแล้วยืนเอ๋อรอเธออยู่แบบนั้น ขอให้เพื่อนของเธอฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดสักนิดเถอะนะที่รักได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ
เวลาผ่านไปพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เงียบลงที่รักเอียงหูแนบกับประตูจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้วเธอจึงค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ หันมองซ้ายมองขวาจนไม่เห็นใคแล้วจึงรีบเดินไปที่ห้องฝั่งตรงข้าวแล้วเคาะประตูห้องเบาๆ
ก๊อก ก๊อก
"ผักหวานออกมาได้แล้ว ผักหวาน" เสียงเรียกที่เบาแทบกระซิบดังขึ้นเพราะเธอไม่แน่ใจว่าพวกนั้นไปไกลแค่ไหนหรืออาจยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ
เงียบ...
“ทำไมเงียบจังหรือว่าโดนพวกนั่นจับตัวไป? ไม่นะ!” เธอตกใจเมื่อคิดได้ดังนั้นเลยยกมือขึ้นกำลังจะผลักประตูเข้าไปแต่
ผั๊วะ!
“โอ๊ะ!!” ประตูที่อยู่ๆ ก็ถูกเปิดแรงๆ พร้อมกับที่เพื่อนแสนซื่อพุ่งออกมาทำให้เธอตกใจพร้อมกับเซไปข้างหลังเล็กน้อยอย่างตกใจ
บนรถ...
ที่รักหันมองหน้าเพื่อนสาวที่ตอนนี้นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นตั้งแต่ออกมาจากห้องนั้น เพื่อนของเธอไปเจออะไรมาทำไมถึงร้องไห้แบบนี้แต่ไม่ต้องรอให้ถามหรอกยังไงแม่ผักหวานก็ต้องเอ่ยออกมาเองอยู่ดีเชื่อเธอสิ
“ที่รัก...” นั่นไงคิดยังไม่ทันจบเพื่อนเธอก็หันมาหาพร้อมกับเบ้ปากออกน้อยๆ ตากลมโตแดงก่ำดูน่าสงสารเหมือนเด็กน้อยโดนผู้ใหญ่รังแกอย่างไรอย่างนั้น
“ร้องไห้ทำไมไหนบอกที่รักสิผักหวาน”
“ผักหวานโดนคุณลุงรังแก อึก อึก” บอกเสียงสั่นเครือพร้อมกับสะอื้นไม่หยุด
“คุณลุง? เขาทำอะไร”
“เขาจูบผักหวาน อึก เขาบอกถ้าผักหวานจูบแล้วเขาจะปล่อยผักหวานออกมาหาที่รัก อึก ผักหวานกลัวคุณลุงโรคจิต ฮือออ...” พูดจบก็ปล่อยโฮออกมาอย่างเสียอกเสียใจจนเธอทำอะไรไม่ถูก
“.....” เธอได้แต่กอดปลอบเพื่อนแสนซื่อของเธอให้เธอหยุดร้องไห้เพราะเธอก็รู้สึกผิดที่ปล่อยให้เพื่อนเข้าไปในห้องนั้นเพียงลำพังดีนะที่เพื่อนของเธอไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ไม่อย่างนั้นเธอคงรู้สึกผิดกว่านี้แน่นอนที่รักคิดอย่างขอโทษเพื่อนในใจ