4

1273 Words
“คุณถอดสร้อยคอออกก่อนดีกว่านะคะ เวลานวดจะได้นวดสะดวก” จันยาวีร์เริ่มทำตามแผนที่คิดเอาไว้ เนื่องจากแผนที่จะให้เขาดื่มน้ำผสมยานอนหลับถูกพับเก็บเข้ากรุไปเรียบร้อยแล้ว คงจะมีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขาหลับได้คือ ป้ายยาตรงปากของเหยื่อ “นวดทั้งๆ ที่ใส่สร้อยคอไม่ได้หรือไง?” เขาถามขณะที่ทรุดกายนั่งลงบนโซฟา “ได้มันก็ได้อยู่ค่ะ แต่มันไม่สะดวกเท่านั้นเองค่ะ เพราะฉันต้องใช้น้ำมันนวด ฉันก็เลยกลัวว่าสร้อยคอของคุณจะเสียหาย” เธอบอกเหตุผลที่พอจะนึกออก “นี่แม่คุณ สร้อยที่ฉันใส่น่ะสร้อยทองแท้นะ ไม่ลอก ไม่ดำ ไม่ถลอกเธอไม่ต้องกลัวว่าสร้อยคอทองคำของฉันมันจะเสียหายหรอก” รัฐภูมิสวนกลับจนอีกฝ่ายหน้าซีดไปในทันที “ตามใจคุณค่ะ ไม่ถอดก็ไม่ถอด คุณนอนคว่ำหน้าบนโซฟาได้เลยค่ะ ฉันจะได้เริ่มนวดให้” ในเมื่อเขาไม่ยอมถอดก็ไม่เป็นไร รอให้เขาสลบแล้วเธอเป็นคนถอดสร้อยคอของเขาเองก็ได้ จันยาวีร์วาดหวังไว้ในใจว่ามันจะเป็นไปอย่างที่คิดไว้ การนวดในวันนี้ต่างกับวันก่อนๆ เหลือเกิน ความเมื่อยล้าถูกปัดเป่าออกไปจากร่างกาย กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย มือนุ่มๆ ของจันยาวีร์บีบนวด คลึงด้วยหัวแม่โป้ง บางครั้งใช้อุ้งมือกดไปตามกลางแผ่นหลัง ต่ำลงไปยังเอวแล้วใช้ฝ่ามือกดเน้น แขนและขาของเขาถูกดัด พับงอไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ยิ่งได้กลิ่นน้ำมันที่เธอใช้นวดตัวยิ่งทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบายเนื้อสบายตัว มีอีกหนึ่งข้อที่การนวดในวันนี้แตกต่างกับวันอื่นๆ นั่นก็คือ ร่างกายของเขาตื่นตัวทุกสัดส่วน เลือดลมในกายฉีดพล่าน ความปรารถนาแล่นริ้วตามฝ่ามือนุ่มๆ ที่นวดไปตามร่างกายของเขา เขาเกิดความกระชุ่มกระช่วย ความเป็นบุรุษเพศเริ่มอวดศักดาแม้ว่าเขาจะนอนคว่ำหน้าอยู่ รับรู้ถึงความพองขยายใหญ่ กลิ่นน้ำมันหอมระเหยสร้างความสดใสให้แก่อารมณ์และความรู้สึกของเขาได้ดีเกินคาดจริงๆ ไพล่นึกไปว่าผู้ชายคนอื่นที่ถูกเธอนวด จะมีอาการแบบเขาหรือไม่ “คุณลุกขึ้นนั่งหน่อยค่ะ ฉันจะนวดศีรษะให้” คนที่กำลังเคลิ้มกับสัมผัสเสน่หาที่ลามเลียสู่ร่างกายทำสีหน้าฉงนทันที นวดศีรษะอย่างนั้นหรือ นวดยังไง รู้สึกว่าหมอนวดสาวคนนี้จะมีวิธีการนวดที่เขาไม่เคยรู้จักมาแนะนำให้นึกอยากลองอีกแล้ว รัฐภูมิจึงลุกขึ้นนั่งตามที่เธอบอก “การนวดศีรษะจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้คนที่ถูกนวดรู้สึกคลายความเครียด สมองปลอดโปร่ง การนวดศีรษะยังเป็นการรักษาโรคปวดหัวได้อีกทางหนึ่งด้วยนะคะ” หมอนวดสาวพูดขณะที่เริ่มลงมือนวดศีรษะของเขา โดยใช้ฝ่ามือ นิ้วและอุ้งมือในการนวดคลึงไปทั่วศีรษะทุย หัวแม่โป้งกดคลึงขมับ ไล่ไปไรผมตรงใบหู หลังใบหูและต่ำลงถึงท้ายทอย จากนั้นก็ค่อยๆ คลึงไปทั่วศีรษะเป็นรูปวงกลม รัฐภูมิรับรู้ถึงความเบาสบาย ผ่อนคลายสมอง ความตึงเครียดจางหาย รู้สึกเคลิ้มอยากจะนอนท่าเดียว จันยาวีร์เหลือบตามองใบหน้าคมเข้มที่กำลังเคลิ้มเต็มที่ เธอจึงใช้จังหวะนี้เอื้อมมือหยิบซองยาจากตะกร้าที่วางไว้ใกล้ๆ ตัว แล้วเปิดซองออกด้วยมือเพียงมือเดียว เพราะอีกมือกำลังคลึงอยู่บนศีรษะของรัฐภูมิ เธอใช้ปลายนิ้วมือที่มีความชื้นจากน้ำมันป้ายยาที่อยู่ในซอง จากนั้นรอจังหวะที่เขาเผยอปากออกเล็กน้อยจากอาการเคลิ้มป้ายยาตรงปากของเขาอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย!!...เธอทำอะไรน่ะ เธอเอาอะไรมาป้ายปากฉัน” สองร่างดีดตัวออกห่างกันทันที จันยาวีร์เมื่อป้ายยาเสร็จเธอก็กระโดดถอยหลังหนีด้วยความตกใจผสมกับความกลัว รัฐภูมิลุกขึ้นยืนเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่สัมผัสกับปากและลิ้นของเขา ตวาดถามสาวหน้าหวานที่ตอนนี้หน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด “เธอ...เธอเอายาอะไรใส่ปากฉัน?” รัฐภูมิสะบัดหน้าหลายครั้ง ขับไล่ความมึนงงที่เข้ามาเยือนในความรู้สึก เขาเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะก้าวเท้ายังก้าวไม่ออก เปลือกตาหนักอึ้งทั้งๆ ที่ไม่ได้ง่วงนอน ยกลำแขนชี้หน้าเธอแทบไม่ขึ้น ร่างของหมอนวดสาวแบ่งออกเป็นหลายคนยืนซ้อนทับกัน เขาก้าวออกไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย “คุณ คุณ คุณ” จันยาวีร์เดินเข้าใกล้ร่างของคนที่หมดสติอยู่บนพื้นพรม เขย่าตัวของเจ้าของห้องเบาๆ หลายครั้ง ตรวจสอบเพื่อความแน่ใจว่า เขาหลับสนิทจริงๆ พอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่อาจลุกขึ้นมาขัดขืนอะไรได้ เธอจึงจับร่างของเขาพลิกตัวให้นอนหงาย ค่อยๆ ดึงสร้อยคอที่เขาสวมใส่ออกทางศีรษะ แล้วเดินถอยร่นมานั่งตรงโซฟา หยิบกล้องส่องพระที่อยู่ในตะกร้า จัดการตรวจสอบว่าพระเครื่องเบญจภาคีที่เขาสวมใส่อยู่นั้นเป็นของจริงหรือไม่ ห้านาทีผ่านไปการตรวจสอบพระเครื่องชุดนั้นจึงเสร็จสิ้น “ของเก๊นี่” เธอพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะใช้กล้องส่องพระตรวจสอบใหม่อีกรอบเพื่อความแน่ใจ ทว่าก็ยังได้คำตอบเดิมคือพระเครื่องชุดนี้เป็นของปลอม จันยาวีร์จึงโทรศัพท์ไปหาประภาพรรณเพื่อบอกอีกฝ่ายว่า พระเครื่องที่อยู่กับรัฐภูมิเป็นของปลอม “แกดูดีๆ แล้วแน่นะนังแป้งว่าเป็นของปลอม?” “แน่สิพี่มิว แป้งส่องพระดูสองรอบแล้วนะพี่” “ฉันว่าไม่น่าจะปลอมนะ ฉันสืบมาแล้วว่าคุณรัฐภูมิเค้ามีพระเครื่องชุดนี้จริงๆ เค้าเป็นเซียนพระด้วยนะแต่ไม่บอกให้ใครรู้เท่านั้น เอาอย่างนี้แกลองไปรื้อค้นในห้องเค้า เผื่อว่าคุณรัฐภูมิจะสวมพระเครื่องปลอม แล้วเก็บของจริงไว้ที่ไหนสักแห่ง แกลองรื้อๆ ค้นๆ ในห้องของเค้าก็แล้วกัน ถ้าไม่เจอพระเครื่องชุดนี้ ก็หยิบฉวยพระเครื่ององค์อื่นๆ มาด้วยก็ได้ แต่ต้องของแท้นะจะได้ไม่เสียเที่ยว” “แล้วเค้าจะไม่ตื่นมาก่อนเหรอพี่มิว” “ไม่หรอก ยานี้มีฤทธิ์ตั้งสามชั่วโมง แกไปทำงานที่ฉันสั่งได้แล้ว ได้เรื่องยังไงโทรมาบอกฉันด้วยก็แล้วกัน” ประภาพรรณตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ จันยาวีร์ทำตามคำสั่งอย่างเร่งรีบ ห้องแรกที่เธอเดินเข้าไปหาพระเครื่องก็คือ ห้องที่เขาเข้าไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า มันคือห้องนอนของเขานั่นเอง จันยาวีร์ตรงดิ่งไปที่ลิ้นชักหัวเตียงเปิดลิ้นชักสามชั้นออกมาดู เมื่อไม่พบอะไรเธอจึงไปรื้อค้นตามจุดอื่นที่อยู่ในห้อง ทุกที่ที่เธอรื้อค้นต่างไม่พบสิ่งที่ตัวเองต้องการ หญิงสาวมานั่งหมดอาลัยอยู่ตรงปลายเตียง ก่อนที่จะฉุกคิดอะไรขึ้นได้ จริงสิ นักเลงพระส่วนใหญ่จะเก็บพระเครื่องไว้ในตู้เซฟ ใช่...ตู้เซฟ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD