หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย วายุก้าวออกไปจากห้องด้วยความหัวเสีย ไม่หันมองเหลือบแลร่างบางที่เขาจัดการพามาวางบนเตียงนอนขาวสะอาด ต่างจากชีวิตหยำฉ่าของเธอ แปลกพิกลกับความรู้สึกบางอย่างแผ่ซ่านในอก ทั้งที่บอกจะทรมาน สั่งสอนให้เธอหลาบจำ แต่กลับรู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อเห็นเธอเป็นลม กับผู้หญิงมากมายที่เสนอตัวเข้ามาในชีวิต
วายุกลับไม่รู้สึกประหลาดแบบนี้ นี่นางแม่มดร่ายมนตร์อันทำให้เขาใหลหลง วายุพยายามท่องจำไว้ว่าเธอคือเมียเก่าของลูกน้อง แถมยังมีประวัติอันน่าขยะแขยงเน่าเฟะสิ้นดี เขาบ้าไปแล้ว วายุบอกตัวเองขณะนั่งตรวจเอกสารอยู่ในห้องทำงานโอ่โถงเย็นสบาย หากแต่หัวใจกลับไม่เย็นสบายอย่างที่เจ้าของอยากให้เป็น ในเมื่อเขาหลอกล่อเหยื่อให้มาติดกับได้สำเร็จ ควรจะทรมาน และขู่เข็ญให้ได้มาซึ่งเงินที่สูญไปสิจึงจะถูก จะปรานีเหยื่อเพื่ออะไร
กระทั่งอดรนทนไม่ไหว รวบรวมสติกวัดแกว่งเพื่อทำงานตรงหน้าไม่ได้ ร่างหนารีบผุดลุกจากเก้าอี้ตัวใหญ่ เดินกลับไปยังห้องรับรองด้วยความคิดฟุ้งซ่าน ฝ่ามือหนายกลูบใบหน้าหล่อเหลา ไล่กระแสความคิดบางอย่าง ร่างหนาไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องรับรองในเรือนบุปผา สายตาคมจับจ้องมองร่างบางพบว่ากำลังขยับ เธอคงกำลังฟื้นคืนสติ วายุยืนพิงผนังจับจ้องเฝ้าดูสถานการณ์
ร่างบางพลิกกาย ขยับเปลือกตาช้าๆ รู้สึกปวดหนึบ มึนโหวงเหวงในหัว สลัดศีรษะเบาๆไล่อาการนั้น พยุงร่างบางลุกขึ้นจากเตียงกว้างหลังพิงหัวเตียง สิ่งที่เธอสัมผัสได้ทางสายตา เนื้อหนัง ความรู้สึกทั้งหมดในตอนนี้คือ ห้องกว้าง หรูหรา โทนสีขาว ทั้งเครื่องนอนที่ห่อหุ้มร่างกายไม่ต่างจากสีของห้อง นี่ไม่ใช่กระท่อม เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ใครพาเธอมา นึกว่าจะตายอยู่ในกระท่อมในความรู้สึกตอนนั้น ร่างกายโหวงเหวงชวนเวียนหัวชวนอาเจียนไปซะหมด แล้วความรู้สึกสติสุดท้ายดับวูบลง ตื่นมาอีกทีพบว่าตัวเองอยู่ในห้องหรูหรา ต่างจากแดนนรกนั้นลิบลับ หรือว่าเธอตายแล้ววิญญาณขึ้นมาอยู่บนสวรรค์ คิดได้ดังนั้น อริสายกมือขึ้นหยิกตัวเองแรงๆ
“โอ้ย...” เสียงหวานร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เธอไม่ได้ฝัน” เสียงทุ้มดังขึ้นหน้าประตู เสียงที่เธอไม่อยากได้ยิน ไม่อยากเห็นใบหน้าคมหล่อเหลากับสายตาเย็นชา หนาวเหน็บนั้น สุดท้ายเธอได้เห็นได้เจอกับสิ่งที่ไม่อยากเจอนั้นอีก หลังจากฟื้นคืนสติตามด้วยอีกเสียงในท้องดังสอดแทรกไม่รักษาหน้า มันร้องเรียกหาอาหารอย่างหน้าไม่อาย
“คุณ...” เสียงเรียกขานชายหนุ่ม ห้วนๆ เชิดใบหน้า ไม่แม้แต่อยากจะสนใจใบหน้าหล่อให้ระคายสายตา
“ผมเอง จะคิดตายหนีหนี้หรือ ไม่สำเร็จหรอก ต่อให้คุณตายผมจะตามไปทวงถึงนรก เพราะคนอย่างคุณคงไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ชั่วซะขนาดนี้” ปากยื่นด่าว่าเธอทันท่วงที ช่างไม่รู้สึกเหนื่อยกับการว่าเธอบ้างเลย
“ตายไปคงดี”
“คนเน่าๆ อย่างเธอ นรก สวรรค์ ยังไม่อยากรับวิญญาณ ฉะนั้นเธอต้องอยู่ชดใช้หนี้ที่นี่ อย่าคิดหนี จำไว้” เขาตวาดเสียงดัง แววตาดุดันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ สาวเท้าฉับๆ เข้ามาหยุดปลายเตียง
“ฉันจะชดใช้ให้คุณแน่ แต่ขอให้ฉันกลับบ้านไปเอาเงินมาให้คุณก่อน อยู่ที่นี่ฉันจะหาเงินมาให้คุณได้ยังไง”
“ตลก ฉันหรือจะปล่อยผู้หญิงร่านอย่างเธอไป จะไปร่านสวาทเอาตัวเข้าแลกขอเงินจากผู้ชายอีกล่ะสิ ในเมื่อไม่มีเงินใช้หนี้ สมควรจะใช้แรงงานผ่อนหนี้”
“จะบ้าหรือ จะทำงานให้คุณกี่ชาติเงินมากมายขนาดนั้นถึงจะหมด ฉันจะกลับไปขายบ้านเอามาให้คุณ”
“ขายบ้าน โธ่... โสเภณีอย่างเธอคิดจะขาย ถนัดแต่ขายของเก่าเน่าๆ มากกว่า”
“คำก็เน่าสองคำก็เน่า คุณจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ”
โดนด่าว่าตั้งแต่พบหน้าเขา กระทั่งในตอนนี้ เขายังไม่วายด่าว่าเธอเสียๆ หายๆ ผีเจาะปากมาพูดหรือไง ถึงได้ด่าเก่งยิ่งกว่าพวกแม่ค้าปากตลาด เน้นย้ำซ้ำไปซ้ำมาคือเธอเน่า เธอน่าแขยง มันจะมากไปแล้ว ร่างบางผุดลุกขึ้นหวังจะฟาดหน้าเขาสักฉาดเพื่อสั่งสอน แต่...กลับพบว่าบนร่างมีเพียงชุดชั้นในเท่านั้นที่ห่อหุ้มร่างกายเย้ายวน
“ว้าย!!! นี่มันอะไรกัน เสื้อผ้าฉันหายไปไหน”
“ทิ้งลงขยะ”
แม้จะตอบหญิงสาวออกไปแบบนั้น สายตาอดจับจ้องร่างบางสมส่วนชวนมองไม่ได้ ไม่ว่าผิวพรรณผุดผ่อง เอวคอด สะโพกผาย เลื่อนขึ้นไปตรงหน้าอกคู่อิ่มอวบ ริมฝีปากเย้ายวน พลันความรู้สึกลึกแห่งสัญชาตญาณ ปลุกสัตว์ร้ายในร่างวายุให้ตื่นผวาขึ้นท่ามกลางความไม่เหมาะไม่ควร ร่างหนาร้อนเร่า รุ่มลึก ห้ามอาการไม่มิด ได้แต่ท่องคาถาป้องกันตัวเองจากมนตราที่หญิงสาวร้ายกาจร่ายเวทย์ใส่เขา
“จะบ้าหรือไง แล้วฉันจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่”
“เธอมันถนัดถอดอยู่แล้วนี่จะใส่ให้มันได้อะไรขึ้นมา” เขาพยายามสุดความสามารถในการไล่ภาพงดงาม ความหยาบกระด้างในใจให้ออกไปให้พ้น
“หยาบคาย”
“ฮ้า...เธอด่าว่าฉันหยาบคาย ทีเธอล่ะ เอาเรือนร่างไปอวดให้คนทั้งโลกดู ไม่หยาบคายกว่าฉันหรือ”
“ฉันไปทำอย่างนั้นเมื่อไหร่”
“เมื่อไหร่ ไม่เธอก็ฉันที่เลอะเลือน นางแบบนู้ด ผู้เน่าเฟะ”
จบคำพูดดูถูก สบประมาท กระดาษนับสิบๆ แผ่นปลิวกระทบใบหน้าหญิงสาว กระจายเกลื่อนทั่วเตียง อริสาตาค้างตกใจกับการกระทำของเขา นี่มันอะไร เขาเอาอะไรมาหว่านลงตรงหน้าเธอ มือบางควานดูกระดาษพวกนั้น หยิบขึ้นมาดูหนึ่งแผ่น พลิกอีกด้าน ในขณะที่แววตายังจ้องมองเขาไม่วางตา ก้มลงมองกระดาษได้ประจักษ์ต่อสายตาอะไรคืออะไรบนกระดาษพวกนั้น มันคือรูปถ่าย รูปถ่ายผู้หญิงเปลือยไร้อาภรณ์ มีเพียงสองมือโอบอุ้มปิดบังสองเต้าเต่งตึง ไขว้ขาปิดส่วนเร้นลับสงวนสิทธิ์ ไม่จริง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง อินทุอรต้องไม่ทำแบบนี้ เธอแค่ถ่ายแบบเสื้อผ้าแฟชั่น ไม่เคยถ่ายภาพพวกนี้ ไม่ใช่นี่ต้องไม่ใช่น้องสาวเธอ เขาคงตัดต่อภาพเพื่อใส่ร้ายน้องสาวเธอแน่ๆ
“ไง...ยังจะยื่นปากสกปรกของเธอเถียงฉันอยู่มั้ย”
“ภาพตัดต่อชัดๆ”
“ฮึ...ตัดต่ออย่างนั้นหรือ ประสาทเสื่อมหรือตอแหลได้เก่งจัดกันแม่คุณ ถึงลืมว่าตัวเองไปถ่ายรูปอุบาท ยั่วน้ำลายผู้ชายแบบนี้ที่ไหนเมื่อไหร่”
วายุสุดจะทนกับความมารยาสาไถ จริตดีดดิ้น มือหนาหยิบภาพอุจาดตานั้นขึ้นมาหนึ่งใบมองแล้วมองอีก สลับกับใบหน้าซีดเนื้อตัวสั่นที่นั่งจ้องมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาอยู่บนเตียง
“ดูอีกสักกี่รอบมันก็คือเธอ อินทุอรเมียเก่า ผู้ร่านสวาท คาวเค็ม เหม็นจัดของไอ้ธี” ชั่วแวบเดียว วายุกลับค้นพบบางอย่างแฝงเร้นในดวงตาคู่หวานสั่นระริกคู่นั้น ราวกับมีมนตร์ขลังสาป ยิ่งได้จ้องลึกล้ำ เธอมีบางอย่างเพียงน้อยนิด ต่างจากผู้หญิงในภาพ ซึ่งมีแววตายั่วยวนเต็มไปด้วยคาวโลกีย์ หยาบกระด้าง ฉายชัดอย่างพวกนางแมวยั่วกิเลส
หากแต่หญิงสาวที่กำลังนั่งจ้องหน้าเขาบนเตียง กลับมีแววตาละเมียดละไม เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน ราวกับเป็นคนละคนที่แค่หน้าตาเหมือนกันเท่านั้น หากนี่คือปาฏิหาริย์เขาคงเชื่อว่าเธอไม่ใช่คนเดียวกัน ข้อมูลหลายๆอย่างที่เขาสืบรู้มา อินทุอรร้ายกาจ วีนแตก ไม่ยอมคน ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินตราและความพอใจทางกาย มีหรือจะนั่งนิ่งให้เขาจ้องมองเพียงฝ่ายเดียว
หากเป็นอินทุอร เธอไม่ยั่วยวนลากเขาขึ้นเตียงแล้วอย่างนั้นหรือ กับการอ่อนข้อยอมลงมือทำความสะอาด กระท่อมเก่า สับปะรังเคยิ่งเป็นไปไมได้ เธอผู้นี้ทำให้เขาเห็นความแตกต่างมากมาย หากแต่ไม่ไว้ใจเธอสร้างมารยาเก่ง เขาจะไม่มีวันหลงกลบ่วงนางมาร
“ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องในทันที ในเมื่อมั่นใจแล้วว่าคนในภาพคือน้องสาวฝาแฝด อย่างปฏิเสธไม่ได้ ถึงจะโดนหยามเหยียด เหยียบย่ำศักดิ์ศรีคงต้องสวมรอยต่อไปจนกว่าเรื่องจะจบ
“ในห้องนี้มีเธอกับฉัน ถ้าไม่ใช่เธอเองคงจะ...”
“คุณหรือ ไอ้หื่น สารเลว ฉวยโอกาส” แววตาหวานขึ้งขึ้นมาฉับพลัน ปากร้ายไม่พอ ยังเป็นคนลามก ฉกฉวยโอกาสมือบางยกขึ้นปิดหน้าอกคู่งาม ไม่เคยมีชายใดได้เห็น รู้สึกร้าวรานสุดขั้วหัวใจ
“อะไรนะ ด่าฉันสารเลวงั้นหรือ เก็บคำด่าพวกนี้ไว้ด่าตัวเองเถอะ เธอมันเลวกว่าฉันซะอีก จะให้ฉันด่าแบบครบชุดมั้ย ถ้าสนก็บอก จะจัดเต็มให้เลยยังได้” เขาเท้าฝ่ามือโน้มตัวมาหาร่างบาง ร่างบางมีแววตาหวาดหวั่นนั่งตัวสั่นควานหาคำด่าอยู่บนเตียง มือบางรีบดึงผ้านวมห่อหุ้มส่วนสงวนให้พ้นสายตาดูถูก ต่อให้เขาไม่สนแค่ไหน ด้วยความเป็นหญิงจักต้องรักษาส่วนสงวนไว้ให้พ้นจากสายตาเย็นชาคู่นี้