ตอนที่ 3

1647 Words
ภูอนลคิดว่าคุณศักดานั้นสามารถพึ่งพิงได้ และเขาก็ทำงานแบบภักดีให้แก่คุณมุทธาที่เป็นพี่ชาย และอีกตำแหน่งหนึ่งคือพ่อเลี้ยงของเขา ส่วนในด้านลึกแอบแฝงนั้น เป็นสิ่งที่ภูอนลไม่รับรู้เลย แต่เขาคิดว่า หากคุณศักดาจะเป็นอย่างนั้น ผู้ชายคนนี้จะเป็นคนที่ใครคาดเดาออกยาก เพราะมีความซับซ้อน เขาพอจะรู้ว่า คุณศักดานั้นรู้ทุกอย่าง เหมือนเขากุมความลับทุกอย่างเอาไว้กับตัว แม่เขาก็มีความหวั่นหวาดกลัวเช่นกัน จึงดึงเขามาที่นี่ มันไม่แตกต่างไปจากการเรียนรู้และสืบดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ และวันนี้ หล่อนมาแล้ว การทำงานที่แสนจะต้องคัดเลือก สำหรับผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ทั้งฮอตอย่างในปัจจุบันนี้แบบหล่อน ช่องิ้ว หรือ ชิดชลัย ไม่ได้รับงานทุกอย่างที่ดาหน้าเข้ามา แต่หล่อนจะเลือกและคัดสรรให้แก่ตัวเองโดยมีการกรองและคัดเลือกจากผู้จัดการส่วนตัว หล่อนชอบงานพรีเซนเตอร์และถ่ายโฆษณามากที่สุด เงินตอบแทนค่อนสูง เรทติ้งไม่เคยตก หากแต่หล่อนไม่เคยลืมสิ่งที่มุ่งหวังอยู่ข้างใน ความสวยที่บาดจิตของหล่อนล้วนเป็นอาวุธได้เป็นอย่างดี ถ้าจะฟาดฟันศัตรู ใครมาคะยั้นคะยอให้หล่อนมารับงานแสดงละครหรือภาพยนต์หล่อนจะปฏิเสธหมุดทุกอย่าง แม้จะยื่นข้อเสนอทุ่มเทด้วยเงินจ้างราคาสูงลิ่วก็ตาม ช่องิ้วยังเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นหล่อนจึงโด่งดังในวงแคบๆ และมีชื่อเสียงแบบขจรไปไกล ลิสต์รายชื่อที่หล่อนต้องการเข้าไปใกล้คนเหล่านั้น หล่อนใช้ความสวย มันสมองเป็นอาวุธ อีกอย่างที่หล่อนไม่ต้องการ คือ การใช้ตัวเองแบบเปลืองตัว หากเรื่องราวทั้งหมดไม่เกิดขึ้น และพิกันดาเสียชีวิตโดยหาคนรับผิดไม่ได้ หล่อนคิดว่าพิกันดาจะต้องไม่ตายฟรี ดังนั้นเดิมพันในเรื่องนี้สูงมากทีเดียว จุดเริ่มต้นในเรื่องนี้ล่ะ ทำให้ชีวิตของช่องิ้วนั้นเปลี่ยนไป แทนที่หล่อนจะได้ใช้ชีวิตแบบสุขสงบ กลับต้องสืบเสาะแสวงหาหลักฐานเพื่อจัดการคนที่มีส่วนร่วมทำร้ายพิกันดา ช่องิ้วคิดว่าหล่อนทำได้ทุกอย่าง ถ้าหล่อนจะทำ อีกอย่างในเวลานี้ หล่อนแค่คืบคลานเข้าไปหานายคมกล้า เด็กหนุ่มท่าทางเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ รายชื่อ ต่อไป ที่หล่อนจะตรงเข้าไปหา คือ นายมุทธา แล้วก็นายศักดา อีกทั้งนายวิกรม พวกนี้เป็น ก๊วนเดียวกัน ตามหลักฐานที่หลงเหลืออยู่ พิกันดาไปเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้ สิ่งที่หล่อนเริ่มใช้กับนายคมกล้า เพราะมันจะทอดไปหาตัวของคนเป็นพ่อ นายศักดานี่ร้ายกาจพอสมควร เสือผู้หญิงทั้งนั้น หล่อนรู้ด้วยว่า จะใช้วิธีการไหนกับนายคมกล้า ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่า เขากำลังวนเข้าหาเบ็ดกับดักที่หล่อนกำลังจะปักและเกี่ยวเพื่อให้เขากลายเป็นเหยื่อ สิบโมงกว่าแล้ว บนถนนสายนั้น ที่ช่องิ้วขับรถมาทำธุระ หล่อนกำลังจะตัดสินใจรับงานสำคัญ เกี่ยวกับอีเวนต์ภายในบริษัทใหญ่ของนายมุทธาและนายศักดา ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ภูอนลแปลกใจผู้หญิงที่ผิวขาวรูปร่างชวนเสน่ห์บอบบางนั้น หากจำไม่ผิด หล่อนอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่ดูสดใส เขาคลางแคลง พร้อมกับหัวคิ้วทั้งสองข้างนั้นขมวดขึ้นมาพร้อมกัน แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงคนเดิม แล้วหล่อนมาทำอะไรที่นี่ ก็สิบโมงกว่าอย่างนี้ เขานึกหิวเครื่องดื่ม เลยเดินลงมาซื้อร้านประจำที่มีชาเขียวกลมกล่อม ดื่มแล้วสดชื่น เขาถือแก้วมาด้วยกำลังชะงักตรงนี้เอง เพราะปะทะใบหน้ากับหล่อนแบบเส้นยาแดงผ่าแปด คือ ตรงหน้าแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ช่องิ้วกำลังจะหาทางหลบความร้อนเพื่อเข้าไปในร้านเครื่องดื่มนี้เช่นกัน ก่อนที่ในช่วงบ่ายๆ หล่อนเตรียมตัวจะเข้าไปหาเจ้าของบริษัท พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทำงาน ที่ในวันนี้หล่อนตัดสินใจมาด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้ผู้จัดการส่วนตัวเข้าช่วย "เอ๊ะ นี่คุณ" เพราะคลับคล้ายคลับคลา เขาจึงถาม "จำได้ไหม วันนั้นคุณเดินชนผม ดีที่ผมประคองไว้ทัน" ความจำเขาแม่นเหลือเกิน ซ้ำยังจดจำใบหน้าและอิริยาบถทีหล่อนพลาด จนเขามารับตัวไว้ทัน จึงยอมรับ “ค่ะ” หมดทางปฏิเสธไปทันที ที่หล่อนจะเอ่ยปฏิเสธ แต่ตอบแบบไม่นึกแยแสกับเขาเพราะคิดว่าเขาจะมาจุ้นจ้าน หรือยุ่งในเรื่องที่หล่อนกำลังจะทำ "เอ้อ ฉันขอโทษนะคะ วันนี้รีบไป ขอตัวก่อน" หล่อนทำท่าจะตัดบท "เดี๋ยวก่อนครับ คุณ มาทำอะไรที่นี่" กลับมีคำถามของเขาถามขึ้นมา "ฉันมีธุระค่ะ" ตอบเขาเพียงนั้นสะบัดตัวเพื่อหนีเข้าไปในร้านเครื่องดื่ม ตั้งใจจะเลือกโต๊ะนั่งพร้อมละเลียดเครื่องดื่มรสชาติดี ที่หล่อนอยากจะสั่ง เพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น พออารมณ์เย็นดีแล้ว จะเริ่มต้นกับธุระของหล่อน ที่ทางฝ่ายนี้เป็นคนติดต่อมาด้วยตัวเองหล่อนไม่ยอมพลาดเป้าหรอก อีกทั้งเมื่อเป้าหมายต้องการเดินมาหา ให้หล่อนพุ่งและทุ่มเข้าใส่ จะถามอะไรต่อ ก็ชะงัก มันไม่ทันแล้ว ท่าทางหล่อนไม่เป็นมิตรกับใคร แสนจะรั้นและเย่อหยิ่งไม่น้อย ฮึ ภูอนลทำเสียงขึ้นจมูก อย่างไม่สนใจเหมือนกัน กับผู้หญิงมารยาทแย่แบบนี้ ทั้งที่เขาหวังดี ตอนนี้ช่องิ้ว จะไม่พยายามเป็นไฟ เพราะมันมีแต่ความร้อนโหมและแผดกระหน่ำ หล่อนไม่ต้องการและไม่ชอบ แต่มันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยพาะคนที่หล่อนถือว่าเป็นศัตรู สิ่งที่หล่อนรับรู้ ก็หาใช่หล่อนรู้อยู่คนเดียว เริ่มจากการวางแผนการ และค้นหาการกระทำในอดีตจากคนพวกนั้น จากนั้นรอผลคืบหน้า คนที่จะเดินดุ่มเข้ามาเป็นเหยื่อของหล่อนในครั้งแรก คือ นายคมกล้า ที่ท่าทางผู้ชายคนนี้ เมื่อดูแล้ว อันตรายไปหมด ท่าทางที่กรุ้มกริ่มบ่งบอกเจ้าชู้ไวไฟเหมือนเสือผู้หญิง คงไม่แตกกต่างไปจากผู้เป็นพ่อและลุงสักเท่าไหร่ วันนี้หล่อนรู้ว่า นายศักดาเป็นคนต้อนรับหล่อนด้วยมือ ช่องิ้วจึงได้มาที่นี่ “อ้าวมาแล้วเหรอ คุณช่อนี้มาก่อนเวลาเสียอีกนะครับ คุณมาในช่วงหลังเที่ยงก็ยังทัน” เมื่อได้ยินคำพูดแล้ว หล่อนคิดว่าจะรักษาน้ำใจและคำพูดเพื่อให้หล่อนดูดีไปหมดในสายตาของคนพวกนี้ “ไม่เป็นไรค่ะ เอ้อ ช่อรอได้ ในเมื่อจะต้องมาคุยงานแบบยักษ์ใหญ่ระดับบิ๊กอย่างนี้ด้วย ช่อเลยต้องมาก่อนค่ะ” “ดีครับ เดี๋ยวผมจะให้เด็กพาคุณไปรอที่ห้องรองรับเสียก่อน ตากแอร์เย็นๆ นะครับ” ช่องิ้วยอมรับกับคำพูดนั้น จึงพยักหน้า ในห้องพิเศษที่ช่องิ้วเป็นฝ่ายรอ นั้นเหมือนเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ผนังติดวอลเปเปอร์ รูปภาพหลากหลายเป็นธรรมชาติ ทำให้มองแล้วรู้สึกดีและคลายเครียด และสีนั้นเป็นสีแบบโทนอ่อนด้วย หล่อนทรุดนั่งที่โซฟา โดยมีพนักงานต้อนรับเป็นเด็กสาววัยรุ่นอยู่ด้วยคนหนึ่ง เสิร์ฟน้ำเย็นให้หล่อนหนึ่งแก้ว ภูอนลมีธุระบางอย่างที่จะเข้ามาในห้องประชุม เพราะว่าจำได้ว่า แฟ้มเอกสารเก่าบางอย่างของเขา น่าจะลืมไว้ในห้องประชุมคราวก่อน มันยังคงอยู่ที่เดิม เมื่อขยับขาจะก้าวเข้าไป มีความรู้สึกว่าในห้องประชุมนั้นถูกปิดเอาไว้ คงจะมีการใช้งาน แต่เขาคิดว่าไม่น่าจะใช้ เพราะยังไม่มีการประชุม ถ้าอย่างนั้นเขาจะต้องรู้ดีว่าช่วงประชุมกำหนดเวลาวันไหนและกี่โมง “เอ๊ะ ใครอยู่ในนั้น” เสียงเขาถามก็พอดีกับมีบานประตู เปิดออกมาเป็นนางสาวแจ่มเด็กแม่บ้านที่คอยดูแลแขกหรือลูกค้าของบริษัท “อ้าว เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” “มีแขกคนพิเศษที่คุณศักดา กับท่านประธานเชิญตัวเธอมาค่ะ เลยให้พักอยู่ในห้องรับรองนี้ก่อน” แจ่มตอบเพราะทำตามหน้าที่ เขาพยักหน้า อยากจะรู้เหมือนกันว่า แขกคนนี้เป็นใคร เอ๊ จะสนใจดีไหมน๊า ไม่ต้องหรอก มันไม่ใช่ธุระของเขา เรื่องที่เขาควรสนใจคือแฟ้มงานเอกสารสำคัญส่วนตัวของเขามากกว่า นางสาวแจ่มเลยถามเขา “คุณภูจะเข้ามาเอาอะไรคะ” “ฉันคิดว่าหลายวันก่อนที่ประชุมกัน ฉันทิ้งแฟ้มไว้ในตู้กระจก ลืมเอามาเสียด้วย จะเข้าไปเอาเสียหน่อย” “งั้นเชิญค่ะ เอ หรือว่าจะให้แจ่มไปเอามาให้คะ” ในกองนั้นที่เป็นตู้เอกสารมีมากมาย เขากลัวว่านางสาวแจ่มจะหาไม่เจอ เอกสารเหล่านั้นเขารู้ดี เพราะทำขึ้นเองมากับมือ ดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไรหรอก ฉันหาเองจะง่ายกว่า ขืนให้แจ่มหา คงหาผิดหาถูกอีกนานเป็นแน่ แต่ก็ขอบใจนะ” เขาเอ่ยกล่าว ทำให้นางสาวยิ้มเล็กยิ้มน้อย ยินยอมก้าวถอยออกห่างจากตัวเขา เหมือนเชิญให้เขาเข้ามาข้างใน ส่วนนางสาวแจ่มก็แอบไปทำธุระส่วนตัวเล็กน้อยในเวลานี้ การที่ภูอนลพาฝีเท้าก้าวเข้ามาแล้ว เขาแปลกใจเมื่อมองมาจากทางด้านหลัง เห็นว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ค่อนข้างสะดุดตา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD