ตอนที่ 5

1177 Words
            น้ำเสียงของผู้พูดทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนผะผ่าวบนใบหน้า เขากำลังจะบอกเธอหรืออย่างไรว่าแม้เธอไม่เจอเขาหากแต่เธอก็อยู่ในสายตาคมคู่นั้นตลอดเวลา             “คุณเมย์จะเดินไปทางโน้นหรือครับ ผมจะเดินเป็นเพื่อน”             เมลิดายิ้มรับอย่างเก้อเขิน เธอเพียรสะกดความรู้สึกบางอย่างกลับเข้าไปในภวังค์อันวายวุ่น ทว่าชายหนุ่มกลับสังเกตได้จากพวงแก้มที่เริ่มเป็นสีแดงเรื่อของหญิงสาวก่อนทั้งสองจะออกเดินไปพร้อมกัน             “วันนี้คุณภูมิไม่ขับเรือพาแขกไปเที่ยวหรือคะ?”             “ช่วงนี้เป็นโลว์ซีซั่นน่ะครับ แขกจะน้อยลงสักหน่อย คิดเสียว่าได้หยุดพักบ้างจะได้ไม่เครียด”             “ดีจังเลยนะคะ คุณภูมิทำงานแบบนี้ก็ดีอย่าง ได้เที่ยวบ่อย ไม่ต้องพะวงอะไร”             “บางครั้งก็มีบ้าง เจอแขกเรื่องมากก็ต้องอดทน งานไหน ๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละครับคุณเมย์”             “ถ้าเมย์จะเช่าเรือออกไปเที่ยวตามเกาะบ้าง คุณภูมิจะมีเวลาว่างไหมคะ?”             เขาหยุดเดินและหันมามองหญิงสาว แววตาคู่นั้นเหมือนมีอะไรแอบซ่อนอยู่ อะไรบางอย่างที่ทำให้เธอแทบไม่อยากคาดเดา             “ผมว่างเสมอสำหรับคุณเมย์ พรุ่งนี้ดีไหมครับผมจะเอาเรือออกแต่เช้า”             “ดีค่ะ...เมย์จะได้เตรียมตัว.....โอ๊ย!”             เมลิดาร้องเสียงหลงและทรุดลงนั่งทำให้ภูมิรู้สึกตกใจรีบย่อตัวลงไปประคองร่างนั้น             “เท้าเมย์....คุณภูมิ.....”             ชายหนุ่มพลิกฝ่าเท้าเปลือยของหญิงสาวดูจึงเห็นว่าโลหิตสีแดงสดทะลักออกมาจากรอยแผลลึกยาว เธอคงเหยียบเศษแก้วหรือเปลือกหอยคมใต้ฟองคลื่น เขารีบช้อนร่างบอบบางไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเธอไปวางบนหาดทราย เมลิดามีอาการตื่นตกใจและโอบเรียวแขนรอบคอของเขาแน่น เมื่อร่างสูงวางเธอลงถึงได้รู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่โลมไล้อยู่บนผิวแก้ม             “แผลลึกนะครับคุณเมย์”             เขาก้มลงดูแผลอีกครั้งและเหมือนมือหนาใหญ่ที่จับเท้าเรียวสั่นเล็กน้อย แม้แต่หญิงสาวเองก็รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นรัวเร็วเมื่อสายตาคมคู่นั้นเลื่อนขึ้นมาสบประสานกับเธอ ชายหนุ่มวางเท้าเธอลงอย่างเบามือก่อนปลดกระดุมและถอดเสื้อเชิ้ตบนกายออก เมลิดามองดูบุรุษที่สวมกางเกงเดนิมเพียงตัวเดียวขณะลงมือฉีกเสื้อของตัวเองจนได้เศษผ้าขนาดพอเหมาะที่จะพันปากแผลซึ่งมีเลือดซึมออกมาไม่หยุด ในเวลานั้นความอบอุ่นแล่นปราดเข้าเกาะกุมหัวใจของหญิงสาวเมื่อเขาบรรจงทำแผลให้เธออย่างทะนุถนอม             “คุณภูมิคะ.....”             “เลือดอาจจะหยุดไหลถ้าพันปากแผลไว้ แต่ผมอยากพาคุณเมย์ไปหาหมอ.....กลัวแผลจะติดเชื้อน่ะครับ”             “อุ๊ย!....”             เมลิดาครางออกมาเมื่อลองขยับเท้าทั้งลืมไปว่ามือเรียวบางจับกล้ามเนื้อบนแขนของเขาไว้แน่น หากแต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่านัยน์ตาคมเข้มกำลังจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวอยากหรุบเปลือกตาลงต่ำทว่ามีอะไรบางอย่างดึงดูดให้ทั้งเธอและเขาประสานสายตากันอยู่เช่นนั้น เขาอยู่ใกล้เธอมากจนรู้สึกว่าใบหน้าคมคายกำลังโน้มต่ำลงมาหา เจ้าของร่างบางไม่ขยับเขยื้อนแต่หายใจถี่จนริมฝีปากได้รูปของเขาสัมผัสกับผิวเนื้อบนเรียวปากบาง.....เพียงสัมผัสก่อนที่ชายหนุ่มเหมือนนึกอะไรได้รีบถอนใบหน้าออกจากความเย้ายวนที่ไม่ได้ตั้งใจเชิญชวนนั้น             “ผมจะพาคุณเมย์ไปที่บังกะโลก่อนนะครับ เดี๋ยวจะพาคุณไปหาหมอ”             “เมย์ไม่ระวังเอง ไม่รู้จักสวมรองเท้าเวลาเดินบนชายหาด” “อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลาครับ คุณเมย์อย่าคิดมาก”             กล่าวจบก็ช้อนร่างนั้นไว้ในอ้อมแขน เมลิดาร้อนรุ่มไปหมดยามเมื่อความอวบอิ่มเสียดสีกับแผงอกเปล่าเปลือยที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและเธอก็คงมิอาจล่วงรู้ว่าเจ้าของร่างสูงใหญ่ตองใช้ความพยายามบังคับตัวเองมากแค่ไหนต่อสัมผัสอันรัดรึงจากเรือนร่างอรชรในอ้อมแขน ชายหนุ่มโอบอุ้มร่างนั้นกลับเข้าไปยังบังกะโลในเวลาที่แสงอ่อนจากโค้งฟ้าสาดมาถึงทำให้ตัวบ้านดูเจิดจ้าอยู่ท่ามกลางแมกไม้โอบล้อม             “เมย์จะซื้อเสื้อคืนให้คุณนะคะ”             “ช่างเถอะครับ ผมว่าคุณเมย์น่าจะห่วงแผลตัวเองมากกว่าห่วงเสื้อราคาถูกของผม ผมแค่คนขับเรือจะใส่อะไรก็ได้”             “เมย์อยากตอบแทนความมีน้ำใจของคุณบ้างน่ะค่ะ.....คุณดีกับเมย์ขนาดนี้”             “คุณเมย์อย่ากังวลเลยครับ....ไม่ช้าไม่นานนี้ คุณเมย์ต้องได้ตอบแทนผมกลับคืนอย่างแน่นอน”             น้ำเสียงแน่นหนักมิได้ทำให้หญิงสาวเกิดความรู้สึกอันใดนอกเสียจากซาบซึ้งในความดีที่เขามอบให้และสำนึกในความหวั่นไหวที่กำลังเอ่อท่วมหัวใจดวงนั้น   บทที่ 2  ความรักครั้งแรก               แล้วแผนที่วางไว้ว่าจะนั่งเรือเที่ยวชมเกาะของเมลิดาก็เป็นอันต้องพักไว้ก่อนเพราะแผลยาวที่ฝ่าเท้าต้องให้หมอเย็บถึงสิบเข็ม หญิงสาวรู้สึกเสียดายที่จะได้นั่งเรือออกทะเลทว่าก็ยังนึกยินดีที่มีชายหนุ่มชื่อภูมิคอยช่วยเหลือไปเสียทุกอย่าง เขาพาเธอไปหาหมอ คอยช่วยพยุงร่างระหงตลอดเวลาที่ไปโรงพยาบาลจนคนรอบข้างคิดว่าเป็นสามีภรรยามาด้วยกัน เมลิดาแอบเขินเล็ก ๆ ต่อท่าทีแสดงออกของชายหนุ่มเสมือนว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอจริง ๆ และที่หญิงสาวประทับใจคือความอดทนที่ไม่มีขีดจำกัดแม้ต้องคอยนานต่อการทำแผลของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลรัฐกระทั่งเวลาล่วงเลยถึงยามบ่ายกว่าเขาและเธอจะกลับมาถึงบังกะโล ร่างบอบบางต้องเดินเขย่งเท้าข้างหนึ่งซึ่งถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาวขณะเดินจูงมือชายหนุ่มจนมาถึงที่พัก             “นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วคะที่เมย์รบกวนคุณภูมิ แย่จังเลย”             เมลิดาทอดถอนใจขณะนั่งลงบนเก้าอี้รับแขกภายในห้องที่ภูมิช่วยเปิดประตูหน้าต่างให้ลมโกรกเข้ามาเย็นสบาย เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วใช้มือหนาจับเท้าเรียวดูแผลที่ถูกพันผ้าไว้อย่างดีก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่วางอยู่ติดกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD