ตอนที่ 3

1315 Words
“ทางนี้โว๊ย ไอ้หมอนัส” ทยากรที่นั่งดื่มเหล้ารอฐานัสรีบโบกมือขึ้นเรียกเพื่อนทันทีเมื่อเห็นเดินเข้ามาในผับ ฐานัสยกมือขึ้นโบกตอบ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเห็นแล้วว่าทยากรนั่งอยู่ตรงไหน “ขอโทษทีว่ะที่มาช้า” ฐานัสทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงกันข้ามกับเพื่อนสนิท “ไม่ต้องมาพูดดีเลย มึงเลี้ยงเหล้ากูเป็นการไถ่โทษเลย โอเค๊” “ตกลง” ฐานัสระบายยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปควักมือเรียกพนักงานให้มาหา “มึงสั่งเลยไอ้แบงค์ เต็มที่” ทยากรฉีกยิ้มพึงพอใจ “ได้เลยไอ้หมอนัส มึงเตรียมตัวขนหน้าแข้งร่วงเลย” “เออ เอาเลย กูอยากลองจนบ้างเหมือนกัน” สองหนุ่มหัวเราะร่วน พูดคุยถามไถ่กันถึงสารทุกข์สุกดิบกันยาวเหยียด ก่อนที่ทยากรจะเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งกำลังเต้นอยู่ไกลๆ “นี่ๆ ไอ้หมอนัส มึงเห็นน้องคนนั้นหรือเปล่า สวยว่ะ เต้นพลิ้วด้วย กูขอไปสีก่อนนะมึง” ฐานัสมองตามสายตาของเพื่อนไป ก็พบว่าตรงส่วนนั้นถูกจัดเป็นงานเลี้ยงเฉพาะกลุ่ม “เดี๋ยวก็ถูกแฟนน้องเขากระทืบเอาหรอกไอ้แบงค์” “ก็เผื่อว่ายังไม่มีแฟนยังไงล่ะ เออๆ เดี๋ยวกูมานะโว๊ย” ทยากรไม่อาจจะหักห้ามความเจ้าชู้ของตนเองเอาไว้ได้ รีบคว้าแก้วเหล้าเดินตรงปรี่เข้าไปหาเป้าหมายทันที ในขณะที่ฐานัสนั่งดื่มลำพังที่โต๊ะ “เหงาไหมคะพ่อรูปหล่อ” ผู้หญิงแต่งตัวน้อยชิ้นคนหนึ่งเดินเข้ามาหยุดใกล้ๆ พร้อมกับเอาเต้านมเสียดสีที่ท่อนแขนของเขา ฐานัสหันไปมองและยิ้มสุภาพให้ “ไม่เหงาหรอกครับ ผมมากับเพื่อน” “แต่เพื่อนของคุณไปหาสาวแล้วนี่คะ คุณไม่อยากได้สาวสวยไปสนุกด้วยในค่ำคืนนี้บ้างเหรอคะ” ฐานัสส่ายหน้าไปมา “ไม่ดีกว่าครับ เพราะพรุ่งนี้ผมมีงานแต่เช้า” “ขยันจังเลยนะคะ แบบนี้แหละที่นกชอบ” หญิงสาวคนนั้นถือวิสาสะทรุดตัวลงนั่งแทนที่ทยากรโดยไม่เอ่ยขออนุญาต “คืนนี้ไปสนุกกับนกนะคะ รับรองว่าคุณจะฟินหนักมาก” เจ้าหล่อนพูดไป และพยายามขายของไปด้วยการก้มลงเพื่อให้เต้านมโผล่ออกมาให้เยอะที่สุด ฐานัสยังคงระบายยิ้มก่อนจะพูดขึ้น “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ ผมไม่สะดวกจริงๆ” “งั้นเราไปห้องน้ำกันไหมคะ” เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสเที่ยวสถานที่แบบนี้บ่อยนัก เพราะงานที่รัดตัวแน่นจนขยับไปไหนยาก ทำให้อดตกใจไม่ได้กับความใจง่ายของผู้หญิงตรงหน้า “ผมไม่สะดวกครับ” “ไม่ได้พกถุงมาเหรอคะ ไม่ต้องห่วง นกมีพร้อมค่ะ” ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งสังเวชสตรีตรงหน้า และก็จำใจต้องเลิกเป็นสุภาพบุรุษ “คือคุณไม่ใช่สเป็กของผมน่ะครับ” เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงตรงหน้าหุบยิ้มในทันที ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน และด่า “เป็นตุ๊ดหรือเปล่าเนี่ย ผู้หญิงให้เอาฟรีดันปฏิเสธ เสียอารมณ์โว๊ย” แล้วแม่ผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อยก็เดินสะบัดบ๊อบจากไปในกลุ่มนักท่องราตรี ฐานัสถอนใจออกมา ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเงียบๆ อย่างไม่คิดใส่ใจา “เอ้า... ทุกคนดื่ม” เสียงอ้อแอ้ของหัวหน้างานดังกังวานขึ้น พร้อมกับทุกคนที่ยกแก้วเหล้าขึ้นชนกัน “หมดแก้ว...” เหล้าในแก้วทุกใบถูกเทลงหายลงไปในลำคอของทุกคน ยกเว้นเพียงแค่หล่อนคนเดียว “อ้าว ล้อมดาว ทำไมไม่ดื่มล่ะ” หัวหน้างานหันมาทักด้วยความแปลกใจ “เอ่อ... ดาวดื่มไม่เป็นค่ะ” “น้องดาวดื่มแต่น้ำส้มค่ะบอส” เพื่อนร่วมงานที่สนิทสนมกันเอ่ยแก้ตัวแทน แต่หัวหน้ากลับไม่ยอมง่ายๆ “ไม่เอาน่า มาสนุกด้วยกันทั้งทีมันก็ต้องดื่มสิ” “เอ่อ... บอสคะ คือว่าดาว...” แล้วแก้วน้ำส้มในมือของหล่อนก็ถูกกระชากออกไป และมีแก้วใบสวยที่มีแอลกอฮอล์อยู่เกินครึ่งแทนที่เข้ามาในอุ้งมือ “ดื่มให้เกียรติผมสักแก้ว” “ดาว... ไม่... เอ่อ...” หล่อนลังเล และรู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องแตะต้องของมึนเมาแบบนี้ “บอสคะ ดาว...” “ถ้าคุณไม่ดื่ม ผมไม่ต่อสัญญาจ้างงานคุณนะ” แม้หัวหน้างานจะพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก แต่คนที่กลัวตกงานเช่นหล่อนก็เสี่ยงไม่ได้ “นิด... เดียวนะคะ” คู่สนทนาของหล่อนฉีกยิ้มอย่างยินดี ในขณะที่เพื่อนร่วมงานต่างคะยั้นคะยอให้หล่อนดื่ม “ดื่มเลย ดื่มเลย...” หล่อนไม่มีทางเลือกแล้ว! ในที่สุดแก้วเหล้าก็ถูกจดจ่อที่ริมฝีปาก หล่อนต้องใช้ความพยายามมากมายกว่าจะเทน้ำเมาให้หายเข้าไปในลำคอได้สำเร็จ แค่ก แค่ก หล่อนไอระคนสำลักทันที เมื่อของเหลวรสชาติบาดคอไหลผ่านเข้าไปภายใน “แหม ครั้งแรกก็ยังนี้แหละ เดี๋ยวดื่มบ่อยเข้าก็จะดื่มเก่งเหมือนกับพวกเราเอง” เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งให้กำลังใจขึ้น และยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มฮึกใหญ่ราวกับกำลังดื่มน้ำเปล่า หล่อนหน้าแดงก่ำ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ถูกขอร้องแกมบังคับให้ดื่มเข้าไป กำลังทำให้เลือดลมในกายสาวร้อนผะผ่าวขึ้น “เอ่อ... ดาวดื่มแค่นี้นะคะ” “ดื่มให้หมดแก้วเลย ล้อมดาว” ทุกคนคะยั้นคะยอและไม่เว้นช่องว่างผ่อนปรนให้กับหล่อนเลยแม้แต่น้อย หล่อนรู้สึกลำบากใจมาก และก็ไม่มีหนทางที่จะปฏิเสธได้อีกแล้ว ในที่สุดก็จำต้องเทเหล้าในแก้วลงคอไปอีกครั้งและอีกครั้งจนหมดแก้ว หล่อนทั้งไอทั้งสำลัก แต่ผู้คนรอบตัวกลับหัวเราะขบขัน ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ ใบหน้าของหล่อนแดงก่ำ รู้สึกถึงอาการมึนเมาครองสติไม่อยู่มาเยือน “อีกแก้วนะ ล้อมดาว...” “ม่ายยย... ไหว... แล้ว... ค่ะ... ดาว... ม่าววว แล้วววว” สติสัมปชัญญะจางหายไปพร้อมๆ กับระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่เพิ่มพูนขึ้น “อีกแก้วเดียวนะล้อมดาว” แล้วเพื่อนร่วมงานต่างแผนกคนหนึ่งก็เดินมาหยุดใกล้ๆ และรีบรินเหล้าใส่แก้วให้ “ดื่มครับ หมดแล้วเลย” หล่อนที่สติไม่ค่อยมีแล้ว จึงยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มฮึกใหญ่ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนร่วมงาน ไม่ช้าแก้วในมือก็ว่างเปล่า เพราะเหล้าถูกหล่อนดื่มไปหมดทุกหยดแล้ว “เก่งมาก ล้อมดาว อีกแก้วสิ...” “ม่ายยย ไหววว แล้ววว ค่ะ ดะ... ดาววว ขอตัวไปห้องน้ำ ก่อนนนน...” หล่อนกัดฟันลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่ก็เซจนหน้าแทบทิ่มลงไปกองกับพื้น “ว๊ายยย เดินไหวไหมยายดาว” เพื่อนร่วมงานผู้หญิงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “หวายยย... ดาวไม่เป็นไร...” หล่อนกัดฟันย่ำเท้าเดินไปข้างหน้า แต่แค่ก้าวเดียวเท่านั้นก็เซจะล้มพับอีก โชคดีที่มีมือของใครคนหนึ่งมาช่วยพยุงเอาไว้ “เดี๋ยวผมพาไปนะครับ” ล้อมดาวช้อนตาขึ้นมอง ก็พบว่าเขาคือผู้ชายคนที่คะยั้นคะยอให้หล่อนดื่มเหล้าแก้วสุดท้าย “ม่าย เป็นไรค่ะ ดาวไปเองด่ายยย...” “ผมยินดีครับ” จิตใต้สำนึกร้องสั่งให้ปฏิเสธ แต่ร่างกายที่ถูกพิษของแอลกอฮอล์เล่นงานมันอ่อนแรงจนไม่อาจจะขัดขืนการลากจูงของผู้ชายคนนี้ได้ หล่อนภาวนาให้การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นๆ ช่วยเรียกสติสัมปชัญญะของตนเองให้กลับคืนมา แม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็ขอแค่ให้หล่อนปลอดภัยจากค่ำคืนนี้ก็พอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD