“แน่ใจนะว่าจะไม่ไปต่อกับกู ไอ้หมอนัส”
ทยากรที่เมาพอสมควรเอ่ยถามเพื่อนสนิท
“พรุ่งนี้กูต้องทำงานว่ะ เมาไปทำงานคงไม่ดี”
ฐานัสมองเพื่อนที่หนีบผู้หญิงแปลกหน้าที่เพิ่งคุยกันครั้งแรกในผับด้วยสายตาสังเวช
คนเราก็แปลกนะ แค่เจอกัน คุยกันไม่กี่นาที ก็พร้อมที่จะขึ้นเตียงด้วยกันได้แล้ว
เขาไม่มีทางใช้ชีวิตแบบนี้เด็ดขาด หากอยากได้ผู้หญิง เขาก็จะซื้อหาด้วยเงิน ไม่มีทางมาหิ้วผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าพวกนี้ไปขึ้นเตียงด้วยแน่นอน
“งั้นก็ตามใจ เอาไว้พรุ่งนี้กูตื่นนอนแล้ว จะโทรไปหาก็แล้วกัน”
ฐานัสพยักหน้าตอบเพื่อน และก็ยืนกอดอกมองทยากรกับผู้หญิงที่หิ้วมาจากในผับไปจนลับสายตา เขาถอนใจออกมาเบาๆ และหมุนตัวเดินกลับไปยังรถ
“ช่วยยยย ด้วยยย... ปล่อย... นะ... ปล่อยยย...”
เขาเดินเกือบจะถึงรถอยู่แล้วแต่หูดันแว่วได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนหนึ่งเสียก่อน เท้าใหญ่ชะงักกึก ก่อนจะมองไปรอบๆ
“ปล่อย... ฉันนะ... ช่วยด้วย...”
เสียงร้องนั้นดังขึ้นมาอีก และก็ทำให้ฐานัสไม่อาจจะอยู่เฉยได้อีกต่อไป เขาเดินวนหาต้นเสียง ก่อนจะไปเจอรถยนต์คันหนึ่งที่ภายในกำลังเกิดการต่อสู้กันขึ้น
“ช่วย... ด้วยยย... ปล่อย...”
ตอนแรกเขาคิดว่าคู่รักแอบมาพลอดรักกันภายในรถ แต่เสียงร้องที่ดังขึ้นไม่หยุดของผู้หญิง ทำให้เขาไม่อาจจะอยู่เฉยได้
เขาเอามือเคาะกระจกรถสองครั้ง และชะโงกหน้าลงมองเข้าไปภายใน ผู้ชายที่กำลังคร่อมร่างผู้หญิงคนหนึ่งอยู่หันมามอง ก่อนจะชี้มือไล่
“เรื่องของผัวเมีย ไปให้พ้น”
“ช่วย... ฉันด้วย...”
“งั้นผมจะเรียกตำรวจมาช่วยพวกคุณเคลียร์กันก็แล้วกัน”
ฐานัสข่มขู่ และนั่นก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายในรถเปิดประตูรถ พร้อมกับรีบร้อนวิ่งหนีไป
ชายหนุ่มมองเข้าไปภายในเบาะรถด้านหลังที่ผู้หญิงคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่ สภาพของหล่อนไม่ได้บ่งบอกว่าถูกข่มขืนแต่อย่างใด เสื้อผ้ายังคงอยู่ครบทุกชั้น แม้ว่าชายกระโปรงสีดำจะลนสูงขึ้นไปจนเกือบเห็นกางเกงชั้นในก็ตาม
“คุณ... คุณ... เป็นยังไงบ้างครับ” เขายื่นหน้าเข้าไปในรถ และเรียกเสียงสุภาพ
“ช่วย... ฉันด้วย... ช่วยฉัน...”
“ไม่มีอะไรแล้วครับ ไอ้หมอนั่นมันไปแล้ว”
ล้อมดาวที่เมาจนไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะปกป้องตนเองค่อยๆ ปรือตาขึ้น
“พา... ฉันกลับบ้านที... ได้โปรด...”
หล่อนพูดได้แค่นั้น สติสัมปชัญญะก็ดับวูบลง ทุกอย่างรอบตัวมืดมิด
“คุณ... คุณ!”
ฐานัสยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเองด้วยความเคร่งเครียด เมื่อแม่สาวที่เมาแอ้อยู่ตรงหน้าหมดสติลงก่อนที่จะทันได้ถามไถ่อะไร
“แล้วทีนี้ผมจะรู้ได้ยังไงว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน”
ชายหนุ่มถอนใจยาวเหยียด ลางสังหรณ์ร้องเตือนว่าผู้หญิงที่ใช้ชีวิตประดุจดั่งนางเมรีตรงหน้า กำลังจะนำหายนะครั้งใหญ่มาให้ แต่เขาจะทำยังไงได้ล่ะ จะให้ทิ้งหล่อนเอาไว้ในรถแบบนี้ก็ดูจะไร้มนุษยธรรมเกินไป
ในที่สุดก็จำต้องช้อนร่างอรชรที่หนักอึ้งใช่เล่นของผู้หญิงแปลกหน้าขึ้นมาอุ้มเอาไว้ จากนั้นก็พาไปที่รถของตนเองอย่างไม่มีทางเลือก
ฐานัสวางร่างของผู้หญิงแปลกหน้าที่จำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เดินตัดหน้ารถของเขาเมื่อตอนหัวค่ำไว้บนเตียงกว้างของตนเอง
เขายืนท้าวสะเอวมองหล่อนด้วยสายตาไม่สบอารมณ์นัก เพราะหล่อนคือต้นเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านในค่ำคืนนี้
ใช่ เขาเลือกที่จะพาหล่อนมาค้างในโรงแรม เพราะว่าหากพากลับไปที่บ้าน พ่อของเขาคงตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ เขาพาผู้หญิงเมาแอ้กลับบ้านกลางดึก
ชายหนุ่มถอดถอนใจออกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปสูบบุหรี่ภายนอกระเบียง
ปกติเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบสูบบุหรี่ น่าจะปีละครั้งได้มั้งที่เขาแตะต้องของพวกนี้ แต่ค่ำคืนนี้เขารู้สึกเครียด ใช่ รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งต้นเหตุก็มาจากผู้หญิงที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงคนนั้น
ควันบุหรี่ลอยฟุ้งอยู่ท่ามกลางความมืดของราตรีกาล ความจริงเขาไม่ควรที่จะยื่นมือเข้าไปหาเรื่องเดือดร้อนให้กับตนเองแบบนี้เลย
หล่อนจะเป็นยังไงก็ช่าง ในเมื่อหล่อนรักที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ หล่อนก็ต้องยอมรับสิ่งที่จะตามมากับสถานที่อโคจรเช่นนี้ให้ได้
แล้วทำไมเขาถึงช่วยหล่อนล่ะ?
นี่คือคำถามที่เขาไม่อาจจะหาคำตอบให้กับตัวเองได้ ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องทำแบบนี้ แต่เขาก็ทำมันลงไปแล้ว หิ้วผู้หญิงเมาแอ้ติดมือกลับมาด้วย
บ้าชิบ!
มือใหญ่ขยี้ปลายบุหรี่ลงกับถ้วยกระเบื้องแรงๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องพักอีกครั้ง
นอนพักผ่อนซะ
สมองสั่งให้เขาไปนอนบนโซฟาตัวยาวที่สายตากำลังจับจ้องอยู่ แต่เสียงของมารร้ายที่แอบแฝงอยู่ภายในจิตใต้สำนึกมันคัดค้าน
สองขาทรงพลังก้าวเดินไปเรื่อยๆ มาหยุดใกล้กับเตียงกว้างที่มีแม่กวางสาวน้อยหลับปุ๋ยอยู่
ฐานัสเอียงคอเล็กน้อย เมื่อโน้มหน้าลงไปใกล้แล้วเห็นใบหน้าของหญิงสาวเต็มตา
ใบหน้าของหล่อนน่าจะเป็นรูปไข่ไก่ เส้นผมสีดำขลับสลายอยู่เต็มหมอน และมีบางส่วนระอยู่ที่พวงแก้มนวล แสงจากโคมไฟหัวเตียงสีเหลืองนวล ทำให้เขามองเห็นผิวอันเนียนละเอียดผุดผ่องจนเห็นเส้นเลือดฝอย ลมหายใจของเขาสะดุดกึก เมื่อสายตาเลื่อนต่ำลงมามองที่กลีบปากอิ่มหนาสีแดงระเรื่อตามธรรมชาติ
ริมฝีปากแบบนี้มันเย้ายวนมากในความคิดของเขา สวย อวบอิ่ม และคงจะนุ่มมากแน่ๆ หากได้สัมผัส
บ้าชิบ!
ชายหนุ่มสบถด่าตัวเองในอก และพยายามเรียกสติให้กลับคืนมา แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่อาจจะแกะสายตาของตัวเองจากผู้หญิงตรงหน้าได้เลย
หล่อนไม่ได้สวยผุดผาดตั้งแต่แรกเห็น แต่ยิ่งมองกลับยิ่งพบความน่าอัศจรรย์กับรูปลักษณ์ไร้เดียงสา เขาไม่อาจรู้หรอกว่าหล่อนแค่เสแสร้งสร้างมันขึ้นมา หรือว่ามันคือตัวตนแท้จริงของหล่อน แต่เขา... ไม่อาจจะแกะสายตาออกจากหล่อนได้เลยในตอนนี้
เขาถอนใจแรงๆ หลายครั้ง แต่มันก็ไม่อาจจะช่วยบรรเทาความร้อนรุ่มที่ซ่องสุมอยู่ภายในช่องท้องให้ลดน้อยถอยลงได้เลย สายตาของเขายังคงเฝ้ามองหล่อน เก็บรายละเอียดความงดงามที่หาชมได้ยากอย่างฉวยโอกาส
ลำคอของหล่อนขาวเนียนไม่ต่างจากผิวของแก้มใส มันเล็กนิดเดียว และน่าซุกไซ้ด้วยปลายจมูกเป็นที่สุด ต่ำลงมาจากลำคอก็คือเนินอก แม้จะมีผ้าห่มคลุมทับเอาไว้ แต่เขาก็มองเห็นร่องรอยเนื้อนูนเด่นที่ดันผ้าห่มขึ้นมาได้อย่างชัดเจน หากเขาคาดคะเนไม่ผิด หล่อนน่าจะมีเต้านมที่ใหญ่เกินตัวมากเลยทีเดียว
พระเจ้า...?!
ความเป็นชายของเขาแข็งโด่อยู่ในเป้ากางเกงนอนจนเป็นร่องรอย
เขาไม่ควรจะคิดอะไรสกปรกกับผู้หญิงที่ตัวเองช่วยให้ขึ้นมาจากขุมนรก แต่ดูเหมือนว่าความชั่วร้ายที่เคยถูกสั่งให้หลับใหลเนิ่นนานจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาเสียแล้ว
‘จะเป็นอะไรไปล่ะ ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่ได้สะอาดผุดผาดอะไรนักหนา หล่อนเมาแอ้จนเกือบจะถูกผู้ชายข่มขืนในรถอยู่แล้ว’
เสียงของส่วนที่ชั่วร้ายที่สุดของจิตสำนึกร้องสั่งลั่นอยู่ในอก
‘อย่าทำอะไรไม่ดีเชียวนะ ผู้หญิงคนนี้คงไม่ดีใจหรอก หากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าถูกคนที่ช่วยเธอมาข่มเหงเสียเอง’
จิตสำนึกผิดชอบชั่วดีรีบทัดทานความชั่วร้ายของปีศาจนรกในใจอย่างสุดกำลัง
ความคิดส่วนที่ดีงาม กำลังจะเอาชนะความชั่วร้ายของจิตใจได้อยู่แล้วเชียว หากแม่สาวน้อยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่จะไม่เกิดพลิกตัวจากท่านอนตะแคงเป็นนอนหงายแผ่หรา พร้อมกับยกสองแขนขึ้นไปไว้บนศีรษะด้วยท่าทางหลับสบายไม่ต่างจากเด็กทารกแรกคลอด
ฐานัสยืนอ้าปากค้าง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจสลายจางหายไปจนหมดสิ้น เขามองภาพความงดงามที่เต็มไปด้วยการเชิญชวนของนางกวางสาวด้วยความหื่นกระหาย ความต้องการทางเพศระเบิดตูมในอกจนเขาต้องกัดฟันสะกดกลั้นมันเอาไว้สุดกำลัง แต่มันก็ไม่ได้ผล ในที่สุด ผู้ชายที่เคยทระนงในตนเองว่ามีสติและสามารถควบคุมตนเองได้ดีเยี่ยมเช่นเขา ก็กระโจนลงสู่สนามสวาทอย่างไร้สติ