และในอีกหนึ่งปีถัดมาเขาถึงได้รู้ว่ากันยาเคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จนต้องตัดมดลูกทิ้ง ตั้งแต่สมัยยังไม่มาทำงานในบ้านนี้ด้วยซ้ำ สามีก็ทิ้งไปหาหญิงอื่นเช่นกัน นั่นทำให้กันยารักและเอ็นดูคุณหนูประหนึ่งลูกนั่นเอง
“แม่จ๋า! น้องเหนือกลับมาแล้วค่ะ ดูสิคะว่าน้องเหนือซื้ออะไรมาฝากบ้าง แม่จ๋า! แม่จ๋า! อยู่ไหนคะ”
เสียงใสๆ กับเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาในบ้าน เรียกให้ภีมวัจน์ที่นั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือต้องออกมาดู ก็เด็กสาวสูงเกือบร้อยเจ็ดสิบกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเป็นสี่สิบสี่ กำลังหิ้วของเต็มมือเดินแกมวิ่งไปทั่วบ้าน จนมาหยุดอยู่ห้องนั่งเล่น ยังไม่ทันได้ถามไถ่อะไร ก็มีเสียงเจ้าตัวเล็กเห่าดังลั่นบ้าน
“แตงไทย!”
เจ้าสี่ขาได้ยินเสียงคุ้นเคย ก็ยิ่งวิ่งหูตั้งออกมาจากหลังครัวอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งร้อง ทั้งลิงโลดดีใจ ทั้งดิ้นดุ๊กดิ๊กตะเกียกตะกายเจ้านายของมัน ที่ทิ้งถุงสารพัดลงพื้นแล้วอุ้มขึ้นมากอดมาหอม มันใช้ลิ้นเลียไปตามผิวบางๆ ทุกส่วนที่สามารถทำได้
“นี่ๆ พี่ซื้อของโปรดมาฝากด้วยรู้มั้ย”
ไก่ทอดไร้กระดูกจากถุงถูกมือบางส่งใส่ปากให้แตงไททันที มันก็รีบรวบฟรึบแล้วกลืนลงท้องอย่างรวดเร็วประหนึ่งไม่ได้เคี้ยว ภีมวัจน์นั่งมองท่าทีอ่อนโยนที่สาวน้อยมักจะแสดงกับน้องสี่ขาแสนรักให้เห็นมาโดยตลอด ด้วยอาการระอานิดๆ เอ็นดูหน่อยๆ เกียจคร้านจะตักเตือนว่าไม่ให้เอาอาหารให้มันกินแทนอาหารเม็ดไปแล้ว เพราะไม่เคยห้ามได้สักที
‘ก็ทีเรายังไม่กินอาหารซ้ำกันนี่คะ ทำไมแตงไทยจะต้องได้กินแต่อาหารเม็ดด้วย แบบนี้ก็เบื่อแย่สิคะคุณหนาว’
มือขวาส่งเข้าปากหมาส่วนอีกมือส่งเข้าปากตัวเมื่อไก่ยั่วใจจนทนไม่ได้ เขาส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อเด็กสาวยกชิ้นไก่ให้ดูเป็นเชิงถามว่า ‘สนใจไหม’ แต่เจ้าแตงไทยดูเหมือนจะไม่ชอบให้เจ้านายทำแบบนั้นนัก มันรีบงับเข้าปากเร็วกว่าเดิมอีก ไม่นานก็พุงกางแทบจะลากพื้น แล้วคลอเคลียอยู่กับเจ้านายก่อนจะลอดเข้าไปนอนอย่างสบายอารมณ์ใต้โซฟา
“แล้วแม่จ๋าล่ะคะคุณหนาว น้องเหนือหาจนทั่วบ้านแล้วก็ไม่เห็นเลยค่ะ”
“อยู่นี่ค่ะ! เสียงน้องเหนือน่ะดังได้ยินไปถึงสวนเลยนะคะ” กันยาเดินออกมาพร้อมถาดของว่างคือกล้วยปิ้งที่เพิ่งเอาออกจากเตาหลังบ้านใหม่ๆ นั่นเลยทำให้เจ้าของเสียงใสเข้าไปหาไม่เจอ
“ไหนซื้ออะไรมาฝากแม่จ๋ากับคุณหนาวบ้างคะ” กันยาวางถาดลงตรงหน้าเจ้านายหนุ่ม ที่เพิ่งทรุดกายลงนั่งอย่างสบายอารมณ์ในบ่ายวันหยุดแบบนี้
“นี่ของแม่จ๋าค่ะ ไว้ใส่ตอนตักบาตรนะคะ” เสื้อลูกไม้สีขาวสะอาดตาถูกยกขึ้นอวด ทำเอาคนรับถึงกับยิ้มออกมาอย่างอิ่มอกอิ่มใจ นั่นไม่ใช่เพราะได้ของแต่อย่างใด หากเป็นเพราะน้องเหนือคนเดิมกลับมาแทบจะเต็มตัวได้สักสองสามเดือนแล้ว
“ของคุณหนาวอันนี้ค่ะ” ว่าแล้วสาวน้อยก็คว้าถุงมาอย่างแม่นยำ แล้วยกขึ้นอวดเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“เสื้อยีนส์นี่เหรอคะ” ภีมวัจน์ขมวดคิ้วใส่ของในมือเด็กสาว
“ค่ะ สไตล์ใหม่นะคะ ใส่แล้วคุณหนาวจะหล่อเหมือนวัยรุ่นเลยค่ะ” ปรารถนาอดคิดถึงคำของเพื่อนที่คอยยุให้ควักกระเป๋าซื้อไม่ได้
‘ซื้อไปเลยแพ็ต รับรองคุณหนาวชอบแน่ๆ หล่อแบบนั้นใส่อะไรก็ดูดีไม่ต้องห่วง ทำไมเราไม่มีผู้ปกครองหล่อๆ แบบนี้บ้าง ถามจริงๆ เถอะคุณหนาวมีแฟนหรือยัง’
“นี่หาว่าคุณหนาวแก่เหรอคะ” คนรับทำตายืดน้อยๆ ใส่เด็กสาว แต่ก็ยอมรับเสื้อมาดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน ด้วยความเคยชินกับการตรวจตราสินค้าก่อนปล่อยออกไปให้ลูกค้ายังต่างประเทศ
“เปล่าค่ะ! นี่ของพี่บุญกับของพี่ไลค่ะ ส่วนนี่ก็ของคุณยาย พี่หน่อย พี่หนิง พี่ใยแล้วก็พี่หนานวงศ์ ถุงนั้นของพี่ออม พี่แอ๊ด พี่โอ๊ตแล้วก็ป้าอุ้ยค่ะ” สาวน้อยสาธยายด้วยท่าทีสดใส
“พรุ่งนี้เราจะได้ไปเชียงใหม่แล้วดีใจจังเลยค่ะ แม่จ๋าว่าทุกคนจะชอบของฝากจากน้องเหนือหรือเปล่าคะ นี่เพื่อนๆ ช่วยเลือกทุกคนเลยนะคะ”
ภีมวัจน์กับกันยาหันไปยิ้มให้กัน เพราะชอบในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนรอบข้างของเด็กสาว ที่เขาไม่ใคร่จะได้เห็นในเด็กสาวสิบเจ็ดปีครึ่งอย่างนี้บ่อยนัก แต่เขาก็อุ่นใจที่ได้เด็กสาวสดใสกลับมาในที่สุด
“ชอบสิคะ แต่ตอนนี้แม่จ๋าว่าน้องเหนือรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่าค่ะ อีกหน่อยก็ต้องลงมาให้คุณหนาวทบทวนเพลงแล้วนี่คะ เดี๋ยวแม่จ๋าจะเตรียมตัวไปตลาดแล้ว”
“ค่ะ”
จากนั้นชั่วโมงนิดๆ ผู้ปกครองหนุ่มก็นั่งอยู่หน้าเปียโนสีขาวที่เขาควักกระเป๋าซื้อให้แทนหลังเก่าที่เด็กสาวบอกว่ามีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อมากมาย จนไม่อาจจะทนเห็นได้ เขาเงยหน้าไปมองเจ้าของรูปร่างผอมบางในเดรสสีครีมลายดอกกุหลาบสีชมพู ดูหวานน่ารักไม่น้อย
ใบหน้าเรียวรูปไข่ไร้เครื่องแต่งแต้มแย้มยิ้มได้บ่อยครั้งมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเขาดีใจที่ได้เห็นแบบนี้ เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้น มีส่วนเว้าโค้งอย่างลงตัว ไม่ว่าจะมีชุดราคาหลักพันหรือไม่ถึงร้อยหุ้มอยู่ ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ารักดูลดน้อยลงเลยสักนิด ผิวพรรณนั้นก็เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลมีสีเลือดฝาดสมวัยแรกรุ่นดรุณี
“แตงไทยมาเร็วเข้า!”
สาวน้อยหยุดกึกอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย แล้วหมุนกายกลับไปหาเจ้าแตงไทยที่กำลังลงบันไดมาอย่างระมัดระวัง เพราะไม่ว่านายจะไปไหนมันก็จะตามติดไปทุกที่ทุกเวลา เว้นตอนไปโรงเรียน ซึ่งมันขัดใจร้องลั่นบ้านทุกครั้ง แต่พอตอนเย็นเจ้านายกลับ มันก็จะดีใจลิงโลดยิ่งกว่าเจออาหารอันโอชะ
“ชักช้าจริงๆ แตงไทยนี่ สงสัยจะกินไก่เยอะเกินไปแล้ว”
เจ้าของร่างผอมเพรียวเดินแกมวิ่งกลับขึ้นไปรับเจ้าแตงไทยตรงที่พักบันไดเมื่อรอนานเกินควร สองมือบางยกเจ้าสี่ขาขึ้นมาระดับอก จมูกโด่งพองามชนกับจมูกเล็กๆ ของมันแล้วถูไปมาซ้ายขวาอย่างรักและเอ็นดู เขาเห็นภาพนี้จนคุ้นตามาเป็นปี แต่ก็ยังชอบมองไม่รู้จักเบื่อ และไม่อยากละสายตาไปไหน