“โหยโบราณมากค่ะพี่พีท ท้องก็ส่วนท้องสิคะพี่พีท หนูดีดื่มก็เมาแค่หนูดีคนเดียวเท่านั้นค่ะ มันไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกับลูกสักหน่อย” เจ้าหล่อนเถียงเขาแล้วยกยกมือยกไม้วนไปมาที่หน้าท้องของตนเอง ใบหน้าสวยยิ้มล้อเลียนแบบขำๆ อีกด้วย
นี่ก็เป็นอีกเรื่องของอรุณวดีที่ทำให้รัฐศาสตร์รู้สึกคลางแคลงใจ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะนำเอาไปเปรียบเทียบกับอดีตภรรยาอย่างพร้อมพร
ปกติพร้อมพรเป็นคนไม่ดื่มอยู่แล้ว อาจจะมีบ้างหากว่าเธอไปงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่เมื่อรู้ตัวว่าตนเองตั้งครรภ์แล้วนั้น พร้อมพรก็ไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่กินอาหารรสจัด อดีตภรรยาของเขาให้เหตุผลว่าสิ่งที่กินเข้าไปนั้นลูกก็จะได้รับด้วยไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นเวลากินอะไรลงไปก็ต้องเผื่อลูกด้วย กินดีๆ ลูกก็จะได้รับสารอาหารที่ดีๆ
รัฐศาสตร์ไม่รู้ว่าเขาจะต้องพูดอย่างไร อรุณวดีถึงจะใส่ใจเด็กในท้องให้มากกว่านี้ เพราะอย่างน้อยเด็กนั้นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเช่นกัน
ขณะที่คิดถึงอดีตภรรยาอยู่นั่นเอง รัฐศาสตร์จำต้องผินหน้าไปมองทางอื่นที่ไม่มีอรุณวดีในลานสายตาให้ต้องหงุดหงิดใจไปมากกว่านี้ เขาเหม่อมองฝ่าความมืดออกไปยังหาดอีกด้านไกล ๆ สายตาของรัฐศาสตร์มองจับได้ว่าตรงนั้นกำลังมีกลุ่มคนเดินตรงมา ก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดลงตรงที่กลุ่มคนพวกนั้นที่กำลังเดินเลียบหาดตรงมาทางโรงแรมที่พักแห่งนี้
“หูย ใครจะเล่นน้ำกันคะบอส ถึงอากาศจะไม่เย็น แต่ลมก็แรงเอาเรื่องอยู่นะคะ”
บุหงาตอบแบ่งรับแบ่งสู้เจ้านายกลับไป เมื่อได้ยินคำถามว่าจะเล่นน้ำกันหรือไม่ ขณะที่กำลังเดินกลับโรงแรมหลังกินดื่มจนอิ่มหนำสำราญกันแล้ว
วัชระเศรษฐ์กลับเอ่ยถามต่ออีกประโยค “พวกคุณเอาชุดว่ายน้ำมาด้วยหรือเปล่า”
“เอามาค่ะ” บุหงาตอบแทบจะทันที เพราะมาเที่ยวทุกรอบที่จัดจึงรู้ว่าต้องเตรียมอะไรมาบ้าง ขาดไม่ได้ย่อมต้องเป็นชุดเล่นน้ำแล้วค่อยหันมาถามเธอบ้าง “เมยล่ะ เอาชุดว่ายน้ำมาหรือเปล่า”
พร้อมพรส่ายหน้าว่าไม่ได้เอามา บุหงาร้องว้าอย่างเสียดาย วัชระเศรษฐ์พยักหน้าแล้วหันไปคุยกับบุหงาเรื่องที่จะลงสระเล่นน้ำ
“ตรงด้านหลังของโรงแรม มีสระน้ำอยู่ เผื่ออยากลง ไปลงตรงนั้นได้เลยครับ”
บุหงาชักลังเล หันมาถามเธออีกคล้ายอยากให้เปลี่ยนใจ
“พี่เห็นมีร้านขายชุดว่ายน้ำด้วยนะตรงลอบบีอะ เราไปดูกันไหมเมย เดี๋ยวพี่คนนี้จะเปย์ชุดให้เอง” บุหงาที่ใจโลเลเปลี่ยนกลับมาเป็นอยากเล่นน้ำและคงอยากเล่นน้ำมากจึงได้ออกปากจะซื้อชุดให้ เธอ
แต่พร้อมพรไม่ได้อยากลงเล่นน้ำแต่แรกแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงเตรียมชุดมา ได้แต่บอกปัดกลับไป “เมยไม่อยากเล่นน้ำค่ะ”
“ไปเหอะน่า นะเมยนะ”
พร้อมพรแย้งด้วยรอยยิ้ม “แล้วเมื่อกี้พี่บอกว่าอากาศเย็น ลมแรง ใครจะเล่นน้ำ”
“ก็มาทะเลทั้งทีอะเนอะ ไม่เล่นน้ำจะให้เล่นอะไร ให้เล่นดินเล่นทรายรึไงจ๊ะ”
พร้อมพรยิ้มกว้าง นึกตลกคำตอบของบุหงา เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับ เมื่อครู่นี้เธอกินอาหารทะเลจนแน่นท้องไปหมด แล้วยังต่อด้วยค็อกเทลอีก 4-5 แก้ว ใบหน้าจึงออกสีแดงระเรื่อเล็กน้อย ได้ยินอะไรตลกนิดๆ หน่อยๆ ก็รู้สึกว่ามันขำเอามากๆ
“เมาแล้ว”
เสียงราบเรียบของวัชระเศรษฐ์เอ่ยท้วง บุหงาหันขวับไปถามเจ้านายทันควัน “ใครหรือคะบอส”
“น้องของคุณบุหงานั่นไง”
เขาพูดแล้วหันมามองที่เธอ พร้อมพรยกมือขึ้นแตะแก้มของตัวเอง พร้อมกับส่ายหน้าตอบกลับไป “เมยไม่ได้เมาค่ะ”
วัชระเศรษฐ์ยิ้มบ่อยมาก เธอเห็นเขาหลุดขำออกมานิดหน่อยด้วย ก่อนที่เสียงพูดโต้ตอบของเขาจะดังตามมา
“คนเมาแล้วที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองเมาครับ”
“แต่เมยไม่ได้เมาจริงๆ นะคะ”
พร้อมพรไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องเถียงอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนั้นด้วย คงเพราะโดยธรรมชาติแล้วเธอไม่ใช่คนชอบดื่ม พอถูกกล่าวหาเช่นนี้แล้ว ก็ทำให้รู้สึกผิดเล็กน้อยนั่นเอง
“ก็แล้วเมาจะเป็นอะไรล่ะ คุณถือศีลหรือไงถึงจะดื่มไม่ได้ เมาไม่ได้น่ะ”
“เปล่าค่ะ เมยแค่...”
พร้อมพรพยายามหาเหตุผลมาแย้ง เธอหยุดยืนแล้วทำท่าจะถอยหลังกลับ คล้ายเสียอาการกับคำพูดของวัชระเศรษฐ์ แต่แล้วกลับเสียหลัก จังหวะนั้นเองที่วัชระเศรษฐ์ยื่นมือมาดึงเอาไว้ได้ทันท่วงที
“คุณเมาแล้วเมย”
วัชระเศรษฐ์บอกตอนที่ดึงเธอเข้าจนใกล้กับเขา พร้อมพรเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วก็รีบขยับตัวออกห่าง บุหงาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั่นแล้วแต่ก็เอาแต่มองไปยังทางอื่น แต่หูคอยฟังว่าเจ้านายกับพร้อมพรคุยอะไรกันบ้าง
“ดูแลน้องคุณด้วยนะบุหงา”
วัชระเศรษฐ์บอกพร้อมกับยกมือเป็นสัญญาณให้เดินกลับที่พักกันต่อ
“ค่ะบอส” บุหงารีบขานรับเสียงหวานแล้วหันมาบอกเธอ “ไปๆ กลับห้องกันดีกว่า”
พร้อมพรทำปากยื่นเมื่อถูกกล่าวหาว่าเมา กล่าวหาว่าคออ่อน อะไรแบบนั้น เดินไปได้อีกสามสี่ก้าวแล้วจึงหันไปชวนบุหงา “เมยว่า เราเปลี่ยนชุดแล้วลงเล่นน้ำกันดีไหมคะ”
“นี่ไงอาการของคนเมา” วัชระเศรษฐ์พูดยิ้มๆ ยังคงเป็นการกล่าวหาเธออยู่ พร้อมพรเถียงกลับหน้ามุ่ย “เมยไม่ได้เมาค่ะบอส”
เขาไม่ได้เถียงอะไรด้วย รู้ว่าคนเมาแล้วมีแต่อารมณ์ไม่มีเหตุผล ได้แต่พูดไปว่า “คออ่อนแบบนี้นะ ทีหลังไม่ให้ดื่มแล้ว แค่ค็อกเทลไม่กี่แก้วก็เมา”
“เมยบอกว่าเมยไม่ได้เมาค่ะ”
“ไหนมาเทสนี่สิ” วัชระเศรษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยการท้าทายนิดๆ เมื่อคุยไปคุยมาจนเดินมาถึงโรงแรมแล้วเขาพาเลยเข้าไปนั่งที่โต๊ะของห้องอาหารที่ปิดลงแล้ว แต่มีพนักงานกำลังเก็บของอยู่ด้านใน
วัชระเศรษฐ์เอ่ยขอส้อมกับพนักงานมาแล้วก็ยกชูตรงหน้าเธอกับบุหงา
“ทำมือแบบนี้” วัชระเศรษฐ์ทำมือเป็นท่าเหมือนจะจับแก้วน้ำสาธิตให้ดูแล้วพูดต่อ “ผมจะหย่อนส้อมอันนี้ผ่านมือ ถ้ายืนยันว่าไม่เมาก็จะจับส้อมอันนี้ทัน”
พร้อมพรไม่ใช่เด็กสาว เธอโตแล้ว และเธอเคยดื่มมาบ้าง แม้ไม่มากแต่ก็เคย และเธอรู้ตัวดีว่าตอนนี้อยู่ในอาการเช่นไร ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นั่นเองที่ทำให้พร้อมพรโต้แย้งอย่างเอาเป็นเอาตายกลับไปอีกครั้ง