น้ำเปล่า

1165 Words
ณ ผับใหญ่หรูหราใจกลางเมืองแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนมีเงิน กำลังมีนักเที่ยวกลางคืนที่เป็นพวกลูกไฮโซคนรวยหลั่งไหลกันเข้ามาใช้บริการรวมไปถึงพริมาก็ด้วย ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเที่ยวแหล่งอโคจรแบบนี้มาก่อน แต่เพราะฝันร้ายมันตามหลอกหลอนจนเธอข่มตาหลับไม่ลง เลยจำต้องออกมาลองท่องราตรีดูบ้าง หญิงสาวจอดรถคันหรูที่พ่อเพิ่งจะซื้อให้เพื่อให้เธอเมื่อไม่นานมานี้เพื่อให้มีหน้ามีตาเทียบเท่ากับคนอื่นตรงลานจอดรถของผับที่เตรียมเอาไว้สำหรับต้อนรับแขก "ดีกว่ากลับไปนอนฝันร้ายที่คอนโด" เสียวหวานบ่นพึมพำกับตัวเองที่ไม่กล้าลงจากรถอยู่นานพอสมควรเพื่อรวบรวมความกลางในการออกเที่ยวกลางคืนครั้งแรก ร่างบางที่ใส่ชุดเดรสรัดรูปสีดำสั้นแค่คืบก้าวลงจากรถอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไร้ความสง่างามเดินเข้าไปในผับหลังจากตัดสินใจได้ พริมาเลือกที่จะไปนั่งในมุมที่ค่อนข้างไกลผู้คนเพื่อจะได้นั่งมองคนอื่นเพราะมันอาจทำให้เธอลืมเรื่องที่มันฝังใจลงไปได้บ้าง "พี่พิชญ์" หญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อลอยคิดนู้นคิดนี้ไปเรื่อยสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีผู้ชายมายืนอยู่ข้างหน้า คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแสดงความหงุดหงิดที่มีคนมาก่อกวนยืนบังวิสัยทัศน์ในการมอง แต่แล้วใบหน้าสะสวยของพริมาก็ต้องยิ้มอย่างฝืนๆ ออกมาเมื่อชายหนุ่มที่เดินเข้ามาคืนคนรู้จัก "ขอนั่งด้วยคนสิ" ยังไม่ทันที่เจ้าของโต๊ะที่เป็นหญิงสาวสวยจะเอ่ยอนุญาต พิชญ์ก็หย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับเธอเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้เจอเธอมาสามปีแล้วเห็นจะได้เพราะพอเรียนจบก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงาน เธอยังคงเป็นผู้หญิงที่สวยสดใสน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จนสะดุดตาทำให้เขาต้องเดินเข้ามาหาเหมือนกับตอนเรียนมหาลัยไม่มีผิด "มาคนเดียวเหรอ" พิชญ์เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อนหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมมาสักพัก มันคงไม่แปลกที่เขากับพริมาจะไม่มีอะไรจะพูดคุยกันเพราะการไม่ได้เจอกันมานาน อีกอย่างบริษัททนายความของบ้านเขาก็เป็นคู่แข่งกับบริษัททนายความของบ้านเธอ ยิ่งทำให้การต้องมีเรื่องพูดคุยกันน้อยเข้าไปอีก "ค่ะ มาคนเดียว" เสียงหวานตะโกนแข่งกับเสียงเพลงตอบไปอย่างขอไปทีเพราะเธอแทบจะไม่มีอะไรจะสนทนากับพิชญ์ เพราะถ้าพ่อของเธอรู้เรื่องที่เธอมาเจอคู่แข่งทางธุรกิจคนนี้เขาเธอคงโดนตำหนิอย่างมากจากท่านเป็นแน่ "พี่ขอเลี้ยงเหล้าเราสักแก้วนะ หวังว่าคงจะไม่รังเกียจ" เสียงหนาของชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างสุภาพเหมือนกับตอนที่เขาเข้าไปทำความรู้จักกับเธอตอนที่ยังเรียนอยู่มหาลัย ด้วยเขาก็ยังเป็นชายหนุ่มที่ยังแอบชอบเธออยู่เหมือนเดิมแม้ในวันนี้เขาจะมีครอบครัวไปแล้วก็ตาม "ค่ะ" หญิงสาวตอบรับตามมารยาททั้งที่เธอไม่กินเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พิชญ์ก็รีบลุกขึ้นไปจัดหามาให้ในทันที โดยตรงไปสั่งเหล้าที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ด้วยตัวเอง ชี้นิ้วสั่งนู้นนี้กับบริกรที่คอยให้บริการ ผับแห่งนี้เขามีหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่งโดยอีกครึ่งเป็นของเพื่อนชาวต่างชาติ ไม่แปลกที่เขาจะโชว์ความเป็นเจ้าของต่อหน้าหญิงสาวเพื่อให้เธอนั้นประทับใจ เพราะเขารู้ว่าเธอนั้นมองตามเขาโดยตลอดตามสัญชาตญาณ ไม่นานนักพิชญ์หนุ่มหล่อที่สาวๆ ต่างต้องแอบมองจนเหลียวหลังก็กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสองแก้ว หนึ่งแก้วเขาส่งให้เธอ อีกแก้วหนึ่งเขาดื่มเอง "ขอบคุณนะคะ" พริมารับเหล้าสีสันสวยงามนั้นมาจากมือชายหนุ่มแล้วเอ่ยขอบคุณตามมารยาท เธอวางมันลงบนโต๊ะกระจกเล็กๆ ตรงหน้าอย่างไม่ได้สนใจอยากจะกินมัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับเธอก็ไม่ค่อยจะถูกโรคกันอยู่แล้ว เธอเคยดื่มครั้งหนึ่งตอนสมัยเรียนมหาลัยจำได้เลยว่าเมาเละ เช้ามาโดนทำโทษจากพ่อกับแม่จนเละเช่นกัน ไม่จำเป็นเธอไม่แตะต้องมันจะดีกว่า "พี่สั่งน้ำเปล่ามาให้ล้างคอ" พิชญ์ที่พอรู้จักนิสัยใจคอของหญิงสาวมาบ้างเลยสั่งน้ำเปล่าตามมาอีกแก้วโดยให้บริกรเดินมาส่งที่หลัง พร้อมกับพูดติดตลกเพื่อเรียกรอยยิ้มจากเธอ "ขอบคุณค่ะ" พริมาขอบคุณอีกครั้งและรับน้ำเปล่าเย็นๆ แก้วนั้นมาจากเขา เธอจิบน้ำเปล่านั้นต่อหน้าเขาเพื่อรักษามารยาท และก็เพื่อขอบคุณเขาจากใจที่เขาดูจะเอาใจใส่เธอมากกว่าคนรู้จักที่เป็นศัตรูทางธุรกิจกัน "ให้พี่ไปส่งไหม" เขากับเธอนั่งคุยกันสักพักโดยที่เขาเป็นฝ่ายชวนคุยมากกว่าจนเวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ หัวข้อสนทนาหลักๆ ก็คงเป็นเรื่องชีวิตการทำงานเพราะเขากับเธอค่อนข้างหัวอกเดียวกันที่ต้องทำงานหนักเพื่อนำพาตัวเองให้ประสบณ์ความสำเร็จสูงสุด หญิงสาวก็มีท่าทีกระวนกระวายและขอตัวกลับมาขึ้นเสียดื้อๆ ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงเวลาหัวค่ำอยู่เลย เขาก็เลยอาสาที่จะไปส่งเธอเพราะน้ำเปล่าที่หมดไปครึ่งแก้วคงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่เลี้ยง" พริมาพรวดพราดลุกเดินออกจากโต๊ะนั้นอย่างรีบร้อน เธอเดินตรงไปยังลานจอดรถในทันที ใบหน้าของเธอเริ่มเต็มไปด้วยเหงื่อราวกับด้านในร่างกายมีใครจุดไฟอยู่ภายในนั้น ลมหายใจเริ่มแรงขึ้นทั้งที่ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรเพราะเธอแค่เดินอยู่ สายตาเริ่มพร่ามัวมองหารถของตัวเองแทบจะไม่เห็น มือบางพยายามควานหากุญแจรถในกระเป๋าสะพายเพื่อจะนำมากดรีโมทหารถแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ "ให้พี่ไปส่งนะ" พิชญ์เดินเข้ามาประคองเธอจากทางด้านหลัง สองแขนโอบรั้งเอวคอดกิ่วของเธออย่างจงใจ นำพาลำตัวแสนแข็งแรงแนบชิดไปกับเรือนร่างอรชรที่มีเสื้อผ้าเพียงน้อยนิดปกปิดเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหล่าที่ผ่านการดูแลมาอย่างดีแนบชิดไปกับใบหน้าหวานอย่างจงใจ "ไม่" พริมาพยายามเปล่งเสียงออกมาให้ดังที่สุดเพื่อหวังให้มีคนเข้ามาได้ยินและช่วยเธอออกไปจากตรงนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD