bc

พันธนาการรักนายเวฆา

book_age18+
996
FOLLOW
4.1K
READ
second chance
bxg
office/work place
love at the first sight
lawyer
wild
like
intro-logo
Blurb

เขาไม่ยอมรับ

เธอไม่ยอมเสียหน้า

เรื่องวุ่นวายที่ทนายสาวอย่างเธอต้องตามติดชีวิตมาเฟียจึงเกิดขึ้น

และวุ่นหนักเมื่อเธอต้องการให้เขายอมรับ แต่เขากลับไม่ยอมง่ายๆ จนเธอต้องเสียเหงื่อหลายล้านหยดเพื่อให้เขาเป็นพ่อของลูกให้จงได้

chap-preview
Free preview
แล้วยังไง
"ที่ดินตรงนั้นจะต้องเป็นของฉัน" ดวงตาคมจ้องมองอย่างดุดันไปยังคู่สนทนา พร้อมกับเอ่ยวาจาอย่างเอาแต่ใจ น้ำเสียงนั้นช่างดุดันราวกับพญาราชสีห์กำลังคำรามอยู่กลางป่า เขากำลังต้องการพื้นที่ท้ายเกาะที่เป็นของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งมาเป็นของเขาเพื่อจะได้ดำเนินธุรกิจมืดได้อย่างสะดวก แต่ทนายสาวประจำบ้านของเขากำลังขัดคำสั่งไม่ยอมทำตามเพราะอ้างหลักธรรมบ้าบอที่ฟังแล้วไม่เข้าหู หญิงสาวเอาแต่ก้มหน้านิ่งแทนคำตอบทั้งหมด ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำเธอจนแทบเก็บอาการไม่มิด มาเฟียหนุ่มที่มีธุรกิจหลายอย่างบังหน้าหลบซ่อนความมืดมิดอีกด้านเอาไว้ถอนหายใจพรืดใหญ่เมื่อยังไม่ได้คำตอบจากปากของทนายสาว นิ้วเรียวยาวที่ดูแข็งแกร่งเคาะไปบนโต๊ะไม้ราคาแพงเป็นจังหวะเดียวกับที่เข็มนาฬิกาบนฝาผนังกำลังเดิน เขาต้องการคำตอบ พริมาได้แต่นั่งสะดุ้งเฮือกแล้วเฮือกเล่าด้วยความกลัว เหมือนกำลังถูกเอาปืนจ่อหัวบังคับให้ทำผิดทั้งที่ไม่เต็มใจ "ฆ่าให้หมด" มือหนาที่เคยใช้เคาะโต๊ะยกขึ้นควักเรียกลูกน้องที่มีตำแหน่งมือขวาให้เข้ามารับคำสั่ง "ครับ" ดีนพยักหน้ารับคำสั่งอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรเพราะเขาเคยรับคำสั่งจัดการชีวิตคนมาจนนับไม่ถ้วนแล้ว ร่างหน้าของเวฆาเตรียมยันกายลุกขึ้นยืนเมื่อธุระที่ต้องการจะพูดคุยจบลงแล้ว "คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ" หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบสิบคนโดยมีเวฆาเป็นหัวหน้าเอ่ยพูดขึ้นเป็นคำแรกหลังจากนั่งเงียบมาตลอดเพื่อรั้งเขาเอาไว้ไม่ให้ไปคราดชีวิตใคร เธอพยายามสลัดทิ้งความกลัวเพราะรู้ว่าแท้จริงเวฆาเป็นใครโหดเหี้ยมแค่ไหนเพื่อช่วยชีวิตคน ชาวบ้านห้าครอบครัวที่อยู่ด้านหลังของเกาะนั้นมาเป็นสิบๆปีบนพื้นที่ที่อาทิตย์พ่อเลี้ยงของเขาจัดสรรเอาไว้ให้จะต้องรอดชีวิต "แล้วยังไง" ร่างหนาของเวฆาจำต้องนั่งลงอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์นักที่อีกฝ่ายดูจะยึกยักมากท่า เขาจำใจต้องพึงทนายไร้ประสบการณ์อย่างพริมาด้วยเพราะเกรงใจพ่อเลี้ยงของเขา ไม่อยากทำอะไรที่มันดูรุนแรงเกินไปด้วยตัวเองเกรงว่ามันจะกระทบจิตใจของท่าน "คุณปล่อยคนพวกนั้นไปเถอะนะคะ" เสียงหวานพยายามอ้อนวอนเขาเหมือนอย่างทุกครั้งที่คุยกันในเรื่องนี้ เธอรู้ว่าควรที่จะขับไล่คนพวกนั้นออกไปตามคำสั่งของเขาที่เป็นนายจ้าง แต่ห้าครอบครัวนั้นไม่ได้ทำผิดอะไร การต้องไร้ที่อยู่หรือพลักพรากจากที่อยู่เดิมคงไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขา ร่างหนาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังธรรมดาที่มีไว้สำหรับรับแขกภายในห้องทำงานของทนายความหน้าใหม่ ขาเรียวภายใต้กางเกงผ้าเนื้อดีพอดีตัวยกขึ้นไขว่ห้าง มือหนาควักบุหรี่จากในกระเป๋าเสื้อสูทออกมาจุดไฟเพื่อสูบบุหรี่ "ฉันให้เวลาเธอสิบสองชั่วโมง จัดการให้คนพวกนั้นย้ายออกจากเกาะ" มาเฟียหนุ่มยื่นข้อเสนอกลับไปให้เธอทำตามพร้อมกับพ่นควันสีขาวให้คละคลุ้งไปเต็มห้อง "มันผิดหลักมนุษยธรรม ไม่มีใครเขาทำกันหรอกนะคะ อีกอย่างพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้คุณเดือดร้อน พวกเขาไม่เคยก้าวล้ำเข้าไปในอาณาเขตของคุณเลยแม้แต่ครั้งเดียว และคุณท่านคงไม่ยอมถ้าคุณทำแบบนี้" เหตุผลอันแสนกระจอกของพริมาถูกเอ่ยออกไป เธอรู้ว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจคนโหดเหี้ยมอย่างเขาได้ แต่ก็ยังมีบุคคลสำคัญอีกคนที่จะสามารถหยุดเรื่องนี้ได้ เพียงแต่เธอยังไม่อยากรายงานให้ท่านรู้เพราะเกรงว่าจะไปขัดเวลาแห่งความสุขของท่าน ด้วยท่านเพิ่งจะได้รับข่าวดีเรื่องการตั้งท้องหลานคนแรกของบ้าน "หึ" สายตาคมจ้องมองดูเธอแล้วหัวเราะออกมาอย่างนึกสมเพชในความเป็นคนดีของเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไป เพื่อจะกลับไปร่วมกินข้าวกลางวันกับที่บ้านในวันที่มีงานฉลองที่พี่ชายคนโตของเขากำลังจะได้เป็นพ่อคน พริมาได้แต่ก้มหน้าเงียบรอจนเขาและลูกน้องเดินออกไปจากห้องทำงานของเธอ เสียงหญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกไล่หลังคนพวกนั้นออกไป เธอคงเก็บงำเอาเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว คงต้องรีบหาโอกาสรายงานให้อาทิตย์รับรู้ เพราะเวฆาคงไม่ปล่อยเธอไว้นาน "ก๊อกๆ" เสียงเคาะประตูห้องทำงานของพริมาดังขึ้นในเวลาถัดมาทั้งที่เจ้าของห้องยังนั่งตัวสั่นไปด้วยความกลัว "ก๊อกๆ" และมันก็ดังขึ้นอีกครั้งเรียกสติคนในห้องให้กลับคืนมา เธอเลยเอ่ยอนุญาตให้คนมาใหม่เดินเข้ามาหาเธอที่ในห้องได้ โดยไม่รู้ว่าเป็นใครแต่คงหนีไม่พ้นคนในบริษัททนายความเพราะในตารางงานช่วงบ่ายนี้ของเธอไม่มีลูกความคนใดมาขอพบ "คุณเวฆามาหาแกเรื่องอะไร" เลิศธรรมประธานบริษัททนายความชื่อดังเอ่ยถามลูกสาวในทันทีที่เดินเข้ามา เขาหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับลูกสาวคนสวยตรงที่เดียวกับที่มาเฟียหนุ่มเคยนั่งเมื่อก่อนหน้านี้ สายตาคมที่มีรอยเหี่ยวย่นตามอายุล้อมรอบจ้องมองลูกสาวเพื่อรอเอาคำตอบหลังจากที่ต้องเคาะประตูหลายทีราวคนมีมารยาท แต่ที่ทำไปทั้งหมดเพราะกลัวว่าจะมีคนของเวฆาหลงเหลืออยู่แล้วพานจะทำให้ทางนั้นอารมณ์เสียกลัวว่าเขาจะเลิกจ้างแล้วเสียรายได้มหาศาลไป "เรื่องทั่วๆไปนะคะ" หญิงสาวลอบถอนหายใจทิ้งอย่างเบาๆก่อนจะโกหกผู้เป็นพ่อ เรื่องที่เวฆาสั่งให้เธอทำจะให้พ่อหรือพี่ชายของเธอรู้ไม่ได้ เขาทั้งสองคนเป็นทนายที่เก่งทำให้ไม่สนใจใครหน้าไหน ยิ่งคนเงินหนาแบบเวฆามาจ้างงานด้วยแล้วพวกเขาจะยินดีทำ คนบนเกาะนั้นจะไม่มีที่อยู่ เธอยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ ถึงจะไม่เก่งเท่าพ่อกับพี่ชายแต่ก็จะพยายามคัดค้านจนเวฆายอมพ่ายแพ้ไปเอง เลิศธรรมพยักหน้ารับฟังในสิ่งที่พริมาบอกแล้วก็ไม่ได้ถามต่อถึงรายละเอียดอะไรมากนักเพราะคนรวยบ้านนั้นส่วนมากก็มาเรื่องเงินๆทองๆไม่มีอะไรน่าสนใจ "แล้วเรื่องไปเรียนต่อว่ายังไง" คนเป็นพ่อเปลี่ยนเรื่องสนทนาในทันทีตามความตั้งใจเดิมที่ทำให้ต้องเดินเข้ามาในนี้เพราะว่าลูกสาวของบริษัททนายความที่เป็นคู่แข่งกันตอนนี้ได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว เขาไม่ต้องการน้อยหน้าใครเลยเข้ามาทวงถามด้วยตัวเองแทนที่จะโทรศัพท์มาถาม "กำลังดูอยู่ค่ะ" หญิงสาวตอบแบบขอไปทีเพราะใจไม่ได้อยากไปเรียนต่อที่ไหนทั้งนั้น "อย่าให้ฉันต้องผิดหวัง ดูพี่เพทายเป็นตัวอย่างว่าเขาทำไว้ดีแค่ไหน" ชื่อของเพทายมักถูกยกขึ้นมาเปรียบเทียบให้หญิงสาวได้ฟังเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร พี่ชายของเธอเก่งกว่าเธอ เลิศธรรมผู้เป็นพ่อไม่เคยเอ่ยชมเธอสักครั้งไม่ว่าเธอจะทำดีแค่ไหน แถมยังบังคับเธอแทบทุกเรื่องให้เดินตามรอยของพี่ชายแม้กระทั่งให้เรียนจนได้เป็นทนายความทั้งที่เธอไม่ได้อยากเป็น "ค่ะ" สุดท้ายพริมาก็ได้แต่ก้มหน้ารับเพราะเธอก็ต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตามที่ครอบครัวต้องการ เพื่อเชิดหน้าชูตาครอบครัวทนายความของเธอ เพราะเพียงแค่คำว่าไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญูที่ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ทั้งที่ในใจมีแต่ความอึดอัดทับถมกันจนหนาแน่นแทบจะหายใจไม่ออก ในช่วงเวลาค่ำหลังจากที่พริมาเคลียร์งานบนโต๊ะจนหมด เธอก็เลือกที่จะมานั่งบนดาดฟ้าของคอนโดที่ถูกจัดให้เป็นสวนย่อมขนาดเล็กเพื่อพักผ่อนแทนการออกไปสังสรรค์กับบรรดาเพื่อนๆที่โทรมาชวน "เฮ้อ" ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หญิงสาวถอนหายใจเสียงยาวอย่างอยากจะระบายความในใจให้พวกมันฟัง ดวงดาวต่างทอแสงระยิบระยับคล้ายกับรับฟังปัญหาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวที่เธอกำลังพบเจอ "สิบสองชั่วโมง" นาฬิกาเรือนหรูที่ข้อมือของหญิงสาวถูกยกขึ้นมาดูเวลาตามปกติ เข็มทั้งสั้นและยาวซ้อนเรียงกันอยู่ตรงกลางพอดิบพอดีบอกเวลาเที่ยงคืน พานเอาในหัวที่หนักอึ้งของหญิงสาวคิดถึงคำพูดของใครบางคนที่พูดเอาไว้กับเธอเมื่อตอนเที่ยงวัน "อือ" ปากเล็กถูกมือหนาของผู้ชายประกบปิดเอาไว้แน่นทั้งที่ความคิดในหัวยังไม่ทันจบดี ดวงตากลมสวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ ลำคอพยายามเปล่งเสียงเพื่อหวังให้ใครสักคนมาได้ยิน สองมือเล็กพยายามลงเล็บจิกลำแขนหนาที่ตวัดเข้ามาเกี่ยวรอบคอของเธอเพื่อดึงมันออก มือหนาปริศนาอีกข้างเคลื่อนไหวออกมาจากในเงามืดพร้อมกับผ้าผืนเล็กๆสีขาวโปะเข้าที่จมูกของเธอ สติของหญิงสาวดับวูบในทันทีที่เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าเพื่อเอาชีวิตรอดจากสองมือปริศนา

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.1K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
26.4K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
7.1K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
15.3K
bc

กระชากกาวน์

read
8.0K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
6.2K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook