ตอนที่ 2

1411 Words
EP2 :               “ท่านก็รู้ว่าซ่องของฉันไม่ได้รับเด็กใหม่มาตั้งนานโขแล้ว แล้วแบบนี้ฉันจะไปเอาสาวพรหมจรรย์ที่ไหนมาต้อนรับลูกค้าของท่านกันล่ะ ไม่มีหรอก ฉันหาไม่ได้แน่ๆ” เจ้นุชกรอกน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดไปตามสายของลูกค้ารายใหญ่             “นั่นมันหน้าที่ของเจ้ หรือว่าจะให้ผมนำตำรวจเข้าไปจับเจ้กันล่ะ โทษฐานที่เปิดภัตตาคารแต่แอบแฝงค้าบริการน่ะ”             เสียงท่านผู้มียศใหญ่ปลายทางข่มขู่มา ทำให้เจ้นุชถึงกับหน้าซีดเผือด             “งั้นฉันจะหาสาวสวยที่รับแขกน้อยที่สุดให้ก็แล้วกัน แต่ซิงๆ น่ะ หาไม่ได้หรอก” เจ้นุชแบ่งรับแบ่งสู้             “ไม่ได้ ลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่มาก ผมต้องการทำให้เขาประทับใจที่สุด เพราะงานนี้ผมพลาดไม่ได้”             “แต่ว่าท่านคะ...”             “ไปจัดการตามที่ผมบอก ไม่อย่างนั้นก็เตรียมปิดไอ้ภัตตาคารสีเทาของเจ้ได้เลย”             เมื่อคนปลายสายตัดสายสนทนาไปแล้ว เจ้นุชก็ถึงกับยกมือขึ้นกุมหัวด้วยความมึนตึบ             “แล้วนี่อั๊วจะไปหาสาวซิงๆ ที่ไหนมาให้ลื้อได้ล่ะ” เจ้นุชถอนใจยาวเหยียดสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก             “เข้ามา”             ประตูถูกเคาะและเปิดออกเมื่อเจ้นุชเอ่ยอนุญาต กฤษดาหัวหน้าแมงดาและเป็นมือขวาของเจ้นุชก้าวเข้ามา             “เจ้เรียกผมมาพบ มีอะไรหรือครับ”             เจ้นุชปรายตามองมือขวาของตนเอง ก่อนจะพูดออกไปอย่างคับข้องใจ             “ก็ท่านสุรศักดิ์น่ะสิ จะให้อั๊วหาสาวซิงๆ ให้น่ะ แต่ลื้อก็รู้ใช่ไหมว่าซ่องของเราไม่ได้รับผู้หญิงเข้ามาใหม่ตั้งนานแล้ว และอีพวกที่อยู่ก็รับแขกมาจนพรุนไปหมดแล้วน่ะ”             “ใช่ครับเจ้”             “อั้วนะ ก็พยายามอธิบายกับท่านสุรศักดิ์ บอกถึงปัญหาให้ท่านรู้ แต่ลื้อรู้ไหมว่าท่านพูดว่าไง”             “ยังไงครับเจ้”             “ท่านก็บอกว่าจะเอาให้ได้ ยังไงก็ต้องหาสาวซิงๆ มารับรองลูกค้าของท่านให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะเอาตำรวจมาทลายภัตตาคารของอั๊วน่ะ"             สีหน้าของกฤษดาเคร่งเครียดตามเจ้นุชขึ้นมาทันที “แล้วนี่เจ้จะแก้ปัญหายังไงครับ”             “อั๊วก็กำลังคิดอยู่ ลื้อก็ช่วยอั๊วคิดด้วย”             กฤษดานิ่งไปสักพักก็พูดออกมาอย่างหมดหวัง “ในซ่องของเรา แม้แต่หมายังไม่ซิงเลยครับ แล้วจะไปหาสาวซิงๆ ที่ไหนกัน”             “นั่นสิ อั๊วก็นึกไม่ออก” เจ้นุชเดินกลับไปกลับมาอย่างเคร่งเครียด “จะมีซิงๆ อยู่ก็นังแก้ว แต่มันก็อัปลักษณ์น่าเกลียดแบบนั้น ลูกค้าที่ไหนจะไปมองมัน”             “ถ้าจะเอานังแก้วไปรับแขก ผมว่าเอานังฟ้าไปแทนไม่ดีกว่าเหรอครับ สวยกว่าตั้งเยอะ” กฤษดาแมงดามือขวาเสนอแนะ             “ก็นั่นแหละ แล้วนี่อั๊วจะทำยังไงดีวะ ลื้อช่วยอั๊วคิดหน่อย ไม่อย่างนั้นพวกเราหมดที่ทำมาหากินแน่”             “งั้นผมจะออกไปหลอกล่อสาวๆ มาที่นี่นะครับ เผื่อจะมีใครหลงกลยอมขายตัวให้เรา”             “เออ จะทำอะไรก็รีบไปทำเถอะ” เจ้นุชยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมอง ก่อนจะพูดออกมาอย่างเป็นกังวล “แล้วนี่ก็เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึงเก้าชั่วโมง ท่านก็จะพาลูกค้ามาแล้ว”             “งั้นผมรีบไปครับ”             “อากฤษ”             กฤษดาที่กำลังจะก้าวข้ามธรณีประตูออกไปชะงักเท้า เอี้ยวตัวหันกลับมามองเจ้นุช             “ถ้าลื้อทำได้สำเร็จนะ อั๊วจะให้ทิปลื้อหนึ่งหมื่นบาท”             คนฟังถึงกับตาโตเพราะจำนวนของเงิน พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง “ผมจะทำให้สำเร็จครับ เจ้”             “ดีมาก รีบไปหาเลย รีบๆๆ ไป”             “ครับเจ้”             กฤษดาปิดประตูห้องทำงานของเจ้นุช กำลังจะรีบออกไปดักหาเหยื่อ แต่ดันเกิดปวดท้องขึ้นมาเสียก่อน             “บ้าฉิบ! แม่งจะมาปวดขี้อะไรตอนนี้วะ” แมงดาตัวพ่อเอามือกดที่ท้องของตัวเองเพื่อบรรเทาอาการปวดหนึบ ประตูด่านสุดท้ายกำลังจะแตกพ่ายให้กับกองทัพหัวเหลือง สองเท้าของกฤษดาซอยถี่ยิบเพื่อวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ แต่ระหว่างทางที่จะเลี้ยวเข้าห้องน้ำชายก็ชนเข้ากับร่างของร้อยแก้วที่เพิ่งขัดส้วมเสร็จพอดี น้ำในถังที่ร้อยแก้วหิ้วอยู่กระฉอกขึ้นเปื้อนใบหน้านวลโครมใหญ่ “นังแก้ว มึงไม่มีตาหรือไงวะ” กฤษดายกมือขึ้นจะตบกบาลร้อยแก้ว แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเห็นคราบสีดำที่เคยมีอยู่เต็มใบหน้าของร้อยแก้วถูกน้ำล้างไปเกือบครึ่ง เขาเบิกตากว้างตกใจ แต่ยังไม่ทันได้พูดได้ถามอะไรออกไป ร้อยแก้วก็ขอตัวเสียก่อน “ขอโทษจ้ะน้ากฤษ ฉันขอตัวไปขัดส้วมต่อก่อนนะจ๊ะ” ร้อยแก้วรีบเดินแกมวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อเข้ามาในห้องน้ำหญิงได้ หล่อนก็รีบควักเอาผงถ่านที่พกติดตัวเอาไว้ขึ้นป้ายหน้าซีกที่ถูกน้ำลบหายไปด้วยความรีบร้อน “หวังว่าน้ากฤษคงไม่ได้สังเกตนะ” หล่อนถอนใจยาวๆ อย่างไม่สบายใจ มองใบหน้าสีดำของตนเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้านิ่งนาน                               “เจ้... เจ้ครับเจ้...” กฤษดาที่ขี้หดตดหายไปตั้งแต่เดินชนกับร้อยแก้วที่หน้าห้องน้ำชายรีบพรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานของเจ้นุชด้วยความตื่นเต้น             “อะไรของลื้อวะ อั้วยังไม่ทันอนุญาตเลย พรวดพราดเข้ามาทำไม” เจ้นุชถามอย่างโมโห             “คืออย่างนี้ครับเจ้...”             “อะไรของลื้อ”             กฤษดารีบเดินมาหยุดใกล้ๆ กับโต๊ะทำงานไม้ที่เจ้นุชนั่งอยู่ด้านใน ก่อนจะละล่ำละลักพูดออกมา             “ผมรู้แล้วล่ะครับว่าเราจะไปเอาผู้หญิงบริสุทธิ์จากที่ไหนมาให้ท่าน”             เจ้นุชหูผึ่งในทันที “นี่อย่าบอกนะว่าลื้อหาได้แล้ว ลื้อนี่มันสุดยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นแมงดาใหญ่ของซ่องอั๊ว”             “เจ้ชมผมใช่ไหมครับ”             “ก็ชมน่ะสิ ไหนลื้อว่ามาสิ ว่าลื้อไปเอาผู้หญิงซิงที่ไหนมา แล้วสวยหรือเปล่า”             เจ้นุชเต็มไปด้วยความอยากรู้ใจจะขาด ในขณะที่กฤษดาแมงดาคุมซ่องระบายยิ้มพึงพอใจ และก็กระซิบที่ข้างหูของเจ้านายร่างอ้วนท้วมพันธุ์เดียวกับสุกรเบาๆ                                         ห้าโมงเย็นกับอีกสิบแปดนาที ร้อยแก้วรีบมุ่งหน้ากลับเข้าห้องพักเพราะเป็นเวลาเลิกงานของตนเองแล้ว มือเล็กกำลังไขกุญแจห้อง แต่จู่ๆ ก็ถูกมือกระด้างของใครบางคนมาคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน             “อุ๊ยยย” หล่อนรีบสะบัดมือจนหลุด และก็หันไปมองเจ้าของมือหยาบกร้าน ซึ่งก็พบว่าเป็นกฤษดา             “น้ากฤษ... มาทำอะไรแถวนี้เหรอจ๊ะ”             สายตาที่กฤษดาใช้มองหล่อนในครั้งนี้มันต่างไปจากเดิมมาก ราวกับว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังสำรวจอะไรบางอย่าง หล่อนรู้สึกร้อนใจจนต้องรีบก้มหน้าหนี             “ฉัน... ขอตัวเข้าห้องก่อนนะน้ากฤษ”             “เดี๋ยวก่อนสิ”             “เอ่อ... น้ามีอะไรกับฉันเหรอจ๊ะ” หล่อนถามทั้งๆ ที่ก้มหน้า จึงไม่เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย             “เจ้สั่งให้ไปหาน่ะ”             “เอ่อ... เจ้มีธุระอะไรกับฉันเหรอจ๊ะน้ากฤษ” หล่อนจำต้องช้อนตาขึ้นมองกฤษดา             “ไม่รู้สิ ไปถามเจ้เอาเองเถอะ”             “เอ่อ... งั้นฉันเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วจะไปหาเจ้นะจ๊ะ”             “ไม่ได้ เจ้เรียกเอ็งด่วน”             ร้อยแก้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแปลกๆ แต่ก็ไม่มีทางเลือก “ก็ได้จ้ะ งั้นฉันไปหาเจ้ก่อนนะ”             “อืม”             หล่อนรีบก้าวเท้าเดินจากกฤษดามาด้วยความรีบร้อน เพราะไม่ชอบสายตาที่กฤษดามองมานัก             “ทำไมน้ากฤษมองเราแปลกๆ”             ขณะที่ร้อยแก้วกำลังสับสนกับสายตาที่เปลี่ยนไปของกฤษดานั้น แมงดาตัวพ่อก็พึมพำออกมาในลำคอ             “แม่งนังแก้ว มึงตบตากูซะหลายปีเลยนะมึง แต่ยังไงซะคืนนี้มึงก็ไม่มีทางรอด” กฤษดาหัวเราะหึหึอย่างสะใจ ยกมือขึ้นลูบปากตนเองเมื่อนึกถึงทิปจำนวนมากที่จะได้รับจากเจ้นุช
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD