ตอนที่ 2

1569 Words
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วภาคินก็สั่งให้อมาวดีเก็บจานชามมาล้างโดยที่เขายืนพิงโต๊ะควบคุมอยู่ไม่คลาดสายตา เมื่อเธอล้างอย่างกระแทกกระทั้นประชดเขาเสียงดังเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอเห็นว่าการเชือดไก่ให้ลิงดูนี้คงใช้ไม่ได้ผลจึงเลิกทำประชดเขา เธอไม่รู้ตัวว่าภาคินกำลังพอใจเพราะเขากำลังคิดหาทางดัดนิสัยเธออยู่ทุกขณะจิต “มื้อนี้ผู้ช่วยของผมจะทำกับข้าวให้มื้อเดียวเท่านั้น ส่วนมื้ออื่นคุณต้องทำให้เรากินรวมทั้งตัวคุณด้วย ถ้าคุณทำออกมาไม่ดีจนเรากินไม่ได้ผมจะสั่งให้คุณกินให้หมดโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น” เขาพูดดักคอเธอไว้ก่อน อมาวดีไม่ตอบอะไรล้างจานใบสุดท้ายเสร็จเธอก็เช็ดมือให้แห้ง เธออยากอาบน้ำเปลี่ยนชุดมากเหลือเกินเพราะชุดที่เธอใส่อยู่นี้เปื้อนนมสดและเต็มไปด้วยกลิ่นคาว ตัวเขาเองก็เปื้อนเช่นกันแต่เขาก็ยังเอาแต่ยืนชี้นิ้วสั่งเธอทำงาน ไม่สนใจจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย... “ฉันจะไปอาบน้ำ” เธอบอกเขา “หาชุดมาให้ฉันเปลี่ยนด้วย” “นี่คุณพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ผมจับคุณมาเป็นนายผมเหรอ ส่องกระจกดูสภาพของตัวเองของตัวเองก่อนเถอะอมาวดี” “นี่ ฉันไม่ได้เกิดมาให้คุณต่อว่าเป็นทาสในเรือนเบี้ยนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณเดือดร้อนสักหน่อย ช่วยให้เกียรติกันด้วย” “คุณกล้าพูดได้ยังไงว่าไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อน ไอ้ที่ร้องแรกแหกกระเชิงตอแหลว่าผมข่มขืนจนผมต้องรับผิดชอบเนี่ยผมไม่เดือดร้อนเหรอ” เขาตะคอกถาม นึกแล้วก็โกรธที่เธอยังทำเก่งกล้าใส่เขาทั้งที่เงาหัวจะไม่มีอยู่แล้ว “นะ... นั่นมันตอนนั้นฉันทำไปโดยไม่คิดน่ะ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันทำผิดไป ฉันจะยกเลิกการแต่งงานของเราแล้วบอกทุกคนว่าที่ผ่านมาฉันโกหกทุกคนก็ได้ คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ” เธอเปลี่ยนมาทำทีเป็นพูดกับเขาอย่างอ้อนวอนแทน ภาคินไม่เห็นด้วยซ้ำยังแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังลั่น “คุณคิดว่าเราเล่นขายของกันอยู่เหรอ ผมจะบอกให้นะว่ามันยกเลิกไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้นหรอก... ตอนแรกคุณคงคิดว่าจะให้เรื่องมันเป็นอย่างใจคุณง่ายๆ คิดว่าจะให้ผมเสียหน้า แต่สุดท้ายตัวเองก็มาลำบากเพราะเผลอลูบคมผมเข้า พออย่างนี้จะมาเปลี่ยนใจ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะยอมให้อภัยคุณอมาวดี” “ฉัน...เกลียด..หน้าคุณ...” เมื่อเห็นว่าเขาคงไม่รับข้อเสนอของเธอแล้วกลับตอกเธอมาให้หน้าหงาย เธอก็พูดว่าเกลียดเขาเน้นเสียงหนักแน่น ก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาออกไป “เกลียดก็ต้องทนเพราะจากนี้ไปผมไม่ปล่อยคุณไปทำร้ายใครอีก ยายแม่มด” เขาคว้าไหล่เธอไว้ แล้วก้มบอกเธอด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ใบหน้าแทบชิดหน้าเธอ แล้วเขาก็เกี่ยวเธอมากอดไว้ด้วยแขนข้างเดียว เธอรีบดันอกเขาออกห่างตัวทันทีด้วยสีหน้าตระหนกกับความแนบชิดที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้... “ปล่อยฉัน นายแต๊ะอั๋งฉันหลายรอบแล้วนะ” เธอแหวเสียงแหลมใส่ แต่ยิ่งเธอบิดตัวหนีจากเขาเท่าไหร่เขากลับยิ่งรัดแขนแน่นให้ตัวเธอต้องเบียดตัวเข้าหาเท่านั้น “มันเป็นธรรมดานี่อมาวดี ในเมื่อเรากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้วทำอย่างนี้ไม่เรียกแต๊ะอั๋งหรอก อีกอย่างเน่าฟอนแฟะอย่างคุณอย่ามาทำหวงเนื้อหวงตัวเพิ่มคุณค่าเลยมันไม่ได้ผลหรอกเพราะผมรู้ทัน” “ดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ ผู้ชายอะไรปากหมาหน้าตัวเมียด่าผู้หญิงแล้วยังทำร้ายผู้หญิงอีก” เขาด่ามาแสบๆ เธอก็ด่ากลับไปคันๆ อ้อมแขนที่รัดมาแน่นๆ จนแทบทำให้กระดูกกระเดี้ยวจะหักนั้นกอดมาแน่นเท่าไหร่เธอก็ยิ่งดิ้นหนีแทบใจขาดเท่านั้น “ผู้หญิงเลวๆ อย่างคุณก็เหมาะกับผู้ชายเลวๆ อย่างผมนี่แหละ” เขาหัวเราะเสียงดังแล้วลากเธอลู่ถูลู่ไถออกจากห้องครัวไปทางหน้าบ้านที่ติดกับทะเล “แกจะทำอะไรไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ” อมาวดีร้องกรี๊ดๆ เขาลากเธอไปไม่สนใจอาการดิ้นรนและถ้อยคำไม่เสนาะหูนั้นเลย “จะทำอะไรน่ะเหรอ ก็ทำแบบที่คุณว่าผมว่าเป็นผู้ชายหน้าตัวเมียรังแกผู้หญิงยังไงล่ะ” เขาใช้แรงที่มีมากกว่าอย่างมหาศาลลากเธอมาโยนตูมลงในทะเล หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวก็โดนน้ำไหลเข้าหูเข้าตาจนแสบไปหมด “ล้างคราบคาวออกไปจากตัวไงล่ะ อยากอาบน้ำไม่ใช่เหรอ” อมาวดีได้ยินแล้วก็เดือดเธอตั้งตัวได้ก็ลุกมาตบหน้าเขาดังเพี๊ยะ เขาคำรามเสียงดังอย่างโกรธจัดแล้วก็ยึดมือที่กำลังจะประทุษร้ายเขาซ้ำเอาไว้ เขาคว้าตัวเธอลงไปในทะเลด้วยกันอย่างทุลักทุเล “ปล่อยฉันไปนะฉันร้อน แดดเปรี้ยงอย่างนี้ใครเขาเล่นน้ำกัน ผิวได้เสียหมดพอดี ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” อมาวดีกรีดร้องเสียงหลงแต่ชายหนุ่มกลับคว้าเธอไว้แน่นอยู่กลางเกลียวคลื่นแห่งท้องทะเล เขามองเธอดิ้นรนอย่างสะใจยิ่งเธอไม่ชอบอย่างนี้เขายิ่งรู้สึกดีมากมาย ปล่อยเธอดิ้นรนโวยวายจนสมใจแล้วเขาก็คลายเธอออกจากอ้อมแขน การต่อสู้ย่อยๆ กลางทะเลนี้ทำให้เขาและเธอหอบแฮ่กๆ กันกลางท้องทะเลสีฟ้าสวย “เป็นไง... สนุกมั้ยจ๊ะว่าที่ภรรยา” เขาหัวเราะเยาะเย้ยคนตัวเล็กกว่าที่มองเขาตาเขียวปั๊ดอยู่ “สนุกกับผีน่ะสิไอ้คนนิสัยเสีย” อมาวดีวิดน้ำทะเลใส่ตาเขาจนเขาร้องโอ๊ยขึ้นมาเพราะแสบตา เธอรีบผละออกมาจากเขาแล้ววิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต “ช่วยด้วยคะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เธอมองไปรอบๆ บริเวณก็พบว่าไม่มีใครเลย บ้านที่เธออยู่หลังนี้กับชายหาดนี้กว้างขวางมากมองไปทางไหนก็ไม่มีบ้านคนชวนให้สงสัยว่าจะเป็นชายหาดส่วนตัว เธอวิ่งไปจนเหนื่อยหอบ แต่ก็ต้องผงะไปด้านหลังสุดตัวเมื่อมีคนคว้าเธอไว้จากด้านหลัง “ร้ายไม่เปลี่ยนเลยนะ ไอ้นิสัยลอบกัดคนอื่นเนี่ย” เขาคำราม “ช่วยด้วย...” อมาวดีร้องสุดเสียงแต่ก็ไม่มีใครได้ยินเธอ ไม่มีเลยสักคน... “ร้องให้คอแตกก็ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกเพราะที่นี่เป็นเกาะส่วนตัว ผมพาคุณมาขังไว้เล่นๆ สักวันสองวันก่อนจะบินไปฮ่องกง ปล่อยไว้ที่สระบุรีเดี๋ยวก็ไปก่อเรื่องวุ่นอีก” “ใครก่อเรื่องวุ่น ฉันเปล่านะ” “ปฏิเสธหน้าด้านด้าน ไปไปกับผม ผมจะบอกไว้ก่อนนะผมน่ะไม่ได้จับคุณมาปล้ำเหมือนในนิยายหรอกนะไม่ต้องมาหวงเนื้อหวงตัวทำท่ารังเกียจอย่างกับผมเป็นไอ้หื่นกามที่จ้องจะจับคุณขึ้นเตียงตลอดเวลา ผมเอาคุณมาทำงานแล้วคุณต้องทำงานอย่ามาทำดื้อกับผมเพราะผมไม่ชอบ แล้วที่สำคัญก็ไม่ต้องคิดหนีไปขอให้ใครช่วยนะไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมใจร้าย...” เขาลากเธอลู่ถูลู่ไถมาจนถึงบ้าน ก่อนจะเปิดก๊อกน้ำที่ข้างบ้านล้างน้ำทะเลและเศษทรายออกไปหมด “ทำตัวดีๆ แล้วผมจะเมตตา” หญิงสาวเบะปากใส่เขาอย่างอดไม่ได้ “ถ้าคุณเกลียดฉันมากก็เอาฉันไปทิ้งให้ไกลหูไกลตาสิ มากักขังฉันไว้อย่างนี้ก็รู้สึกไม่ดีทั้งสองฝ่ายเปล่าๆ” เธอยังไม่เลิกที่จะโน้มน้าวให้เขาปล่อยเธอกลับ “เลิกพูดว่าจะให้ผมปล่อยคุณเถอะ มันไม่มีทางหรอก... อมาวดี” แม้จะอยากร้องกรี๊ดออกไปแต่อมาวดีกลับทำอะไรไม่ได้เพราะเขายืนคุมเธอตลอดเวลา เธอจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตามสิ่งที่เขาบอก ภาคินใช้ให้เธอทำความสะอาดบ้านหลังนี้ บ้านหลังใหญ่ที่สวยแต่สกปรกชะมัดยาด ปรกติแล้วบ้านพักตากอากาศของคนรวยๆ เขามักจะมีคนคอยทำความสะอาดให้ แต่บ้านนี้สกปรกฝุ่นหนาจนแทบท่วมหลังเท้าแล้ว สงสัยเมื่อคืนลูกน้องเขาคงจะทำความสะอาดแค่ห้องที่ใช้ก่อนแล้วเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องทำในส่วนที่เหลือ อมาวดีก้มหน้าก้มตาทำไม่บ่นอะไร เธอไม่ใช่คนที่หยิบโหย่งทำอะไรไม่เป็น ตอนเรียนเมืองนอกเธอทำเองทุกอย่างทั้งทำกับข้าวและทำความสะอาดห้อง งานทำความสะอาดแค่นี้เธอทำได้สบายมาก ถ้าภาคินจะหวังว่าเธอจะร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะเรื่องแค่นี้ละก็ฝันไปเถอะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD