ตอนที่ 1.1

2413 Words
เกือบสิบโมงภาคินได้ตื่นมาอีกครั้งอย่างเต็มตา เขาพยายามไม่มองคนที่นอนอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มเดินไปอาบน้ำในห้องน้ำเพื่อเรียกความสดชื่นกลับคืนมา เสียงน้ำซู่ซ่าในห้องน้ำทำให้อมาวดีตื่นขึ้นมาเช่นเดียวกัน สิ่งแรกที่เธอทำคือกระโดดจากเตียงวิ่งมาหาสิ่งห่อหุ้มร่างกายก่อนที่ภาคินจะเปิดประตูห้องน้ำออกมา เธอวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดออกก็พบแต่ความว่างเปล่าชุดที่เธอใส่มาเมื่อคืนนี้ก็ไม่มีสักชิ้น แอร์เย็นเฉียบทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัวเพราะเธอเป็นคนขี้หนาว เธอแทบจะวิ่งพล่านทั้งห้องเพื่อหาเสื้อผ้าใส่ให้ได้แต่มันก็ไม่มีเลย “หานี่อยู่เหรอ” ภาคินยืนพิงประตูห้องน้ำอยู่ เสื้อผ้าของอมาวดีอยู่ในมือเขา เสื้อชั้นในเธอห้อยโตงเตงอยู่อย่างนั้น เธอร้องกรี๊ดก่อนจะเอามือปิดร่างกายตัวเองเอาไว้ หันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูกจึงตัดสินใจวิ่งไปที่เตียงเอาผ้าห่มมาพันตัวเองไว้ “อายทำไม เห็นจนไม่อยากมองแล้ว” เขาโยนเสื้อผ้าในมือให้ มันปลิวมาตกอยู่บนหัวของเธอ บ้างก็ตกอยู่กับพื้น “ไอ้บ้า” อมาวดีรีบเก็บขึ้นมาเพราะอายที่ชุดชั้นในของเธอวางแหม่บอยู่กับพื้นด้วย “เดี๋ยวผมกลับมาอีกรอบ อาบน้ำให้เรียบร้อยด้วยนะ” แล้วเขาก็เดินออกไปนอกห้องหน้าตาเฉย อมาวดีแทบกรี๊ด เขาไม่ควรจะจับตัวเธอมาแล้วกลั่นแกล้งอย่างนี้ แม้ว่าจะก่อเรื่องมามากแต่เธอก็ไม่ยินดีที่จะมาให้เขาเอาคืนแบบนี้เลย เธอหอบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายไปครุ่นคิดในสมองไปอย่างกังวลในใจ ภาคินเป็นผู้ชายที่ร้ายมาก เขาจะดีกับคนที่เขารักเท่านั้น ซึ่งนั้นไม่ใช่เธอแน่นอน เขาแสดงออกว่าเกลียดเธอชัดเจนบอกได้ว่าเธอคงไม่ได้ตายดีแน่ อมาวดีรู้สึกเหมือนหนาวขึ้นมาทั้งๆ ที่เธออาบน้ำอุ่นอยู่แท้ๆ เขาบอกว่าบิดาของเธอสั่งการให้เอาตัวเธอมาเพราะจะได้ไม่ก่อความวุ่นวายให้ใครอีก แสดงว่าทุกคนรู้เรื่องหมดแล้วแน่นอนกับความลับที่เธอยังไม่กล้าบอกใครว่าตัวเองเป็นคนทำ ภาคินรู้แล้วยิ่งโกรธที่เธอมีส่วน.. ไม่ใช่สิ อมาวดียอมรับว่าเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่ภาคินรักต้องแท้งลูกนอกนั้นแล้วเขาก็มีความโกรธแค้นเธออยู่แล้วที่ก่อนหน้านั้นเธอสร้างเรื่องขึ้นมาว่าเขาข่มขืนเธอจนเขาต้องรับผิดชอบทั้งที่เขารักพี่สาวของเธอ ตอนนั้นเธอทำไปเพื่ออยากชนะโดยไม่ได้คิดอะไรเลยแต่ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำทุกอย่าง เธอกลัวว่าเขาจะฆ่าเธอตาย ยิ่งบิดาของเธอตัดหางลูกเลวๆ อย่างเธอปล่อยวัดและยื่นอำนาจให้เขาจัดการกับเธอได้ทุกอย่างเช่นนี้เธอก็ไม่ต่างจากเป็นลูกไก่ในกำมือของภาคินแล้วกำมือของภาคินจะบีบเธอให้แหลกลาญไม่มีวันคลายให้เธอรอดแน่ในเมื่อเขาเกลียดเธออย่างนี้ ถ้าเธอบอกว่าเขาไม่ต้องรับผิดชอบเธอแล้ว เธอยอมรับความจริงกับทุกคนว่าเรื่องทั้งหมดเธอสร้างขึ้นเองเขาจะปล่อยเธอไปหรือเปล่านะ..... อมาวดีเปิดประตูห้องน้ำมา เป็นจังหวะบังเอิญที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก ภาคินที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก้าวเข้ามาพอดี “ไปกินข้าว” มือหน้านั้นคว้ามือเธอเดินลิ่วๆ ไปไม่สนใจเลยว่าเธอจะหกล้มสะดุดอะไรเพราะก้าวเดินตามขายาวๆ ของเขาไม่ทัน เธอพยายามสะบัดมือของเขาออกเดินเอง แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย เมื่อเดินลงมาที่ห้องทานอาหารแล้วเธอก็เห็นผู้ชายสองคนนั่งอยู่แล้วที่โต๊ะอาหาร ภาคินจับเธอนั่งข้างๆ เขาไม่สนสายตาที่มองมาอย่างสนอกสนใจของลูกน้อง “นี่อาฟ่ง และอาห่าว ผู้ช่วยของผม เขาจะควบคุมคุณตลอดไม่ให้คลาดสายตา อย่าได้คิดหนีไปก่อเรื่องกับคนอื่นอีกเป็นอันขาด” คำแนะนำตัวเธอนั้นมันน่าอายจนตัวเธอไม่กล้าเงยหน้าไปทักทายใคร ได้แต่ก้มหน้ามองอาหารเช้าแบบอังกฤษบนจานใบโต ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่า ถึงจะพลาดมื้อเช้าแต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เธอเคยทานข้าวเลยเธอจึงยังไม่หิว เมื่อไม่ทานข้าวแล้วจะพูดกับเขาก็พูดไม่ได้เพราะมีคนนอกอยู่เรื่องที่เธออยากเจรจากับเขาจึงยังไม่เริ่มต้น อมาวดีจึงทำได้เพียงนั่งมองจานข้าวราวกับว่ามันมีอะไรน่าสนใจนักหนา “มองแล้วมันจะอิ่มมั้ย กินเข้าไปสิแม่คุณ” หญิงสาวสะดุ้งโหยง ลูกน้องอีกสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ก็แทบสำลักใส้กรอกที่เคี้ยวอยู่ในปาก เพราะตกใจเปลี่ยนโหมดไม่ทันกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเจ้านาย ตอนอยู่ในรถภาคินยังทำท่าทางอย่างกับรักกับหลงอมาวดีมากมาย ทำไมตอนนี้กลายมาเป็นโหมดเกลียดได้ “ฉันยังไม่หิว กินไม่ตรงเวลาเดี๋ยวไม่ย่อยพอดี” “อย่ามาเรื่องมาก ให้กินก็กินไป... เดี๋ยวยังต้องมีอย่างอื่นทำอีก” อมาวดีนั่งนิ่งเฉย แม้จะกลัวที่เขาชักจะร้ายกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็จะไม่มีทางแสดงออกว่ากลัวเขาเด็ดขาด “อาฟ่ง อาห่าว เอาจานออกไปกินที่ห้องรับแขก ไม่อย่างนั้นจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น” ชายหนุ่มสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเย็น สองคนนั้นรีบกุลีกุจอออกไปแทบไม่ทัน “กรี๊ด” อมาวดีร้องกรี๊ดเมื่อเขากระชากตัวเธอมานั่งบนตัก เธอดิ้นออกมาจนแก้วนมในมือเขาที่ตั้งใจจะว่าจะจับกรอกปากเธอหกรดทั้งเขาและเธอเหม็นคาวคละคลุ้งไปหมด “หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่นั่งนิ่งๆ จะโดนไม่ใช่น้อย” เขากอดเธอไว้แน่นแววตาจริงจังของเขาทำให้เธอนั่งนิ่งจนได้ เขาเอาช้อนส้อมจิ้มใส้กรอกมาจ่อที่ปากเธอบังคับให้ทาน เขาป้อนเธอเรื่อยๆ สลับกับทานเองบ้าง เธอจะพูดเขาก็เอาอาหารยัดปาก เธอจะดิ้นหนีเขาก็กอดไว้แน่นทั้งคำรามเสียงน่ากลัว ทำให้อาหารเช้ามื้อนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยความทุลักทุเล “ฉันจะกลับ” อมาวดีดีดตัวขึ้นจากตักเขาระหว่างที่เขากำลังจิบน้ำเปล่าอยู่ แก้วน้ำในมือเขาตกไปอยู่บนพื้นน้ำไหลนองกระจาย ตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ตัวเองทำแต่ก็แอบคิดว่าโชคดีที่มันไม่แตกไม่อย่างงั้นเขาคงโมโหกว่านี้ “เรื่องนั้นฝันไปได้เลย” “พาฉันกลับไปเดี๋ยวนี้นะ ให้ฉันคุยกับพ่อ ฉันกับพี่น้ำผึ้งเข้าใจกันแล้วไม่เชื่อลองโทรไปถามพี่สาวฉันดูสิ ถ้าเขารู้ว่าคุณเอาน้องสาวเขามาทำมิดีมิร้ายอยู่อย่างนี้เขาจะด่าคุณแล้วบอกให้ส่งฉันกลับไปแน่” “ด่าผมเพราะน้ำผึ้งขี้สงสารนะสิ คุณทำร้ายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาก็ยังไม่ทำอะไรคุณเลยจนปล่อยให้คุณไปทำร้ายเขาจนแท้งลูกได้... ถ้าน้ำผึ้งขอให้ผมปล่อยคุณเขาคงขอเพราะใจอ่อนเท่านั้น แต่ผมไม่มีวันปล่อยคุณไปทำร้ายใครอีกแน่ อยู่รับกรรมจากผมนี่แหละดีที่สุดแล้ว “นี่ ฉันบอกว่าฉันเข้าใจกันแล้วไง ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว โอเค...ถ้าคุณบอกว่าพี่น้ำผึ้งใจอ่อน โทรหาคุณพ่อก็ได้ท่านเป็นคนยุติธรรม ถ้าท่านรู้ว่าฉันกับพี่น้ำผึ้งคุยกันรู้เรื่องแล้วท่านต้องให้คุณส่งฉันกลับ” เธอพูดอย่างมั่นใจจนภาคินต้องถอนหายใจดังเฮือก “หุบปากไว้แล้วฟัง” เขากดโทรศัพท์มือถือโทรหาท่านชิษณุรักษ์นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บิดาของน้ำผึ้งเพื่อนสนิทของเขาและเป็นบิดาเลี้ยงของอมาวดี เพราะเรื่องที่อมาวดีนั้นอิจฉาพี่สาวบุญธรรมของตัวเองจนตามไปราวีทุกแห่งหนทำให้ครอบครัวน้ำผึ้งแตกแยกทำให้ภาคินซึ่งเป็นเพื่อนของน้ำผึ้งรู้สึกไม่ดีกับอมาวดีเป็นอย่างมาก เขาเคยมองเธอว่าสวยเก่งอ่อนโยน แต่ไม่รู้เลยว่าเธอจะมีความร้ายกาจซ่อนอยู่ข้างใน ภาคินรู้ดีว่าอมาวดีนั้นทนเห็นความสนิทสนมของผู้ชายทุกคนกับน้ำผึ้งไม่ได้เพราะเธอมีปมในใจว่าไม่อยากให้พี่สาวมีความสุข ไม่เพียงเขาที่สนิทกับพี่สาวของเธอจนเธอต้องหาเรื่องให้ลำบากแม้แต่น้ำผึ้งกับชยธรผู้เป็นสามีก็ยังระหองระแหงกันเพราะฝีมือของอมาวดี... เธอระรานพี่สาวจนเกินงามจนมีปัญหาครอบครัวกับสามีภาคินไปเจรจากับเธอถึงบ้านให้เลิกทำร้ายน้ำผึ้งเสีย อมาวดีกลับยีหัวฉีกทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วโผเข้าหาเขาจนเขารับไว้แทบไม่ทัน แล้วเธอก็ทำสิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือกรีดร้องเรียกหาคนช่วยหาว่าเขาข่มขื่นเธอ ภาพที่คนอื่นเข้ามาเห็นทำให้ภาคินไม่อาจปฏิเสธได้เลย เขาได้แต่เก็บความโกรธแค้นไว้ในใจที่เธอใช้เขาเป็นเครื่องมือทำลายพี่สาว เขาจึงเอาคืนเธอด้วยการตั้งใจไว้ว่าจะแยกเธอออกจากน้ำผึ้งให้น้ำผึ้งได้มีความสุขกับครอบครัวโดยไม่มีอมาวดีตามทำร้าย อมาวดีไม่รู้ว่าเขารับผิดชอบเธอโดยไม่ปฏิเสธสักคำเพื่อที่จะตลบหลังเธอด้วยการแต่งงานแล้วย้ายไปทำงานที่ฮ่องกงอย่างกะทันหันและแน่นอนว่าภรรยาอย่างเธอติดตามไปด้วย เขาคาดไว้ว่าอมาวดีคงแทบเต้นเพราะไม่อยากห่างพี่สาวเนื่องจากอยากราวีน้ำผึ้งเพราะไฟริษยา แล้ววินาทีนั้นหล่อนจะได้รู้ว่าหล่อนพลาดที่บีบบังคับเขาให้แต่งงานกับหล่อน เพราะหล่อนต่างหากที่เป็นคนตกที่นั่งลำบากเอง... แต่แผนของภาคินยังไม่ได้เริ่มดี ก่อนที่จะไปฮ่องกงเพียงไม่กี่วัน ลุงของเขาที่เป็นหมออยู่ก็โทรมาบอกว่าอมาวดีพาน้ำผึ้งส่งโรงพยาบาลเพราะน้ำผึ้งแท้ง เธอมีทีท่าลนลานและทะเลาะกันใหญ่โตกับน้ำผึ้ง วินาทีนั้นเขาแทบระเบิดเมื่อรู้ว่าอมาวดีก่อเรื่องอีกแล้ว คราวนี้เธอถึงกับทำให้เด็กบริสุทธิ์คนหนึ่งหมดโอกาสที่จะลืมตาดูโลก ทุกครั้งที่ผ่านมาหลายๆ คนให้อภัยกับสิ่งที่หล่อนทำแต่ครั้งนี้มันเกินไป ภาคินโทรหาท่านชิษณุรักษ์เล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง ท่านตกใจมากและขอให้เขาซึ่งต้องพาอมาวดีไปฮ่องกงอยู่แล้วพาเธอไปก่อนกำหนดเพราะเกรงว่าอมาวดีจะทำร้ายน้ำผึ้งได้อีก เขามีแค้นที่ต้องชำระเรื่องที่อมาวดีใส่ร้ายว่าข่มขืนจนต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แล้วเธอยังมาทำให้เพื่อนสนิทเขาเดือดร้อนอีก ความผิดของเธอจึงมหันต์นักด้วยเรื่องนี้เธอจึงไม่สมควรได้รับการปราณีเลยแม้แต่น้อย มาตอนนี้เธอเรียกร้องจะกลับ เขาก็จะโทรยืนยันให้เธอฟังอีกครั้งจะได้เลิกโวยวายแล้วรับกรรมอย่างโดยดี เพราะเจ้าตัวคงรู้ว่าเขาโกรธที่เธอหักหน้าและคงรู้ว่าเขาจะเล่นงานเธอหนักเมื่อไปอยู่ห่างไกลคนที่ช่วยเหลือได้จึงมาขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดกับเขาง่ายๆ ยอมแม้กระทั่งจะเปิดปากบอกคนอื่นว่าเขาไม่ได้ข่มขืนทั้งที่บอกคนอื่นแข็งขันมาตลอดว่าเขาทำ แน่ล่ะภาคินจะไม่ยอมปล่อยเธอไป ให้เธอมาพร่ำเพ้อขอร้องยอมรับว่าผิดอย่างไรเขาก็ไม่ปล่อย เพราะเขายังไม่ได้ลงฑัณท์เธอสาแก่ใจเลย... “ท่านครับ... อมาวดีบอกผมว่าท่านอาจจะเปลี่ยนใจเรื่องที่ท่านให้ผมนำตัวเธอมา เธอบอกว่าน้ำผึ้งเข้าใจกันดีกับเธอแล้ว ตกลงมันเป็นยังไงครับท่าน” เขาพูดมองใบหน้าลุ้นๆ อย่างมีความหวังของอมาวดีไปด้วย “ผมยังยืนยันเหมือนเดิม ฝากคุณจัดการกับแอมด้วย เดี๋ยวผมจะติดต่อไปหาใหม่นะ ตอนนี้ผมกำลังติดประชุมอยู่” ปลายสายตัดไปแล้วอมาวดีก็อ้าปากค้าง เธอจะมาแย่งโทรศัพท์จากเขาเพื่อโทรหาบิดาอีกครั้งแต่เขาก็ไม่ยอม เมื่อจะขอโทรหาน้ำผึ้งเพื่อยืนยันว่าเธอเข้าใจกันดีกับพี่สาวแล้วจะไม่มีเรื่องใดให้ขุ่นข้องเพื่อเขาจะได้ปล่อยเธอไปเขาก็ไม่ยอมอีก... อมาวดีทรุดลงนั่งอย่างเสียใจ เพราะเธอมันเลวใช่ไหมคนที่บ้านถึงไม่ต้องการเธอแล้ว พวกเขาถึงกับผลักไสให้มาผจญกับคนที่ใจร้ายที่สุดอย่างภาคิน... ไม่มีใครใส่ใจใยดีเธอเลยหรือยังไงกัน ความหวังที่คิดว่าจะมีใครสักคนที่รักเธอแล้วห้ามปรามเขาบ้างมันคงไม่มีวันเป็นจริง ไม่มีใครรักไม่มีใครห่วงเธอเลย ไม่มีเลยจริงๆ ชีวิตเธอไม่ได้ถูกกำหนดมาให้อยู่คู่กับความสุข เธอได้ลิ้มรสความรัก ความเข้าใจ เพียงเสี้ยวหนึ่ง แล้วเวลาที่เหลือก็คือความอ้างว้าง ว้าเหว่ เจ็บปวด แล้วจากนี้เธอคงต้องจมอยู่กับความรู้สึกเลวร้ายนี้ตลอดไปเพราะเธอต้องใช้ชีวิตที่เหลือกับคนที่เกลียดเธอสุดหัวใจอย่างภาคินโดยที่เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว อมาวดีก้มหน้ารับกรรมต่อไป... เธอก่อมันขึ้นมาเองเธอคงต้องยอมรับ สายตาที่มองมาอย่างมีชัยชนะเหนือเธอของเขาทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธอได้ตกนรกของแท้แล้วเพราะจากนี้ไปคงไม่มีคำว่าปราณีจากเขาให้เธออีกต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD