EP 1 : ไปเรียนต่อ

1230 Words
ตอนที่ 1 : ไปเรียนต่อ เหตุการณ์ก่อนหน้า... "แม่จ๋า พี่ไอร์บอกว่าจะให้หนูไปเรียนที่กรุงเทพ พี่ไอร์กับคุณโนอาร์จัดการเรื่องเรียนให้หนูไว้หมดแล้วด้วย และยังออกค่าใช้จ่ายให้หนูยันเรียนจบเลย" เด็กสาวกระโดดโลดเต้นดีใจเมื่อวางสายจากพี่สาวคนสนิท ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงดีใจพูดกับแม่ผู้เป็นที่รัก "แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะ" เพ็ญแม่ของน้อยหน่าทำสีหน้าหม่นลงแต่พยายามไม่ให้ลูกสาวสุดที่รักได้เห็น การที่ลูกน้อยต้องห่างไปอยู่ในที่ไกลตาทำให้เธออดคิดถึงไม่ได้ "ทำไมแม่หน้าเศร้าแบบนั้นละจ๊ะ เพราะแม่ห่วงหนูใช่ไหม..." ฉันหน้าเจื่อนทันทีพอเห็นสีหน้าแม่ตัวเองและรู้ดีว่าแม่ฉันคงเหงามากแน่ อีกอย่างคงเป็นห่วงฉัน เพราะเราอยู่ด้วยกันสองคนมาตลอด พ่อของฉันขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าอันแสนกว้างใหญ่แล้ว "ไม่มีแม่คนไหนไม่ห่วงลูกตัวเองหรอกน้อยหน่าเอ๊ย" "งั้นหนูไม่ไปดีกว่าเดี๋ยวหนูโทรไปบอกกับพี่ไอร์ คิดดูแล้วเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน มหาวิทยาลัยในตัวเมืองก็มี หนูไปสอบที่นั่นก็ได้ อีกอย่างหนูก็ไม่ชินที่ต้องไปอยู่ในกรุงเทพซะด้วยสิ" "พี่ไอร์ของเอ็งเลือกแต่สิ่งดีๆให้ อย่าไปขัดความตั้งใจเลย ข้ารู้ว่าเอ็งอยากเรียนสูงๆ จะมาถอยง่ายๆเพียงเพราะข้าเป็นแบบนี้เหรอไง แรกๆมันก็ยังไม่ชินกันทั้งนั้นแหละ แต่ข้าก็อยากเห็นลูกตัวเองประสบความสำเร็จเหมือนกัน ข้ารอวันที่เอ็งใส่ชุดรับปริญญานะน้อยหน่า ข้าก็อยากอวดลูกสาวแสนแก่นแก้วกับคนอื่นบ้าง" ฉันมองหน้าแม่ด้วยสายตาที่พร่ามัว ไม่ใช่แค่ฉันที่เหมือนจะร้องไห้ แต่คนตรงหน้าก็นัยส์ตาแดงก่ำ ถึงจะพูดเหมือนไม่เป็นไรแต่น้ำเสียงที่พูดออกมาก็รู้ว่ากำลังพยายามข่มอาการสั่นไว้ คงพยายามกลั้นเอาไว้ไม่อยากให้ฉันเห็น ฮึก ฮรือ... "หนูจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง หนูเรียนจบแล้วจะมาเป็นคุณครูให้กับเด็กๆที่นี่ จะเอาความรู้มาสอนคนที่นี่ หนูจะตั้งใจเรียน" ฉันสวมกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ออกมาทันที และเชื่อว่าคนที่ฉันกอดก็คงร้องไห้เหมือนกัน ฉันกับแม่ไม่ค่อยแสดงความซึ้งต่อกันมากนัก ส่วนใหญ่จะพูดแดกดันแบบตลกมากกว่า ทั้งฉันและแม่ก็ไม่อยากให้ใครคนหนึ่งต้องเครียด พอพูดเหน็บแนมกันมันทำให้เราสองคนแม่ลูกสนิทใจกันมากขึ้น ทำให้ฉันกล้าที่จะพูดคุยกับแม่ในทุกเรื่อง พอได้ทำซึ้งโผลเข้ากอดไม่แปลกที่ทั้งฉันและแม่จะพรั่งพรูน้ำตาออกมา "เอ้า เอ้า...สองแม่ลูกคู่นี้ยืนกอดกันร้องไห้เป็นอะไรละ" "น้อยหน่ามันจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพจ้ะพี่ผู้ใหญ่ คุณไอรีนกับคุณโนอาร์ส่งเสียค่าเทอมให้ทุกอย่าง" "นั่นมันเรื่องดีไม่ใช่เหรอวะ เอ็งสองคนจะมาร้องไห้ทำไม เลิกร้องได้แล้วและควรประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเจ้าน้อยหน่าจะไปเรียนในกรุงเทพ ลูกหลานบ้านเราไม่มีใครได้ไปเรียนกรุงเทพสักคน เอ็งควรดีใจนะเพ็ญ เอ็งแข็งแกร่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เรื่องแค่นี้ทำไมถึงมีน้ำตาไปได้” "ส่วนเอ็งน้อยหน่าไม่ต้องร้องเลย ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี ทุกคนที่นี่รอความสำเร็จของเอ็งอยู่ คุณณรงค์ คุณโนอาร์ และคุณไอรีนดีกับบ้านชาวดอยจนไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้ เอ็งก็อย่าให้คุณๆเขาผิดหวัง" ใบหน้าหวานพยักหน้าและปาดน้ำตาออกจากหน้าอย่างลวกๆเมื่อฟังคำสอนของผู้ใหญ่บ้านชาวดอยที่เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ "หนูจะไม่ร้องไห้แล้วจ้ะลุงผู้ใหญ่ เดือนหน้าหนูก็จะไปแล้วระหว่างที่หนูไม่อยู่ลุงผู้ใหญ่ดูแลแม่ด้วยนะจ๊ะ" "ข้าไม่เคยทิ้งคนในหมู่บ้านเราอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ข้าที่จะดูแลแม่เอ็ง ทุกคนที่นี่เอ็งก็รู้ว่าเราอยู่กับแบบครอบครัวใหญ่ สบายใจเรื่องพวกนั้นได้เลย" ฝ่ามือที่เหี่ยวย่นของผู้ใหญ่บ้านลูบหัวเด็กสาวเบาๆ ____________ 1 เดือนต่อมา เช้ามืดของวันเดินทาง มือเรียวเล็กพนมมือไหว้ขอบคุณและบอกลาทุกคนในหมู่บ้านที่มายืนรอส่งฉันตั้งแต่ตีห้า นัยส์ตาแดงก่ำพยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นขึ้นมาคลอเบ้า ทุกคนรู้เรื่องราวของฉันดีและดีใจที่ได้เห็นคนในหมู่บ้านจะได้เรียนสูงๆ พวกเราอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่เวลามีเรื่องอะไรก็จะทั่วถึงกันหมด และฉันก็เป็นคนแรกของหมู่บ้านที่ได้เรียนมหาวิทยาลัย "หนูไปก่อนนะจ๊ะ กว่าจะลงไปข้างล่างและต้องไปบขส.คงใกล้เวลารถทัวร์ออกพอดี" "เอ็งจะไม่บอกคุณโนอาร์กับคุณไอรีนหน่อยเหรอวะ อย่างน้อยทั้งสองคนจะได้ส่งคนมาคอยดูแลเอ็ง" "ไม่ต้องหรอกจ้ะลุงผู้ใหญ่ หนูคุยกับแม่แล้วว่าไม่อยากรบกวนทั้งสองคน แค่หนูรู้ว่าค่าเทอมเป็นแสนก็เกรงใจมากจะแย่อยู่แล้ว เอาไว้หนูถึงกรุงเทพแล้วหนูจะโทรหาพี่ไอร์เองจ้ะ" "เอาไงก็เอา เอ็งก็อย่าลืมโทรมาหาข้าละ แม่เอ็งเขาไม่มีโทรศัพท์ เอ็งโทรมาข้าจะให้คุยกับแม่เอ็ง" ฉันพยักหน้าตอบรับคำของลุงผู้ใหญ่ รู้ดีว่าหมู่บ้านเรามีโทรศัพท์กลางไว้ที่บ้านผู้ใหญ่เพียงเท่านั้น การที่ฉันมีโทรศัพท์ไม่ใช่เพราะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรืออยากมีเหมือนเพื่อน แต่เพราะพี่ไอรีนเป็นคนซื้อให้เวลามีเหตุฉุกเฉินฉันจะได้โทรหาพี่ไอร์ได้ทันเวลา และคอยเป็นหูเป็นตาช่วยลุงผู้ใหญ่อีกทีหากเกิดเรื่องอะไรที่กะทันหัน "ดูแลตัวเองดีๆละน้อยหน่า ตั้งใจเรียนนะลูก" ฟุบ เด็กสาวร่างเล็กโผลเข้ากอดแม่ด้วยความคิดถึง แค่เมื่อวานฉันก็ร้องไห้กับแม่จนตาบวมมามากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้วันนี้อีก "หนูสัญญาว่าจะเอาความสำเร็จมาบ้านเรานะจ๊ะ ถ้าปิดเทอมหนูจะกลับมาหาแม่นะ" "เออ…เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วอย่าลืมโทรมา ข้าจะรอโทรศัพท์เอ็งที่บ้านผู้ใหญ่เนี่ยแหละ" ผู้เป็นแม่ลูบหัวลูกสาว พยายามข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือ ไม่อยากให้ลูกต้องเป็นห่วง สายตามองลูกน้อยที่ห่างออกไปเรื่อยๆอย่างใจหาย "เดินทางปลอดภัยนะน้อยหน่า" "เดินทางปลอดภัยนะเด็กแสบของหมู่บ้านชาวดอย" ฉันโบกมือลาทุกคนหลังจากขึ้นรถแล้ว พร้อมกับชะโงกหน้ามายิ้มให้กับทุกคนจนรถโฟร์วิลที่ใช้ขึ้นลงเขาขับออกไปจนมองไม่เห็นทุกคนในหมู่บ้าน ไม่นานน้ำตาก็ไหลอาบสองข้างแก้ม เป็นครั้งแรกที่ตัวเองต้องไกลห่างจากบ้านขนาดนี้ และยังเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะปิดเทอม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD