<5> เวรแล้วไหมล่ะ??

2109 Words
ธามไทเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ยกมือขึ้นมาขยี้ตาอย่างงัวเงียก่อนที่เธอจะหยัดกายลุกขึ้นด้วยความรู้สึกที่ง่วงซึมและรู้สึกเจ็บที่ก้น แต่ถึงอย่างนั้นความง่วงก็ทำให้เธอเดินมาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนโดยที่ไม่สนใจร่างสูงของธามไทเลยแม้แต่น้อยก่อนที่น้ำเสียงงัวเงียจะเอ่ยตอบธามไทกลับไป “ประตูไม่ได้ล็อกค่ะไอก็เลยเปิดเข้ามา ห้องนั้นน่ากลัวไอไม่กล้านอนคนเดียว” ไออุ่นตอบกลับธามไททั้งๆที่ยังคงหลับตาอยู่ก่อนที่มือบางจะดึงผ้าห่มผืนใหญ่มาห่มพร้อมกับนอนหลับอย่างสบายโดยที่ไม่ได้สนใจธามไทที่ยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความงุนงงเลยแม้แต่น้อย ตอนที่เธอเข้ามาเขาไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดแถมยังคว้าเธอเข้ามากอดราวกับเป็นหมอนข้างที่สำคัญเขายังนอนหลับฝันดีจนกลายมาเป็นฝันร้ายและสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับถีบคนตัวเล็กจนตกเตียงอีก “แต่นี่มันเช้าแล้ว กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้แล้ว” ธามไทบอกไออุ่นที่ยังคงนอนหลับสบายก่อนที่เขาจะขยับเข้าไปใกล้ๆเธอและเขย่าที่ไหล่ของคนตัวเล็กเบาๆเพื่อต้องการปลุกให้เธอกลับไปนอนที่ห้อง ไร้การตอบสนองใดๆจากคนที่กำลังนอนหลับด้วยความง่วงเป็นธามไทเองที่ทนไม่ไหวจนต้องฉุดเธอให้ลุกขึ้นมาจากที่นอน ใบหน้าของไออุ่นปะทะเข้ากับแผ่นอกเปลือยเปล่าของธามไทเข้าเต็มแรงทำให้เธอถึงกับลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้างด้วยเพราะตรงหน้าของเธอคือแผ่นอกเปลือยที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ็กแน่นๆความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจทำเอาหัวใจดวงน้อยของไออุ่นเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นจนเธอกลัวว่าธามไทจะได้ยินเข้า “กลับไปนอนที่ห้องตัวเองได้แล้ว หรือจะให้ฉันกล่อมนอนสักหนึ่งยกก่อนถึงจะยอมกลับไป” คำพูดที่คล้ายจะเป็นการขู่ก็ไม่ใช่เป็นการหยอกล้อก็ไม่เชิงทำให้คนที่กำลังง่วงรู้สึกตื่นเต็มที่ก่อนที่ไออุ่นจะรีบขยับถอยหลังมาเรื่อยๆจนเกือบสุดขอบเตียงและด้วยความไม่ระวังทำให้จังหวะที่เธอถอยหลังไปอีกทำให้เธอกำลังจะหล่นลงจากเตียง ธามไทที่เห็นแบบนั้นรีบยื่นแขนมาดึงกระชากร่างบางให้เข้าสู่อ้อมกอดของเขาทันทีเพราะถ้าเขาไม่ทำแบบนี้มีหวังไออุ่นได้หล่นลงจากเตียงเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน “กลัวฉันกล่อมนอนจนไม่ทันระวังหรือง่วงนอนจนเบลออยากตกลงไปจูบพื้นเป็นรอบที่สองหืม” น้ำเสียงที่แหบพร่าก้มลงมากระซิบข้างใบหูล้อเลียนเธอทำเอาไออุ่นถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย ก่อนที่เธอจะผลักธามไทให้ออกไปห่างๆและรีบลนลานลงจากเตียงนอนโดยที่ไม่พูดอะไรและเปิดประตูกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองทันที ทิ้งให้คนเจ้าเล่ห์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับส่ายหน้าไปมาช้าด้วยความรู้สึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่ดูจะเซ่อซ่าไม่น้อย ปัง!! ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก เมื่อประตูปิดลงไออุ่นก็ยกมือขึ้นมาทาบที่อกด้วยหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้มาก่อนเลยไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นหรือแม้กระทั่งพี่ภูมินทร์ว่าที่คู่หมั้นของเธอก็ตาม แต่กับผู้ชายคนนี้ผู้ชายที่เธอตกเป็นของเขาด้วยความเข้าใจผิดและเขาก็กลายมาเป็นผู้มีพระคุณของเธอในวันนี้ความใกล้ชิดกับเกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจหลายครั้งหลายครา จนหัวใจดวงน้อยๆของเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเวลาที่อยู่ใกล้ชิดกับเขาหรือว่าเธอตื่นเต้นเพราะไม่เคยใกล้ชิดใครขนาดนี้มาก่อนนะ ไออุ่นได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจก่อนที่เธอจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่และหลับตาลงด้วยความง่วง วันนี้เป็นวันหยุดเธอไม่จำเป็นต้องรีบตื่นเพื่อไปโรงเรียนเธอขอนอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่มก่อนก็แล้วกันหลังจากที่ต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้ความรู้สึกเธอแตกสลายไม่น้อย เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงที่ธามไทลุกจากที่นอนมาออกกำลังกายซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะดื่มมาหนักแค่ไหนแต่เรื่องของสุขภาพธามไทไม่เคยละเลยในการดูแลตัวเองเลยสักครั้ง ร่างสูงเหลือบตามองไปยังประตูห้องนอนของไออุ่นก่อนที่เขาจะส่ายหน้าไปมาช้าๆให้กับความขี้เซาของเธอที่สายขนาดนี้คนตัวเล็กก็ยังคงไม่ยอมลุกขึ้นมาจากที่นอน ในขณะที่ธามไทกำลังจะเดินไปนั่งบนโซฟาเพื่อสั่งอาหารเช้าประตูห้องที่ปิดสนิทก็ถูกเปิดออกราวกับว่าคนที่อยู่ข้างในรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังนินทาเธออยู่ ไออุ่นยกมือขึ้นปิดปากที่กำลังอ้าปากหาวอย่างมีมารยาทถึงเธอจะไม่เห็นใครอยู่ตรงนี้ก็ตามแต่พอเธอหันมาอีกทางสายตากลับปะทะเข้ากับร่างสูงสมส่วนที่ท่อนบนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์สวมใส่ ทำเอาคนตัวเล็กรีบหันหน้าหนีไปอีกทางหนึ่งทันทีด้วยความเขินถึงแม้ว่าหน้าท้องของเขาจะเต็มไปด้วยซิกซ์แพ็กน่ามองก็ตาม “แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยนะคะ” ไออุ่นตะโกนบอกคนข้างหลังที่ยกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจก่อนที่เขาจะไม่พูดอะไรและเดินกลับเข้าไปในห้องเงียบๆส่วนไออุ่นเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาเธอก็ค่อยๆหันหลังกลับไปก็ปรากฎว่าธามไทไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว เธอจึงเดินไปนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับหยิบรีโมตขึ้นมาเปิดทีวีดูการ์ตูนก่อนที่ธามไทจะเปิดประตูห้องนอนออกมาด้วยสภาพที่เรียบร้อยพร้อมกับเดินมานั่งลงตรงข้ามกับไออุ่น “ไอหิวจังเลยค่ะ อยากกินน้ำเต้าหูกับปาท่องโก๋” ก้นยังไม่ทันแตะลงบนเบาะไออุ่นก็หันมาบอกธามไทด้วยความหิวอันที่จริงที่เธอตื่นเช้าเพราะเธอหิวข้าวต่างหากล่ะเสียงท้องร้องทำให้เธอไม่สามารถที่จะทนนอนต่อไปได้อีกเธอจึงจำใจต้องลุกขึ้นมาเพื่อขอให้เขาสั่งมื้อเช้าให้ ธามไธพยักหน้ารับช้าๆก่อนที่เขาจะสั่งน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ให้ไออุ่นตามคำขอของเธอ “เอาข้าวผัดปูด้วยนะคะไออุ่นชอบ” มือที่กำลังจะกดสั่งมื้อเช้าถึงกับหยุดชะงักเพราะเมนูที่เพิ่มเข้ามาอย่างกะทันหันของคนตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นมาบอกเขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส ทำเอาคำพูดที่เตรียมจะโวยวายว่าทำไมเธอถึงไม่บอกพร้อมกันถึงกับถูกกลืนหายไปกับความเงียบก่อนที่ธามไทจะพยักหน้ารับและกดสั่งข้าวผัดปูเพิ่มให้ตามคำขอของเธอ รอไม่นานอาหารที่สั่งก็มาส่งซึ่งธามไทสั่งมื้อเช้าไปหลายอย่างทีเดียวส่วนใหญ่แล้วมีแต่เมนูอาหารที่มีผักเป็นส่วนประกอบหลักทั้งสิ้นซึ่งไออุ่นไม่ถูกใจสิ่งนี้เอาเสียเลย เพราะเธอเกลียดการกินผักมาตั้งแต่เด็กในขณะที่ธามไทชื่นชอบการกินผักเป็นชีวิตจิตใจเพราะตอนเด็กๆมารดามักจะชอบทำเมนูที่มีผักให้เขาทานเสมอ “’ง่ำ ง่ำ งำ อร่อยจังเลยค่ะอร่อยกว่าร้านประจำของไออีก” ไออุ่นหันมายกนิ้วให้ธามไทที่เลือกสั่งร้านได้ถูกใจเธอโดยเฉพาะปาท่องโก๋ที่มีรสชาติไม่หวานมากนักแต่กลับกรอบอร่อยเสียจนเด็กสาวชักจะรู้สึกติดใจ อีกทั้งน้ำเต้าหู้ที่หวานกลมกล่อมทำให้เธอรู้สึกสดชื่นมากที่ได้กินของอร่อยแต่เช้า “ของพวกนี้กินมากไม่ดีมีแต่แป้ง น้ำตาล น้ำมัน กินเยอะไประวังโรคภัยจะถามหา” คนที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากเอ่ยเตือนคนที่นั่งอยู่ข้างๆกันก่อนที่ไออุ่นจะย่นจมูกใส่ธามไทอย่างน่ารักทำเอาคนที่เพิ่งส่งข้าวเข้าปากถึงกับชะงักไปอย่างเสียอาการ เพราะท่าทางที่แสดงออกมาของเด็กสาวนั้นล้วนแต่แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติที่ไร้การปรุงแต่งทำให้รู้สึกน่ามองไม่น้อย “กินแต่ผักระวังจะผอมนะคะ เราอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโตต้องบำรุงเยอะๆสิคะถึงจะถูก” พูดจบก็หยิบปาท่องโก๋ชิ้นที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้จิ้มนมข้นหวานก่อนที่จะส่งเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย พร้อมกับยกน้ำเต้าหู้ที่เหลือขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วด้วยความฟินกับมื้อเช้าที่แสนเอร็ดอร่อยถูกใจเธอมาก “ที่เห็นโตๆดูจะมีแค่อย่างเดียวนะที่โตเกินวัย” ธามไทพูดขึ้นมาลอยๆทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยว่าสิ่งที่เขาพูดมามันหมายความว่าอย่างไร จนกระทั่งเธอมองตามสายตาของเขาเธอก็ถึงกับบางอ้อว่าสิ่งที่เขากำลังพูดถึงก็คือนมมิลค์ๆของเธอนั่นเองที่ใหญ่ขนาดคัพCของแท้แม่ให้มา “คนบ้าคนลามกพูดจาไม่น่ารักเลยนะคะ ไอกำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโตมันก็ต้องใหญ่ขึ้นตามวัยอยู่แล้ว” ไออุ่นตอบกลับธามไทด้วยใบหน้าที่งอง้ำอย่างนึกโมโหที่เขามาว่าเธอนมเธอใหญ่เกินวัยเพื่อนบางคนที่โรงเรียนใหญ่กว่าเธอก็มี ในขณะที่ธามไทแอบหัวเราะด้วยความขำขันกับคำพูดของเธอแต่จะว่าไปแล้วก็ไม่แปลกเพราะเด็กมหา’ลัยส่วนใหญ่ขนาดก็ไม่ใช่น้อยๆบางคนก็ของแท้แม่ให้มาบางคนก็ใหญ่เพราะมีดหมอซึ่งเขาก็เข้าใจเพราะทุกคนล้วนอยากที่จะดูดีในแบบของตัวเองกันทั้งนั้น “อืม ก็ถูกของเธออยู่มหา’ลัยแล้วนิก็ไม่แปลกที่จะโตตามวัย” “ใครว่าไออยู่มหา’ลัยคะ ไอเพิ่งเรียนอยู่ชั้นม.6เองนะคะ” พรวดดดดดด!! คำพูดที่ตอบกลับธามไททำเอาน้ำเปล่าที่เขากำลังจะกลืนลงคอถึงกับพุ่งพรวดใส่คนตรงหน้าที่หลับตาลงด้วยความตกใจเมื่อธามไทพ่นน้ำใส่หน้าเธอเต็มๆ “เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะยัยหนูไอเธอบอกว่าเธอกำลังเรียนอยู่ชั้นไหนนะ” ธามไทถามย้ำไออุ่นอีกครั้งด้วยความตกใจและเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาได้ยินนั้นเขาไม่ได้หูฝาดหรือหูแว่วไป มือใหญ่รีบหยิบทิชชูบนโต๊ะมาซับน้ำเปล่าออกจากใบหน้าให้เธอเบาๆอย่างอ่อนโยนก่อนที่ไออุ่นตอบกลับคำถามของธามไท “ไอกำลังเรียนอยู่ชั้นม.6ค่ะ” คำตอบที่ชัดถ้อยชัดคำของไออุ่นทำเอามือที่กำลังซับน้ำให้เธอถึงกับทิ้งลงแนบลำตัวอย่างหมดแรงพร้อมกับเสียงที่ตะโกนก้องอยู่ในหัวของธามไทด้วยความตกใจจนแทบช็อก เมื่อเพิ่งรู้ว่าไออุ่นเป็นแค่เด็กมัธยมไม่ใช่เด็กมหา’ลัยอย่างที่เขาเข้าใจมาตลอด “เวรแล้วไหมล่ะมึงไอ้หมอ” ประโยคนี้ดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวของธามไทตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 27 ปีเขาไม่เคยมีซัมติงจิงกาเบลกับเด็กมัธยมเลยสักครั้งนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองเผลอไปเปิดซิงเด็กมัธยม ที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตเสเพลมาโดยตลอดแต่พอมาปีนี้เขากลับหาเรื่องก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในคุกซะอย่างนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD