INTRO
โรงพยาบาล N
ร่างสูงของธามไทเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความเหนื่อยล้าเพราะวันนี้เขาทำหน้าที่ควงเวรผ่าตัดแทนหมอเพลิงกัลป์ที่หนีไปสวีตกับภรรยาอย่างคุณพยาบาลลูกพีชที่กำลังงอนสามีขั้นสุด โดยที่ทิ้งงานผ่าตัดเอาไว้ให้เขาผู้ชายที่ยังโสดแต่ไม่ซิงทำเอาธามไทถึงกับถอนหายใจแรงๆด้วยความเหน็ดเหนื่อย
แต่ก็นะเรื่องแค่นี้สำหรับเพื่อนสนิทอย่างเพลิงกัลป์แล้วเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอเพราะในยามที่เขาแฮงค์เอาท์จนไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงนอนมาทำงานได้ เพลิงกัลป์ที่กำลังนอนกอดเมียในวันหยุดก็ต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาเข้าเวรแทนเขาเช่นกัน หึหึ ทีใครทีมันอะเนอะศีลเสมอกันแบบนี้ถึงคบกันได้นาน
“เพื่อนเวร เมียงอนทีไรลำบากกูทุกทีเลยเหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย”
ธามไทบ่นเบาๆเพียงลำพังก่อนที่เขาจะเดินตบไหล่ด้วยความเมื่อยขบผ่านเคาน์เตอร์พยาบาลที่สาวๆต่างพากันมองมาที่เขายิ้มๆแต่ธามไทกลับไม่ได้สนใจใครเลยสักนิด ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจผู้หญิงนะเพราะเขาน่ะมันเสือตัวพ่อเขาก็แค่ไม่อยากมีปัญหาเรื่องชู้สาวในที่ทำงานก็เท่านั้นเอง เพราะถ้าให้เขาคบเป็นตัวเป็นตนเขาคงโบกมือลาแต่ถ้าชั่วคราวทีละหลายๆคนแบบนั้นธามไทคนนี้พร้อมเสมอครับ
ปึก
“โอ๊ย!!”
เมื่อเดินมาถึงทางเลี้ยวไม้เท้าในมือของกฤษฎิ์ก็ฟาดลงบนหลังของธามไทอย่างแรงทำเอาคุณหมอหนุ่มถึงกับสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะไม้เท้าที่ฟาดลงมานั้นแรงไม่ใช่เล่นราวกับว่าคนฟาดตั้งใจหวดหลังเขาเต็มที่อย่างไรอย่างนั้นเลย
“เจ็บนะตาแก่บ้า”
ธามไทตวัดเสียงใส่ท่านประธานโรงพยาบาลด้วยความโกรธเคืองที่มาเล่นซ่อนแอบตีเขาทีเผลอในขณะที่กฤษฎิ์เงื้อไม้ขึ้นสูงอย่างต้องการตีธามไทซ้ำอีกรอบ แต่ธามไทที่รู้ทันกลับวิ่งหนีกฤษฎิ์วนไปวนมาทำเอากฤษฎิ์ถึงกับหน้ามืดเลยทีเดียวก่อนที่เขาจะหยุดยืนนิ่งๆแล้วหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ
“แกเป็นหมอนะเจ้าธาม แต่ทำไมแกถึงไปทำสีผมสีนี้มา มันผิดระเบียบแกไม่รู้หรือยังไงห่ะ”
กฤษฎิ์ชี้หน้าด่าธามไทด้วยความโมโหเมื่อคุณหมอสุดหล่อแต่ปากหมาคู่หูของหมอเพลิงกัลป์ที่เขาตั้งฉายาให้ว่าไอ้แฝดหมอปากหมาทำอะไรไม่เคยถูกระเบียบเลยสักครั้ง ไม่รู้มันเรียนจบหมอมาได้ยังไงด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งที่โรงพยาบาลในต่างประเทศต่างก็ให้การยอมรับ
“ก็สีนี้มันสวยอะลุงไทม์ชอบ”
ธามไทตอบคำถามกฤษฎิ์อย่างกวนๆตามสไตล์ส่วนกฤษฎิ์ได้แต่ยกมือขึ้นชี้หน้าธามไทด้วยความโมโห แหกทุกคอก แหกทุกกฎ ไม่รู้ตอนเกิดมามันกินนมผิดหรือเปล่า โตมาถึงได้ดื้อเหมือนวัวเหมือนควายที่บอกไม่รู้จักฟังยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหกับวีรกรรมความแสบของเด็กคนนี้ที่ทำเอากฤษฎิ์หัวจะปวดไม่เว้นแต่ละวัน ยังดีหน่อยที่ผลงานการผ่าตัดนั้นถือว่าเป็นเลิศยังพอทดแทนกันได้จนเขาต้องยอมลงให้ในบางเรื่อง
“แต่มันผิดกฎระเบียบของโรงพยาบาล มีหมอที่ไหนเขาทำผมสีนี้มาทำงานบ้างแกลองแหกตาดูรอบๆตัวแกสิมีแค่แกคนเดียวเท่านั้นแหละที่แหกคอกบอกไม่รู้จักฟัง”
“โถ่ ลุงหมอครับ ผมก็ยังวัยรุ่นอยู่เลยนะครับ อีกอย่างผมสีนี้ก็ออกจะเข้ากับเบ้าหน้าหล่อๆของผมสาวๆมองแล้วโคตรแจ่มว้าวเลย”
“แจ่มแมวน่ะสิไม่ว่าไอ้หมอขี้ดื้อ โอ๊ย ความดันจะขึ้น นี่ตกลงแกย้ายมาทำงานหรือมาสร้างปัญหาให้ฉันกันแน่นะเจ้าไทม์ เฮ้อ”
กฤษฎิ์ทั้งว่าทั้งถอนหายใจให้ธามไทที่ยักไหล่น้อยๆด้วยความทะเล้นก่อนที่ธามไทจะสบโอกาสตอนที่กฤษฎิ์เผลอใส่เกียร์หมาวิ่งหางจุกตูดกลับไปที่ห้องทำงานทันที ทำเอากฤษฎิ์ได้แต่ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงด้วยความหัวเสียกับความเจ้าเล่ห์ของธามไทที่คนแก่อย่างเขาตามไอ้เด็กบ้าที่มีศักดิ์เป็นหลานไม่เคยทันสักที
“ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้เจออีกนะพ่อจะหยุมหัวโขกกำแพงให้ดู”
กฤษฎิ์พึมพำเสียงเบาก่อนที่หันหลังเดินกลับไปที่ห้องทำงานเพื่อเคลียร์งานที่ค้างคาให้เสร็จภายในวันนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าที่เขาควรจะเลิกงานกลับไปหาเมียที่สุดที่รักได้แล้ว แต่ก็นะนี่คือโรงพยาบาลของเขาจะให้เขากลับไปนอนตากแอร์สบายๆมันก็คงไม่ใช่
ผับ
เมื่อถึงเวลาที่ธามไทต้องการผ่อนคลายเขาก็สลัดเสื้อกาวน์ทิ้งและหันมาสวมชุดธรรมดาๆที่ดึงดูดสายตาของสาวๆที่ออกมาท่องราตรีในค่ำคืนนี้ได้เป็นอย่างดี ธามไทเดินเข้าผับเข้ามาด้วยความคุ้นเคยมานั่งลงบนโซฟาที่ประจำของเขาก่อนที่เขาจะสั่งเครื่องดื่มที่ค่อนข้างแรงเพราะเขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าคืนนี้เขาจะไม่กลับไปนอนที่คอนโด เพราะที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าการกลับไปนอนเหงาๆคนเดียวที่คอนโดเสียอีก
ธามไทนั่งดื่มไปเรื่อยๆโดยที่ไม่สนใจสาวๆที่กำลังมองมาที่เขาอย่างเชิญชวนหรือแม้แต่สาวๆที่ทำใจกล้าเดินมาขอชนแก้วเขาถึงโต๊ะ ตอนนี้เขาแค่อยากนั่งดื่มเงียบๆคนเดียวเท่านั้นดื่มเสร็จเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากันอีกทีเพราะจุดประสงค์ของการมาที่นี่ไม่ใช่แค่มาดื่มเพียงอย่างเดียวหากแต่เขาต้องการมาปลดปล่อยความต้องการทางร่างกายที่ไร้พันธะที่นี่ด้วย
อีกทางด้านหนึ่ง
“ไอ แกไม่ลองดื่มหน่อยเหรอ”
“นั่นสิไอ ค็อกเทลของที่นี่รสชาติละมุนลิ้นมากแกรับรองว่าถ้าแกได้ลองแล้วจะติดใจ”
อันดากับแนนสองเพื่อนซี้สายปาร์ตี้ถามเพื่อนสาวคนใหม่ที่หน้าสวยราวกับตุ๊กตาอย่างต้องการเชิญชวนให้ดื่มด้วยกัน ส่วนคนที่ถูกชวนได้แต่ส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกับมองไปรอบๆผับด้วยความไม่คุ้นเคย เพราะนี่คือครั้งแรกที่ไออุ่นมาเหยียบสถานที่อโคจรแห่งนี้ตามคำชวนของอันดากับแนนซึ่งเป็นเพื่อนที่ไออุ่นเพิ่งรู้จักได้ไม่นานหลังจากที่ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนใหม่
และตอนนี้ไออุ่นก็กำลังมีปัญหากับบิดาทำให้เธอเลือกที่จะประชดบิดาด้วยการหนีออกจากบ้านมาพักอยู่กับอันดาชั่วคราว โดยที่บิดาของเธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเธอมาพักอยู่กับใครเพราะอันดาเองก็ชอบไปนอนค้างที่บ้านของไออุ่นบ่อยๆพอๆกับที่ไออุ่นเองนั้นก็เข้านอกออกในบ้านของอันดาเป็นประจำเช่นกัน
“อันดา แนน พวกแกอย่าดื่มเยอะสิเดี๋ยวก็เมาหรอก”
ไออุ่นเตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอสามคนเพิ่งจะอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกเอง แต่ที่พวกเธอเข้ามาเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้ได้เพราะบอสแฟนของอันดาเป็นคนพาเข้ามาเนื่องจากรู้จักกับคนที่ทำงานอยู่ที่นี่ พวกเธอทั้งสามคนก็เลยเข้ามาได้โดยไม่ต้องถูกตรวจบัตรเพราะที่นี่เขาอนุญาตให้เด็กที่มีอายุ 22 ปีขึ้นไปเข้ามาเท่านั้น
“เมาแล้วยังไง อันดามีพี่บอสอยู่ด้วยทั้งคนแนนเองก็มีพี่อิฐยังไงพวกเราก็กลับบ้านได้อยู่แล้วไอไม่ต้องห่วง เมาแค่ไหนก็ถึงบ้านแน่นอนอันดารับประกัน”
อันดาบอกไออุ่นอย่างไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิดเพราะเธอมาเที่ยวที่นี่กับแนนเป็นประจำอยู่แล้วถ้าเมาก็แค่นอนค้างที่นี่หรือไม่ก็ไปนอนค้างที่คอนโดแฟนของพวกเธอแค่นั้นเองไม่เห็นจะยาก ในขณะที่ไออุ่นเริ่มนั่งไม่ติดที่และรู้สึกอยากจะกลับบ้านเต็มทนเพราะเธอไม่ค่อยชอบสายตาของพี่บอสและพี่อิฐที่มองมาที่เธอเลยสักนิด
“น้องไอจะไม่ลองชิมหน่อยเหรอครับอร่อยนะ มันไม่ได้ขมอย่างที่ใครๆเขาว่าเลยไม่อย่างนั้นอันดากับแนนก็คงไม่สั่งมาดื่มหลายแก้วขนาดนี้”
บอสเอ่ยชวนไออุ่นด้วยสายตาที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ทำให้ไออุ่นรีบส่ายหน้าปฏิเสธก่อนที่อันดาจะยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้าไออุ่นที่มองเพื่อนด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ ในเมื่อเธอปฏิเสธไปแล้วทุกคนก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าเธอไม่อยากดื่มแต่นี่ทำไมอันดาถึงยังดื้อรั้นยื่นแก้วมาตรงหน้าเธออีก
“ลองหน่อยนะไอมันอร่อยจริงๆแกเชื่อเราสิ เนี่ยอะค็อกเทลผสมเหล้าแค่นิดเดียวเองหวานหอมอร่อยมากเมนูโปรดของอันดากับแนนเอง น้านะ ลองหน่อยนะไอ น้าเพื่อนรักจ๋า”
อันดายังคงคะยั้นคะยอให้ไออุ่นดื่มค็อกเทลให้ได้ดวงตากลมโตของคนที่อยู่ตรงหน้าพยายามอ้อนไออุ่นสุดฤทธิ์ทำเอาคนที่ไม่เคยคิดที่จะลองสุราหรือของมึนเมามาก่อนถึงกับยอมยื่นมือไปรับแก้วเหล้าตรงหน้ามาถือไว้ ท่ามกลางความพึงพอใจของเพื่อนๆและบอสกับอิฐที่หันมาสบตากันอย่างเจ้าเล่ห์ร้าย
ไออุ่นค่อยๆยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มด้วยมือที่สั่นระริกเพราะเธอไม่ได้เต็มใจที่จะดื่มเลยสักนิดหากแต่เธอทนแรงรบเร้าจากเพื่อนไม่ไหวต่างหากล่ะ เธอจึงจำใจต้องรับมาดื่มเพื่อตัดความรำคาญโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเหล้าที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ที่หอมหวานนั้นเต็มไปด้วยอันตรายที่เธอมองไม่เห็น
“หมดแก้ว หมดแก้ว หมดแก้ว”
เสียงปรบมือมาพร้อมกับเสียงเชียร์จากอันดาและแนนรวมไปถึงบอสกับอิฐเองที่ก็ปรบมือเชียร์ให้ไออุ่นที่กำลังทำหน้าพะอืดพะอมเพราะไม่คุ้นเคยกับรสชาติของเครื่องดื่มที่ขมต้นแต่กลับหวานติดปลายลิ้นเลยสักนิด จนกระทั่งไออุ่นกลั้นใจดื่มเหล้าจนหมดแก้วทุกคนถึงกับปรบมือเสียงดังให้ไออุ่นราวกับว่าเธอทำเรื่องที่น่ายินดีสำเร็จ หากแต่ความเป็นจริงแล้วมันคือเรื่องที่ไม่สมควรที่จะทำด้วยซ้ำของเด็กสาววัยเพียงสิบแปดปีอย่างเธอ
“แกเก่งมากเลยไอเป็นไงอร่อยเหมือนที่ทุกคนบอกไหมล่ะ”
แนนถามไออุ่นที่ส่ายหน้าไปมารัวๆก่อนที่ไออุ่นจะรีบหยิบน้ำเปล่าตรงหน้าขึ้นดื่มเพื่อกลบความขมที่ยังคงมีอยู่ให้ค่อยๆจางหายไป พร้อมกับความรู้สึกมึนที่ศีรษะเล็กน้อยที่เริ่มเข้ามาทักทายเธอให้มองภาพที่อยู่ตรงหน้าพร่ามัวไม่ชัดเจนเหมือนเดิมอีกต่อไป
“หึ คออ่อนเสียจริงนะแม่สาวน้อยไร้เดียงสา”
แนนพึมพำเสียงเบาด้วยความหมั่นไส้คนที่กำลังสะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ความมึนดวงตาที่เคยเป็นมิตรบัดนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังคนตรงหน้า แท้ที่จริงแล้วเธอกับอันดาไม่ได้นิยมชมชอบอยากมีไออุ่นเป็นเพื่อนเลยสักนิดแต่ที่พวกเธอเข้ามาตีสนิทกับไออุ่นและคบเป็นเพื่อนนั่นเพราะว่าเธอจะหาโอกาสกลั่นแกล้งไออุ่นต่างหากล่ะ
ก่อนหน้าที่ไออุ่นจะย้ายมาอันดากับแนนคือผู้หญิงที่รุ่นน้องชายหญิงต่างก็ชื่นชมว่าสวยและน่ารักมากที่สุดของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่พอไออุ่นย้ายเข้ามาเท่านั้นแหละทุกคนต่างก็พากันหันไปชื่นชมไออุ่นว่าสวยน่ารักและเรียนเก่งกว่าพวกเธอที่ถูกเรียกว่าหัวกะทิของโรงเรียนเสียอีก
เมื่อมีคนที่โดดเด่นและเก่งกว่าคนที่เคยเป็นที่หนึ่งอย่างอันดากับแนนจึงรู้สึกไม่พอใจและกลายเป็นเกลียดชังไออุ่นที่ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลยสักนิด ก่อนที่อันดากับแนนจะเข้ามาตีสนิทกับไออุ่นจนได้รับความไว้วางใจและยกให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยความไร้เดียงสาและมองโลกสวยงามมาโดยตลอด โดยที่ไออุ่นไม่รู้เลยว่าแผลในใจที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นมาจากฝีมือของคนที่เธอเรียกว่าเพื่อนสนิทอย่างเต็มปากเต็มคำ
“เมาแล้วมั้งนั่น”
อิฐมองไออุ่นที่เอนตัวไปมาอย่างไม่สามารถประคองตัวเองให้นั่งนิ่งๆได้ก่อนที่อันดาจะยกยิ้มมุมปากด้วยความสะใจในที่สุดเวลาที่เธอรอคอยก็เดินทางมาถึงสักที ไออุ่นไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ความสวยและความเก่งของเธอต่างหากที่ผิดเธอถูกสอนมาให้เป็นที่หนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนที่ถึงแม้ว่าเธอจะชอบเที่ยวแต่เธอก็ทำมันออกมาได้ดีตลอด
แต่พอไออุ่นเข้ามาทุกอย่างที่เคยเป็นของเธอก็ถูกไออุ่นแย่งไปไม่ว่าจะเป็นลำดับที่หนึ่งของชั้นปีหรือความสวยที่อันดามั่นใจในตัวเองมาตลอดว่าเธอสวยและน่ารักที่สุด แต่ไออุ่นกลับมาแย่งมันไปอย่างง่ายดายในขณะที่เธอพยายามแทบตายเพื่อที่จะเป็นที่หนึ่งเพื่อให้มารดาและคนในโรงเรียนชื่นชมเธอ ที่หนึ่งของโรงเรียนต้องเป็นของเธอเท่านั้นคอยดูสิถ้าไออุ่นเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันเข้าไปเธอจะยังกล้ามาโรงเรียนอีกไหม
“จัดการเลยค่ะพี่บอส”
อันดาหันมาบอกแฟนหนุ่มที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนที่บอสจะลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาคนรู้จักที่มีหน้าที่คล้ายกับแม่เล้าคอยหาเด็กส่งให้แขกที่มาเที่ยวที่นี่
“แพงไปป่าววะบอสสามหมื่นเนี่ย ก็แค่เด็กมัธยมที่เอ๊าะๆอยู่แค่นั้นเองไม่ได้มีดีไปกว่าเด็กของเจ้ที่ลีลาเด็ดๆตรงไหนเลย”
มินตรามองภาพสาวน้อยหน้าตาน่ารักสดใสที่อยู่บนหน้าจอมือถือของบอสก่อนที่บอสยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้ว่ามินตราต้องการต่อรองราคาให้ลดลงมาอีก ถึงไออุ่นจะเด็กแต่ก็เด็ดตรงที่ซิงนี่แหละที่จะทำให้เขาได้เงินตามที่ตกลงกับเจ้มินไว้
“ถึงน้องมันจะไม่เด็ดเท่าพี่ๆเขาแต่น้องมันซิงนะเว้ยเจ้ ใครบ้างจะไม่ชอบสาวซิงๆบอสเองยังอยากเปิดซิงน้องมันเลยติดแค่ว่าน้องมันเป็นเพื่อนอันดาแค่นั้นเอง น้านะเจ้ น้องมันร้อนเงินเพิ่งหนีออกมาจากบ้านตัวเปล่าถือว่าช่วยๆเด็กมันไปนะเจ้นะ”
บอสปรุงแต่งคำพูดขึ้นมาเพื่อให้ไออุ่นดูน่าสงสารซึ่งมินตราเองที่พอได้ยินว่าที่ไออุ่นต้องทำเรื่องแบบนี้เพราะไม่มีเงินก็เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาในทันที แต่อีกใจหนึ่งก็เกิดความรู้สึกโลภที่เธอจะเอาไออุ่นไปต่อรองราคากับแขกในวันนี้ซิงๆแบบนี้แสนหนึ่งก็คงไม่มีใครว่าแพง
“ตกลงสามหมื่นดีล เดี๋ยวเจ้ขอหาแขกก่อนถ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวค่อยพาน้องขึ้นไปรอแขกที่ห้อง”
มินตรายอมตอบตกลงเพราะถูกความโลภครอบงำในที่สุดก่อนที่บอสจะพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มและรับเงินจากมินตราพร้อมกับเดินกลับมาที่โต๊ะทันที
“เรียบร้อยจ้ะคนสวยของพี่”
บอสยื่นหน้าไปกระซิบชิดใบหูของอันดาก่อนที่เขาจะขบเม้มเบาๆทำเอาอันดาถึงกับขนลุกซู่ด้วยความสยิว ก่อนที่อันดาจะค่อยๆหันมาและกดจูบลงเบาๆที่มุมปากของบอสพร้อมกับยกมือขึ้นลูบไล้แผงอกแกร่งไปมาเบาๆอย่างยั่วยวน
“พี่บอสของอันดาน่ารักที่สุดเลยเดี๋ยวคืนนี้อันดาจะพาทัวร์สวรรค์ให้ฉ่ำปอดไปเลยค่ะ”
อันดากระซิบบอกบอสด้วยรอยยิ้มหวานก่อนที่ทั้งคู่จะคลอเคลียจูบกันและเริ่มล้วงมือเข้าไปในเสื้อของกันและกันทำเอาไออุ่นที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับตัวชาวาบด้วยคิดไม่ถึงว่าเพื่อนสาวของเธอจะกล้าทำประเจิดประเจ้อกับแฟนต่อหน้าต่อตาเธอที่กำลังรู้สึกมึนหัวจนแทบลุกไม่ขึ้น
แต่พอเธอหันมามองข้างกายเธอกลับแทบช็อกยิ่งกว่าเพราะแนนกับพี่อิฐเองก็ไม่ได้ต่างจากคู่ของอันดาเลยสักนิดคนทั้งคู่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มพร้อมกับล้วงจับกันอย่างไม่รู้สึกแคร์หรืออายเธอเลยสักนิด อยู่ๆความรู้สึกไว้วางใจในตัวคนที่เธอเรียกว่าเพื่อนสนิทก็ค่อยๆหายไปเกิดเป็นความกลัวเข้ามาแทนที่จนไออุ่นถึงกับน้ำตาคลอ ก่อนที่ร่างกายของเธอจะเริ่มรู้สึกแปลกๆแต่ถึงอย่างนั้นไออุ่นก็ทำได้เพียงแค่นั่งกระสับกระส่ายมาด้วยความรู้สึกกลัวจับใจ
“เรียบร้อยครับคุณไทม์นี่กุญแจห้องครับ”
วัตรเด็กในผับที่คุ้นเคยและสนิทสนมกับธามไทเป็นอย่างดีเดินเอากุญแจห้องมาให้ธามไทที่รับไปถือไว้ ก่อนที่เขาจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นกระดกจนหมดแก้วและเดินช้าๆขึ้นไปบนห้องที่จะกลายเป็นสนามรักชั่วคราวของเขาในไม่อีกกี่นาทีข้างหน้าทันที
“ไอแกเมามากแล้วเดี๋ยวอันดาพาไปนอนพักก่อนนะ”
เมื่อเจ้มินตราเดินเข้ามาบอกให้ส่งไออุ่นไปให้แขกอันดาก็รีบเข้ามาประคองกอดเพื่อนสาวที่กำลังนั่งมึนจนไม่สามารถประคองสติได้ อีกทั้งอาการกระสับกระส่ายที่กำลังเกิดขึ้นกับไออุ่นทำให้เธอรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก
“อันดา ไออยากกลับบ้าน”
ไออุ่นเงยหน้าขึ้นบอกอันดาที่ยิ้มหวานเคลือบยาพิษให้ไออุ่นก่อนที่อันดาจะแสร้งพยักหน้ารับแล้วหันไปเรียกแนนให้มาช่วยเธอประคองไออุ่นขึ้นไปส่งแขกที่ชั้นบน
“โอเคจ้ะไอ แต่ก่อนกลับไอไปนอนพักก่อนนะเดี๋ยวอันดากับแนนดื่มเสร็จแล้วจะรีบขึ้นไปรับไอกลับบ้านเลย”
อันดาบอกไออุ่นเสียงหวานก่อนที่เด็กสาวทั้งสองคนจะรีบช่วยกันประคองไออุ่นขึ้นไปที่ห้องของแขกที่เจ้มินตราบอกมา เมื่อเดินขึ้นมาจนถึงหน้าประตูห้องแนนก็เคาะประตูห้องสามครั้งประตูที่ปิดสนิทก็ถูกเปิดออกใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เปิดประตูออกมาทำเอาอันดากับแนนถึงกับนิ่งอึ้งไปอย่างตะลึงกับความหล่อของคนตรงหน้า
ธามไทขมวดคิ้วมุ่นมองเด็กสาวทั้งสองคนที่กำลังประคองอีกคนที่คอพับคออ่อนอยู่ด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้วสาวๆที่เขาเสียเงินดีลมาจะเดินขึ้นมาเพียงลำพังแต่สาวน้อยคนนี้สภาพราวกับดื่มเข้าไปมากจนเพื่อนต้องหิ้วปีกขึ้นมาส่ง แต่เอ๊ะ!!หรือเด็กๆพวกนี้จะเคาะประตูผิดห้องกันนะ
“อะ เอ่อ พวกหนูพาเพื่อนมาส่งค่ะเจ้มินบอกให้พวกหนูพาไอมาส่งที่ห้อง เอ่อ ห้อง 906 ค่ะ”
แนนรีบบอกพี่ผู้ชายหน้าตาดีที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนที่อันดาจะผลักไออุ่นเข้าสู่อ้อมกอดของธามไทที่ต้องรีบอ้าแขนรับเพราะเด็กสาวเหมือนจะเมามากจนไม่สามารถยืนให้ตรงด้วยตนเองได้ในตอนนี้
“อื้อ อันดาพาไอกลับบ้านทีไออยากกลับบ้าน”
ไออุ่นที่อยู่ในอ้อมแขนของธามไทร้องขึ้นมาเสียงเบาทำเอาแนนกับอันดาได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความตกใจเพราะกลัวเพื่อนจะได้สติขึ้นมาและโวยวายจนแผนของพวกเธอล่มไม่เป็นท่า
“เอ่อ พวกเราฝากเพื่อนด้วยนะคะพี่พอดีเป็นครั้งแรกไอก็เลยดื่มย้อมใจจนเมายังไงพวกเราขอให้พี่มีความสุขกับไอในค่ำคืนนี้นะคะ บายค่ะ”
เป็นอันดาที่รีบชิงพูดก่อนที่ไออุ่นจะเผลอพูดอะไรออกมามากกว่านี้พอจบประโยคทั้งคู่ก็ก้มหัวให้ธามไท ก่อนที่อันดาจะจูงมือแนนและรีบพากันเดินลงมายังชั้นล่างทันทีโดยที่ไม่ได้นึกห่วงไออุ่นที่อยู่กับผู้ชายแปลกหน้าเลยสักนิด ลับหลังสองสาวที่พากันวิ่งลงไปข้างล่างแล้วธามไทก็ตวัดแขนอุ้มร่างบอบบางของไออุ่นขึ้นในอ้อมแขนทันทีก่อนที่เขาจะอุ้มเธอมาวางลงบนเตียง
เส้นผมที่ปิดใบหน้าของเด็กสาวเอาไว้ทำเอาธามไทรู้สึกขัดใจไม่น้อยก่อนที่เขาจะยื่นมือมาเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าเนียนของคนที่กำลังพยายามลืมตาขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้าเช่นกัน
“เหี้ย น่ารักฉิบหาย”
ธามไทถึงกับอุทานในใจด้วยความตกตะลึงกับความน่ารักจิ้มลิ้มของสาวน้อยที่ตอนนี้ลืมตามองเขาตาแป๋วพร้อมกับเริ่มดิ้นไปมาอย่างกระสับกระส่ายกับความรู้สึกบางอย่างที่ไออุ่นเองก็ไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไรเช่นกัน
“ร้อน อื้อ ไออุ่นร้อน”
ไออุ่นพึมพำเสียงเบาฟังแทบไม่ได้ศัพท์ก่อนที่เธอจะค่อยๆดึงทึ้งเสื้อกล้ามตัวเล็กออกอย่างทุลักทุเลซึ่งธามไทที่กำลังมองอยู่ก็ให้ความร่วมมือในการช่วยถอดเสื้อของสาวน้อยตรงหน้าเป็นอย่างดี เพราะเขาเพียงแค่กระชากทีเดียวเสื้อกล้ามที่เขามองว่ามันคือเศษผ้าก็หลุดออกจากร่างบอบบางอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นหน้าอกอวบใหญ่กลมกลึงที่ทำเอาธามไทถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึกด้วยความกระหายใคร่อยากสัมผัส