EP.12 พี่เลี้ยงคนใหม่
“คุณพ่อขา” ฟ้าใสวิ่งมานั่งตักบิดาก่อนจะยื่นคัพเค้กชิ้นใหม่ให้ หลังจากที่เธอกินจนหมดไปแล้วหนึ่งชิ้น
“ลองทานดูสิคะ พี่ตารีย์ทำอร่อยมาก” นายหัวหนุ่มมีท่าทีอึกอัก
“ลองทานดูสักหน่อยนะคะคุณพ่อ นะคะ” เมื่อเจอบุตรสาวคะยั้นคะยอหนักเข้าเขาก็จำต้องรับคัพเค้กมาถือไว้อย่างยอมจำนน เหลียวมองหญิงสาวที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว จิณณวัตรหัวเราะหึในลำคอ
ดี...จะได้ชิมดูสักหน่อยว่ารสชาติมันจะดีเหมือนหน้าตาที่แต่งเอาไว้เสียน่ากินหรือเปล่า
“ทานสิคะคุณพ่อ” บุตรสาวคะยั้นคะยอพลางคว้าคัพเค้กอีกชิ้นมากัดคำใหญ่
จิณณวัตรยกคัพเค้กขึ้นชิม รสชาติเนื้อเค้กหอมหวานกำลังดี ได้กลิ่นวานิลลาอ่อนๆ แกนกลางของคัพเค้กเป็นแยมสตรอว์เบอร์รีหวานอมเปรี้ยว ชายหนุ่มกัดอีกคำก่อนจะวางลงอย่างไว้มาด
“ก็พอกินได้” เขาพูดออกไปอย่างปากไม่ตรงกับใจ ทั้งที่เขารู้สึกว่ามันช่างเป็นเค้กที่อร่อย หวานกำลังดีเหมาะกับคนไม่ชอบทานของหวานอย่างเขา
“แต่ฟ้าใสว่าขนมเค้กของพี่ตารีย์อร่อยที่สุดในโลกเลย” เด็กสาวยิ้มกว้าง ฐิตารีย์ยืนอึ้งก่อนจะโน้มตัวลงกอดเด็กสาวเอาไว้แน่น โอบกอดเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เด็กหญิงซึ่งไม่เคยได้รับอ้อมกอดของมารดาเลยสักครั้งจนกระทั่งแกอายุเจ็ดปี
“พรุ่งนี้ฟ้าใสขอเอาเค้กของพี่ตารีย์ไปแบ่งให้เพื่อนๆ ทานได้หรือเปล่าคะ”
“ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวมะ...เอ่อพี่จะทำให้ใหม่ เอาไส้บลูเบอร์รีด้วย คุณหนูฟ้าใสชอบหรือเปล่าคะ” หญิงสาวเกือบเผลอเรียกแทนตัวเองว่าแม่ ดีที่ไม่พลั้งปากออกไป เพราะแค่นี้คนตัวโตก็มองเธอด้วยสายตาเขียวขุ่นราวจะกินเลือดกินเนื้อเธอเสียให้ได้
“ว้าว! ชอบค่ะ ฟ้าใสดีใจที่สุดเลย คุณพ่อขาพรุ่งนี้ให้พี่ตารีย์ไปส่งฟ้าใสที่โรงเรียนด้วยนะคะ” ฟ้าใสบอกความจำนงที่ทำให้ผู้ใหญ่อึดอัด
“ว่ายังไงคะคุณพ่อ ให้พี่ตารีย์ไปส่งฟ้าใสนะคะ”
“ตารีย์เป็นแค่พี่เลี้ยงจะให้ไปส่งทำไมล่ะลูก เขามีงานต้องทำไหนจะปัดกวาดถูบ้าน งานยุ่งจะตายไป” ชายหนุ่มพูดพลางมองหญิงสาวด้วยสายตาเย็นชา
“ไม่เห็นแปลกเลยนี่คะ พี่ยิหวายังเคยไปส่งฟ้าใสเลย” เด็กสาวถามออกไปตามประสาซื่อ ซึ่งนั่นทำให้จิณณวัตรมิอาจขัดใจบุตรสาวได้ ครั้นจะดึงดันปฏิเสธ เขาก็ไม่มีเหตุผลพอที่จะมาอธิบายให้บุตรสาวเข้าใจ
“ก็ได้” ทันทีที่เขาอนุญาตฟ้าใสก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ฐิตารีย์ย่อตัวลงนั่งให้ความสูงเท่ากับบุตรสาวตัวเล็ก เธอผูกโบที่ผมให้ฟ้าใสใหม่เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะหลุด
“พี่ตารีย์ใจดีแล้วก็น่ารักจังค่ะ ถ้าคุณแม่ของฟ้าใสยังอยู่จะต้องน่ารักเหมือนพี่ตารีย์แน่ๆ เลย” มือบางที่กำลังผูกโบชะงัก น้ำตารื้นขึ้นเกาะขอบตา ก้มหน้านิ่งไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำใด เพราะเกรงว่ามันจะไปสะเทือนถึงหัวใจ จนมิอาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
จิณณวัตรมองดูภาพตรงหน้า แล้วก็ถอยห่างไปหยุดยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน ยกมือสองข้างขึ้นกอดอกทอดสายตามองออกไปยังท้องฟ้ากว้างราวกับใช้ความคิด สาเหตุที่เธอเปลี่ยนแปลงไปถึงขนาดนี้ส่วนหนึ่งมาจากการสูญเสียความทรงจำจริงน่ะหรือ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่ความทรงจำเลือนหายมันจะทำให้คนคนหนึ่งกลับตัวกลับใจได้ถึงเพียงนี้
“นายหัวคะ” ดวงยิหวาเดินออกมาหาชายหนุ่ม
“คุณหนูดูจะชอบนายหญิงมาก”
“เธอต้องการจะสื่ออะไรยิหวา” ชายหนุ่มตวัดเสียงห้วนอย่างไม่ชอบใจ เพราะสิ่งที่พี่เลี้ยงสาวพูดนั้นเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
“หรือจะเป็นเพราะสายสัมพันธ์แม่ลูกคะนายหัว”
“เลิกเหลวไหลได้แล้วยิหวา ผู้หญิงแบบนั้นไม่เหมาะที่จะเป็นแม่ของใคร ผู้หญิงแพศยา” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดด้วยความกรุ่นโกรธ เคืองแค้นกับสิ่งที่เธอทำกับเขาไว้เมื่อห้าปีก่อน ผู้หญิงเลือดเย็นที่ทำทุกอย่างเพียงเพราะความสุขสบายของตนเอง ผู้หญิงอย่างนี้น่ะหรือที่จะเป็นแม่ของฟ้าใส เขาไม่มีทางยอมเด็ดขาด
“นายหัวไม่คิดถึงจิตใจของคุณหนูฟ้าใสบ้างหรือคะ ว่าเธอจะรู้สึกยังไง หากวันหนึ่งเธอรู้ว่าพี่เลี้ยงตารีย์คือแม่ที่แท้จริงของเธอ นายหัวไม่คิดหรือว่าเธอจะเจ็บปวดสักเพียงไร หาก...”
“หุบปากยิหวา” นายหัวจิณณวัตรตะคอก เขาไม่อาจรับฟังความจริงได้อีกแม้แต่คำเดียว
“ฟ้าใสจะไม่มีทางรู้เรื่องนี้ ใครก็ตามที่บอกเรื่องนี้กับฟ้าใส ฉันจะไม่เลี้ยงเอาไว้เด็ดขาด” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวจริงจัง จนดวงยิหวาผงะถอยด้วยความตกใจ
“แต่ยิหวาคิดว่านายหญิงเธอเปลี่ยนไปมาก” หญิงสาวยังคงออกความคิดเห็น แม้จะรู้ว่าทำให้เจ้านายหนุ่มไม่พอใจ
“เธอจะรู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นยิหวา เมื่อก่อนเธอยังเด็กเกินไปที่จะรับรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นทำอะไรไว้กับพวกเราบ้าง” ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างฉุนเฉียวเดินไปที่รถก่อนจะขับออกไปด้วยความโมโหจึงไม่ได้สังเกตว่ามีรถยนต์สีขาวสัญชาติญี่ปุ่นคันหนึ่งแล่นสวนเข้ามา
ดวงยิหวากำลังปิดประตูรั้วก็ต้องชะงักเมื่อมีรถแล่นมาจอดอยู่ด้านหน้า ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงผิวขาวในชุดสีกากีเดินลงมาจากรถ ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพระเอกละครตอนเย็นทำให้ดวงยิหวาจ้องมองหน้าชายหนุ่มเนิ่นนานอย่างเสียมารยาท
“อะแฮ่ม...” ชายหนุ่มแกล้งกระแอมขึ้นนั่นละดวงยิหวาถึงรู้สึกตัว
“นายหัวไม่อยู่ค่ะนายอำเภอ เพิ่งจะออกไปเมื่อสักครู่นี้เอง” หญิงสาวก้มหน้านิ่งด้วยความเขินอาย เห็นเพื่อนๆ ของเธอต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านายอำเภอคนใหม่หล่ออย่างกับดารา เธอเองเคยเห็นเขาแวบๆ แค่เพียงครั้งสองครั้งเวลามีเทศกาลประจำปี แต่ถ้าเห็นใกล้ชิดตัวเป็นๆ อย่างนี้ละก็ไม่เคยสักที
“ผมไม่ได้มาหานายหัวครับ แต่ผมมาหาคุณฐิตารีย์”
ดวงยิหวาเบิกตากว้าง อ้าปากค้างเมื่อตั้งสติได้ก็หุบปากลงอย่างรวดเร็ว “นายอำเภอมีธุระกับนายหญิงหรือคะ” หญิงสาวอดถามออกไปไม่ได้ จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าทั้งสองไปรู้จักมักจี่กันตั้งแต่ตอนไหน
“ครับ”