ตอนที่14.วันเวลาที่น่าเบื่อ
กล้าตะวันถอนใจแรงๆ เขารู้สึกเบื่ออย่างบอกไม่ถูก ความจริงเขาควรมีความสุขไม่ใช่เหรอ เขาปลดปล่อยความเกลียดออกไปบางส่วน เขาควรสะใจกับชัยชนะที่เพิ่งได้ครอบครอง เขาย่ำยีมัดมุกเพื่อระบายความโกรธไปแล้ว
ผลลัพธ์ที่ได้ กลับไม่เป็นอย่างที่คิด
เวลาแปดปีที่ผ่านมาเขาฝังความเกลียดไว้ในใจ
แต่ความจริงแล้ว เขายังรู้สึกเหมือนเดิม
เขาอยากทะนุถนอมมัดมุกและปกป้องเธอ
เขาอยากได้ยินคำอธิบาย ซึ่งเขาไม่เคยได้ยินคำคำนั้นจากปากของมัดมุกเลย
ความคิดในใจของเขาขัดแย้งกัน เขาอยากให้ตัวเองเข้าใจถูก เขามีสิทธิเกลียดเธอได้ เมื่อมัดมุกทรยศความจริงใจที่เขาหยิบยื่นให้
“เห้อ!!” เสียงถอนหายใจดังสม่ำเสมอ
ภายในห้องทำงานสีสว่าง ที่ทำงานของทายาทวรรธนะภูดิษฐ์กล้าตะวันปั้นหน้ายิ้มแย้ม เขาพยายามโฟกัสกับงาน เพื่อให้ลืมใครบางคน แต่เขากลับไม่เคยทำได้เลย เขาสลัดเงาของมัดมุกกับแววตาตัดพ้อของเธอไม่ได้เลย
“ทัพ กูอยากกินเหล้า”
กล้าตะวันกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิท คำแรกที่เขาพูด ทำเอาปลายสายอึ้งไปนิดหน่อย
“ได้ เดี๋ยวกูชวนไอ้คิมมันด้วย”
“ดี...” กล้าตะวันตอบสั้นแล้วก็กดวาง เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ยกมือกดที่เหนือคิ้ว รู้สึกปวดตุ๊บๆ เหมือนกะโหลกศีรษะจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
มัดมุกเดินเหม่อ เธอได้ของใช้มาหลายชิ้นแต่ก็ไม่ทำให้ความเศร้าหมองในหัวใจลดลง เธอแวะร้านไอครีมคิดจะใช้ของหวานเพื่อทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่เปล่าเลย...ขนาดเธอฟาดไอครีมไปถึงสองถ้วยใหญ่ๆ อาการซึมเศร้าก็ยังไม่ลดลง...เธอจึงเดินคอตก...มานั่งพักขาบนที่นั่งริมทางเท้า จนผู้คนเริ่มหนาตาขึ้นเพราะถึงเวลาเลือกงาน จึงคิดจะกลับไปบ้านตัวเอง...
แต่...
เธอถูกกระชากแรงๆ จนถลา มัดมุกเกือบจะตวาดหากเขาคนนั้นไม่ใช่...
กล้าตะวัน!!
บ้าสิ...คนที่อยู่ห่างกัน และไม่อยากเจอที่สุด กลับได้เจอจังๆ นี่มันวันซวยอะไรกันนะ ทำไมพระเจ้าแกล้งเธอเสียจริง แบบนี้มันจงใจทำให้เธอหวั่นไหวชัดๆ
เธออยากปล่อยวางเรื่องของกล้าตะวันทั้งหมด
“เธอมาทำบ้าอะไรแถวนี้”
มัดมุกแค่นยิ้ม เธอควรเป็นคนถามเขาไม่ใช่เหรอ ผู้ชายที่นั่งบนหอคอยคนนี้ควรอยู่ในพื้นที่ของเขา ไม่ใช่พื้นที่ของเธอ ท่าทางของเขามีสติไม่เต็มร้อย หรือบางที นี่อาจเป็นความในใจของกล้าตะวันที่พยายามเก็บไว้เท่านั้นเอง
“คุณดื่มมาเหรอคะ?” มัดมุกถามเสียงเรียบ
“ฉันไม่ได้เมา” กล้าตะวันตอบ ทั้งที่เขาแทบยืนไม่อยู่ แต่เขาก็ยังยืนกรานว่าเขามีสติเต็มร้อย
“คุณมากับใครคะ?” มัดมุกมองไปรอบๆ เธอหวังว่าจะได้เห็นเพื่อนของเขาสักคน
“ฉันมาคนเดียว” กล้าตะวันตอบเสียงขึ้นจมูก
“เห้อ!! คุณกลับไปเถอะค่ะ ไม่สิ คุณควรหาที่นอน สภาพคุณตอนนี้ขับรถไม่ได้หรอก”
มัดมุกขมวดคิ้ว พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ความมืดโรยตัวลงมา อันตรายเกิดขึ้นได้ทุกนาทีหากคนตรงหน้าเธอประมาท
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงแข็งกร้าวนั่นทำให้มัดมุกอ่อนใจ
“ไม่จำเป็นมั้งคะ มุกรับประกันได้ ต่อให้เกิดอะไรขึ้นในอนาคตมุกก็จะไม่มีทางโผล่หน้าไปให้คุณเห็น”
“เธอนี่นะ” กล้าตะวันยกนิ้วชี้หน้ามัดมุก เขาสะบัดหน้าพยามตั้งสติให้ได้ เขาไม่ควรมีท่าทางย่ำแย่ต่อหน้าเธอ
“มุกกลับก่อนนะคะ ทางกลับบ้านค่อนข้างเปลี่ยว มุกไม่อยากให้ป้าเป็นห่วง”
“ฉันไปด้วย ฉันอยากเจอป้าของเธอเหมือนกัน”
“อย่าดีกว่าค่ะ ป้าคงไม่อยากเจอคุณหรอก” มัดมุกบอกปัด เธอทรงตัวยืน
“เธอไม่ใช่ป้าสักหน่อย เธอจะมารู้ใจป้ายอมได้ไง” กล้าตะวันดึงดัน
“ตามใจคุณเถอะค่ะ” ในเมื่อเธอพยายามแล้วแต่คนตรงหน้าไม่ใส่ใจ เธอก็จะไม่ขัดขวาง
“มันแน่อยู่แล้ว เธอไม่มีทางห้ามฉันได้อยู่แล้ว”
มัดมุกเดินนำ มีกล้าตะวันเดินตามหลังมา เธอขับรถมอเตอร์ไซค์เก่าๆ มาด้วย หากเขาอยากตามนัก มันก็เรื่องของเขา
“ฉันขับรถไม่ไหว ฉันขอไปด้วยได้มั้ย”
มัดมุกควรเอะใจตั้งแต่เห็นชายผู้นี้เดินตามเธอมาแล้ว ความจริงเขาควรเดินตรงไปที่รถยนต์หรูหราของเขาสิ ไม่ใช่เดินตามเธอไปแบบนี้ ตอนที่ได้ยินคำพูดของเขา มัดมุกเลยถึงบางอ้อ
“มุกขับรถไม่แข็ง จะพาคุณล้มไปเปล่าๆ”
“ส่งกุญแจมา ฉันขับเองก็ได้”
“ไปรถคุณสิคะ ตอนที่กลับ มุกจะได้ไม่ลำบากมาส่งด้วย” มัดมุกพูดปัด
“ฉันไม่กลับ” กล้าตะวันพูดหน้าตาย
มัดมุกเหลือบมองไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอคิดง่ายๆ คนแบบกล้าตะวันไม่เคยลำบาก หากเขาเห็นสภาพบ้านรังหนูของเธอ เขาคงเปลี่ยนใจเอง
“เอามาสิ” กล้าตะวันทวงสิ่งที่ขอ
มัดมุกถอนใจ แล้วก็ยอมส่งกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าให้
กล้าตะวันอมยิ้ม เขาตวัดขาคร่อมรถจักรยานยนต์ที่ดูสภาพเก่าพอสมควร แล้วก็ปั้นหน้าเคร่งตอนที่รอให้มัดมุกเดินมาคร่อมขากับเบาะด้านหลังเขา
“บอกทางด้วยล่ะฉันไม่เคยไป” ก่อนที่จะสตาร์ทรถ กล้าตะวันหันมาย้ำ
“ค่ะ” มัดมุกพึมพำตอบ ตอนที่รถกระชากออกจากที่ เธอเผลอตัวตวัดรัดเอวหนาๆ ของเขาไม่อย่างนั้นเธอคงตกลงไปที่พื้น มัดมุกรู้ว่าเป็นความตั้งใจของกล้าตะวัน เธอพยายามไม่พูด เพราะไม่อยากก่อกวนอารมณ์กรุ่นๆ ของเขาให้กระพือขึ้นอีก
ตอนที่15.ตอนอายุสิบแปดเคยแอบรักใครมั้ย
บรรยากาศความสุขแบบเก่าๆ ย้อนเข้ามาในความคิด เขาเคยทำแบบนี้ตอนที่เลิกเรียน ก่อนกลับบ้านเขายืมรถจักรยานยนต์คันเก่าของลุงชวน คนสวนที่เขาเห็นตั้งแต่เกิด เขาใช้รถจักรยานยนต์คันนั้นขับไปรับมัดมุก ที่ต้องทำงานพาร์ทไทม์ก่อนกลับเข้าบ้าน ช่วงเวลานั้นเขายอมรับว่ามีความสุขที่สุด
ก่อนที่ความสุขนั่นจะพังทลายลง
“เด็กนั่นไม่ได้รักแกจริงหรอก เด็กนั่นหวังสมบัติของแก อย่าโง่นักสิ” มารดาเรียกเขาไปคุย คงเพราะกล้าตะวันยืนกรานจะไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศ
“แม่อย่าพยายามแยกผมกับมุกเลยครับ” กล้าตะวันเถียงกลับ
“ฉันจะทำแบบนั้นทำไมยะ เพราะพอแกโตขึ้นแกก็จะรู้เองว่าที่ฉันพูดไปคือความจริงทั้งหมด”
“มุกไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ทำไมจะไม่ใช่ ทันทีที่ฉันเสนอเงินให้เด็กนั่น แม่นั่นก็รับโดยไม่ปริปากแย้งสักคำ”
“แม่โกหก”
“ฉันจะโกหกทำไม แกดูเอาเองเถอะ” เพียงออโยนสมุดต้นขั้วเช็คให้บุตรชาย
กล้าตะวันพลิกสมุดต้นขั้วเช็กด้วยมือที่สั่นระริก
“ฉันจ่ายให้แม่นั่นมากพอที่จะตั้งตัวได้เลยนะ” เพียงออพูดผสมความเย้ยหยัน
“ไม่จริง” กล้าตะวันพึมพำ ขาของเขาอ่อนแทบไม่มีแรงทรงตัว คำครหาที่เคยได้ยินผ่านหู เขาไม่เคยเชื่อสักครั้ง จนวันนี้เอง วันที่เขาเถียงไม่ออกเพราะมีหลักฐานทนโท่อยู่ตรงหน้า
“เธอกับป้ายอมอยู่บ้านหลังนี้จริงๆ เหรอ?” กล้าตะวันไม่อยากเชื่อสายตา บ้านไม้ตรงหน้า เก่าและทรุดโทรม ถึงจะสะอาดเพราะคนอาศัยปัดกวาดเสมอ แต่เงินก้อนใหญ่ที่มัดมุกรับมาจากมารดาเขา น่าจะทำให้สองป้าหลานมีความเป็นอยู่ดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอ
“บ้านป้าค่ะ ซื้อไว้นานแล้ว มุกกำลังเก็บเงินอยู่ อีกสักสองสามปีน่าจะซ่อมบ้านให้ป้าได้” มัดมุกตอบเสียงเรียบ แล้วก็เดินนำเข้าไปด้านใน
กล้าตะวันเก้ๆ กังๆ หาที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นก็เดินตามเข้าไป
“ทำไมกลับดึกจัง” เสียงพะยอมดุหลานสาว
กล้าตะวันก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ “มุกไปซื้อของใช้ในเมืองนิดหน่อยค่ะ”
“หิวมั้ย กินอะไรมาหรือยังละ” พะยอมถามต่อ
“ป้าคะ มีคนมาหา” เสียงมัดมุกแผ่วลง
พอดีกับที่กล้าตะวันเดินไปถึงพอดี ดวงตาของผู้สูงวัยเบิกกว้าง “คุณตะวัน”
“สวัสดีครับป้ายอม ไม่เจอกันนานเลยนะครับ” พะยอมเหลือบมองมัดมุก นางเห็นแค่แผ่นหลังของหลานสาวที่หายไปหลังประตูห้องนอน
“มายังไงคะ มีธุระกับป้าเหรอคะ”
“ทำไมป้าไม่ซื้อบ้านที่ดีกว่านี้ละครับ?” กล้าตะวันไม่ได้สนใจคำถามของพะยอมเลย เขาถามพะยอมในสิ่งที่เขาอยากรู้ทันที
“ที่นี่ก็ไม่ได้แย่นะคะ เพื่อนบ้านก็ดีด้วย ใกล้วิทยาลัย’ ที่ยัยมุกเรียนด้วยค่ะ”