แล้วปลอบใจตัวเองเงียบๆว่าบางทีดนย์อาจจะเป็นคนที่พูดคุยด้วยได้แบบง่ายๆก็ได้
งานเลี้ยงเปิดโรงแรมติดหาดในเมืองพัทยาหรูหราแห่งนี้เป็นโรงแรมหนึ่งในเครือของ ‘เบญญ์’
กิจการแห่งนี้ดำเนินงานด้วยดนย์
วีร์ดาได้ยินมาว่าดนย์เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง เขาบริหารงานได้เก่งมากๆเลยนะ เก่งกว่าพี่ชายคนโต และแน่นอนว่าเก่งกว่าน้องชายคนเล็กของเขาด้วย
เสียงน้องสาวทั้งสองคนไอรินกับจิดาภาที่พยายามขายว่าที่พี่เคยให้เธอฟัง
วีร์ดารับรู้ผ่านข้อความจากน้องสาวทั้งสองคน
“หรูมากเลย”
สถานที่จัดเลี้ยงอยู่ภายในห้องสัมมนาห้องใหญ่ด้านล่างของโรงแรม เนื่องจากที่นี่ยังไม่ได้เปิดให้บริการ พนักงานที่เพิ่งได้รับการว่าจ้างต่างพากันเข้าร่วมงานทำบุญเปิดตัวโรงแรมในวันนี้ด้วย
“แล้วไหนเจ้าของโรงแรม”
จิดาภาเป็นคนเอ่ยถาม สายตาหวานปนซุกซนมองหาว่าที่พี่เขยของตนเองไปพลาง วีร์ดากวาดตามองตามแล้วหันกลับมามองตรงๆอย่างเดิมแล้วพูดขึ้น “นั่นสิ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาแต่เจ้าของโรงแรมหายไปไหน”
“สงสัยคงจะติดงานอื่นอยู่ก็เลยยังไม่มา”
“หรืออาจกำลังจะมาแต่ยังไม่ถึงก็ได้นะ” ไอริณช่วยแก้ต่างให้
ทั้งหมดตรงเข้าไปไหว้ปราบและเรวิตาที่นั่งเด่นสง่าตรงเก้าอี้หน้าสุดในตำแหน่งของประธานงานทำบุญ
“มากันแล้วหรอ”
เสียงของเรวิตาเอ่ยทักครอบครัวของเธอ ท่าทางของท่าน แววตาของท่านดูเอ็นดูพวกเธอสามพี่น้องไม่น้อย
“มาลูกมา มาฟังพระสวดให้ศีลให้พร แล้วรอตักบาตรด้วยกันตรงนี้เลย”
เรวิตาลุกมาจับแขนของแม่เธอ อีกมือจับแขนของเธอให้นั่งลงยังเก้าอี้ใกล้กันกับท่าน
ทุกคนนั่งพูดคุยจนถึงเวลาดี มีคนนิมนต์พระเข้ามานั่งประจำอาสนะแล้ว พระท่านจึงค่อยเริ่มสวดจนเสร็จพิธี ตักบาตรแล้ว เจ้าของโรงแรมก็ยังไม่มา ดูเหมือนว่าปราบและเรวิตาจะยิ้มไม่ออกแล้ว แววตาของพวกท่านดูออกชัดว่าเริ่มโมโห
กลับกันกับวีร์ดา ที่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกดี
รู้สึกดีที่ไม่ต้องเจอหน้าดนย์
“มาแล้วครับคุณท่าน คุณดนย์มาแล้วครับ”
‘รพีพัฒน์’ เข้ามารายงานนายท่านทั้งสอง แล้ววิ่งออกไปยังประตูเข้าห้องเหมือนไปยืนรอรับใครที่ตรงนั้น
“คนนั้นเป็นเลขาคนสนิทของคุณดนย์ไงพี่วี”
เสียงกระซิบบอกข้อมูลของว่าที่สามียังคงทยอยเข้ามาแบบต่อเนื่อง ไอริณกับจิดาภา สองน้องสาวทำหน้าที่สลับกันได้ดีจริงๆ วีร์ดามองไปทางรพีพัฒน์แล้วก็พยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับน้องสาวไปโดยไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำเดียว
เสียงกล่าวทักทายดนย์ดังตลอดทางที่เขาเดินผ่าน จนวีร์ดารู้สึกได้ว่ามีเงาเทาๆมาหยุดตรงข้างเก้าอี้ของเธอนั่นเอง วีร์ดาเลยเอี้ยวคอไปมองทางนั้น ดนย์มองมาที่เธอพอดี แต่เขาไม่ได้ทักทายอะไร แว่วเสียงทุ้มของเขาพูดกับเรวิตา
“พระสวดเสร็จแล้วหรอครับ”
“เพิ่งจะโผล่มานะตาดนย์”
เรวิตาเค้นเสียงคุยให้ได้ยินกันแค่คนแม่ลูก แต่เพราะเธอนั่งใกล้เลยพลอยได้ยินไปด้วย แต่ไม่หันไปมองให้เสียมารยาท ไม่กี่นาทีจากนั้นจึงรู้สึกได้ว่าที่นั่งของตัวของเธอคนลุกออกไป แล้วแทนที่ด้วยไออวลบางอย่างจากคนมาใหม่
“จนเขาตักบาตรกันเสร็จแล้ว”
“ตักกันไปแล้วก็ตักเถอะครับ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกครับ แค่ทำบุญตามประเพณีเท่านั้นเอง”
เรวิตาบิดปากไปมาอย่างหมั่นไส้ลูกชายของตนแล้วปั้นหน้ายิ้มหันมาอวยเธอให้ลูกชายของท่านฟัง
“หนูวีมาถึงตั้งแต่เช้า”
ดนย์มองมาที่เธออีกทีหนึ่งแล้วพูดเหมือนไม่ใส่ใจ “หรอครับ”
ประโยคสั้นๆราบเรียบไม่คล้ายถาม แม้ไม่มีคำพูดหยาบคายแต่วีร์ดาฟังออกว่าคนพูดรู้สึกไม่พอใจเธออยู่ แต่จะเป็นด้วยเรื่องใด เธอก็สุดรู้ได้
วีร์ดาชำเลืองมองเขาแล้วยกมือไหว้ไปอย่างนั้น ไหว้ตามมารยาท ดนย์ไม่ทำแม้แต่จะรับไหว้เธอด้วยซ้ำแล้วยังพูดแหย่กลับมาแบบยิ้มๆอีกด้วย “ไม่เสียแรงที่คุณแม่สุ่มเลือกมา มือไม้อ่อน มีสัมมาคารวะแบบนี้ถูกใจคุณแม่เลยสิครับ”
เธอไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรดนย์ เลือกที่จะหันหน้าตรงไปยังทิศทางของพระแทน พระเก้ารูปกำลังฉันอาหารอยู่ แล้วหูของวีร์ดาก็แว่วเสียงคนที่ด้านหลังคุยกันเสียงดังขึ้นจึงได้หมุนหน้าไปมอง ใบหน้าของเธอค่อยๆกลายเป็นตึงเครียดขึ้น เมื่อเห็นว่ามีคนมาใหม่กำลังสาวท้าวเดินเฉิดฉายเข้ามาที่ในห้องจัดเลี้ยงห้องนี้
คนมาใหม่นั่นคือนางแบบสาวที่ชื่อ ‘กอดอุ่น’
“สวัสดีค่ะคุณแม่”
“ลงมาไม่ปลุกอุ่นเลยนะคะ”
“ผมต้องลงมาทำบุญ ฟังพระสวด รับพร”
“เมื่อคืนก็ทำบุญ ให้ porn กับอุ่นตั้งหลายยกแล้วน่ะ ยังมีแรงลงมาฟังพระสวดไหวอีกหรอคะ” กอดอุ่นถามเสียงยั่ว ทั้งยังเม้มปากเซ็กซี่ใส่ดนย์อีกด้วย
“ตายแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันเรื่องสัปดนแบบนี้ก็ออกไปทำบุญทำทานกันต่อเถอะแม่คุณ” เรวิตาไล่เสียงเบา สายตาของท่านมองมาที่เธออย่างเหนื่อยอ่อนใจ เรวิตาสูดลมหายใจลึกๆข่มความโกรธ ปั้นใบหน้าให้ยิ้มแย้มแล้วหันมาคุยกับเธอแทน
“พระฉันเรียบร้อยแล้ว รอรับพรกันเถอะหนูวี แล้วอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะลูก หรือจะอยู่เที่ยวสักสองสามวันก็ยังได้”
แต่วีร์ดากลับยิ้มไม่ออก เธอมองนิ่งๆไปที่นางแบบสาวลูกครึ่งที่คล้องแขนตัวเองเข้ากับแขนของดนย์อย่างต้องการเปิดเผยสถานะของตัวเอง