ตอนที่สอง แขกไม่ได้รับเชิญ 2

2924 Words
กว่าจะถึงที่หมายผมเผ้าของรุ่งอรุณก็ยุ่งเหยิงสางแทบไม่ลง.. ผิวขาวที่โผล่พ้นผ้ามาเริ่มมีสีแดงระเรื่อเพราะไม่ได้ต้องแดดต้องลมมากเท่าใดนักมันจึงค่อนข้างไวต่อแสง... คนขับเรือเชื้อเชิญให้หล่อนขึ้นบนท่าเรือคอนกรีตแล้วหิ้วกระเป๋าตามมา... “เชิญที่กระท่อมรินจันทร์เลยครับ คุณไทเกอร์รออยู่” “ขอบคุณมาก” นิ้วเรียวยื่นแบงค์สีเทาใหม่เอี่ยมส่งให้คนขับเรือแล้วจึงมุ่งหน้ามาที่กระท่อมรินจันทร์ที่เขาชี้ทางให้ จะเรียกว่ากระท่อมก็ไม่ถูกนักเมือมันเป็นบ้านสองชั้นขนาดปานกลางหลังหนึ่ง ในนั้นคงจะมีไม่ต่ำกว่าสองห้องนอน บ้านยังใหม่ นอกจากวิวจะสวยแล้วตัวบ้านก็ยังสวยทันสมัย ชั้นล่างที่เป็นห้องนั่งเล่นที่กรุกระจกใสม่านสีขาวบางจ๋อยเผยให้เห็นด้านในให้ความรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นวิลล่าหรูๆ สักแห่งมากกว่าจะเรียกว่ากระท่อม... ยังไม่ทันที่หล่อนจะเคาะประตู ความเคลื่อนไหวที่ประตูก็เกิดขึ้น บานไม้สีขาวเปิดออก พร้อมกับใบหน้าที่หล่อนไม่เคยคุ้นปรากฏอยู่ตรงหน้า... ดวงตาคมกริบสีบรั่นดีจ้องเขม็งมาที่หล่อน ในนั้นมีแววแห่งคำถามนับร้อยพัน และไม่มีความเป็นมิตรสักนิด “คุณเป็นใคร” หล่อนถาม พยามไม่เพ่งสายตาไล่ลงต่ำเกินกว่าคอเขาเพราะเห็นแวบหนึ่งว่าเขาเปลือยหน้าอก หล่อนจึงเลี่ยงด้วยการถามเขาและจ้องตาเขาแทน เพราะเขาเองก็เอาแต่จ้องหล่อนไม่พูดอะไร “คุณมาที่บ้านคนอื่นแล้วถามว่าเจ้าของบ้านเป็นใครอย่างนั้นหรือ คุณน่าจะรู้ก่อนมานะว่าผมเป็นใคร” “เอ้า... ถามแค่นี้ทำเป็นมาย้อน ก็เพราะฉันไม่รู้ไงว่าคุณเป็นใคร... ไม่รู้ก็เลยต้องถามเข้าใจไหม... ฉันมาหาคุณอัครินทร์ เจอคุณก็ถามก่อนสิว่าคุณเป็นใคร ใช่เขาหรือเปล่า ถ้าเป็นคนรับใช้ก็จะได้ให้เรียกเขามาให้ไง” “มาหาทำไม” เขาพยายามไม่คิดตามคำพูดหล่อนเพราะไม่อย่างนั้นคนขี้โมโหอย่างเขาอาจจะโกรธจนปิดประตูงับคอเล็กที่ยื่นเข้ามาในบ้านเขาให้ขาดจากลำตัวหล่อน... หน้าอย่างเขานี่นะ คนรับใช้ มันก็น่าเคืองอยู่เหมือนกันจะว่าไป... “แล้วจะไม่ตอบหรือไงคะว่าเป็นใคร” “ผมถามคุณก็ต้องตอบ” เสียงเข้มดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจอผู้หญิงกวนประสาทที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่กลับรู้สึกคุ้นหน้าหล่อนอย่างประหลาด “คุณเป็นคุณอัครินทร์หรือเปล่า” หล่อนจะพูดได้ยังไงล่ะ เกิดมาบอกว่าตามหาพ่อให้หลานแล้วคนคนนี้ไม่ใช่อัครินทร์หล่อนก็บอกเปลืองน้ำลายเปล่า แถมยังขายหน้าฟรีด้วย... หล่อนคิดว่าแค่บอกว่ามาหาอัครินทร์ก็น่าจะรู้เรื่องกันแล้วทำไมต้องถามว่าหล่อนมาทำไม... เฮ้อ “ผมถามว่าคุณเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่” “ฉันชื่อรุ่งอรุณ เป็นพี่สาวของวาดดาวแฟนของนายหัวอัครินทร์ ฉันต้องการพบเขาเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัว จะให้ฉันพบเขาได้หรือยัง” “...” ดวงตาสีบรั่นดีมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า... แล้วก็มาหยุดที่ดวงหน้าเฉี่ยวทันสมัยและริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอนิดๆ ถึงว่าหน้าคุ้นๆ หล่อนดูคล้ายกับวาดดาวหากมองในบางมุม แต่ว่าไม่รู้สึกในคราแรกเพราะสีผิวของทั้งสองแตกต่างกันมาก ผู้หญิงตรงหน้าเขาผิวขาวจัดในขณะที่ผู้เป็นน้องสีผิวสีน้ำผึ้งอ่อนๆ ซึ่งเข้มกว่าหล่อนหลายเฉด “อัครินทร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เชิญ” เขาดันไหล่หล่อนออกโดยไร้ซึ่งความสุภาพ แล้วประตูที่เปิดต้อนรับหล่อนก็ปิดลงอย่างสิ้นเชิง “บ้าหรือไงนั่น ไปอย่างนี้แล้วจะได้เรื่องได้ไง” หญิงสาวหัวเสีย เคาะประตูกระหน่ำจนหัวโยกหัวคลอนเกือบจะเอาหัวฟาดประตูช่วยมือตัวเองไปแล้ว อัครินทร์กำลังจะกลับไปนอนต่อได้ยินเสียงเคาะแล้วก็หัวเสีย... ให้ตาย หล่อนมาที่เกาะทำไม มาได้ยังไง ทำยังไงหล่อนถึงจะกลับไป มีคำถามในหัวนับพัน สุดท้ายเขาก็ต้องเปิดประตูอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นเขาได้รำคาญจนฆ่าพี่สาวแฟนเก่าตัวเองแน่ “ผมคือคนที่คุณตามหา มีอะไรจะพูดกับผมก็ว่ามา” “อ้าว แล้วทำไมเมื่อครู่คุณบอกว่าไม่ใช่คุณอัครินทร์ ฉันงงไปหมดแล้วนะ ตกลงอะไร ยังไงกันแน่” อัครินทร์ถอนหายใจรำคาญ ตอนแรกเขาบอกปัดๆ ไปเพราะไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงบ้านนี้อีกไม่ว่าคนพี่คนน้อง แต่สุดท้ายหล่อนก็ก่อกวนจนเขาไม่อาจปัดไปได้อีก ตอนนี้เขาอยากรู้ว่าหล่อนมาทำไม หล่อนกลับกวนเขาด้วยคำถามแบบเจ้าหนูจำไมเสียอย่างนั้น “ตอนนี้ผมใช่ มีอะไรก็พูดมา ถ้าไม่พูดก็กลับไปซะ ผมจะให้คนขับเรือไปส่งให้” “ตกลง พูดก็พูด แต่นี่คุณ เราจะพูดกันหน้าประตูนี่นะ มีแขกมาหาก็พาเข้าบ้านหาน้ำหาท่ามาให้ดื่มต้อนรับไม่ได้หรือยังไงกัน เรื่องที่จะคุยมันยาวนะ” หล่อนหันซ้ายหันขวามองรอบข้าง... รอบๆ นี้มีคนเมียงมองอย่างสนใจ ทั้งคนที่ขนของไปที่ท่าเรืออย่างขะมักเขม้นยังแอบมองมา ทั้งเด็กที่เล่นทรายอยู่ไม่ไกลจากหน้ากระท่อมก็สนใจเขากับหล่อนที่พูดกันเสียงดังกว่าคนพูดกันปรกติอยู่หลายเดซิเบล แล้วจะให้หล่อนคุยธุระที่เป็นความลับได้ยังไงกัน มุมปากของเจ้าของกระท่อมยกขึ้น ดูเหมือนแววเยาะเย้ย แต่หล่อนไม่ทันมองเลย คำเชิญให้เข้าบ้านเอ่ยจากปากเขาหล่อนจึงได้มานั่งบนโซฟาสีน้ำตาลเข้มนุ่มนิ่ม นายนี่เปิดแอร์เย็นชะมัด... ไม่เปิดรับเอาอากาศดีๆ ลมพัดเอื่อยๆ ข้างนอกบ้างหรือไงนะ “หวังว่าคุณคงไม่คิดว่าผมไร้มารยาทนะ ผมต้อนรับคุณตามหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีแล้ว” แก้วก้านยาวสองใบตั้งลงที่โต๊ะตัวเล็ก น้ำในแก้วฟองฟู่ด้วยอากาศที่อัดแน่นอยู่ในนั้น... เสิร์ฟโซดาแทนน้ำเปล่างั้นเหรอ ดีนะที่ไม่เอาเหล้ากับน้ำแข็งมาด้วย คราวนี้คงได้เมาหัวทิ่มคุยกันไม่เป็นภาษาแน่ “พอดีน้ำเปล่าหมด กว่าจะมาก็คงอีกชั่วโมงกว่าๆ ผมเลยเอาโซดามาให้ดื่มแทน บางครั้งผมก็ดื่มโซดาแทนน้ำเปล่าเพราะมันซ่าส์ดี” ราวกับรู้ทันหล่อนจึงตอบกลับมา “ขอบคุณมาก” หล่อนบอกแล้วหยิบแก้วที่ควรจะใส่ไวน์มากกว่าโซดามาจิบตามมารยาท ของเสียสุขภาพแบบนี้หล่อนมักไม่ค่อยทาน แต่ด้วยความที่เรียกร้องมันเองก็ต้องมีการชิมบ้าง “เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ” “ว่ามาสิ” “คุณกับยายวาดดาวเคยเป็นแฟนกัน แล้วยายวาดดาวก็ไปคบกับคนอื่น” หล่อนพูด แต่ดวงตาหล่อนถามเขา... นี่มันคือคำถาม ประโยคแรกที่หล่อนเข้าเรื่องก็ทำให้เขาสะอึกแต่กระนั้นก็ยังมีแก่ใจพยักหน้ายอมรับ ก่อนที่รุ่งอรุณจะกลับจากไปส่งน้องที่อเมริกา วาดดาวยอมเล่าทุกอย่างให้ฟังทั้งน้ำตาว่าอัครินทร์แก้แค้นคืนที่ตนทิ้งเขาไปมีใจกับคนใหม่ระหว่างที่คบกับเขาอยู่พอสบโอกาสจึงข่มขืน... เขาอาจจะแค้นก็จริง แต่ถ้าเขารู้ว่าวาดดาวท้องเขาอาจจะรับผิดชอบก็ได้ วาดดาวอาจจะขลาดเกินกว่าที่จะบอกใคร แต่รุ่งอรุณไม่อาจนิ่งดูดายได้ จนต้องมาที่นี่... “เรื่องการกระทำของคุณต่อน้องสาวฉัน... ฉันจะไม่พูดอะไรมาก แต่ฉันจะบอกว่าตอนนี้น้องสาวฉันท้อง คุณต้องรับผิดชอบ” “ไม่มีทาง” เขาสวนกลับมาทันควันจนคนที่เรียกร้องความรับผิดชอบอ้าปากค้าง... ไม่คาดคิดว่าจะได้รับการตอบรับฉับไวแบบไร้การไตร่ตรองสักนิดเช่นนี้ ทั้งทั้งที่รู้ว้ามีเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเองถือกำเนิดขึ้นมา เขาพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่มีวันรับผิดชอบ... เพราะเขามันใจดำเป็นถ่านหินชุบยางมะตอยอย่างนี้สินะน้องสาวหล่อนถึงได้คร่ำครวญจะเป็นจะตายตอนรู้ว่าท้องกับเขา... “แต่” “ถ้าจะพูดเรื่องนี้เราก็จะไม่พูดอะไรกันอีก... ออกจากเกาะนี้ไปเดี๋ยวนี้” “ไม่ ฉันไม่ไป... ฉันจะอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะยอมรับน้องสาวฉันกับลูกในท้อง วาดดาวท้องกับคุณ คุณจะอยู่นิ่งเฉยแบบนี้หรือไง” “หยุดพูดชื่อน้องสาวคุณนะ อย่าพูดให้ผมได้ยินอีก ผมไม่อยากฟัง” “ฉันจะพูด พูดว่าคุณต้องรับผิดชอบยายวาดดาว” “หยุดนะ... ไม่อย่างนั้นคุณไม่ได้ตายดีแน่” ฝ่ามือหนาเงื้อมขึ้นสูง แต่มีหรือหล่อนจะกลัว... “คุณต้องเคลียร์เรื่องที่วาดดาวท้องให้จบ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่กลับ” “ผมบอกอีกครั้งให้หยุด” น้ำเสียงเข้มสั่นพร่าเพราะโกรธจนเกินระงับ หล่อนยั่วโมโหเขามากมายเหลือเกิน เขาไม่เคยสั่งใครเกินสองครั้ง แต่หล่อน เขาสั่งเป็นสิบๆ ครั้งแต่หล่อนไม่หยุด “ฉันไม่หยุด คุณทำวาดดาวท้อง แล้วคุณจะไม่รับผิดชอบเลยหรือไง คุณจะปล่อยเมียกับลูกไประหกระเหินที่อื่นแบบนี้เหรอ” เพี๊ยะ! มือที่เงื้อมอยู่ไม่ได้เงื้อมเปล่าๆ เมื่อมันทำงานอย่างทรงประสิทธิภาพ เขาไม่เสียใจสักนิดที่ทำ เพราะเขาเตือนหล่อนแล้วว่าอย่าพูดชื่อที่เขาไม่อยากจะได้ยินอีก เพราะมันตอกย้ำถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่เลวร้ายในชีวิตเขา... “นี่นาย ตบฉันทำไม” หล่อนโวยวาย แม้ว่าจะไม่แรงนักแต่เขาก็ตบหล่อน หึ... เห็นแก่ว่าหล่อนรู้ตัวหรอกว่าหล่อนยั่วโมโหเขา ไม่อย่างนั้นจะแจ้งตำรวจจับข้อหาทำร้ายร่างกายให้ได้เลยเชียว “ผมสั่งให้คุณหยุดพูดเรื่องนั้นแล้วกลับไป... ถ้าไม่ จะได้เจอดีกว่านี้แน่ ผมไม่ใช่คนดีหรอกนะที่จะมาทนฟังคนอื่นด่าปาวๆ โดยที่ไม่อยากฟัง แล้วก็ไม่ได้เป็นพระเอกนิยายที่ต้องลงโทษนางเอกสถานเบา ถ้าได้รำคาญฆ่าได้เป็นฆ่าเข้าใจไหม” เขาแค้นวาดดาวอย่างที่วาดดาวเคยบอกไว้จริงๆ แค้นมากเจ็บปวดมากจนไม่อยากได้ยินชื่อ... เป็นคนอื่นที่รู้จักกันดีเอ่ยชื่อนี้มาเขาเป็นได้ฆ่าให้ตาย เห็นว่าหล่อนไม่รู้เรื่องอะไร เขาเลยใจดีกับหล่อนแต่มันคงทำให้หล่อนยิ่งไม่เกรงขาม ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไปอย่างนี้ แต่ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาไม่มีวันรับผิดชอบลูกในท้องของวาดดาว ไม่มีทางมานั่งพูดเรื่องแบบนั้นให้หัวใจที่เจ็บปวดอยู่เจ็บปวดอีกกว่านี้แน่นอน... “ออกไปจากเกาะนี้ซะ ไปพูดกับน้องสาวคุณเอง ดูแลกันเอง อย่ามายุ่งกับผม” “คุณมันเลว ไม่มีความรับผิดชอบ” หล่อนโวยวาย... “ใช่ ผมมันเป็นแบบนี้ รู้ไว้ แล้วก็เลิกยุ่งกับผมซะ” เขาจะเดินหนีแล้วหากหล่อนไม่วิ่งไปขวางเขาเอาไว้ไม่เกรงกลัวโดนตบซ้ำสอง... “อย่ามายุ่งกับผม รุ่งอรุณ” อ้อ แสดงว่าไอคิวเขายังโอเคที่จำชื่อหล่อนได้ทั้งที่บอกครั้งเดียว แต่อีคิวนี่สิ ติดลบเยอะกว่าอุณหภูมิที่ขั้วโลกเหนือบวกใต้ผสมกันอีก นี่หรือพ่อของหลานหล่อน... หล่อนสัญญากับตัวเองเลยว่าจะสอนหลานให้ดีที่สุดไม่ให้ออกมานิสัยเหมือนพ่อของแกเลย... แบบติดมานิดเดียวก็ไม่เอา “ฉันขอถามคำเดียว... ทำไมถึงไม่รับผิดชอบ” อัครินทร์นิ่งงันไปชั่วอึดใจหนึ่ง... เขามองหน้าหล่อน และนึกย้อนไป ทำไมถึงไม่รับผิดชอบอย่างนั้นหรือ... หนึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเขา... สองเขาไม่ได้ทำให้วาดดาวท้อง ก่อนที่หล่อนจะหายไป หล่อนไปพักที่รีสอร์ทของจตุพรเพื่อนรักเพื่อนแค้นของเขาซึ่งอาจจะเป็นจตุพรก็ได้ที่เป็นพ่อของเด็ก เขาไม่ได้เป็นคนดีถึงขนาดว่าเป็นพ่อพระรับผิดชอบลูกในท้องที่ไม่ใช่ลูกตนเองได้... สามแค่ชื่อวาดดาวเขาได้ฟังก็เจ็บปวดมากมายกับสิ่งที่หล่อนทำกับเขา ถ้าเขาหวนกลับไปหาหล่อนอีกก็นับว่าเขาโง่มาก ไม่รู้ว่าวาดดาวไปพูดอย่างไรกับพี่สาว หล่อนถึงได้ตามมาแว้ดๆ กับเขาถึงที่นี่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป เขาไม่มีทางอธิบายทุกอย่างให้หล่อนฟังด้วยเพราะว่ามันจะทำให้มุมมองที่หล่อนมองน้องสาวตนเองเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาจึงเลือกที่จะหลอกหล่อนให้ตายใจว่าเขาไม่ใช่อัครินทร์อีกครั้ง... “เพราะว่าผมไม่ใช่คนที่คุณต้องการจะพูดด้วย” “อ้าว... แล้วกัน” หล่อนเหวอไปพักใหญ่... “ตกลงคุณคือใคร ใช่อัครินทร์หรือไม่ใช่” “ผมเป็นฝาแฝดเขา” คำโกหกออกมาจากปากอย่างแนบเนียน รุ่งอรุณไม่รู้เรื่องแฟนน้องสาวมาก่อนเลยเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาไม่ใช่คนรักของน้องสาวแน่ หล่อนคิดว่าถ้าหากคนเป็นพ่อเองรู้ว่าตนมีลูกก็คงไม่ด้านชาเป็นน้ำยาเย็นแบบนี้หรอก “แล้วแฝดคุณไปไหน ทำไมต้องหลอกให้ฉันเล่าทุกอย่างให้ฟัง โธ่ ฉันก็ว่า คุณนิสัยอย่างนี้ไม่มีทางเป็นแฟนน้องสาวฉันได้หรอก วาดดาวบอกว่าแฟนเป็นคนดีแม้จะปากร้ายไปหน่อย แฝดคุณนิสัยดีกว่าคุณแน่ๆ” ให้ตายเถอะ ไม่ต้องพึ่งหมอดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องตายเพราะปากแน่... “เขาไม่อยู่ที่นี่ และผมก็ไม่จำเป็นต้องบอกคุณว่าเขาไปไหน ผมแนะนำคุณได้แค่ว่า อัครินทร์ไม่มีทางเป็นพ่อของลูกในท้องน้องสาวคุณได้” “เขาไม่กล้ารับผิดชอบใช่ไหม” “ไม่รู้” “เขาอยู่ไหน ฉันจะคุยกับเขา” “ไม่รู้” “ฉันขอคุยกับเขา” “ไม่รู้” เขาแทบไม่ได้ฟังหล่อนจึงตอบด้วยคำตอบเดิม จนหล่อนจับได้ “เอ๊ะ นี่คุณ ช่วยสนใจคุยกับฉันหน่อยได้ไหม” เสียงตวาดทำให้สายตาสีบรั่นดีที่จ้องมองร่องอกอิ่มเกินตัวสีขาวกระเพื่อมขึ้นลงเต็มๆ ตาชะงัก... กระดุมเสื้อของหล่อนขาดตอนที่ตะบี้ตะบันเถียงกับเขา หรือตอนที่พยายามเคาะประตูสุดแรงเกิดก็ไม่อาจเดา รู้แต่ว่าอกขาวๆ ที่ไม่ทันมองมาก่อน ดูเย้ายวนตาน่าสนใจกว่าใบหน้ากวนโมโหของแม่สาวช่างจู้จี้ทู่ซี้เรื่องน่ารำคาญยิ่งนัก “อย่ามายุ่งกับที่นี่ ถ้าจะตามหาอัครินทร์ คุณก็ไปคุยกับน้องสาวคุณให้ดีๆ ก่อน แล้วจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน” “ไม่ได้ น้องสาวฉันบอกว่าท้องกับฝาแฝดคุณก็จริง แต่ว่าวาดดาวไม่ให้ฉันบอก” เขาว่าแล้วไงล่ะ วาดดาวอาจจะแค่โยนความผิดให้เขาเพื่อที่จะไม่ต้องบอกว่าพ่อจริงๆ ของเด็กเป็นใคร เหตุผลมันอาจจะซ่อนเร้นอยู่กับเจ้าตัวและไม่อาจเปิดเผยจึงให้เขาเป็นแพะ แต่แม่พี่สาวดันนึกอยากเอาเรื่องเลยบุกมาหาเขา แม้จะจากไปไกลวาดดาวยังร้ายกับเขาได้ลงคอ เขาจะยอมรับก็ไม่ได้ จะช่วยก็ไม่ได้เพราะไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร ในเมื่อคนท้องเองแท้ๆ ยังไม่พูดความจริงสักกระผีก “ไปคุยกับน้องสาวคุณ... ผมบอกแล้วว่าไปคุยกันเอาเอง ผมไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น กลับไปซะที่นี่ไม่มีคนที่คุณตามหาหรอก ทางที่ดีไปอยู่กับน้องสาวคุณดีกว่า” “ไม่ ตราบใดที่ฉันไม่ได้คุยกับคุณอัครินทร์ฉันจะไม่กลับ” “ที่นี่ไม่มีที่ให้คุณอยู่... ไม่มีอัครินทร์ ผมขอย้ำอีกครั้ง... ต้องให้ผมตบไล่ไหม” เขาชักจะเหลืออดกับคนพูดไม่รู้เรื่องอย่างหล่อน รุ่งอรุณจะหลุดปากถามไปแล้วว่าเขาร้ายเกินชายอย่างนี้ เขาแอ๊บแมนหรือเปล่า แต่หล่อนไม่มีจังหวะถาม เมื่อจู่ๆ แม่สาวผมทองโผล่พรวดพราดเข้ามาแทรกกลางระหว่างการสนทนาระหว่างหล่อนกับผู้ชายนัยน์ตาสีบรั่นดี... “สวัสดีที่รัก ทำอะไรอยู่คะ” ซวยแล้ว ยายนี่มาจากไหนล่ะนี่ หล่อนยังคุยเรื่องน้องสาวไม่รู้เรื่องเลย... ยายแขกไม่ได้รับเชิญนี่ดันมาขัดจังหวะเสียก่อน.. รุ่งอรุณเซ็ง และมองหน้าแขกไม่ได้รับเชิญในความคิดของตัวเองแบบไม่ค่อยพอใจ โดยที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่า หล่อนต่างหากคือแขกที่ไม่ได้รับเชิญตัวจริง...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD