ตอนที่9
ก๊อก ! ก๊อก !
รสรินเคาะประตูห้องนอนของสามีก่อนจะเปิดเข้าไป
"คุณภู ทำอะไรคะ" หญิงสาวขมวดคิ้วที่เห็นว่าสามีแต่งตัวในชุดทำงาน จึงถามออกไปด้วยความสงสัย
"แต่งตัวไปทำงานไง" ร่างสูงพูดอย่างหน้าตาเฉย แต่เขารู้ตัวเองว่าหายจากอาการป่วยแล้วเลยลุกมาแต่งตัวเพื่อจจะไปทำงาน
"ได้ยังไง คุณยังไม่หายดีเลยนะคะ" เธอว่าสามีที่เมื่อวานป่วยแทบเป็นแทบตายนอนหมดเรี่ยวแรงแต่พอมาวันนี้ลุกแต่งตัวจะไปทำงานแล้ว
"ฉันไหวน่ะ" รวีหันมามองหน้าคนเป็นภรรยา เขาไม่ได้รำคาญที่รสรินเป็นห่วงแต่เขารู้ตัวเองดีว่าไหวหรือไม่ไหว ร่างกายเขา เขารู้ดีกว่าใคร
"ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวโรสไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้" แม้ในใจของรสรินเองจะรู้ว่าตัวเธอนั้นกำลังยุ่งกับอีกคนเกินไป แต่มันคือความห่วงใยจากใจจริงของภรรยาในนามคนนี้
ภูวดลเดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดพร้อมทำงาน รสรินที่ออกมาจากห้องครัวพร้อมถ้วยโจ๊กก็งงกับสามีว่าจะออกมาทำไม บอกให้รอเช็ดตัวก่อนก็ไม่ฟัง
"ออกมาทำไมครับ บอกว่าเดี๋ยวเช็ดตัวให้ไง" ใบหน้าสวยเริ่มบูดบึ้งเมื่อบอกสามีแล้วเขาไม่ฟัง แม้จะรู้ว่าคำพูดของตนเองจะไม่ได้มีอิทธิพลกับคนเป็นสามีแต่ก็อยากจะให้ฟังกันบ้างสักครั้ง
"ฉันบอกว่าจะไปทำงานไง" เสียงเข้มขรึมของภูวดลทำเอาร่างบางหงอยไป เธอแค่อยากให้สามีดูแลตัวเองให้หายดีกว่านี้สะก่อนค่อยไปทำงาน แต่ทำไมต้องพูดเสียงแบบนี้ใส่กันด้วย
"งั้นก็ไปเถอะคะ" รสรินหมุนตัวกลับทางเดิมถ้วยข้าวต้มในมือเล็กไม่ทันได้วางลงที่โต๊ะก็จะได้เอากลับไปเก็บที่เดิมสะแล้ว
"โจ๊กใคร ในมือ" ภูวดลถามคนที่หันหน้าจะเดินไปครัวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเมื่อกี้
"โรสว่าจะเอามาให้คุณ แต่คุณจะไปทำงานแล้ว.." รสรินก้มหน้าน้ำตาคลอ โจ๊กถ้วยนี้เธอตั้งใจตื่นมาทำให้สามีที่กำลังไม่สบายทาน แต่สามีจะไปทำงานสะงั้น..
"เอามา ฉันไม่ได้รีบขนาดนั้น" ร่างสูงดึงเก้าอี้ออกมานั่งลง แล้วพับแขนเสื้อขึ้น พร้อมทานอาหารของภรรยาตัวเล็ก
"ค่ะ ๆ" รสริสรีบวางถ้วยลงตรงหน้าของสามีแล้วอมยิ้ม เดี๋ยวนี้สามีชั่งใจดีต่อเธอจนใจเจ็บ แบบนี้เมื่อไหร่เขาจะหยุดรักคนนี้ ๆ ได้คนที่ชื่อว่าสามีเสียที พอร้ายใส่กันไม่ทันไรก็มาดีด้วย
"เรามาทำข้อตกลงกัน" กินไปได้ไม่ถึงสามคำก็เอ่ยปากคุยกับร่างบาง ในใจของภูวดลตอนนี้คืออยากจะกินอาหารฝีมือของภรรยาไปเรื่อย ๆ ทุกวัน ๆ แต่ไม่อยากจะบอกออกไปตรง ๆ กลัวว่าตนเองจะเสียหน้าทีหลงรักอาหารฝีมืองของอีกคน แค่ติดรสมือน่า
"ข้อตกลงอะไรคะ" รสรินเอ่ยถามด้วยความสงสัย ข้อตกลงอะไรของผู้ชายคนนี้อีก
"นั่งลงสิเวลาคุยกับผู้ใหญ่" ร่างบางนั่งลงตามที่อีกคนบอก ภูวดลยังไม่ได้พูดประโยคไหนขึ้น แต่เขาตักโจ๊กเข้าปากไปสามสี่คำ
"มีอะไรคะ ข้อตกลงอะไร" คนทนไม่ไหวถามออกไป ภูวดลทำไมต้องลีลาด้วย จะคุยอะไรก็ไม่คุยมาสักที
"ต่อไปนี้เธอทำอาหารเช้ากับอาหารเย็นไว้ให้ฉัน ฉันจะจ่ายเงินเดือนให้" ประโยคแรกทำเอาหญิงสาวดีใจคิดว่าสามีคงจะชอบอาหารฝีมือเธอเข้าแล้ว แต่คำที่ว่าจ่ายเงินเดือนทำเอาคนขี้น้อยใจไม่ปลื้มเอาสะเลย เธอเป็นภรรยาทำอาหารก็ต้องเป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้วสิ ขึ้นอยู่กับว่าภูวดลจะทานไม่ทานที่เธอทำให้แค่นั้น
"โรสไม่ใช่แม่บ้านนะ ไม่ต้องมาจ้าง" คำพูดของรสรินทำให้รวีนึกคิดได้ เขาเผลอเรียงคำพูดผิดไป จึงทำให้ร่างบางหน้าบึ้งอีกครั้ง
"อ่า โทษที ฉันชอบอาหารของเธอ เธอทำให้ฉันกินต่อไปเรื่อย ๆ ได้ไหม" น้ำเสียงอ่อนโยนนี้ที่รสรินไม่ได้เคยได้รับ เธอชอบน้ำเสียงนี้ของสามีเหลือเกิน ไม่รู้ว่าชาติไหนเธอจะได้ยินมันอีกจากสามี
"ดะ..ได้ค่ะ" ตอบตะกุกตะกักเพราะเขินน้ำเสียงของสามี
"หึ ฉันจะไปทำงานก่อนนะ" เพียงแค่พูดไม่กี่คำร่างสูงก็ชนะใจของภรรยาได้แล้ว แบบนี้ไม่ว่าจะขออะไรเรื่องไหนก็ได้ทุกอย่างง่าย ๆ เลย ความคิดในหัวของภูวดลคิดเข้าจ้างตนเองไปแบบนั้น
รสรินที่ตื่นเต้นกับการที่จะได้ทำอาหารให้สามีกินทุกวันก็รีบขับรถออกไปหาซื้อวัตถุดิบมาตุนเอาไว้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าภูวดลจะบอกว่าชอบอาหารที่เธอทำ เธอแปลกใจด้วยซ้ำที่อีกคนพูดกับเธอเมื่อกี้ ทั้งที่ตอนป่วยนั้นแทบจะกินหัวเธอแท้ ๆ
คืนนี้ร่างบางทำเป็นต้มจืดเต้าหู้และทอดไข่เจียวที่รตรีบอกว่าเป็นของโปรดภูวดลไว้ แต่ก็สามทุ่มกว่าแล้วอีกคนยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมารสรินจึงไปอาบน้ำรอเพื่อว่าสามีจะกลับมาพอดี ทว่าพออาบออกมาก็ไม่มีท่าทีว่าอกคนจะกลับมา เวลาเนิ่นนานนั้นทำให้ร่างบางเผลอหลับไปในที่สุด
คนเป็นสามีกลับจากที่บริษัทมาที่ห้อง เมื่อคืนนี้งานเข้าทีเดียวหลายงานจึงทำให้ภูวดลนั้นทำงานจนดึกไม่ได้กลับมานอนที่คอนโด และไม่ได้กลับมากินอาหารฝีมือพื้นเพียงภรรยาในนาม
"อ้าว กลับมาแล้วเหรอคะ" รสรินเห็นสามีก็ทักขึ้น เธอทำเป็นว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อะ..อืม ทำอะไรกิน" ภูวดลไม่อยากจะพูดไปถึงเรื่องที่ตนกลับบ้านเช้าจึงเปลี่ยนเป็นถามหาเมนูของวันนี้แทน
"ไข่เจียวไข่ค่ะ คุณมีอะไรที่อยากกินอีกไหม พอดีโรสคิดไม่ออกแล้ว" น้ำเสียง สีหน้า ทำให้ภูวดลรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคงจะน้อยใจที่ตนกลับบ้านเช้าแบบนี้ แต่ก็ทำยังไงได้ เขาไม่ใช่คนที่จะง้อคนที่ไม่ใช่คนรัก
"เอาแค่นั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน" เขาไม่คิดจะอธิบายหรือบอกอะไรเกี่ยวกับเมื่อคืนให้รสรินรู้ ส่วนคนขี้น้อยใจพอสามีเดินเข้าห้องไปก็ปล่อยโฮออกมา คิดว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้นแต่ที่ไหนได้ เขายังคงใจร้ายกับเธออยู่เลย..