ตอนที่8
เช้านี้รสรินลุกแต่เช้าเพื่อจะไปทำอาหารให้สามีทาน เธอลืมเรื่องที่เคยโกรธอีกคนเมื่อคืน หรือจะบอกว่าโกรธอีกคนได้ไม่นานก็ว่าได้
ร่างบางทำอาหารเสร็จสรรพแต่ก็ยังไม่ทันเห็นสามีออกมาสักทีจนรู้สึกผิดสังเกต เธออยากจะเข้าไปดูว่าภูวดลเป็นอะไรหรือเปล่าแต่อีกใจก็กลัวจะโดนต่อว่า แต่ก็ห่วงสามีมากเช่นกัน ยืนสองจิตสองใจอยู่นาน สุดท้ายก็
ก๊อก! ก๊อก!
มือเล็กยกขึ้นไปเคาะที่ประตูก็ต้องของคนที่ขึ้นชื่อว่าสามี แต่ไม่ว่าจะเคาะนานมากเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้องเสียที ความเป็นห่วงทำให้รสรินตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปดูคนในห้อง
“คุณภูคะ” รสริสเอ่ยเรียกชื่อของสามีก่อนจะเดินเข้าไปดูที่เตียงนอน สภาพของภูวดลคือปากซีดใบหน้าหล่อโทรมอย่างเห็นได้ชัด เห็นแบบนั้นร่างบางก็รีบพุ่งเข้าไปหาสามีด้วยความเป็นห่วง
“คุณภู คุณเป็นอะไรคะ” ร่างบางถามพร้อมจับมือของสามี ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ถูกเลยจริง ๆ
“อื้ออ ปวดหัว” เนื่องจากโหมงานหนักเกินไปจึงทำให้ร่างสูงต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้
“คุณทำไมถึงไม่สบายหนักขนาดนี้กันคะ” ว่าพรางลุกไปเอากะละมังใส่น้ำกับผ้าขนหนูมา เตรียมจะเช็ดตัวให้สามี
“อย่าเอามา ฉันไม่เช็ด” คนป่วยแต่ปากยังแข็งแรงดีต่อว่าภรรยาที่สุดแสนจะเป็นห่วง พื้นเพียงหน้าเสียนิดหน่อยที่สามีว่าแบบนั้น แต่เธอก็ยังคงถือกะละมังตรงมาหาคนป่วย
“ถ้าไม่เช็ดตัวก็ไปหาหมอค่ะ” รสรินวางกะละมังลงข้างหัวเตียงสามีแล้วนั่งลงที่ว่างบนที่นอน
“ไม่! เป็นใครมาสั่ง” ภูวดลทำท่าทีเหมือนเด็กที่ไม่ได้ของที่ต้องการ จนรสรินนึกเอ็นดูสามี
“เป็นเมียค่ะ” รสรินเผลอตอบไปตามความคิดในหัว โดยไม่ได้มองหน้าของสามีเลยแม้แต่น้อย
“เหอะ! แค่เมียในนาม” คำพูดของภูวดลทำเอาคนเป็นภรรยาจุกอกไม่น้อย หรือเธอหวังดีกับคนตรงหน้าเกินไปจึงได้รับการตอบแทนเป็นความเสียใจตลอด
“ค่ะ ค่ะ เมียในนามคนนี้ห่วงคุณเสมอนะ” เธอยิ้มเจื่อนพูดจบก็กำลังจะยกขันที่เตรียมมาไปเก็บ ส่วนภูวดลเองที่คิดว่าตนเองเผลอพูดไม่ดีใส่เมียไปก็รีบพูดแก้เก้อ
“จะเช็ดก็รีบเช็ดสิ แต่ให้ไปหาหมอฉันไม่ไป” เอ่ยแล้วหันหน้าหนี รสรินเองก็หันกลับมามองที่สามีแต่ทว่าอีกคนกลับหันหน้าหนีไปแล้ว จึงทำให้เห็นแค่ด้านหลัง
“หันหน้ามาสิค่ะ”
“ก็เช็ดข้างหลังก่อนไม่ได้หรือยังไง” ภูวดลต่อความกับภรรยาอย่างกับคนจะเอาชนะให้ได้ ยิ่งป่วยยิ่งปากดีจริง ๆ ชายคนนี้ รสรินได้แต่ส่ายหัว
“งั้นถอดเสื้อออกค่ะ” รสรินบอกสามีด้วยความรีบร้อนกลัวว่าอีกคนไข้จะขึ้นสูงเลยจะรีบเช็ดให้
“จะเช็ดก็ถอดเองสิ” ร่างบางคิดในใจนี้ไม่ใช่อีกคนไม่มีแรงจะถอดหรือคิดจะแกล้งเขากันเเน่นะ
“คุณลุกนั่งไหวไหม”
ภูวดลไม่รู้ว่าทำไมคนๆ ไม่รักกันถึงสามารถเป็นห่วงกันได้ถึงขนาดนี้ แต่สำหรับรสรินที่เป็นห่วงเขาขนาดนี้ เขาคิดว่าความรู้สึกของภรรยาคงมีต่อเขาไม่มากก็น้อย
“อืม เรื่องมากจริง” ร่างสูงบ่นแต่ก็ยอมลุกนั่งให้อีกคนได้เช็ดตัวให้อย่างสะดวก มือขาวจับผ้าขนหนูบิดน้ำออกหมาด ๆ แล้วเริ่มเช็ดหน้าให้สามีก่อนเป็นอันดับเเรก
“ไม่ถอดเสื้อแล้วหรือไง” ปกติภูวดลไม่ได้พูดกับภรรยามากขนาดนี้ มันเป็นที่ป่วยหรืออะไรกันรสรินสงสัย
“คุณภูถอดให้ไม่ได้เหรอคะ” เธอเองก็เขินที่จะถอดเสื้อของผู้ชายตัวโตจึงเลี่ยงที่เช็ดภายใน แต่ก็ถูกสามีดันถามขึ้นมาเสียก่อนจึงเคอะเขินเข้าไปอีก
"ฉันถอดไม่ไหว เธอถอดเถอะ" ภูวดลทำเป็นเหมือนคนอ่อนแรงป่วยหนักขึ้นมาทันที เขาอยากจะลองแกล้งคนตรงหน้าดูว่าจะเขินเขาได้มากแค่ไหน
"..." รสรินไม่ได้ตอบคำถาม แต่วางผ้าในมือลงแล้วเอื้อมมือเล็กไปจับชายเสื้อยืนของคนป่วยแล้วกำลังจะเลิกเสื้อขึ้น แต่ดันมีมือสากของใครบางคนมาจังเอาไว้เสียก่อน
"อะ..อะไรคะ" ร่างบางสะดุ้งมืออีกคนอยู่ ๆ ก็มาจับมือเธอไว้ จึงเงยหน้าขึ้นไปถามสามีด้วยความสงสัย
"เปล่าน่ะ"
แค่ได้เห็นท่าทีตื่นตระหนกของภรรยาก็ทำให้ภูวดลมีความสุขมากไม่น้อย เมื่อไม่มีอะไรมาขัดจังหวะแล้วรสริสก็เลิกเสื้อของภูวดลออกมาได้ เขาเริ่มเช็ดจากคอลงมาต่ำเรื่อย ๆ
ไม่รู้ว่าเช็ดแบบไหนหน้าของรสรินกันถึงได้แดงไปถึงหูขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าภูวดลไม่เห็นใบหน้าสวยที่เห่อร้อนของภรรยา เขาเห็นแต่เขาแค่ไม่อยากจะทักให้อีกคนรู้ตัวว่าเขารู้ กลัวจะเขินจนไม่มีที่มุด
"เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวกินยาหน่อยนะคะ" รสรินจัดการเก็บผ้าขนหนูไปแล้วเอายามาวางข้างเตียงพร้อมน้ำให้ภูวดลให้กิน
"ไม่ เช็ดแค่ตัวก็พอแล้วแหละ" คนป่วยไม่ฟังที่ภรรยาบอก เขานอนลงบนที่นอนแล้วดึงผ้าขึ้นมาห่ม
"ไม่ได้คะ ต้องกินยาด้วยถึงจะหาย" ร่างบางเองก็พยายามจะกล่อมให้สามีกินยา ทว่าอีกคนไม่ฟังนอนคลุมโปงเหมือนเด็กไปแล้ว
"อย่ามาบังคับฉัน" แม้ว่าภูวดลจะเป็นผู้ชายที่นิ่งขรึมน่าเกรงขาม แต่ถ้าเอายามาให้เขากิน ทำยังไงก็ไม่สำเร็จเพราะภูวดลไม่ชอบกินยาไม่ว่าจะแก้อะไรก็เถอะ ไม่กิน!
"กินหน่อยค่ะ แค่เม็ดเดียว" ไม่ว่ารสรินจะเกลี้ยกล่อมแบบไหนแต่ภูวดลก้ไม่ยอมเปิดผ้าห่มออกมากินยา
"บอกว่าไม่ไง"
"งั้นก็แล้วแต่คุณเลย ถ้าไม่อยากหาย"
ว่าแล้วรสรินวางยาลงที่โต๊ะข้างเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องนอนคนป่วยทันที ภูวดลเมื่อรู้ว่าอีกคนไม่อยู่ในห้องแล้วก็เปิดผ้าออกมา เขายอมกินยาที่ภรรยาเตรียมไว้ให้อย่างง่ายดาย เหตุผลเขาเองก็ไม่ทราบได้ว่าทำไมต้องยอมกิน รู้แค่ว่ากลัวเธอจะงอนเขาแล้วไม่คุยกับเขา