บทที่ 6 รอยยิ้มร้ายกาจ

1650 Words
"จะกินอะไร" ยี่หวาเงยหน้าขึ้นถามน้องชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อเข้ามานั่งในร้านหม้อไฟแล้วเรียบร้อย "พี่สั่งเลย" ยูโรตอบกลับเสียงเรียบพลางมองไปรอบ ๆ ร้านที่คนค่อนข้างเยอะพอสมควร "โอเค" พอได้คำตอบจากน้องชายเธอก็จัดการสั่งอาหารทันทีอย่างไม่รอช้า กลิ่นหอมของหม้อไฟที่มีให้เลือกหลากหลายแบบนั้นส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งร้าน ไม่รู้เธอคิดถูกหรือเปล่าที่ชวนน้องมาทานหม้อไฟ เพราะดูแล้วกลิ่นคงติดตามตัวตามเสื้อผ้าไปหมดแน่ ๆ โดยเฉพาะบนศีรษะที่เธอเพิ่งจะสะผมมาเมื่อเช้า หลังจากทานหม้อไฟเสร็จคงได้สระผมซ้ำอีกรอบแน่ ๆ "มองอะไรอยู่" เสียงเล็กถามพลางมองตามสายตาของน้องชายที่เอาแต่มองออกไปนอกร้าน "รู้จักเขามั้ย" ยูโรเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองไปที่ชายชุดดำสองคนที่ยืนอยู่นอกร้าน คิ้วเล็กของยี่หวาเริ่มขมวดเข้าหากันยุ่งเมื่อมองตามสายตาน้องชายไปแล้วพบกับชายชุดดำร่างสูงใหญ่สองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่นอกร้าน แต่สายตานั้นจ้องมองเข้ามาภายในร้านหม้อไฟที่เป็นกระจกใส จะว่าเขามองคนอื่นก็ไม่น่าจะใช้ เพราะโซนที่เธอกับน้องชายเลือกนั่งค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวและแต่ละโต๊ะก็ตั้งห่างกันพอสมควร ในรัศมีสายตามุมนี้ก็มีแค่โต๊ะของเธอโต๊ะเดียวเท่านั้น "ฉันจะไปรู้จักคนแบบนั้นได้ยังไง" "ก็เผื่อรู้ เห็นมองตั้งแต่เราลงจากรถแล้ว" "เขาอาจจะไม่ได้มองเราก็ได้" "พี่ตาบอดเหรอ ก็เห็นอยู่ว่ามอง" ยูโรสวนกลับทันทีที่ได้ยินพี่สาวตอบมาแบบนั้น ก่อนจะถอนหายใจแรงแล้วเลิกสนใจชายชุดดำสองคนนอกร้านแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเกมรอเวลาอาหารมาเสิร์ฟ ยี่หวายังคงขมวดคิ้วจ้องมองออกไปนอกร้านด้วยความสงสัย ถึงเธอจะตอบน้องชายออกไปแบบนั้นแต่ก็ยังคงสงสัยไม่ต่างกับยูโรนัก เพราะเธอไม่เคยรู้จักผู้ชายชุดดำสองคนนอกร้านมาก่อน แต่จะว่าไป...เธอเองก็รู้สึกคุ้น ๆ กับลักษณะการแต่งตัวที่สวมชุดสูทสีดำสนิทแบบนี้ "ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ" ความสงสัยที่มีถูกแทนที่ด้วยความสนใจตรงหน้า เมื่อมีเสียงของพนักงานดังแทรกขึ้นพร้อมกับยกหม้อไฟมาวางลงที่เตากลางโต๊ะให้ ก่อนจะทยอยนำเมนูต่าง ๆ ที่เธอสั่งไปขึ้นเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ มัวแต่สนใจกับอาหารตรงหน้าพอหันกลับไปมองนอกร้านอีกทีก็ไม่เจอกับชายชุดดำสองคนนั่นแล้ว ภายในห้องทานอาหารแบบส่วนตัวในร้านเดียวกัน มีเสียงถอนหายใจแรง ๆ ดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ครั้งแล้วครั้งเลา เมื่อต้องมานั่งอยู่หน้าเตาร้อน ๆ ที่มีไอความร้อนจากหม้อไฟตรงหน้าลอยคละคลุ้งเต็มห้องไปหมด "ทำไมต้องเป็นที่นี่วะ" น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ของไทม์ถามขึ้น พลางยกมือขึ้นปัดควันที่ลอยคละคลุ้งเข้าใส่ตัวออกไปให้พ้นตัวอย่างหงุดหงิด คิ้วหนาขมวดเข้าหากันยุ่งอยู่ตลอดเวลา "มีคนบอกว่าอร่อย เลยอยากลอง" ไอแวน เพื่อนสนิทของเขาตอบกลับเสียงเรียบไม่ต่างจากสีหน้านิ่ง ๆ ที่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรขณะที่พูด "ใคร?" คิ้วหนาของไทม์ขมวดเข้าหากันถามกลับไปสั้น ๆ "..." แต่คำตอบที่ได้มีเพียงความเงียบเท่านั้น ไทม์ต้องถอนหายใจแรงอีกครั้งก่อนจะจับตะเกียบคีบเนื้อขึ้นจากหม้อไฟร้อน ๆ แล้วปล่อยลงที่เดิมพร้อมกับวางตะเกียบกระแทกลงกับโต๊ะอย่างแรงอย่างไม่สบอารณ์ เคร้ง! "ไม่กิน?" ไอแวนถาม "แดกไม่ลง อร่อยนักก็แดกให้หมด" ไทม์ตอบกลับอย่างหัวเสีย ยกมือขึ้นกอดอกพร้อมกับตวัดขาเรียวยาวราวกับนายแบบขึ้นไขว่ห้างจ้องมองเพื่อนสนิทที่นั่งกินหม้อไฟอยู่ฝั่งตรงข้ามเงียบ ๆ ไม่รู้คิดผิดหรือคิดถูกที่อยู่ต่อเพื่อรอเพื่อนมาถึง ถ้าเขารู้ว่าอยู่รอแล้วเพื่อนจะนัดมาคุยงานที่ร้านบ้าบอนี่เขาคงไม่เสียเวลาอยู่รอ ไม่รู้ว่าอาหารประเภทนี้มันอร่อยยังไงถึงได้มีคนเต็มร้านแบบนี้ แค่เห็นคนพลุ่งพล่านก็ชวนหงุดหงิดจะแย่ ไหนจะอากาศที่ร้อนอบอ่าวของที่นี่อีก มันไม่เหมาะที่จะมานั่งกินหม้อไฟร้อน ๆ เลยสักนิด ระหว่างทานอาหารไปทั้งไทม์และไอแวนก็คุยธุระกันไปด้วยเพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะกว่าพวกเขาจะมีเวลาว่างตรงกันได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อต่างคนต่างก็มีงานของตัวเอง "ไปดื่มต่อมั้ย" ไอแวนถามเมื่อเดินออกมาจากห้องส่วนตัวหลังจากที่ทานอาหารและคุยธุระกันเสร็จ "ไม่" ไทม์ตอบกลับทันทีอย่างไม่เสียเวลาคิด สายตาคมกวาดมองไปรอบ ๆ ร้านที่ผู้คนเริ่มบางตาลงกว่าตอนที่เขาเข้ามา ก่อนจะไปสะดุดตาเข้ากับร่างบางในชุดนักศึกษาที่กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทานหม้อไฟอยู่กับผู้ชาย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อผู้ชายคนนั้นยังสวมชุดเครื่องแบบของโรงเรียนมัธยม "ใคร" ไอแวนที่มองตามสายตาเพื่อนไปถามขึ้นสั้น ๆ "หึ" คำตอบที่ได้มีเพียงเสียงหัวเราะและรอยยิ้มร้ายกาจเท่านั้น เขาไม่คิดว่าบุคลิกอย่างเธอจะควงเด็กมัธยมแบบนี้ได้ "รู้จักเขา?" "ก็ไม่เชิง" พูดจบก็ก้าวขายาว ๆ มุ่งหน้าตรงไปประตูทางออก ซึ่งก็ต้องเดินผ่านโต๊ะนั้นอยู่แล้ว ยี่หวาที่นั่งทานหม้อไฟพร้อมกับคุยเล่นกับน้องชายไปด้วยรอยยิ้มเป็นต้องหุบยิ้มลงทันที เมื่อสายตาดันเหลือบไปเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของคู่กรณีจากเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวซ้ำ ๆ ร่างสูงโปร่งเดินตรงมาที่เธอใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างวางมาด ก่อนที่เขาจะหันมาสบตากับเธอพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก "มองอะไรอยู่" ยูโรถามอย่างสงสัยแล้วหันกลับหลังไปมองตามสายตาของพี่สาวโดยไม่รอคำตอบ ก่อนจะพบกับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งสองคนเดินตรงมาทางนี้ ยี่หวาเตรียมตั้งรับเต็มที่เมื่อเห็นเขาเดินใกล้เข้ามาพร้อมร้อยยิ้มร้ายกาจ แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดเมื่อเขาเดินผ่านโต๊ะของเธอไปง่าย ๆ ผิดกับรอยยิ้มร้ายกาจที่เขาส่งมาให้เธอก่อนหน้านี้ที่เหมือนว่าจะต้องมีอะไรแน่ ๆ แต่เขาดันเดินผ่านเธอไปเฉยเลย ขวับ! ใบหน้าสวยรีบหันขวับมองกลับหลังด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะเห็นว่าเขาเองก็หยุดยืนอยู่หน้าประตูร้านแล้วหันมามองเธอด้วยรอยยิ้มร้ายกาจแล้วเดินออกไปจากร้านทันที "ใคร รู้จักเขาเหรอ" ยูโรถามขึ้นอีกครั้ง "ก็แค่ผู้ชายนิสัยเสีย" ยี่หวาหันกลับมาตอบน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์ กำลังทานอาหารอย่างอร่อยแต่พอเจอหน้าเขาพร้อมกับรอยยิ้มร้ายกาจแบบนั้นก็ทำให้เธอทานต่อไม่ลงแล้ว เกลียดนักรอยยิ้มร้ายกาจแบบนั้น สักวันเถอะ สักวันเธอจะต้องได้เอาคืนเขาแน่! "เขาดูไม่ธรรมดานะ พี่อย่าคิดเข้าไปยุ่งเด็ดขาด" "เห็นฉันเป็นคนยังไงที่จะไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นไปทั่วได้" "สายตาพี่เหมือนแค้นเขามาก" "แน่นอนสิ ก็เขาเป็นคนทำให้ฉันเกิดอุบัติเหตุที่สนามแข่ง" พูดแล้วก็หงุดหงิด อยากจะลุกขึ้นวิ่งไปกระชากคอเขาแรง ๆ สักทีให้หายแค้น แต่ก็ทำได้แค่คิด เพราะสภาพร่างกายเธอแค่เดินยังร้าวระบมไปทั้งตัว อีกอย่างข้างกายเขาก็รายล้อมไปด้วยชายชุดดำตัวสูงใหญ่อีกหลายคน คงยากที่จะเข้าถึงตัวเขาได้ง่าย ๆ "สองคนนั่น…คนของผู้ชายคนนั้น" เสียงของยูโรทำให้ยี่หวารีบมองออกไปนอกร้านอีกครั้ง ก่อนจะเห็นว่าชายชุดดำสองคนนอกร้านที่มองเธอกับน้องชายในตอนแรกที่เข้ามากำลังก้มหัวให้กับเขาอยู่ ถึงว่า…เธอรู้สึกคุ้น ๆ กับลักษณะการแต่งตัวแบบนั้น ที่แท้ก็คนของเขาเองสินะ "ยี่หวา" "หือ" เสียงขานรับในลำคอดังขึ้นเบา ๆ ก่อนจะละสายตาจากกลุ่มคนนอกร้านหันกลับมาตามเสียงเรียกของน้องชาย "อย่ายิ้มแบบนั้น" "แบบไหน?" "แบบเมื่อกี้" "ทำไม…" "รอยยิ้มพี่ดูน่ากลัวกว่าคนพวกนั้นอีก" "ยูโร!" เสียงเล็กแหวใส่น้องชายเสียงดังเมื่อถูกน้องชายบอกว่ารอยยิ้มเธอน่ากลัว จนถูกโต๊ะอื่นมองแรงใส่ทำให้เธอต้องรีบก้มหัวเป็นเชิงขอโทษที่เสียมารยาท เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเผลอทำหน้าแบบไหนหรือยิ้มแบบไหนออกไป น้องชายเธอถึงได้บอกว่าน่ากลัวได้ เพราะตอนนั้นเธอแค่กำลังคิดว่า…ถ้าทำให้ผู้ชายนิสัยเสียอย่างไทม์ก้มหัวขอโทษเธอได้เหมือนอย่างที่ลูกน้องเขาก้มหัวให้เขา มันคง…สะใจน่าดู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD