อาหลินกลายเป็นวิญญาณล่องลอยไปทั่ว เธอคล้ายนักท่องเที่ยวคนนึง วิญญาณของเธอโปร่งแสงสีขาว มีแรงบุญพอสมควร ด้วยคำบอกกล่าวจากวิญญาณดวงอื่น อาหลินมักใช้เวลาอยู่กับพีทมากที่สุด เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัย แต่การโยกย้ายเงินสดจำนวนมโหฬารของอาหลินก็ทำให้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในตัวพีท เพราะพวกเขามุ่งเน้นไปในเรื่องของทรัพย์สินมากกว่า พีทที่รู้ความจริงเกี่ยวกับทรัพย์สินของอาหลินก็หัวเสียไม่น้อย เธอเหลือเงินให้เขาไม่กี่สิบล้าน บ้านหนึ่งหลังกับรถอีกไม่กี่คัน และที่ดินที่ยังขายไม่ได้อีกไม่กี่แปลง
อาหลินไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมเธอถึงกลายมาเป็นวิญญาณ ทำไมไม่ไปเกิดใหม่ หรือไปสวรรค์นรกอย่างที่เคยเข้าใจ ในโลกแห่งวิญญาณมีวิญญาณมากมายหลายประเภท วิญญาณที่น่ากลัวจะมีไอสีดำทะมึน พวกเขาจะอาศัยตามพื้นที่รกร้างน่ากลัว วิญญาณปกติจะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว บางคนก็มีบ่วงพันธนาการที่เหนี่ยวรั้งให้ยึดติดจนไม่สามารถไปที่ไหนได้ อาหลินไม่ได้มีแสงบ่วงพันธนาการ แต่เธอกลับวนเวียนเช่นนี้น่าแปลกใจเสียจริง แต่โลกใบนี้ทำให้เธอเชื่อในบาปบุญ
"อาหลินมาที่นี่อีกแล้วหรอ" วิญญาณของคุณยายวัยเจ็บสิบปีถาม เธออยู่ในชุดสีขาว ก่อนตายชอบปฎิบัติธรรม ตอนกลายเป็นวิญญาณมีห่วงเรื่องบุตรหลานก็ทำให้วิญญาณไม่ไปไหน แต่ก็มีบ้างที่แวะเวียนมาเข้าวัด ปฎิบัติธรรม แต่อาหลินเธอกลับมาเพียงรับบรรยากาศดีๆเท่านั้น ในโลกของวิญญาณมันขมุกขมัวไม่น้อย วัดเป็นที่ที่มีแรงบุญเยอะ ปลอดโปร่งโล่งสบายไม่ต่างจากตอนเป็นมนุษย์มีร่างกายเลือดเนื้อเลย
"เบื่อค่ะ ไม่รู้จะไปไหนดี มีแต่เรื่องปวดหัว" อาหลินกล่าวออกมา หลานชายเธอคล้ายคนประสาทเสีย และนอกจากพีท อาหลินก็ไม่มีที่ให้ไปแล้ว มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อเสียเหลือเกิน
"ลองไปพวกโรงพยาบาลดูสิ บางทีวิญญาณที่อยากเกิดใหม่ก็ได้เกิดกันที่นั่น" คุณยายหันมาบอกก่อนจะยิ้มแล้วหายวับไป อาหลินเหมือนคนเพิ่งคิดออก เธอเลยนึกถึงโรงพยาบาลที่เธอเคยเข้ารักษา เนื่องจากสถานที่ที่เธอจะไปได้ ครั้งนึงต้องเคยมา หรือมีจิตผูกผ้น
อาหลินเดินไปในแต่ละห้องก็เจอกับการกำเนิด เจ็บ แก่ ตาย วัฎจักรที่พระพุทธเจ้าท่านเคยได้พบ แต่น่าแปลกอาหลินไม่ได้ปลดปลงแม้แต่น้อย อาจจะเพราะจิตใจของเธอไม่ได้ใสสะอาดมากนัก และไม่มีความคิดที่จะหลุดพ้น อาหลินเห็นเด็กสาวหน้าตาดีมากคนนึง ดวงตาของเธอกลมโต ผิวพรรณของเธอขาวเนียนผุดผาด แม้จะอยู่ในชุดธรรมดา แต่ก็ลดความโดดเด่นทางด้านหน้าตาของเธอไม่ได้เลย เด็กสาวนั่งหน้าซีดเหมือนมีเรื่องครุ่นคิด อาหลินนั่งข้างเด็กสาวคล้ายดั่งต้องมนตรา
เด็กสาวเดินเข้าห้องตรวจก่อนคุณหมอจะยื่นผลการตั้งครรภ์ของเธอ เด็กสาวปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก คนเป็นหมอพยาบาลแทนที่จะช่วยปลอบใจ กลับทำหน้าหยามเหยียด การมีลูกก่อนวัยอันควรไม่ผิดหากมีความพร้อม แต่ดูจากการร้องไห้ของเด็กสาวคงไม่พร้อม และถ้าว่ากันตามตรง บ้านเรานั้นไม่ได้สอนเรื่องเพศดีนัก การป้องกัน การหลั่งใน บางอย่างเด็กๆยังไม่รู้เลย อาหลินแม้ไม่เคยมีความสัมพันธ์พวกนี้ แต่เธออ่านนิตยสาร บทความมาไม่น้อย เธอจึงมีความรู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง
อาหลินอยากจะปลอบโยนเด็กสาว แต่อนิจจา... เธอเป็นเพียงวิญญาณเท่านั้น เด็กสาวทำใจจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อนจะกลับบ้าน แล้วแอบเก็บผลการตรวจ กับยาบำรุงครรภ์ไว้ เด็กสาวคนนี้เป็นลูกของคนที่มีเงินพอสมควร บ้านของเธออยู่ในหมู่บ้านชานเมือง ราคาที่อาหลินพอทราบน่าจะบ้านหลังราวหกถึงสิบล้านบาท พ่อของเธอขับรถยุโรปเซคเมนต์ที่ไม่ได้แพงมากนัก หากมองก็จะอยู่ในระดับฐานะ upper middle class income หรือจะเรียกว่า lower high middle class income ถ้าหากกล่่าวแบบง่ายๆก็คือพงกเขามีเงินจนถึงขั้นรวย แต่ไม่ใช่เศรษฐีขนาดนั้น เด็กสาวคนนี้ชื่อ อรอินทร์ เป็นลูกสาวคนโตของบ้านที่ชะตาชีวิตคล้ายซินเดอเรลล่าประมาณหนึ่ง
อรอินทร์มีพ่อเป็นวิศวกรอาวุโส อาหลิวไม่แน่ใจเนื้องานของพ่ออรอินทร์เท่าไหร่ เพราะเธอตามเขาไม่ได้ ชายคนนี้มีพลังศรัธราในเทพสูง บนศรีษะของเขามีไอเย็นบางๆของเทพที่เขานับถือ ซึ่งวิญญาณมนุษย์ที่บุญบารมีไม่สูงแบบเธอไม่อาจรู้ได้
ส่วนแม่เลี้ยงของอรอินทร์เธอไม่ได้ทำงานอะไร นอกจากการเป็นแม่บ้านเต็มตัว อรอินทร์มีน้องชาย และน้องสาวที่เกิดจากผู้หญิงคนนี้ หล่อนไม่ได้ร้ายกาจอย่างในนิทานปรัมปรา แต่ก็ไม่ใช่คนดีเท่าที่ควร เธอมักจะชอบยักยอกเงินรายได้ของอรอินทร์ และคอยใช้งานอรอินทร์ทำนั่นนี่ลับหลังพ่อของอรอินทร์ และยังคอยกันท่าอรอินทร์หลายอย่าง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องการใช้ชีวิต และนำทุกอย่างไปลงที่ลูกชาย และลูกสาวของเธอหมด ผู้เป็นพ่อก็คงไม่ได้โง่ แต่เพื่อรักษาบรรยากาศในบ้าน และความสัมพันธ์ของครอบครัว ผู้ใหญ่ทุกคนจะมองภาพรวมมากกว่าความรู้สึกเสมอ นั่นคงเป็นสิ่งที่พลาดสำหรับพวก รวมทั้งพ่อ และเธอด้วย
อาหลินคอยดูเด็กสาวที่นั่งร้องไห้กลางคืน ช่วงนี้อยู่ในช่วงของรอสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เด็กสาวกลับท้อง อาหลินแอบเห็นอรอินทร์คิดจะทำแท้ง ในใจก็อดเสียดายไม่ได้ ก้อนวิญญาณแรกกำเนิดของอรอินทร์เป็นสีขาวเหลือบทอง เด็กคนนี้เป็นผู้มีบุญมากทีเดียว อาจจะมาจากชั้นฟ้าเลยก็เป็นได้ อรอินทร์เสริช์อินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการทำแท้ง ซึ่งอาหลินก็เพิ่งทราบว่ามีกฎหมายฉบับใหม่ออกมาแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่เกินสิบสองสัปดาห์สามารถทำได้ แต่เด็กสาวก็ดูจะหวาดกลัวเกินไป เธอตัวคนเดียว จะเดินไปบอกพยาบาลกับหมอยังไง จะปรึกษาพ่อก็ไม่ได้ แม่เลี้ยงยิ่งแล้วใหญ่ แต่ด้วยอาการที่กำเริบ อรอินทร์อาเจียน และอ่อนแรงหลายครั้ง กริยาแบบนี้หรือจะหลุดพ้นจากสายตาผู้หญิงที่ผ่านการมีลูกมาแล้ว
"นี่มันอะไรกันหนูอร" ฉากละครของรินดาเริ่มต้นขึ้นด้วยการนำยาบำรุงครรภ์ของอรอินทร์ที่อยู่ในห้องมาวางกลางโต๊ะทานข้าว ที่ทรงพลคนเป็นพ่อนั่งอยู่ด้วย เขามองถุงยาโรงพยาบาลที่ภรรยาหยิบออกมาด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อพิจารณาลูกสาวที่นั่งหน้าซีดตัวสั่น เขาจึงต้องรีบหยิบซองยามาอ่าน ชื่อชนิดและขนาดของยา ทรงพลไม่ได้สนใจนัก ยาบำรุงเลือดกระดูก ที่เขียนแนะนำอธิบายเกี่ยวกับบำรุงครรภ์ เขารีบเปิดเอกสารใบเสร็จของโรงพยาบาล หน้าของเขาชา ตัวของเขาชาวาบ
"นี่มันอะไร" ทรงพลเสียงดังใส่ลูกสาว รินดารีบพาลูกชาย และลูกสาวของเธอขึ้นไปอยู่ในห้องบนบ้านชั้นสอง และเธอก็รีบลงมาคว้ามือสามี ปลอบประโลมให้เขาใจเย็น
...ฉากละครยอดนิยมในไทย
"คุณพ่อ คะ อร อร ฮึก" อรอินทร์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อก็จนมุมด้วยหลักฐานคาตาขนาดนี้ เธอได้แต่เอามือปิดหน้าร้องไห้
"มึงไปท้องกับใครมา อีลูกอัปรีย์" ทรงพลส่งเสียงด่าบุตรสาวหยาบคายอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน อรอินทร์ยิ่งร้องหนักกว่าเดิมด้วยความเสียใจ
"หะ หนูไม่รู้" อรอินทร์กล่าว อาหลินมองแบบงุนงง เธอจะท้องโดยไม่รู้ได้ยังไง แต่อรอินทร์ก็ท่าทางเป็นเด็กดีถึงปานนั้น อาหลินไม่ได้อยู่กับอรอินทร์ตลอด เธอไปอยู่กับพีทบ้าง ไปวัดบ้าง
"แกจะไม่รู้ได้ยังไง แล้วนี่ท้องกี่เดือนแล้ว" คุณทรงพลพยายามสูดลมหายใจเข้าไปลึก อรอินทร์ในยามนี้น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
"สองเดือนกว่าแล้วค่ะ" อรอินทร์น้ำตาไหล
เพี้ยะ
"แกนี่มันระยำจริงๆ" คุณทรงพลตบหน้าบุตรสาวเต็มแรงด้วยความโมโห รินดาแม้จะคอยรังแก กลั้นแกล้งบ้าง แต่เธอก็ไม่เคยลงมือลงไม้แบบนี้ และเธอก็คงไม่คิดจะทำ ผิวพรรณของสตรีสำคัญมากขนาดไหน เธอรู้ดี
"คุณพล ที่ฉันเอายายัยอิชนทร์ออกมาให้ดู เพื่อให้คุณคุยกัน ไม่ใช่ทำร้ายกันแบบนี้นะคะ" เธอกล่าวกับทรงพล ความสัมพันธ์ของเธอกับลูกเลี้ยง ก็คือแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง เธอพยายามลดทอนบทบาทของอรอินทร์เพิ่มบทบาทให้ลูกเธอ เก็บข้าวของให้ลูกเธอ เพราะเธอไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร ความหวังของเธอก็คือลูกชาย ลูกสาว สามีก็อายุเลขห้าแล้ว เขาจะทำงานเลี้ยงทันลูกเธอโตเข้ามหาวิทยาลัยไหมก็ไม่รู้ แต่เรื่องที่ทรงพลลงไม้ลงมือกับลูกสาวแบบนี้เธอไม่เห็นด้วยแน่นอน
"ก็ดูความร่านของมันสิ" ทรงพลกล่าว
"คุณถามอินทร์ก่อนไหมว่ามันเป็นมายังไง"
"มันก็ร่านเหมือนแม่มันนั่นแหละ ไปให้พ้นสายตาฉัน" อาหลินยืนงงกับคำด่า เธอเห็นอรอินทร์วิ่งเข้าไปนอนร้องไห้ในห้องจนเหนื่อย เธอไม่สนใจสองผัวเมียคู่นั้น เพราะเธอนั้นติดตามได้แค่อรอินทร์
อรอินทร์ร้องไห้จนเหนื่อยจนหมดน้ำตา เธอลุกไปหยิบบัญชีธนาคารก็พบเงินสดที่เก็บในนั้นมีประมาณสองแสน
...อย่าบอกนะ
"ไม่นะหนูอร เงินแค่แสนสองแสนมันไม่พอหรอกนะลูก ไหนจะกำลังท้องกำลังไส้" อาหลินพยายามร้องห้าม แต่เธอก็เป็นเพียงวิญญาณที่ไม่มีใครได้ยิน
อรอินทร์เก็บเสื้อผ้าข้าวของจำเป็น ทรัพย์สินที่เธอมีทั้งหมดออกจากบ้านอย่างเงียบงันในคืนกลางดึก เธอหยิบมือถือกดแอพลิเคชั่นเรียกรถ ก่อนจะตรงไปโรงแรมเพื่อพักสักคืน อาหลินเฝ้าอรอินทร์ไม่ห่าง คนท้องก็จะอารมณ์แปรปรวน แต่อรอินทร์นั้นต่างกับเธอมากพอสมควร เด็กสาวเข้มแข็ง และกล้าที่จะเดินออกจากบ้าน ต่างจากเธอที่ไม่กล้าจนต้องกลายเป็นนกน้อยในกรงทองที่ทำงานรอวันตาย
อรอินทร์เลือกเช่าคอนโดราคาห้าหกพันที่มีร้านค้าภายในโครงการ อรอินทร์มีใบวุฒิที่ติดตัวมาแค่มัธยมศึกษาปีที่หก ท่าทางอ่อนแอบอบบางของเธอ แม้จะบุคลิกภาพดี แต่วุฒิการศึกษานั้นน้อยเกินไป ทำให้เธอได้งานเพียงแจกใบปลิวร้านเกี่ยวกับศัลยกรรมความงาม แต่ความสวยมันไม่เพียงพอสำหรับการทำงานขาย แม้เด็กสาวจะสวย แต่จริตจะก้าน วิธีการขายกลับทำได้ไม่ดีนัก ทำให้เธอได้เพียงค่าจ้างรายวันไม่ได้ค่าคอม อีกทั้งตอนนี้เธอท้องได้สามเดือนกว่าแล้ว ทรงพลไม่ได้ออกตามหา ไม่ได้สนใจลูกสาวอีกเลย ทำให้อาหลินคอยมาอยู่เป็นเพื่อนอรอินทร์ตลอดเวลา เธอแทบจะไม่กลับไปหาพีทอีกแล้ว เขาคล้ายคนโรคจิตที่เอาแต่พยายามตามทรัพย์สิน ตอนนี้คดีการตายของเธออยู่ระหว่างสืบสวน ตำรวจรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง ทำให้ทรัพย์สินของเธอทุกบัญชี ทุกอย่างถูกอายัด ครอบครัวของภาคภูมิก็เดือดร้อนด้วยเล็กน้อย แต่พวกเขายินดีให้การช่วยเหลือในด้านคดีครั้งนี้
แต่ตอนนี้อาหลินกังวลกับเรื่องของอรอินทร์มากกว่า เด็กสาวหางานทำไม่ได้ สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แต่นอนอยู่ห้อง ทานอาหาร ทานยาบำรุงร่างกาย อาหลินอยากจะสิงร่างพาอรอินทร์ไปพบทรัพย์สินของเธอเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเธอนั้นทำไม่เป็น เธอได้แต่ล่องลอยอยู่ข้างเด็กสาว คอยปลอบโยนทัั้งที่รู้ว่าเด็กสาวไม่ได้ยิน อรอินทร์ถูกพ่อเกลียดโดยสมบูรณ์ เธออุ้มท้องโตมาหลายเดือน เงินสองแสนไม่ได้เยอะเลย ไม่นานมันก็เหลือไม่มากแล้ว เหลือแค่พอค่าคลอด เด็กสาวมีข้าวของเตรียมไม่มากพอ ไหนจะค่าเช่าอีก ยิ่งคิดอาหลินยิ่งปวดหัวแทน
จนกระทั่งวันที่รอคอยมาถึง อรอินทร์เริ่มมีน้ำไหลออกจากหว่างขา เธอเรียกรถมารับไปโรงพยาบาลพร้อมกับของไม่กี่ชิ้น
"โอ๊ยยยย" เด็กสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เด็กไม่ยอมออกมา อาหลินได้แต่กระวนกระวายเป็นห่วงอรอินทร์ใจแทบขาดรอน
แต่ไม่นานเหมือนพลังของเธอจะอ่อนลง อ่อนลงไปเรื่อยๆ จนวูบดับ จิตของเธอถูกขังอยู่ในกล่องมืดใบนึง
อาหลินลืมตามาก็พบว่าตนเองนอนอยู่ในโรงพยาบาล อาการของเธอเหมือนมึนยาชา เธอสัมผัสได้ถึงกายหยาบ อาหลินพยายามปรับภาพ ปลายเท้าเป็นอรอินทร์ที่ยืนมองด้วยรอยยิ้ม
"คุณน้าที่ผ่านมาขอบคุณมากนะคะ อรฝากลูกด้วย คุณน้าต้องเลี้ยงเขาให้ดีนะคะ" อรอินทร์ในร่างโปรงแสงเลือนหายไป อาหลินปวดหัวอย่างรุนแรงก่อนภาพความทรงจำบางส่วนจะไหลเข้ามาในหัวของตนเอง
...ที่แท้อรอินทร์เห็นผีมาตั้งแต่เด็ก
...พระอาจารย์เคยเตือนให้เธอทำตัวเหมือนไม่เห็น อรอินทร์เลยแสร้งไม่เห็นอาหลิน แต่จริงๆแล้วตลอดมา เธอเห็นอาหลิน และได้ยินอาหลินมาโดยตลอด
...ที่เด็กสาวนั่งบนโซฟาอีกฝั่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เธอแค่ไม่ได้ทับที่อาหลินเท่านั้น อาหลินตกใจ แต่ก็ต้องตกใจกว่าที่เธอนั้นอยู่ในร่างของอรอินทร์ที่เพิ่งคลอดลูก
...นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน