“พูดแบบนี้แสดงว่าไม่ห่วงน้องสาวใช่ไหมว่าจะกลายเป็นเมียใคร หรือนี่คือแผนการจับผัวรวยให้น้องสาวครับคุณจาง”
“ไอ้เวรดีแลน”
“คุณจางควรซ้อมเรียกผมว่า น้องเขยสุดที่รัก”
คำพูดเรียบๆ สั้นๆ แต่ทำให้มาเฟียหน้าหยกรู้สึกถึงเม็ดเหงื่อที่แทรกซึมขึ้นเต็มแผ่นหลัง มันเป็นการขู่ที่มีอิทธิพลต่อจางจิ้งเหวิน น้องสาวเขาบอบบางเหมือนแก้ว ส่วนมันตัวสูงใหญ่ขนาดนั้น “ฉันจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับแกอีกก็ได้นับจากนี้ ถ้าหากแกปล่อยลิลลี่กลับมาอย่างปลอดภัย”
“นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันต้องการเพชรลดาคืนแล้วก็ที่ดินผืนนั้น โปรดเข้าใจความต้องการของฉันให้ถูกต้อง”
ส่งเพชรลดาคืนหรือ เธอก็ต้องกลายเป็นของมัน เขารู้ว่านี่เป็นการเห็นแก่ตัว จางจิ้งเหวินตอบตัวเองไม่ได้ ว่าเหตุใดจึงไม่ยอมปล่อยมือจากผู้หญิงของคนอื่น เรื่องนี้จะว่าไปแล้ว เขาเองที่เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน แต่เขาไม่สามารถปล่อยมือจากเพชรลดาตามที่มันขอร้องได้ “งั้นฉันจะใช้วิธีของฉันเอง”
“หึ งั้นก็ลองดูว่าคุณจางจะทำได้หรือเปล่า”
ดีแลนกดตัดสาย เขาสงสารยัยตัวเล็กขึ้นมาทันที จะรู้ตัวไหมว่าพี่ชายเห็นผู้หญิงสำคัญกว่า สำหรับเขาเพชรลดาสวยถูกใจจนคิดจะเลี้ยงไว้ แต่เธอไม่ได้สำคัญกว่าคนในครอบครัวเขาแน่ และหากตอนนี้ถ้าเขาต้องเสียผู้หญิงสักคนระหว่างเพชรลดากับแม่ตัวแสบที่อยู่ในห้อง ดีแลนก็ชักไม่มั่นใจแล้วว่า
‘เขาจะยอมเสียใครกันแน่’
จางจิ้งเหวินปาโทรศัพท์ทิ้งกับพื้นอย่างโมโห มันเป็นมาเฟียต่างถิ่นที่กล้ามาหยามเขาถึงที่ แล้วเขาจะทำยังไงดีถึงจะได้ตัวลิลลี่กลับมาอย่างปลอดภัย ใครอยากนับญาติกับมัน ใครอยากได้ไอ้มาเฟียพลัดถิ่นจอมเจ้าเล่ห์มาเป็นน้องเขยและเขาก็ยังอยากได้ที่ดินผืนนั้นด้วย
“เจ้านายครับ มันไม่ยอมคืนตัวคุณลิลลี่มาใช่ไหมครับ” หม่าเหลียงเหว่ยถาม
“เออสิวะ คิดจะถามดูหน้ากูด้วย ถ้ามันยอมขืนน้องสาวกูดีๆ หน้าก็คงไม่เครียดแบบนนี้”
หม่าเหลียงเหว่ยหน้าเสีย “ขอโทษครับ”
“ช่างเถอะ มันบอกให้เอาตัวเพชรลดาไปแลก แล้วก็ห้ามฉันยุ่งกับที่ดินผืนนั้น แต่ฉันไม่ยอม เพชรลดากลายเป็นเมียฉันแล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะให้คนอื่นมาซ้ำรอย”
คนสนิทที่อยู่ข้างกายกันมานานถอนใจแล้วค่อยๆ ถาม ดูสีหน้าเจ้านายแล้วเหมือนจะฆ่าคนได้
“คุณเพชรลดาเทียบไม่ได้กับคุณลิลลี่ คุณลิลลี่เป็นน้องสาว แต่ผู้หญิงสวยหาใหม่ได้ เจ้านายได้ตัวเธอสมใจแล้วจะเก็บเธอไว้อีกทำไมครับ”
จางจิ้งเหวินยกเท้าถีบคนสนิททันที
โครม
“โอ๊ย เจ้านาย ถีบผมทำไมครับ”
“ห้ามพูดถึงเมียฉันแบบนี้อีก เพชรลดาคือเมียของฉัน เป็นคุณผู้หญิงของที่นี่ รวมทั้งเป็นเจ้านายคนหนึ่งของแกด้วย จำไว้ว่าอย่าพูดจาล่วงเกินเมียฉันให้ฉันได้ยินอีก”
คราวนี้หม่าเหลียงเหว่ยรู้ทันทีว่าเขามองผิดไป เพชรลดามีน้ำหนักในใจเจ้านายขนาดไหน ไม่ใช่แค่นางบำเรอชั่วคราวตามที่เจ้านายเคยตะโกนใส่หน้าเจ้าหล่อนเหมือนตอนที่ฉุดมายังคฤหาสน์
“ผมขอโทษครับเจ้านาย ต่อไปผมไม่กล้าพูดล่วงเกินคุณเพชรลดาอีกแล้วครับ”
หม่าเหลียงเหว่ยสงสัยว่าทำไมเจ้านายถึงได้ไปหลงรักนักร้องสาวคนนี้หัวปักหัวปำนัก แต่จะว่าไปแล้ว ความสวยของเพชรลดานั้นถึงกับทำให้ดารานางแบบบางคนยังต้องอาย แต่เมื่อคิดอีกทีเขากลับรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนที่เจ้านายจะไปพบเธอเข้า แล้วตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำ
จางจิ้วเหวินถอนใจฟืดฟาด เมื่อครั้งที่เพชรลดาเป็นนักร้องที่คลับก็มีแต่เจ้าสัวและคนมีเงินไปรุมจีบอยากให้เพชรลดาเป็นเมียเก็บลับๆ แต่อีกฝ่ายไม่ยินยอม ไม่ว่าใครจะใช้เงินหว่านล้อมมากเท่าไหร่ เธอก็ใจแกร่งมาก แต่กลับยอมตกลงไปเป็นเมียเก็บให้ดีแลนด้วยเหตุผลอะไร ยิ่งคิดมาเฟียหน้าหยกก็ยิ่งเคืองแค้น ทีกับเขานั้นเกลียดจนไม่อยากมองหน้า นี่ถ้านอนด้วยกันแล้วเพชรลดาเอาอะไรมาปิดหน้าเขาได้ เจ้าหล่อนคงทำไปแล้ว แต่ไม่มีวันซะหรอก...
“ฉันคิดว่าตอนนี้หากฉันคนเดียวจะสู้กับไอ้ดีแลนเพื่อเอาลิลลี่กลับมาคงลำบาก มันต้องระวังตัวมาก ฉันต้องมีตัวช่วย”
“เจ้านายจะทำยังไงครับ”
“ท่านรองอธิบดีกรมตำรวจหวัง เขาเคยเห็นลิลลี่ในรูป เขาบอกว่าลิลลี่สวยมาก ท่าทางจะตกหลุมรักน้องสาวฉัน เขาอยากรู้จักเธอ แต่ตอนนั้นฉันไม่อยากบังคับลิลลี่ เพราะแค่ให้ลิลลี่มาที่ฮ่องกงน้องสาวฉันยังไม่อยากจะมาเลย จะให้ไปรู้จักกับท่านรองหวังยิ่งไม่มีทาง แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าจะให้ท่านรองหวังใช้อำนาจที่มีช่วยฉัน แล้วฉันจะช่วยท่านให้รู้จักกับลิลลี่ ท่านรองหวังอยากได้เงินของเราอยู่แล้ว หากเขาชอบลิลลี่จริงๆ มันก็มีแต่ประโยชน์กับเราทั้งสองฝ่าย”
“เป็นแผนที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ ยืมมือฆ่าคน สมแล้วที่เป็นความคิดของเจ้านาย”
“มึงชมกูหรือมึงด่ากู” มาเฟียหน้าหยกถามหน้าแดงก่ำ
“ชมสิครับ แล้วเจ้านายจะให้ผมติดต่อท่านรองหวังเลยไหมครับ”
จางจิ้งเหวินพยักหน้า “แกรีบไปจัดการติดต่อท่านรองหวัง ฉันใจร้อนอยากช่วยลิลลี่ออกมาเร็วๆ ป่านนี้ไม่รู้ลิลลี่จะเป็นยังไงบ้าง”
อีกฟากหนึ่งลิลลี่เดินมาหยุดที่โต๊ะเครื่องแป้ง กระจกเงาสะท้อนภาพหญิงสาวหน้าตาสดใสน่ารักแต่โทรมไปนิด “ตายแล้ว แก้มตอบ” ปกติแล้วลิลลี่เป็นคนมีแก้ม แต่พอถูกพาตัวมาที่นี่ความเครียดคงทำให้เธอผ่ายผอมลง และเวลาที่น้ำหนักลดลง แก้มเธอจึงเป็นส่วนที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงคนอื่นอาจจะไม่ชอบการมีแก้มเยอะ แต่สำหรับลิลลี่กลับชอบให้ใบหน้าดูเอิบอิ่มมีน้ำมีนวลมากกว่าดูเรียวจนหน้าตอบ แต่ตอนนี้ยอมรับว่าไม่มีกะจิตกะใจจะกินอะไรเลย ลิลลี่ถอนใจคว้าแปรงมาสางผมไปพลางๆ
ทว่าเปลือกตาของลิลลี่ค่อยขยับเมื่อหูของเธอสัมผัสได้ถึงเสียงประหลาดบางอย่าง เป็นเสียงใสๆ เล็กๆ
“แอ๊ แอ๊”
ร่างสวยลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วกวาดมองไปรอบห้อง ทุกอย่างยังปกติดี ยกเว้นประตูห้องที่เปิดอ้าไว้ครึ่งหนึ่ง เมื่อครู่เธอรีบเข้าห้องแล้วลืมปิดประตู แต่ที่หน้าประตูมีเพียงความว่างเปล่า ลิลลี่เดินไปที่ประตูตั้งใจจะปิดประตูห้อง เพราะไม่อยากให้ไอ้หมีบ้ากามตามเข้ามา
ดวงตาคู่สวยเห็นสาวใช้ในบ้านวิ่งไปมาเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่าง
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
“ซาลาเปาหายค่ะ” สาวใช้วัยรุ่นสวมกางเกงสีดำและสวมเสื้อกี่เพ้าปักดอกโบตั๋นสีชมพูหยุดตอบด้วยท่าทางหอบเหนื่อย