“ชอบว่าฉันโรคจิต งั้นเชิญลิ้มรสความโรคจิตของฉันหน่อย เผื่อเธอจะหลงใหลในความโรคจิตของฉัน” ดีแลนเลื่อนมือสูงขึ้นไปอีกจนกอบกุมความอวบอิ่มไว้เต็มมือ เขาอยากลองลิ้มชิมรสยอดทรวงคู่งามว่าจะหวานหอมแค่ไหน แต่ก็ต้องข่มใจไว้ เพราะบอกตัวเองเสมอว่าจะไม่รังแกผู้หญิง ที่ทำแบบนี้ก็เพราะอยากสั่งสอน เขาจึงจูบเธออย่างหนักเพื่อสะกดกลั้นความต้องการดิบเถื่อนไว้ ก่อนที่มันจะพวยพุ่งความต้องการไปถึงขีดสุด และดับอารมณ์ฝ่ายต่ำนั้นไม่ได้
ลิลลี่สั่นไปทั้งตัวจากการถูกบดเบียด เสียดสี จนอากาศแทบจะแทรกผ่านไม่ได้ ทุกครั้งที่เขานาบปากร้อนๆ ลงมามันทำให้สมองปรวนแปรไปหมด ช่องท้องหวิวไหว เขาจะจูบรุนแรงในตอนแรก แล้วสักพักจะเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน
เหมือนได้กินอาหารคาวแล้วตามด้วยอาหารหวาน จูบของคนตัวใหญ่ทำให้คนอ่อนประสบการณ์หลงมัวเมาจนระทวย แต่พอสำนึกได้ว่าไม่ควรหลงตามเขาไปลิลลี่ก็จะขืนตัวและความรู้สึกนั้นไว้ ทำให้คนที่กำลังแทะเล็มความหอมหวานนึกขัน
ดีแลนกดร่างของคนตัวเล็กจนแทบจมมิดเบาะ ปากก็ยังแนบนาบไม่ยอมห่าง “หวานเวอร์ ไม่คิดว่าเธอจะหวานขนาดนี้” ไม่รู้ว่ายัยตัวเล็กมีอะไรดี ถึงดึงเขาไว้ได้ไม่อยากห่าง
จูบที่เธอเผลอระทวยตามเมื่อครู่มันทำให้มาเฟียหนุ่มครางต่ำด้วยความพอใจ เขาผละออกมาเห็นใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ ลมหายใจติดขัด ก็ยิ้มมุมปาก
“เธอนี่มันจุดติดง่ายจริงๆ นะ ไหนว่ารังเกียจฉันไง” ดวงตาคู่คมแฝงรอยยิ้มหยอกเอิน
“นี่คุณ” ลิลลี่รู้สึกละอาย เธอไม่ได้จุดติดง่ายเสียหน่อย
พอเห็นดวงหน้าสวยแดงระเรื่อเพราะคงจะอาย ดีแลนจึงแกล้งให้ลิลลี่อายขึ้นไปอีก “แต่ฉันไม่อยากทำแล้ว เธอรีบกลับไปที่ห้องซะ”
ดีแลนรู้ว่าเธอยังไม่พร้อม เขาไม่ใช่พวกมาเฟียที่จ้องเอาเปรียบผู้หญิง ภายนอกเขาอาจจะดูเลวร้ายในสายตาคนอื่น แต่ไม่ว่าจะหื่นอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงโดยที่เจ้าหล่อนไม่เต็มใจแม้แต่ครั้งเดียว เขาแตกต่างกับไอ้จางจิ้งเหวิน หากเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็คงเหมือนกับจางจิ้งเหวินที่มันลักพาตัวเพชรลดาไปน่ะสิ
ลิลลี่สับสน เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมเธอถึงได้อ่อนระทวยไปแบบนั้น แล้วเขาล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับเขา หรือเขาเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ควรทำผิดต่อผู้หญิงที่รัก มาเฟียอย่างเขาเป็นคนดีอย่างนั้นเชียว ไม่น่าเชื่อ ร่างเล็กยังหาคำตอบไม่ได้ แต่วินาทีนี้เธอจำเป็นต้องรีบลุกขึ้นจับเสื้อผ้าให้เข้าที่ เป็นเวลาเดียวกับที่สายตาของคนกวนประสาทมองมา
“ถ้าช้ากว่านี้ฉันจะคิดว่าเธออ่อยให้ท่าฉันอยู่นะ”
“ฉันไม่เคยคิด ถ้าฉันจะอ่อย ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่...”
“พูดให้ดี ถ้าไม่ดี ปากเธอนั่นแหละจะเจอดี ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอคิดอ่อยฉันบ้างหรือเปล่า อยู่ใกล้ฉันพอรู้ว่าฉันรวยแค่ไหน เธออาจเปลี่ยนใจอยากอ่อยฉันขึ้นมาก็ได้ พี่เธอมันเป็นคนเจ้าเล่ห์ เธอก็คงไม่ต่างจากพี่”
“พี่จิ้งเหวินเป็นคนดี เขาไม่เหมือนคุณ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่ชายฉันหน่อยเลย ความชั่วของคุณพี่จิ้งเหวินคงห่างคุณอีกหลายขุม”
“ถ้าพี่ชายเธอดีจริงแล้วจะจับตัวผู้หญิงของฉันไปทำไม คนดีเขาไม่คิดขโมยของคนอื่น”
“แล้วคุณล่ะ ต่างจากเขาตรงไหน ก็ขโมยของคนอื่นมาเหมือนกัน”
คำพูดนั้นกระแทกใส่หน้าคนหล่ออย่างจัง ลิลลี่สะบัดหน้าหนี แล้ววิ่งออกไปจากห้องทันที
ดีแลนมองตาม สายตาบอกไม่ถูกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน “หน็อย...ปากเก่ง แล้วหนีทำไม”
ลิลลี่วิ่งไปตามทางที่เขาพาเดินลงมา พอกลับไปถึงห้องได้ก็รีบเข้าห้องน้ำมองหาน้ำยาบ้วนปากเพื่อล้างปาก เธอจำได้ดีว่าริมฝีปากของเขามันร้อนผ่าวราวกับไฟ เขาไม่ได้แค่จูบ แต่เขาแทบจะ...
“จูบเหมือนจะสูบวิญญาณกันเลย คนบ้า”
ลิลลี่มองตัวเองในกระจก สภาพตัวเองตอนนี้ดูไม่จืดเลย ทำไมเธอต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วยนะ “พี่เจิ้งเหวิน พี่อยู่ไหน พี่สัญญาว่าจะดูลิลลี่แทนพ่อ”
เธอภาวนาว่าให้จางจิ้งเหวินมาช่วยเธอไวๆ ลิลลี่เดินกลับมาที่เตียง มองรอบตัวอย่างเศร้าๆ แล้วอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นที่พี่ชายเธอพาตัวไปคงจะสวยมาก เขาถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
จะว่าไปผู้หญิงคนนั้นโชคดีตรงดีแลน คาร์เตอร์จะร้ายกับใคร แต่คงดีกับผู้หญิงคนนั้นคนเดียวถึงได้หวงจนมาฟาดงวงฟาดงาเอากับเธอที่ไม่รู้เรื่องด้วย ส่วนเธอจะต้องทนอยู่ให้เขาหยามหยันในฐานะตัวประกันอีกนานเท่าไร ลิลลี่หลับตาทิ้งตัวลงกับที่นอนอย่างเศร้าๆ
ฟากดีแลนเดินกลับออกมาจากห้องที่เขาเพิ่งปล่อยยัยตัวแสบกลับไป บอดีการ์ดคนสนิทก็เดินเข้ามาหาทันที
“สายจากจางจิ้งเหวินครับ”
ดีแลนยิ้มมุมปาก ยื่นมือไปรับ คิดไว้อยู่แล้วว่าคู่อริต้องโทร.มา แต่นี่มันโทร.มาช้าไปหลายวัน
“ไง คุณจาง”
“อย่ามาพูดมากไอ้ดีแลน ลิลลี่น้องสาวฉันอยู่กับแกหรือเปล่า”
“คุณจางพูดถึงเรื่องอะไรครับ ผมไม่เข้าใจ” ดีแลนแกล้งยั่วโมโห
“แกอย่ามาทำไขสือไอ้ดีแลน น้องสาวฉันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แกจับตัวน้องสาวฉันไป ถ้าแกไม่อยากมีเรื่องก็ปล่อยน้องสาวฉันมา ที่นี่มันฮ่องกงไม่ใช่อเมริกาบ้านแก ฉันเหนือกว่าแกไอ้มาเฟียพลัดถิ่น”
“ฮ่าๆ” ดีแลนระเบิดหัวเราะ พลัดถิ่นเหรอ มารดาเขาเป็นคนฮ่องกง เขามีเลือดจีนอยู่ครึ่งหนึ่ง และอิทธิพลของเขาก็ไม่ได้แพ้กลุ่มของจางจิ้งเหวิน
“ที่ฮ่องกงไม่ใช่ถิ่นคุณคนเดียวนะคุณจาง คุณก็รู้ดีว่าพื้นที่ของคุณแทบไม่เหลือแล้วในเกาะฮ่องกง ยังกล้ามาข่มขู่ผมอีกเหรอ ระวังจะกลายเป็นมาเฟียพลัดถิ่น เพราะต้องกระเด็นไปซุกหัวนอนที่ประเทศอื่น” ปลายเสียงกดต่ำ ฟังดูคุกคามน่ากลัว
“ฉันไม่กลัวแก ถ้าแกไม่ปล่อยน้องสาวฉันมา ฉันจะบุกไปหาแกเอง”
“ใจเย็นๆ ครับคุณพี่เมีย”
“ไอ้ดีแลนแกอย่ามาเรียกฉันแบบนี้” จางจิ้งเหวินร้อนใจเพราะคำพูดมันชวนให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้ แต่เขามั่นใจอย่างหนึ่งว่ามันยังไม่ทำอะไรลิลลี่ มันแค่ข่มขู่
“พูดจากับน้องเขยดีๆ หน่อยสิครับ”
“แกอย่ามากวนประสาตฉันไอ้ดีแลน”
“ตอนนี้น้องสาวของคุณปลอดภัยดี แต่อนาคตไม่แน่ จะว่าไปก็น่าฟัดดี ลองฟัดไปทีนึงยังติดใจอยู่เลย”
“ไอ้เลว ไอ้ดีแลน แกทำอะไรลิลลี่ เรื่องนี้ลิลลี่ไม่เกี่ยว” จางจิ้งเหวินโกรธจัดจนหายใจฟืดฟาด
“ถ้าหากอยากได้ตัวน้องสาวกลับไปก็คืนตัวเพชรลดากลับมาก่อน แล้วก็เลิกยุ่งกับที่ดินที่จิมซาจุ่ยด้วย”
จางจิ้งเหวินขบกรามแน่น คิดไว้แล้วว่ามันต้องมาไม้นี้ เพชรลดาคือผู้หญิงที่เขาชอบ ส่วนที่ดินผืนนั้นที่มันบอกให้เลิกยุ่งก็เป็นพื้นที่ทำเลดี มันจะทำเงินให้ได้อีกมหาศาล
“เพชรลดาเป็นเมียฉันแล้ว ส่วนที่ดินผืนนั้นใครดีใครได้”