ดีแลนแสร้งปั้นหน้าขรึม เขาไม่อยากยอมรับว่าอีกใจหนึ่งก็ชอบยัยตัวเล็กนั่นด้วย เขาอุตส่าห์ทำเป็นไม่พูดถึงแล้วแต่ป้าฟางก็ยังมองออกและยังมาถามอีก
ป้าฟางเห็นว่ามาเฟียหนุ่มไม่ยอมรับ จึงพูดต่อ
“ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจที่ทำให้จับตัวสาวน้อยคนนั้นมา ป้าก็จะบอกว่าป้าเป็นห่วงคุณดีแลนนะคะ ไม่อยากเห็นคุณดีแลนตกอยู่ในอันตรายอีก แค่นี้ก็มีคนพร้อมใจลงขัน ทุ่มไม่อั้นเพื่อ...” ป้าฟางไม่อยากพูดคำไม่เป็นมงคล
“ผมดูแลตัวเองได้ ป้าฟางไม่ต้องห่วง ป้าไปพักผ่อนเถอะครับ”
ดีแลนตัดบท ป้าฟางพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะค้อมตัวออกไป นางรู้ดีว่ามาเฟียไม่สามารถหลีกหนีเส้นทางการลอบทำร้ายกันได้อยู่แล้ว ชีวิตก็เหมือนเส้นด้ายบางๆ ที่ไม่รู้จะปลิดปลิวไปตอนไหน นางก็แค่เป็นห่วงดีแลน เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของมาดามเฉินผู้มีพระคุณของนาง
นางเลี้ยงดูดีแลนมาตั้งแต่เล็กจึงอดจะรักเหมือนลูกไม่ได้ อีกอย่างที่ห่วงมากที่สุดคือตระกูลคาร์เตอร์ หากสิ้นดีแลนแล้วก็จะไม่มีใครสืบทอดตระกูลต่อ นางจะรู้สึกผิดต่อมาดามเฉินมากหากดีแลนเป็นอะไรไป
ร่างสูงหันไปมองประตูห้องที่มียัยตัวเล็กพักอยู่ เขาไม่อยากทำร้ายผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่ต้องเก็บเธอไว้ก่อน
‘พูดดีๆ ไม่ได้ก็ต้องใช้ความเจ้าเล่ห์เป็นเครื่องต่อรอง’
จางจิ้งเหวินจับตัวเพชรลดาไป เขาก็ต้องย้อนศรมันกลับบ้างสิ ถึงจะเห็นใจหน้าใสๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องด้วยก็เถอะ แต่ก่อนจะเห็นใจเธอสิ่งที่บังหัวใจก็ทำให้เขาตื่นตาตื่นใจ
โอ้โห! ใหญ่กว่าแก้มของซาลาเปาสองข้างรวมกันอีก
ตั้งแต่พายัยตัวแสบมาอยู่ที่นี่ ซาลาเปาหลานรักของเขาดูแก้มเล็กไปถนัดตาถ้าเทียบกับ...
หน้าอกคู่โตที่มันโดดเด่นท้าสายตา ลิลลี่กำลังจะวิ่งมาบอกป้าฟางว่าเสื้อชั้นในที่จัดมาให้มันเล็กไปนิด เธอถือเสื้อชั้นในไว้ในมือแต่เป็นจังหวะเดียวกับที่มาเฟียหนุ่มเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี
“คุณ” ลิลลี่อุทานออกมาด้วยความตกใจ เห็นเขามองตรงมาที่หน้าอกก็รีบยกมือบังไว้ เพราะเธอสวมเสื้อแต่โนบราอยู่
“รู้ว่าใหญ่ อย่าแค่โชว์สิ ให้ชิมด้วยจะดีมาก”
“ไอ้บ้า ไอ้ลามก” ลิลลี่หน้าแดงก่ำ ปาเสื้อในที่อยู่ในมือใส่หน้าเขาแต่ดีแลนรับไว้ทัน แล้วหัวเราะชอบใจ “ฉันไม่ชอบใช้และเธอไม่ต้องใส่ก็ดีนะ โนบราแบบนี้เซ็กซี่เป็นบ้า” คำพูดท้ายประโยคกระเส่าจนคงฟังกรีดร้อง
“ออกไปให้พ้นหน้าเลยนะ ฉันเกลียดแก”
“ฉันจะมาเอาของ” ดีแลนหัวเราะพอใจแล้วก็บอกด้วยน้ำเสียงยียวน
“ของอะไร”
ดีแลนยักคิ้วกวนๆ ไม่ตอบแต่เดินดุ่มๆ เข้าไปแทน ทำให้คนที่โนบราอยู่ถอยหลังกรูด ร่างกำยำเข้ามาประชิดทำให้ลิลลี่ตัวเกร็งแข็งทื่อ แต่ก่อนจะตกใจไปมากกว่านี้ดีแลนก็ย่อตัวลงแล้วหยิบบางอย่างที่ตกอยู่ตรงปลายเตียงขึ้นมา
“เจอแล้ว หล่นอยู่นี่จริงๆด้วย”
ลิลลี่มองตามแล้วเห็นว่าของในมือเขาคือ นกหวีด นี่เขาโตแล้วยังเล่นนกหวีดอยู่อีกหรือ
“เจอแล้วก็ออกไป”
“ชักไม่อยากออกแล้วสิ บางอย่างของฉันมันอยากจะเข้าไปในตัวเธออีกแล้ว” เขาแหย่เล่นอยากเห็นแม่เสือสาวลุกเป็นไฟ
“เข้ามาในตัวฉันงั้นเหรอ”
ลิลลี่ไปที่ปลายเตียง คว้าไม้แขวนเสื้อที่เพิ่งถอดออกมาฟาดใส่หน้าเขาทันที ดีแลนหลบวูบแต่มันก็เฉียดใบหน้าเขาไป
“ออกไปเลยนะ”
ดีแลนจับมือเล็กไว้ได้แล้วบิดเบาๆ ไม้แขวนเสื้อก็หล่นจากมือเล็ก เขาหัวเราะเบาๆ “วันนี้เล่นสนุกแค่นี้ก่อน วันหลังฉันจะมาเล่นด้วยใหม่ เธอกับฉันเราต้องเจอกันอีกหลายยก”
ลิลลี่กัดริมฝีปากแน่นด้วยความโมโห กระทืบเท้าเร่าๆ อย่างทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองคนที่ใช้กำลังข่มเหงเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี
ดีแลนเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ที่เขายอมปล่อยไม่รังแกคนตัวเล็กมากไปกว่านี้เพราะสงสาร เขาไม่เคยใช้กำลังกับผู้หญิงแต่ถ้าคิดจะกินจริงๆ ก็แค่หลอกล่อให้เคลิ้มแล้วกลืนลงท้องก็ทำได้ แต่ก็ไม่รู้ทำไมอีกนั่นแหละ ที่เขารู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตใจยัยตัวเล็กเลยยอมปล่อยไป
และอีกอย่างเขามีงานต้องเคลียร์เยอะ หลังจากไปเมืองไทยมาหลายสัปดาห์งานที่รอเซ็นอนุมัติวางกองจนล้นโต๊ะ คิดได้ดังนั้นก็หยิบปากกาขึ้นมาเตรียมจะเซ็น พลันเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“เจ้านายครับ”
เจ้าของห้องทำงานใหญ่เงยหน้าขึ้นมา “เป็นไงบ้างวิล ได้ข่าวเพชรลดาไหม”
“ไม่ได้ข่าวเลยครับ ผมพยายามส่งคนของเราออกไปสืบแล้วแต่ไม่ได้ข่าวอะไรเลยครับ จางจิ้งเหวินก็เก็บตัวอยู่แต่ที่คฤหาสน์ของมันไม่ออกไปไหนเลย”
ดีแลนวางปากกา เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม “หึ ฉันคิดว่าฉันรู้ว่ามันเอาตัวเพชรลดาไปไว้ที่ไหน”
วิล บอดีการ์ดคนสนิทรีบถาม “ที่ไหนครับเจ้านาย ผมจะได้ส่งคนไปบุกเลย”
“คฤหาสน์มันนั่นแหละ ถ้ามันไม่ได้ออกไปไหนเลย ที่เดียวที่มันเก็บตัวเพชรลดาไว้ก็คือที่บ้านมัน ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ปลอดภัยที่สุด แล้วมันก็คงเฝ้าเพชรลดาเหมือนหมาเฝ้าเนื้อ” และที่ดีแลนไม่อยากพูดต่อก็คือ มันคงเก็บไว้ในห้องของมัน บนเตียงของมัน นึกแล้วสงสารเพชรลดา ถ้าจะถูกมาเฟียหน้าหยกอย่างจางจิ้งเหวินฉีกชิมเป็นขนมหวาน
“งั้นผมส่งคนไปลุยเลยดีไหมครับ”
“ไม่ต้อง ฉันไม่อยากให้คนของเราต้องบาดเจ็บล้มตาย หากจะเอาตัวเพชรลดากลับมา ฉันมีวิธีที่ดีกว่านั้น ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อคนของเราสักนิด” ดีแลนบิดยิ้มขึ้นมา ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์
วิลมองเจ้านายด้วยความชื่นชม นี่นับเป็นข้อดีของดีแลน เขาเป็นห่วงลูกน้องทุกคน ไม่คิดจะส่งใครไปตายฟรี
“เจ้านายจะทำยังไงครับ”
ดีแลนกระตุกยิ้ม หยิบดอกลิลลี่ในแจกันขึ้นมาชูตรงหน้า แล้วก้มลงไปดม สมองเปรียบเทียบไปว่าระหว่างดอกลิลลี่กับแก้มของยัยลิลลี่ปากร้ายนั่นอะไรจะหอมกว่า ทว่าดีแลนมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
“ฉันมีของดีที่มันก็ต้องอยากได้ แต่ฉันจะไม่แลกกับมันตอนนี้ ฉันจะให้มันทุรนทุรายแล้วเป็นฝ่ายมาหาฉันเอง”
บอดี้การ์ดคนสนิทยิ้มเมื่อนึกตามคำพูดเจ้านาย
“คุณดีแลนหมายถึงคุณลิลลี่น้องสาวของจางจิ้งเหวินใช่ไหมครับ”