7

1290 Words
แค่คิดถึงตรงนั้นก็ทำให้ความเป็นชายแข็งขึง ดีแลนไม่รอช้า ตอนนี้เขาอยากสัมผัสที่ยอดทรวงของมันว่าจะเต่งตึงสู้มือแค่ไหน ดีแลนคิดอย่างฮึกเหิมลำพองใจ แต่เขาต้องหยุดกึกเพราะน้ำตาร้อนๆ ที่ไหลเป็นหมุดลงมาข้างแก้มของคนตัวเล็กมันทำให้เขาไม่อยากทำต่อ ดีแลนผละออกแล้วตวาดเสียงเข้ม “หยุดร้องเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ได้สงสาร แต่ฉันรำคาญ พาลหมดอารมณ์” น้องสาวมาเฟียส่ายหน้าไม่ยอมรับในคำสั่ง “น้ำตาของฉัน แกไม่มีสิทธิ์มาสั่ง” “โธ่เว้ย” ดีแลนคำราม ไม่ได้โมโหคนตัวเล็กแต่โมโหที่ตัวเองที่อยากจะกินของสดหวานแต่ดันทำตัวเป็นคนดีหยุดกลางคัน “หยุดร้อง นี่ไม่ใช่คำสั่ง แต่บังคับเลยล่ะ เลิกร้องเดี๋ยวนี้” “คนเลว” เสียงหวานยังพึมพำออกมา ดวงตาคู่หวานจ้องเขม็ง “เลวงั้นเหรอ” ดีแลนโมโห เขาอุตส่าห์ยอมหยุดแล้วแต่ยังถูกด่าอีก “อย่าคิดว่าจะใช้น้ำตากับฉันได้อีก ครั้งนี้ฉันแค่สั่งสอนให้รู้ไว้ว่าอย่าคิดปากเก่งกับฉัน ถ้าไม่ฟัง ฉันจะไม่แค่ลูบๆ คลำๆ ขยี้ขยำ เธอรู้ไหมครั้งหน้าฉันผ่าแน่ๆ ดอกลิลลี่กลีบกระจุย” ดีแลนขู่ ดวงตาคู่คมจ้องเข้าไปในดวงตาสวย ไม่อยากจะใจอ่อนให้เธอเลยแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องยอมลงให้ ลิลลี่จ้องหน้ากลับแต่ไม่กล้าด่า แต่สายตาที่มองมาก็ทำให้คนมองรู้ว่าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ขณะที่ดีแลนลอบยิ้มในใจ สงสัยคงกลัวกลีบลิลลี่จะช้ำเหมือนคำที่เขาขู่ “เห็นหน้าฉันโหด แต่ฉันชอบกินนม เวลากินนมฉันไม่ค่อยนิยมเทใส่แก้ว เพราะฉันชอบดูด ยิ่งนมจากเต้า ฉันดูดได้ทั้งวันเลย” ลิลลี่กัดปากแน่น ยกมือขึ้นกอดอก “กักขฬะ” ทำไมนะคุณแบรดลีย์ถึงสิ้นคิดมาคบหาสมาคมกับพวกสายหื่นแบบหมอนี่ แต่ลิลลี่ไม่กล้าด่าว่าดีแลนแรงกว่านี้ เกรงจะทำให้ไฟลามทุ่ง พอเขาหยุดยุ่งกับร่างกายเธอ เธอจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมา เขาอยากพูดอะไรก็พูดไป แค่ไม่เสียสาวให้เขาก็พอใจแล้ว ดีแลนยกนิ้วชี้ขึ้นมาตรงหน้า แล้วจิ้มแหวกผ่านอากาศ หยุดก่อนจะถูกใบหน้าสวยๆ ที่จ้องเขาเขม็ง “อยู่แต่ในนี้ แล้วอย่าคิดหนี” เธอเห็นเขาเปิดประตูแล้วเดินผลุนผลันออกไป ประตูปิดดังโครม ลิลลี่รีบลุกขึ้นจากเตียง ได้ยินเสียงห้าวตะโกนอะไรอยู่ข้างนอก สักพักทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ความเงียบ ลิลลี่วิ่งไปล็อกประตูแล้ววิ่งกลับมาที่หน้าต่าง เพื่อมองหาทางหนีทีไล่ ใครจะอยู่รอกันล่ะ เผื่อเขาเกิดบ้าขึ้นมาแล้วคิดจะปล้ำเธออีก เธอจะได้หนีทัน ไม่อยู่ให้เขาคิดจับไว้เป็นตัวประกันเพื่อต่อรองกับพี่ชายง่ายๆ ลิลลี่ปาดน้ำตาออกจนหมด พยายามเตือนตัวเอง สติ สติ สติจงมา เธอมองหน้าต่างที่ถูกล็อกตายไม่สามารถเปิดออกได้ มันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้มีคนลอบเข้ามาทำร้ายและในขณะเดียวกันคนข้างในก็ออกไปไม่ได้ “โธ่เอ๊ย” ลิลลี่สบถออกมาก่อนจะเดินกลับไปทิ้งตัวลงนั่งที่ขอบเตียง “จะทำยังไงดีนะ ยังไงฉันก็ไม่อยู่ที่นี่ทำหน้าที่พาหมีขึ้นสวรรค์หรอก ไม่มีวัน” สมองน้อยๆ ครุ่นคิด พี่จิ้งเหวินไปจับตัวผู้หญิงของดีแลนมาจนเกิดเรื่องจริงๆ เหรอ เธอไม่อยากเชื่อ ไม่รู้ว่าพี่จิ้งเหวินรู้เรื่องที่เธอถูกจับตัวมาหรือยัง และถ้ารู้แล้วพี่จิ้งเหวินจะวางแผนช่วยน้องสาวคนนี้ยังไง ลิลลี่คิดไปต่างนานา เธอเป็นห่วงมารดา เป็นห่วงตัวเองด้วย แต่ไม่รู้จะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร ไม่อยากอยู่ให้เขาจับเป็นตัวประกันแต่ก็ไม่รู้จะหนีไปยังไง สิ่งที่เห็นอย่างเดียวที่ด้านนอกหน้าต่างคือดวงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า แสงสีส้มทอแสงอ่อนลง ใบหน้าของมารดาลอยอยู่ในมโนความคิด “แม่ขา ช่วยลิลลี่ด้วย” จนกระทั่งราตรีกาลด้านนอกเคลื่อนย้ายเข้ามาแทนที่ ลิลลี่ไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับไปตอนไหน แต่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงร้องตามหาซาลาเปารอบดึก “ซาลาเปาหาย ซาลาเปาไปไหน ช่วยกันตามหาซาลาเปาเร็วเข้า” ดวงตาคู่งามวาววับ ริมฝีปากสวยบิดยิ้มหยันๆ “ไอ้บ้า โรคจิต ร้องตามหาซาลาเปา หิวรอบดึกหรือไง พิลึกคนจริง” เธอไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไร สักพักก็ได้ยินเสียงคนวิ่งไปมา พร้อมเสียงตะโกนลั่นบ้านว่า “เจอแล้วค่ะ เจอซาลาเปาแล้ว ซาลาเปาอยู่ตรงนี้เอง” ลิลลี่ถอยห่างจากประตู “สงสัยจะเพี้ยนทั้งบ้าน ตามหาซาลาเปาอะไรกัน” คนสวยได้แต่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า ถูกจับมาก็แย่แล้ว แต่คนที่จับมายิ่งดูพิลึกกว่า เธออยากให้พี่จิ้งเหวินรู้ไวๆ แล้วตามมาช่วย จะได้หลุดพ้นไปจากไอ้คนเฮงซวยสักที “ชิ ขอให้คืนนี้แกกินซาลาเปาติดคอตาย ไอ้มาเฟียสายหื่น” แบร่ ลิลลี่แลบลิ้นหลอกคนที่อยู่ด้านนอกประตู “แอ๊ แอ๊” ซาลาเปาน้อยกลิ้งได้ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนในบ้านวิ่งไปมา ร่างกลมจึงล้มตัวนอนบนพื้นพรม พยายามทำตัวกลมๆ ให้เล็กที่สุด “แอ๊ แอ๊” ประมาณว่าหลบเร็วเข้า เธอกำลังบอกให้เจ้าหมาน้อยแสนรู้หมอบลงเพื่อให้พ้นสายตาผู้คนในบ้าน ซาลาเปาที่ดีแลนวิ่งวุ่นตามหาไปทั่วบ้าน ไม่ใช่ซาลาเปาลูกโต แป้งนุ่มฟูสีขาวจั๊วะ ฉีกมาแล้วเห็นไส้เต็มคำ ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง แต่เป็นเจ้าแก้มยุ้ย อาหมวยน้อยตัวป่วน ‘เซียงเซียง’ วัยสิบเดือนเศษที่อยู่ในวัยกำลังคลาน แต่พัฒนาการล้ำหน้าหัดยืนได้ และช่วงนี้ลุงดีแลนไม่อยู่จึงไม่รู้ว่าหนูเซียงเซียงเดินได้แล้ว และขยันเดินมากด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเซียงเซียงแม้จะตัวอวบกลมแต่กลับคลานว่องไว แล้วชอบหนีพี่เลี้ยงไปอยู่ใต้เตียง บางครั้งก็แอบอยู่หลังโซฟาเพราะอยากจะเล่นกับสุนัขตัวเก่งของลุงดีแลน เซียงเซียงคือเด็กหญิงกำพร้าที่ลูกน้องของดีแลนเจออยู่ที่โรงพยาบาลแล้วพากลับมาตอนไปตรวจสุขภาพ ดีแลนไม่อยากส่งเด็กหญิงให้กับทางการเพราะถูกชะตาและเกรงว่าแม่หนูน้อยจะถูกส่งตัวไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าจึงรับอุปการะไว้เองในฐานะหลาน ยิ่งนานวันดีแลนยิ่งหวงเซียงเซียงราวกับลูกสาว เพราะเขาไม่คิดจะมีเมีย มีลูกเป็นของตัวเองแบบไอ้แบรดลีย์ แม่บ้านใหญ่บอกว่ามันเป็นลิขิตสวรรค์ เทพเจ้าส่งเซียงเซียงน้อยมาให้เขา และดีแลนเชื่อว่าจริง เพียงแต่ว่าเขาไม่ค่อยชอบพาหลานไปไหน เขาห่วงความปลอดภัยของหลาน โดยเฉพาะถ้าไอ้แบรดลีย์พาลูกของมันไปที่ไหน เขาจะไม่พาเซียงเซียงไปด้วยเด็ดขาด กลัวเหลือเกินว่าสองแฝดนั่นจะพากันมาบิดแก้มเซียงเซียงน้อยของเขาจนแก้มบวม ถึงเวลานั้นเขาจะพูดอะไรไม่ออก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD