มาร์คมองเมนูอาหารตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก คือมันไม่ใช่ว่าไม่น่ากินเพียงแค่ว่าเขายังไม่เคยลองมาก่อนเท่านั้นเอง การได้รู้จักกับเด็กสาวอาจจะทำให้เขาเปิดโลกมากขึ้นก็ได้ ฉะนั้นเขาจะลองทุกอย่างที่เธอแนะนำ
"พี่มาร์คลองกินดูค่ะ นี่คือหมูน้ำตกเป็นเมนูที่ตุ้ยนุ้ยชอบกินมากเลยค่ะ"
เด็กสาวตักเมนูหมูน้ำตกใส่จานให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจ มาร์คใช้ส้อมลองจิ้มตักชิมลิ้มรสชาติอยู่สักพักใหญ่ก่อนจะลองกินอีกคำอย่างติดใจ
"รสชาติก็ไม่ได้แย่นะอร่อยดี"
"พูดเหมือนไม่เคยกินมาก่อนเลยนะคะ เข้าใจได้ค่ะเพราะว่าเมนูอาหารอีสานไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบกิน บางคนก็ไม่ชอบกินปลาร้าเพราะว่ามันเหม็น"
เธอเอ่ยออกมาอย่างเข้าใจ แต่ถ้าชายหนุ่มไม่ชอบกินเธอเองก็จะไม่บังคับอีก แต่ดูท่าทางของเขาที่ลองตักชิมหลาย ๆอย่าง ก็น่าจะบอกได้ว่าสามารถกินได้
"อร่อยใช่ไหมล่ะคะ"
"ใช่ รสชาติดีเลยแหละอย่างคอหมูย่างเนี่ยก็คล้ายๆสเต็ก แต่ว่าตัวน้ำจิ้มแจ่วอร่อยมากเลย"
"ตุ้ยนุ้ยก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพี่มาร์คถึงไม่เคยกิน"
เธอเอ่ยออกมาอย่างสงสัย ตามจริงเมนูอาหารอีสานคนปกติที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายน่าจะเคยลองชิมมาบ้าง สำหรับเขาดูเหมือนไม่ค่อยจะติดดินเท่าไหร่ การใช้ชีวิตดูจะแตกต่างจากเธอไม่น้อย โชคดีที่เราสองคนเข้ากันได้จึงทำให้ไม่มีปัญหาในการคบหากัน
"ไม่น่าเชื่อว่ามันจะอร่อย"
ชายหนุ่มยิ้มออกมาก่อนจะตักคอหมูย่างป้อนหญิงสาวบ้าง เธออ้าปากงับเต็มคำใบหน้ายิ้มแย้มสดใส เขามองทีไรก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบสวยงามไปหมด
"อร่อยล่ะสิ"
"แน่นอนสิคะนี่มันร้านโปรดของตุ้ยนุ้ยเลยนะ พี่มาร์คล่ะคะชอบหรือเปล่า"
"ชอบสิ ขอบคุณนะที่พาพี่มากิน"
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงหวาน มองสบตาคนรักระบายยิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเด็กสาวอย่างแกล้งหยอก นี่เป็นครั้งที่สองในการพบเจอกัน แต่รู้สึกเหมือนเจอกันบ่อยเป็นปกติ
"เอาไว้ตุ้ยนุ้ยจะพาพี่มาร์คไปลองอย่างอื่นบ้างนะคะ ของอร่อยเยอะแยะไปหมดรับรองว่าพี่ต้องชอบ"
"ได้เลยค่ะ ว่าแต่พรุ่งนี้หนูว่างหรือเปล่ามันเป็นวันหยุดใช่ไหม"
"ใช่ค่ะทำไมเหรอคะ"
เด็กสาวเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอโดยปกติก็ไม่ค่อยได้ไปไหน อาจจะมีไปช่วยพ่อที่ไร่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน
"พรุ่งนี้พี่จะพาตุ้ยนุ้ยไปดูหนัง เดินเล่นซื้อของช่วงเย็นพี่อาจจะต้องกลับเพราะว่าต้องทำงานต่อ"
"คิดว่าน่าจะออกมาได้นะคะ จะต้องบอกพ่อว่ามาทำงานกับเพื่อนข้างนอก เพราะถ้าบอกว่าออกมาหาพี่มาร์คอาจจะไม่ได้"
เด็กสาวเอยออกมาตามตรง เพราะการที่ออกมาเจอผู้ชายเป็นเรื่องไม่ค่อยดีนักสำหรับเธอในวัยนี้ ซึ่งชายหนุ่มรู้ดีจึงปล่อยให้เธอจัดการด้วยตัวเอง
"ยังไงก็ได้ค่ะงั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เรานัดเจอกันที่ห้างดีไหมคะ"
"ได้ค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูไปเอง"
ทั้งสองคนตกลงกันเรียบร้อยก็นั่งกินข้าวกันต่อเกือบครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็พากันมาเดินย่อยอาหารที่ตลาด นี่เป็นครั้งแรกที่มาร์คได้มาเดินตลาดนัดเพราะโดยปกติเขาเดินแต่ห้างสรรพสินค้า
"พี่มาร์คกินไอติมมะพร้าวไหมคะ"
"เอาสิอยากลองชิมเหมือนกัน"
ทั้งสองคนพากันเดินไปยังรถไอติมคันเล็กไม่ใหญ่มากนัก มีคุณลุงนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง และเมื่อเดินมาถึงตุ้ยนุ้ยก็เริ่มสั่งเมนูที่ตัวเองชอบ
"คุณลุงคะหนูเอาไอติมมะพร้าวใส่เนื้อมะพร้าวด้วยนะคะ"
"ได้เลยจ้ะหนู แล้วพ่อหนุ่มล่ะเอาอะไร"
"เอาเหมือนน้องก็ได้ครับลุง"
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเรียบพลางสังเกตการกระทำของคุณลุงด้วยความสงสัย นี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เขายังไม่เคยลองกิน และการมาเชียงใหม่ในครั้งนี้ถือว่าเปิดโลกการใช้ชีวิตในอีกแบบ
"ได้แล้วทั้งหมด 40 บาท"
"โหลุงทำไมถูกอย่างนี้ล่ะ จะได้กำไรไหมเนี่ย"
เขาเอ่ยถามคุณลุงด้วยความตกใจก่อนจะส่งแบงค์ร้อยไปให้ 1 ใบ คุณลุงรับมาก่อนจะส่งเงินทอนไปให้ 60 บาท ภายใต้รอยยิ้มนั้นดูมีความสุขกับการได้ขายของอร่อยให้กับเด็ก ๆ
"ทุกวันนี้ลุงไม่ได้กะขายเอากำไร มาขายเอาสังคม"
"อะไรนะครับ"
"ก็แหม่... อยู่ที่บ้านมันก็เบื่อใช่ไหมล่ะ ลุงออกมาขายของได้พบเจอผู้คน ได้คุยกับคนนั้นคนนี้มันก็ทำให้ลุงไม่เหงาแหละ"
มาร์คพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจ ก็คงจะเหงาจริงแหละเพราะต้นทุนการทำไอศครีมมะพร้าวมันน่าจะสูงพอสมควรแถมยังใส่เนื้อมะพร้าวให้จุก ๆ และการที่จะมาขายในราคานี้แทบจะไม่ได้กำไรอะไรเลย
"คุณลุงใจดีจังเลยนะคะ เอาไว้ตุ้ยนุ้ยจะมาอุดหนุนบ่อย ๆค่ะ"
"ได้เลยลูก อยากกินอีกก็แวะมานะลุงอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนหรอก"
"งั้นพวกเราไปก่อนนะคะ"
ตุ้ยนุ้ยกุมมือชายคนรักเดินออกไปจากตรงนั้น เดินเล่นไปโดยรอบกินไอศกรีมไปพลาง ๆ มองนั่นมองนี่ไปโดยรอบอย่างแปลกตา มีการโชว์และการเล่นหลายอย่างเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของชายหนุ่ม
"ทำไมเหมือนงานวัดเลย"
"ใช่ค่ะตลาดนัดที่นี่เขาทำเหมือนงานวัดค่ะ มีปาเป้า สาวน้อยตกน้ำ ยิงปืนเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ"
"อย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นเราไปยิงปืนกันดีกว่าวันนี้พี่จะเอาตุ๊กตาตัวใหญ่ให้ตุ้ยนุ้ย"
"จริงเหรอคะงั้นรีบไปกันเถอะค่ะ"
ทั้งสองคนกุมมือการเดินตรงไปยังโซนการละเล่นต่าง ๆ และที่แรกที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปก็คือการยิงปืนให้เข้าเป้ามากที่สุด เขาหยิบปืนอัดลมขึ้นมาลองดู เงินจ่ายให้พนักงานก่อนจะทดสอบด้วยการยิงรัว ๆไป 1 รอบ
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นตาโตด้วยความตกใจ เพียงแค่ครั้งแรกที่เขายิงเป้ากระดาษเป็นรูแทบไม่เหลือ ดาวที่เป็นเป้าอยู่กลางกระดาษหายออกไปหมด และนั่นทำให้ชายหนุ่มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่มาครอบครอง
"เย้ ๆพี่มาร์คทำได้จริงด้วย"
เด็กสาวยิ้มออกมาอย่างดีใจกระโดดโลดเต้นก่อนจะชี้นิ้วไปยังตุ๊กตาควายตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า เธอบอกพนักงานว่าอยากจะได้ตัวนั้น
"พี่คะหนูเอาตุ๊กตาควายตัวนั้นค่ะ"
"นี่ครับของรางวัล"
"ผมจะเอาอีกชุดนึง นี่ครับเงิน"
โชคดีที่เขาชอบไปสนามยิงปืนกับแก๊งเพื่อน ๆ ทำให้เขามีความสามารถในการยิงปืนล้ำกว่าคนปกติทั่วไป และแน่นอนว่าครั้งที่ 2 รูปดาวตรงกระดาษหายออกไปเหมือนเดิมแทบไม่เหลือ เจ้าของร้านถึงกับกุมขมับไม่รู้จะทำอย่างไรให้เขาหยุดยิงสักที ไม่อย่างนั้นคงจะได้เสียตุ๊กตาให้ทั้งร้าน
"เย้ ๆ พี่มาร์คได้อีกแล้ว งั้นคราวนี้ตุ้ยนุ้ยขอตุ๊กตาหมีตัวนั้นค่ะ ตัวใหญ่ ๆตัวนั้นเลย"
เด็กสาวอุ้มตุ๊กตาควายไว้ในอ้อมแขนโดยใช้มือข้างขวาโอบกอดเอาไว้ มือซ้ายชี้นิ้วไปที่ตุ๊กตาหมีอีกฝั่งนึง พนักงานอุ้มตุ๊กตาหมีมาให้ตรงหน้า ตุ้ยนุ้ยใช้มือซ้ายโอบกอดเอาไว้ก่อนจากกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่ได้ของติดไม้ติดมือกลับ
"พี่มาร์คตุ้ยนุ้ยอยากได้ตัวนั้นอีกตัวนึงค่ะ"
และน้ำเสียงของหญิงสาวทำให้เจ้าของร้านถึงกับมีใบหน้าเครียด มาร์คที่สังเกตเห็นก็หลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะวางปืนลงและเดินไปช่วยหญิงสาวอุ้มตุ๊กตาไว้
"พอแล้วค่ะเดี๋ยวร้านเค้าก็เจ๊งพอดี"
ตุ้ยนุ้ยหันไปมองเจ้าของร้านที่ทำหน้าอ้อนวอนขอร้องให้หยุดยิงสักทีก็หลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองสบตาชายหนุ่ม
"ก็ได้ค่ะ พี่มาร์คจ่ายไปแค่ 40 บาทแต่ตุ๊กตามาตั้ง 2 ตัว คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้วนะ"
"ใช่แล้วค่ะเพราะฉะนั้นพอแล้วไปเล่นอย่างอื่นกันดีกว่า"
เขาอุ้มตุ๊กตาควายเอาไว้ในอ้อมแขนส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็กุมมือหญิงสาวพาเดินไปดูอย่างอื่นต่อ ทั้งสองคนใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดในการอยู่ด้วยกัน และมันเป็นช่วงเวลาที่น่าจะจำไว้ในความทรงจำอีกอย่างหนึ่ง