ตุ้ยนุ้ยกลับเข้ามาที่เดิมด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอย่างเก็บอาการไม่อยู่ เพื่อนๆของเธอจ้องมองใบหน้านั้นด้วยความสงสัย เดินออกไปสักพักกลับเข้ามาดูอารมณ์ดีผิดแปลกไปจากปกติ
"อะไรของแกตุ้ยนุ้ย กลับมาก็ยิ้มเหมือนคนบ้าเลย"
"แล้วถืออะไรมาด้วยนะขอดูหน่อยดิ"
เพื่อนๆของเธอละความสนใจจากงานตรงหน้า จ้องมองกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินที่อยู่ในมือของเพื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"นี่เหรอ... สร้อยคอน่ะมีคนซื้อให้"
พูดจบตุ้ยนุ้ยก็เปิดกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินแล้วหยิบสร้อยที่อยู่ในกล่องออกมาให้เพื่อนดู ทุกคนเบิกตากว้างอย่างตกใจกับสร้อยเส้นนั้นสวยงามมากระยิบระยับเล่นแสงแยงตาคนมอง
"แก...มันสวยมากเลยนะ ซื้อมาเท่าไหร่เนี่ยต้องแพงมากแน่เลย"
"เส้นนี้เหรอไม่แพงหรอก คนที่ซื้อให้เขาบอกว่าซื้อมา 199 บาท มันสวยมากเลยใช่ไหมล่ะ"
เพื่อนคนอื่น ๆหันไปมองหน้ากันด้วยความสงสัย ราคา 199 บาทกับสร้อยเส้นนี้มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าซื้อมาในราคานี้มันไม่น่าจะสวยมากขนาดนี้
"มันจะเป็นไปได้เหรอราคานี้ ฉันว่าเขาโกหกแกหรือเปล่า"
"แล้วเขาจะโกหกทำไมล่ะ"
"ก็จริงนะ แต่ว่าแกไปถามให้หน่อยสิว่าเขาไปซื้อที่ไหนราคาถูกขนาดนี้พวกฉันก็อยากได้บ้าง"
ทุกคนเชียร์ให้ตุ้ยนุ้ยกลับไปถามคนที่ซื้อให้ เพราะพวกเธอเองก็อยากได้บ้างเหมือนกัน
"ได้สิเดี๋ยวเราถามให้นะ"
ตุ้ยนุ้ยยิ้มแก้มปริมองสำรวจสร้อยในมือของตัวเองก่อนจะกดถ่ายรูปเก็บไว้นะเก็บสร้อยนั้นใส่กล่องตามเดิม และพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอจะใส่สร้อยเส้นนี้กับชุดโปรดอวดคนอื่น
"พวกเราไปเรียนหนังสือกันเถอะได้เวลาแล้ว"
"อืม ไปสิ"
ทางด้านของมาร์คในตอนนี้เขากลับมาที่โรงแรมเพื่อพักผ่อน เมื่อเช้าเขาเดินทางมาเร็วกว่าปกติ เมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอนเพราะว่าตื่นเต้นที่จะได้เจอหญิงสาว
"คุณมาร์คผมเช่ารถมอเตอร์ไซค์ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ แต่ว่ามันเหลืออยู่คันเดียวซึ่งผมไม่รู้ว่าคุณมาร์คจะขี่ได้หรือเปล่า"
"อะไรเหรอ"
"รถเวฟ 125 ครับคันสีแดงน้ำมันเต็มถัง"
ชายหนุ่มนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ขอแค่มันเป็นมอเตอร์ไซค์เขาเองขี่ได้ทุกอย่างแหละ ประเด็นคือมันจะขี่ไปได้ไกลสักแค่ไหนเชียว โดยปกติเขาก็ใช้รถยนต์เป็นหลักไม่ค่อยคุ้นชินกับการขี่มอเตอร์ไซค์ เดี๋ยวหลังจากนี้อาจจะต้องทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้น เพราะดูท่าทางแฟนของเขาจะไม่ค่อยปลื้มกับความร่ำรวยสักเท่าไหร่
"อะไรก็ได้ฉันขี่ได้หมดแหละ นายไปพักผ่อนเถอะมีอะไรก็ไปทำ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ใช่ไหม"
"ใช่ครับคุณมาร์ค มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"ฉันว่าจะชวนตุ้ยนุ้ยไปเที่ยวสักหน่อย เพราะว่าช่วงเย็นฉันอาจจะต้องบินกลับเลย ประชุมอะไรนักหนาก็ไม่รู้บริษัทเนี่ยน่าเบื่อ"
ชายหนุ่มบ่นออกมาพร้อมกับนอนลงบนเตียง ใบหน้าได้รูปดูไม่ค่อยสนุกกับการทำงานในช่วงเวลาแบบนี้
"มันเป็นช่วงปิดงบประมาณครับ ช่วงนี้อาจจะต้องประชุมบ่อยหน่อยแต่ว่าหลังจากเดือนนี้คุณมาร์คก็จะมีเวลามากขึ้นครับ"
"รู้แล้วน่านายออกไปได้ละ"
"ครับ"
ธนกฤตหรือกฤต เขาเป็นผู้ช่วยของมาร์คมาได้หลายปีแล้ว เขาเข้ามาทำงานและได้ฝึกงานพร้อมกับลูกชายเจ้าของบริษัท ทั้งสองคนเรียกว่าเติบโตมาด้วยกัน ความที่รู้จักกันมาหลายปีทำให้ธนกฤตรู้ใจเจ้านายในหลาย ๆเรื่อง และความลับหนึ่งที่เขารู้มาตลอดคือเรื่องผู้หญิงของเจ้านาย คุณมาร์คจีบคุณตุ้ยนุ้ยตั้งแต่เธออายุ 15 ปี ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาเองจะจีบเด็กตั้งแต่อายุเท่านั้น โชคดีที่ตลอดระยะเวลา 2 ปีเขาไม่ได้ล่วงเกินอะไรหญิงสาว และเขาภาวนาในทุกวันให้แฟนของคุณมาร์ครอดพ้นไปจนถึงอายุ 18 ปี
และเมื่อถึงช่วงเวลาเลิกเรียนตุ้ยนุ้ยกดโทรศัพท์ไปหาชายหนุ่มและเดินออกไปรอที่หน้าประตู ไม่นานก็มีเสียงรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นมาจากท้องถนน เบิ้ลรถเสียงดังจนหญิงสาวต้องรีบหันไปมอง
"พี่มาร์ค... จะเบิ้ลรถทำไมคะไม่อายคนอื่นหรือไงแล้วนี่ไปเอามอเตอร์ไซค์ใครมาขี่"
หญิงสาวเอยถามด้วยความสงสัย เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่นี่เธอก็แค่แปลกใจว่าไปเอามอเตอร์ไซค์มาจากไหน
"คันนี้พี่เช่ามาค่ะไม่แพงหรอกเอาไว้ขี่มารับหนูไปกินข้าวไง"
"รีบไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวมันจะค่ำ ว่าแต่พี่มาร์คจะพาตุ้ยนุ้ยไปกินข้าวที่ไหนคะ"
พูดไปพลางขยับตัวขึ้นนั่งซ้อนท้ายชายหนุ่ม และด้วยความที่วันนี้ใส่ชุดนักเรียนมา ทำให้การซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่ทว่าหญิงสาวก็สามารถจัดท่านั่งให้เรียบร้อยได้
"พี่มาร์คขี่ดีๆนะคะ"
"ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ระดับพี่มาร์คซิ่งแบบปลอดภัยหายห่วง"
สิ้นเสียงของชายหนุ่มก็จัดการเบิ้ลรถและขี่ออกไปด้วยความรวดเร็ว หญิงสาวถึงกับสะดุ้งตกใจรีบสวมกอดเอวหนาเอาไว้แน่น หลับตาปี๋ด้วยความกลัวเพราะว่าเขาขี่เร็วเกินไป
"พี่มาร์ค อย่าขี่รถเร็วสิคะตุ้ยนุ้ยไม่ชอบ"
"สนุกออกแต่ว่าถ้าหนูไม่ชอบพี่ขี่ช้า ๆก็ได้"
ชายหนุ่มลดความเร็วลงให้เหลือแค่ 40 ใจจริงอยากจะขี่เร็วกว่านี้แต่ดูท่าทางหญิงสาวจะยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ เขาเองไม่ชอบให้เธอตกใจกลัวเพราะมันทำให้เขาไม่มีความสุข
"เราจะไปกินอะไรกันดีคะ"
"แล้วพี่มาร์คอยากกินอะไรล่ะคะ ตุ้ยนุ้ยกินได้ทุกอย่างเลยค่ะ"
"พี่ให้หนูเลือกเลยค่ะหนูอยากจะกินอะไรชี้ร้านมาเลยพี่กินได้ทุกอย่าง"
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเอาใจหญิงสาว แล้วถ้าเธอชอบที่จะกินอะไรเขาก็จะปรับตัวและเรียนรู้ เอาจริงโดยปกติไม่ได้เป็นคนกินง่ายขนาดนั้น ของกินง่าย ๆที่คนอื่นเขากินกันบางอย่างเขาก็ไม่ชอบอย่างเช่นราดหน้า ข้าวซอย มันดูเหนอะหนะไม่น่ารับประทาน
"พี่มาร์คตามใจตุ้ยนุ้ยเหรอคะ"
"ใช่ค่ะพี่ตามใจตุ้ยนุ้ยทุกอย่างอยู่แล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นไปกินร้านประจำของตุ้ยนุ้ยกับเพื่อนแล้วกันนะคะ รับรองว่าพี่มาร์คต้องชอบแน่ๆ"
หญิงสาวบอกทางที่จะไปร้านโปรดของเธอและเพื่อนๆ ชายหนุ่มขี่ไปตามทางที่หญิงสาวบอกและเมื่อวนรถเข้ามาจอดหน้าร้านเขาถึงกับนิ่งค้างอย่างพูดไม่ออก
"ส้มตำลึกลับในป่าใหญ่"
"ใช่ค่ะเป็นร้านประจำของตุ้ยนุ้ยกับเพื่อนเลยค่ะ มีส้มตำปูปลาร้าแซ่บๆอร่อยมากเลยนะคะ ลงมาสิคะพี่มาร์ค อยากกินจะแย่แล้ว"
เด็กสาวสะกิดให้ชายหนุ่มลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์ กุมมือลากแขนชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ โดยไม่ได้สังเกตใบหน้าของเขาเลยว่ามันแย่มากแค่ไหน
"พี่มาร์คเลือกเลยค่ะว่าจะกินอะไร"
หญิงสาวส่งเมนูไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า เขาเปิดดูไปจนครบทุกหน้าและไม่รู้ว่าตัวเองควรจะกินอะไร เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเข้าร้านส้มตำแม้แต่ครั้งเดียว
'ซวยแล้ว เกิดมาทั้งชีวิตของไอ้มาร์คยังไม่เคยกินส้มตำมาก่อนเลย จะรอดไหมวะเนี่ย'
ใบหน้าเคร่งเครียดจ้องมองเมนูอย่างอธิบายความรู้สึกออกมาไม่ถูก มันก็ไม่ใช่ว่าไม่น่ากินแต่ว่าเขาไม่เคยกินมาก่อนจึงไม่รู้ว่ามันจะรสชาติถูกปากมากน้อยขนาดไหน
"ตุ้ยนุ้ยเอาส้มตำปูปลาร้า ต้มแซ่บ หมูน้ำตก คอหมูย่าง ว่าแต่พี่มาร์คอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ"
"พี่ตามใจหนูเลยค่ะ พี่กินได้ทุกอย่างแหละ แฮะ..."