ตอนที่9

1221 Words
-9- (มินิมาร์ท) ตอนนี้ฉัน ฌอนและหมอสกายกำลังเดินอยู่ในงานอะไรสักอย่างมีแสงสีเต็มงานไปหมด เขียวบ้างล่ะ เหลือง แดงบ้างล่ะแถมยังมีของกินมากมายละลานตาที่สำคัญมีซุ้มของเล่นด้วยนะปาโป่งเอย โยนหวง ยิงปืนเอย “คุณมินิมาร์ทอยากทานอะไรมั้ยครับ” แน่นอนประโยคสุภาพและดูเป็นปัญญาชนแบบนี้ไม่ได้ออกจากปากฌอนแน่ มันมาจากคุณหมอสุดหล่อของฉันเอง>< “เรียกมินเฉยๆก็ได้ค่ะ มินกินอะไรก็ได้” “เหอะ” ฉันตวัดสายตามองฌอนนิดๆเขายืนเท้าสะเอวอยู่ด้านหลังมองฉันและหมอด้วยสายตาไม่พอใจ “อย่ากวนตีนให้มากนะไอหมอ” ฌอนชี้หน้าหมอก่อนจะเข้ามากอดคอฉันลากออกไปให้เดินกับเขา “มินเบื่อไอฌอนมาหาหมอได้นะครับ” “ถ้าอย่างนั้นมินไปหาหมอตอนนี้ได้เลยนะคะ” “มิน!!” ฉันและหมอหัวเราะออกพร้อมกันเมื่อเห็นท่าทางโมโหของฌอนด้วยความที่ฉันยังเจ็บเท้าอยู่ฌอนเลยลากฉันให้เดินหนีหมอไม่ได้ หมอเลยแกล้งเขาได้อย่างสนุกเลยล่ะทีนี้ “มึนปาแบบนี้ชาติหน้าก็ไม่โดนหรอก” อยากจะเปลี่ยนทิศทางลูกดอกจากปาใส่ลูกโป่งมาปาใส่ไอคนปากหมาด้านข้างจริงๆ “นายเก่งมากรึไง” ฌอนยืนกอดอกด้วยท่าทางท้าทายก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกวนตีน “แข่งมั้ยล่ะใครปาโดนมากกว่ากันสั่งให้อีกคนทำอะไรก็ได้” “หึ ได้เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว” ฉันรับคำท้าแบบลืมคิดหน้าคิดหลังไปเลยเพราะคำว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคอถึงก่อนหน้าจะปาพลาดเป็นสิบแต่น้องมินิมาร์ทคนนี้จะไม่ยอมแพ้ “ต่อให้เลย5อัน” ฌอนพูดด้วยท่าทางสบายๆ อ๊ากก ไม่ติดว่าเจ็บเท้าแม่จะกระโดดถีบให้ “อ้าว ทำไมยืนมองหน้าเคียดแค้นกันขนาดนี้ล่ะครับ” เสียงหมอสกายพึ่งเดินเข้ามาทักขึ้นเพราะคงเห็นฉันและฌอนยืนจ้องหน้าส่งสายตา ชิ้ง ชิ้งให้กันอยู่ “หมอสกายมาก็ดีค่ะมาเป็นกรรมการให้พวกเราหน่อย” กติกามีอยู่ว่าเราจะแข่งปาทั้งหมด20ดอกใครปาลูกโป่งแตกได้มากที่สุดชนะโดยฌอนต่อให้ฉันต่อให้ฉัน5ดอกฉะนั้นฉันจะได้ปา25ดอก ฌอนปา20ดอก “นายเริ่มก่อนเลย” ฌอนหันมายกยิ้มมุมปากก่อนจะขว้างลูกดอกออกไปโดยไม่มองด้วยซ้ำ โป่ง! เหยด แตกได้ไงวะ “ตามึนแล้ว” ฉันหลับตาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายขอให้ลูกป่โดนด้วยเถอะ โป่ง! “เย้” “ฟลุ๊คดีนะ” ฌอนว่าพลางเอามือมาโยกหัวฉัน หน็อยแน่มาดูถูกฉัน “ตอนนี้เหลือกันคนล่ะ2ดอกแล้วนะครับ ถ้ามินได้ทั้ง2ดอกแล้วฌอนไม่ได้เลยสักอันถือว่ามินชนะนะครับ” ริบหรี่เหลือเกินความหวังของฉันสองดอกว่ายากแล้ว ฌอนปาไม่ได้ว่ายากกว่าอีก ฟิ้ว ฟิ้ว “ว้า พลาดได้ไง” ฉันมองหน้าฌอนสลับกับแผงลูกโป่งเป็นไปได้ไงเขาปาไม่โดนสักลูกเลย เอาวะมีโอกาสชนะแล้ว โป่ง โป่ง “มินชนะครับ” “เย้” ฉันกระโดดดีใจเมื่อฟลุ๊คปาโดนทั้งสองลูก โผเข้ากอดหมอสกายแต่โดนฌอนดึงไว้ก่อน “กอดมันทำไม กอดว่าที่สามีสิ” เขากระซิบข้างหูกอดฉันไว้จากด้านหลังแน่นเท่านั้นยังไม่พอฌอนยังหอมแก้มแถมพูดเสียงเซ็กซี่อีกว่า “วันนี้จีบแล้วนะ” “หือ” ฉันเอี่ยวหน้าไปมองเขา ขมวดคิ้วไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด “ยอมให้ชนะไง เขาบอกผัวยอมเมียแล้วเมียจะรัก” คำพูดของเขาทำให้ฉันเบิกตากว้างและยิ่งกว้างขึ้นอีกเมื่อฌอนก้มลงจุ๊บปากฉัน “แฮ่ม สงสารกูบ้างเถอะ” “อิจฉาก็บอก” ฌอนพูดยิ้มๆหันไปยักคิ้วกวนตีนให้หมอ ส่วนฉันได้แต่ก้มหน้างุดๆเพราะทั้งเขินทั้งอาย “อย่าให้กูมีบ้างนะมึง” “มึงมีกูไงครับเมีย” เสียงเข้มของใครบ้างคนดังขึ้นพวกเราทั้งหมดเลยพร้อมใจกันหันไปมองและภาพที่เห็นคือผู้ชายคนนึงหล่ออะหล่อเลย ขาวสูง หน้าติดกวนตีนหน่อยกำลังยืนถือช่อลูกโป่งอยู่ “ไอดินแดนมึงมาได้ไง” “มึงหนีกูทำไมวะสกาย” “ไอเหี้ยฌอนมึงบอกมันใช่มั๊ย” ฌอนยกยิ้มมุมปาก ยักไหล่ให้ตามสไตล์เขาแต่ก่อนที่หมอสกายจะได้เข้ามาถึงตัวฌอนเขาโดนผู้ชายคนนั้ดึงไว้ก่อน “คุยกันดีๆหน่อยได้มั้ยสหาย” “...” “อะนี่กูให้กูรู้มึงชอบลูกโป่ง” น่ารักจังเลยอะ ผู้ชายอะไรทำไมน่ารักขนาดนี้เหมือนหมอจะอ่อนลงเขายอมรับลูกโป่งส่งผลให้คนให้ถึงกับยิ้มกว่าแต่เพียงไม่กี่วินาทีรอยยิ้มนั้นก็หายไปเพราะหมอสกายปล่อยลูกโป่งออกจากมือทั้งกำ “กูปล่อยมึงแบบที่ปล่อยลูกโป่งนั่นแหละ ปล่อยไปแล้วยังไงกูก็ไม่โง่พอดันทุรังขึ้นไปเอามันลงมาหรอก” ฉันเห็นหมอน้ำตาคลอนิดๆด้วย ทันทีที่หมอพูดจบเขาก็วิ่งออกไปเลย “กูตามมันไปก่อนนะ ขอบคุณมึงมาก” “เออ โชคดีนะมึง” ดินแดนหันมาขอบคุณฌอนก่อนจะวิ่งตามหมอสกายออกไป ฉันและฌอนเดินได้สักพักก็ตัดสินใจกลับเพราะฉันเริ่มปวดเท้า “ฌอนไปเดินเล่นริมทะเลกัน” “เดินไหวรึไง” “ขี่หลังหน่อยสิ” ฉันกอดแขนขอเขาเสียงอ้อนๆฌอนหรี่ตามองฉันนิดนึงสุดท้ายเขาก็ยอมย่อตัวลง “กูยอมให้ครั้งเดียวนะ” “ขอบคุณค่ะ” ทะเลยามค่ำคืนมองมุมหนึ่งสวยงามแต่หากมองอีกมุมมันดูอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก เสียงจันทร์กระทบน้ำทะเลส่องแสงวิบวับบรรยากาศเงียบสงบได้ยินเพียงเสียงลมที่พัดผ่านเบาๆ “มึนขอบคุณนะที่เธอยอมลำบากมาด้วยกัน” “เอาความจริงมั้ยฌอน” “ความจริงอะไร” “คือฉันไม่ได้อยากเจอสถานการณ์แบบนี้แต่มันไม่มีทางเลือก” “โอ๊ย ขอโรแมนติกสักห้านาทีได้มั้ยห้ะ มึนมึน!” “ฮ่าๆ ขอโทษมันก็ไม่ได้ลำบากสักหน่อยถือว่ามาเที่ยวแบบประหยัดไง” เขาไม่รู้หรอกว่าฉันอยากจะต่อท้ายว่าและมันก็มีความสุขดีนะ “พรุ่งนี้ลูกน้องกูจะมารับ” “อือ” ไม่รู้ทำไมแทนที่ฉันจะดีใจได้กลับบ้านสักทีแต่ใจกลับรู้สึกหวิวแปลกๆ “ไม่ต้องทำเสียงหงอยแบบนั้นหรอก กูไม่ได้จะหายไปไหน” “ใครเสียงหงอยดีออกไม่ต้องเจอให้รำคาญ” “ให้มันจริงเถอะ” “จริงแท้แน่นอนอยู่แล้ว” “ครับ แต่ยังไงกูก็สัญญาว่าจะจีบมาเป็นเมียให้ได้อยู่ดีมึนมึนต้องเป็นของกูเท่านั้น” น้ำเสียงจริงจังของเขาทำให้ฉันเขินจนเผลอฟาดลงไปบนบ่าเขาหลายที ฉันสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดพรุ่งนี้แล้วสินะที่เราต้องไปจากที่นี่แม้จะอยู่ไม่กี่วันแต่กลับรู้สึกชอบที่นี่และผูกพันจัง ——
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD