“ตื่นได้แล้ว” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเรียกร่างบางในอ้อมกอดเบาๆ เหนือน้ำที่ตื่นมาได้สักพักแล้วแต่ยังไม่ยอมลุกเพราะกลัวว่าคนในอ้อมกอดของเขาจะตื่นตาม แต่เพราะตอนนี้ก็สายมากแล้วก็เลยจำเป็นต้องปลุกร่างบางให้ตื่นก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้
รวมถึงวันนี้เขาต้องพาเธอไปจากที่นี่แล้ว ของก็ยังไม่ได้เก็บกันเลยสักอย่าง
“อื้ออ ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ” ตังเมหันหน้าหนีพลางต่อต้านเขาอย่างสุดความสามารถ ทว่าคราวนี้เขานั้นไม่ใช้ไม้เดิมอย่างการลากเธอลงจากเตียงแล้ว แต่คราวนี้เขาคว้าเธอมานั่งบนตักแทนแต่ดวงตาทั้งสองของเธอก็ยังคงปิดอยู่ไม่แม้แต่จะขยับเลยสักนิด
“ถ้าไม่ตื่น ฉันจะจูบเธออีกนะ” พอจบประโยคนั้น ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลงโดยทันที ร่างบางที่นั่งอยู่บนตักก็กระโดดออกลงจากเตียงโดยไม่รอให้เขาเรียกเป็นครั้งที่สองเลย
“ฉันคุยกับพวกมันแล้ว วันนี้เราต้องออกเดินทาง รีบไปอาบน้ำแล้วมาจัดกระเป๋าสิ” เหนือน้ำอธิบายให้หญิงสาวฟัง จากนั้นเธอก็รีบตรงดิ่งไปทางห้องน้ำโดยทันที
เหนือน้ำที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จก่อนตังเมก็ออกมาทำอาหารเช้าอีกเช่นเคย
เมื่อก่อนเขาไม่เคยได้ทำอาหารบ่อยนัก แต่พอมีตังเมเข้ามาอยู่ด้วย เขาก็ทำอาหารเกือบทุกวันเลยเพราะตังเมเป็นคนที่กินเก่งแต่ก็เลือกกินด้วยเหมือนกัน พอทำอาหารเองก็เลยสะดวกกว่าที่จะสั่งซื้อมา
“นายนี่ ขยันทำอาหารจังเลยนะ ถ้าเป็นฉันครัวคงไหม้แน่นอน” ตังเมที่เพิ่งจัดการทุกอย่างเสร็จก็เดินมานั่งรอที่โต๊ะทานอาหารก่อนพลางช่วยชายหนุ่มเตรียมภาชนะสำหรับใส่อาหาร อาหารสองสามอย่างถูกจัดเสิร์ฟวางตรงหน้าของตังเมและส่งกลิ่นหอมโชยไปทั่วทำให้เธอ รู้สึกหิวมากขึ้นไปอีก ร่างสูงนั่งลงตรงข้ามกับเธอพร้อมกับตักข้าวใส่จานให้
“เลอะแล้ว” เหนือน้ำเอ่ยขึ้นพลางหยิบทิชชูมาเช็ดริมฝีปากบางที่เปื้อนเล็กน้อย
“ทำไงได้ล่ะ ฉันก็ไม่ได้อยากให้เลอะซักหน่อย” ตังเมว่าพลางบุ้ยปากใส่เขา
อาหารมื้อนี้ก็ดำเนินผ่านไปได้ด้วยดีพร้อมกับการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อยระหว่างทั้งสองคนเท่านั้นเพราะต้องรีบออกเดินทางเลยต้องจัดการอาหารตรงหน้าให้ไวที่สุดก่อนที่จะไม่ทันเวลา
การเดินทางครั้งนี้จำเป็นต้องเดินทางไปให้เงียบที่สุดโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็นได้ เหนือน้ำจึงพาเธอขึ้นรถส่งของของบริษัทเพื่อไปลงที่จุดหมายปลายทางโดยไม่ให้ใครรู้ แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้คนขับรถเป็นบอร์ดี้การ์ดขับแทนเพื่อความปลอดภัยอีกรอบนึง
ตลอดการเดินทางทั้งเหนือน้ำและตังเมก็นั่งอยู่บริเวณด้านในรถส่งของมีเพียงตังเมที่ผล็อยหลับไปตลอดทางโดยมีเหนือน้ำคอยจับศีรษะของเธอมาหนุนตักของเขาไว้จะได้นอนสบายมากขึ้น กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางก็ปาไปเกือบสิบชั่วโมงเลยล่ะ ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรทำให้ทั้งสองค่อนข้างเหนื่อยล้าพอสมควร แล้วผ่านมาตั้งเกือบสิบชั่วโมงก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องของทั้งสองเลยด้วยเพราะว่ารีบจนลืมไปว่าระยะทางนั้นไกลและไม่สามารถหยุดพักได้
“มากันแล้วเหรอคะคุณหมอ สวัสดีค่ะ สวัสดีภรรยาคุณหมอด้วยค่ะ” หญิงวัยห้าสิบปีรีบออกมาต้อนรับแขกทั้งสองคนที่จะมาพักอยู่ที่นี่สักพักหนึ่ง ทันทีที่เธอได้ยินข่าวก็ดีใจจนตั้งหน้าตั้งตามารอเจอทั้งสองด้วยตัวเองตั้งแต่รุ่งเช้าจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีอีกครั้งแล้ว
“สวัสดีครับป้านิ่ม นี่ป้านิ่มเป็นเจ้าของที่นี่” ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำหญิงวัยห้าสิบปีให้ตังเมรู้จักทัน
“สวัสดีค่ะป้านิ่ม”
“ตายแล้ว ป้าไม่คิดว่าคุณหมอจะได้เมียสวยขนาดนี้เลยนะคะ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักเชียว” ท่าทางตื่นเต้นของป้านิ่มทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกันทันที
“ป้าทำความสะอาดที่พักไว้ให้แล้วนะคะ หลังเดิมเลยค่ะ” ป้านิ่มยื่นกุญแจที่พักให้เหนือน้ำด้ว้ยความคุ้นเคย จากนั้นเขาจึงพาเธอไปที่พักซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของป้านิ่มออกมาระยะหนึ่ง บ้านหลังนี้อยู่ติดกับต้นไม้ใหญ่และธารน้ำสายเล็กไหลผ่านข้างบ้าน ชั้นสองของบ้านก็เน้นเป็นประตูกระจกทำให้บ้านดูโปร่งโล่งสบายมองออกไปด้านนอกก็เห็นลำธารและป่าไม้เขียวขจีที่ปกคลุมบริเวณนี้ อีกทั้งใกล้ๆ กันก็มีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่และมีดอกไม้นานาชนิดอยู่เต็มไปหมด ถัดไปอีกด้านหนึ่งก็เป็นสวนผลไม้ของป้านิ่มที่มีคนงานมากมายกำลังเลิกงานและแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง
“ชอบไหม”
“ก็ชอบนะ ที่นี่บรรยากาศดีกว่าในเมืองอีก” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองออกไปทางด้านนอกอย่างหลงใหล ภาพบรรยากาศในตอนนี้คือดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มละมุน
“ฉันหิวแล้วอ่ะ” ตังเมเอ่ยบอก เมื่อรู้สึกว่าท้องของเธอร้องดังขึ้นมาเป็นรอบที่ร้อยของวันแล้วล่ะมั้ง
“รอแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวป้านิ่มก็คงเอาอาหารมาให้” เหนือน้ำเอ่ยพลางจัดเสื้อผ้าขของตัวเองเข้าไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ แล้วยังจัดผ้าปูเตียงจนเรียบกริบอีกด้วย
ตอนที่อยู่คอนโดเธอไม่ค่อยได้สังเกตเห็นตอนที่เขาจัดเท่าไหร่แต่ก็จะสังเกตได้ว่าทุกอย่างในห้องจะเป็นระเบียบอยู่เสมอ ในห้องแทบไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว
ก็สมกับที่เป็นคนเจ้าระเบียบจริงๆ นั่นแหละ
ไม่นานนักป้านิ่มก็ยกอาหารมาให้ทั้งสองพร้อมกับเอาวัตถุดิบต่างๆ มาใส่ไว้ในตู้เย็นเพื่อให้เหนือน้ำสามารถทำอาหารเองได้รวมถึงผลไม้จากในสวนก็เอามาให้จนเต็มไปหมดเพราะกลัวว่าทั้งสองจะหิว
หลังจากที่ตังเมกินข้าวเสร็จก็เลยมานั่งปอกผลไม้แช่ตู้เย็นไว้กินในตอนเช้าอีกที
“ระวังมือด้วยสิ ปอกแบบนั้นเดี๋ยวมีดก็บาดมือหรอก” ชายหนุ่มที่นั่งจ้องเธอที่กำลังปอกผลไม้คอยเตือนเธอตลอด จนตอนนี้เธอเริ่มจะไม่มีสมาธิกับการปอกผลไม้แล้ว
“นายไม่ต้องพูดแล้วก็ได้ ฉันไม่ทำมีดบาดตัวเองหรอกนะ”
“ก็ดูเธอปอกสิ ปอกผลไม้ไม่เป็นหรือไง”
“หยุดกวนฉันเลยนะ โอ้ยยย” ตังเมที่หันมาเถียงกับเขาจนลืมระวังตัวเองทำให้มีดบาดเข้าเนื้อจนร้องเสียงหลงออกมา เหนือน้ำเด้งตัวลุกขึ้นมาดูนิ้วที่โดนมีดบาดอย่างรวดเร็ว
“ฉันว่ายังไม่ทันขาดคำเลยนะ”
“ก็เพราะนายกวนฉันนั่นแหละ ฉันถึงได้ทำมีดบาดตัวเองไง” หญิงสาวไม่ยอมรับความผิดพร้อมกับโยนให้เขาในทันที
“เดี๋ยวฉันทำเอง ไปนั่งเลย” หลังจากที่เขาทำแผลให้เธอเสร็จก็ไล่ให้เธอไปนั่งทันที แล้วเขาก็มานั่งปอกผลไม้แทน และไม่ลืมที่จะจัดผลไม้ใส่จานให้หญิงสาวกินด้วย