เรื่องราวปิดอย่างไรก็คงไม่มิด ยิ่งพยายามปกปิดเท่าไหร่ก็เหมือนจะเร่งให้ความจริงเปิดเผยเร็วเท่านั้น พนักงานเริ่มระแคะระคายความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวกับท่านประธานหนุ่ม บางคนไม่เชื่อ บางคนนินทาด่าทอบ้างซึ่งต้นหลิวไม่ได้ให้ความสนใจ
“น้องหลิวกลับบ้านกับท่านประธานด้วยเหรอคะ”
เหมยหัวหน้าฝ่ายบัญชีทักรุ่นน้องที่มีข่าวลือว่าเป็นเมียเก็บท่านประธาน
“เป็นบางวันค่ะพี่เหมย ถ้ามีงานเยอะต้องอยู่จนเย็นท่านประธานก็จะให้ติดรถกลับด้วย บางทีก็นัดพบลูกค้าด้วยค่ะ”
เธอไม่ได้ปฏิเสธเพราะมันไม่ได้ผิดอะไรเลย เธอกับคีรันโสดด้วยกันทั้งคู่แล้วผิดตรงไหนที่แอบกินกันเอง
เพียงเพราะเธอเป็นพนักงานก็ไม่สามารถคบหากับเจ้านายได้อย่างนั้นเหรอ เธอมองไม่เห็นความผิดเลยแม้แต่นิดเดียว
“อ๋อจ้า พี่เห็นข่าวลือเมียเก็บท่านประธานมาค่ะ กลัวน้องหลิวจะโดนเมาท์” เหมยยิ้มรับเพราะอีกฝ่ายไม่แสดงท่าทีมีพิรุธใด ๆ เลย ตอบกลับด้วยท่าทางนิ่งเฉย วางท่าเชิดหยิ่งน่าหมั่นไส้
“หลิวไม่ได้สนใจเรื่องซุบซิบพวกนั้นหรอก ถ้ามัวแต่สนใจเรื่องพวกนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดีสิคะ งานหลิวก็เยอะมากด้วย”
ต้นหลิวกล่าวต่อขณะสบตากับอีกฝ่ายที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยากเอาเธอไปนินทาแค่ไหน
“จ้า ตามสบายเลยนะคะพี่ขอตัวไปทำงานก่อน”
เหมยกล่าวลาต้นหลิวพร้อมกับรีบขอตัวไปทำงาน
ห้องฝ่ายบุคคล
“เป็นอะไรคุณเหมยทำหน้าเหมือนมีเรื่องจะเมาท์”
อรวิภาทักเหมยเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนร่วมงานปากแซ่บ หน้าที่การงานไม่ทำให้เธอเรียบร้อยตามเลยแม้แต่น้อย
หญิงสาวที่กำลังนั่งอยู่ในห้องเงยหน้ามองผู้มาใหม่
“ก็ยัยต้นหลิวนะสิ ปากดีมาก เหอะ คิดว่าคนอื่นเขาดูไม่ออกเหรอว่าเป็นเมียเก็บท่านประธาน” เหมยเปิดประเด็นแบบไม่อ้อมค้อมเพราะยังขุ่นเคืองที่ตนเองนั้นถูกหลอกด่ามาหมาด ๆ
“แฮ่ม พวกคุณไปทำงานได้ค่ะ” อรอินทร์ขยิบตาให้เพื่อนจากนั้นหันไปแจ้งแก่พนักงานที่เข้ามาใหม่ทั้งสองคน
“ค่ะพี่ออม” นลินรับคำหัวหน้าฝ่ายบุคคลด้วยกิริยานอบน้อม สายฝนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ลุกตาม
“นี่พี่เหมยฝ่ายบัญชีนะ เหมยนี่เด็กฝ่ายบัญชีเข้ามาใหม่ ลินกับฝน” อรวิภาแนะนำ
“สวัสดีค่ะพี่เหมย/สวัสดีค่ะพี่เหมย” ทั้งสองยกมือไหว้เหมยที่ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ท่าทางนลินกับสายฝนดูไม่ค่อยกล้าเธอจึงถูกใจพนักงานใหม่พอสมควร
“สวัสดีเดี๋ยวค่อยเมาท์กันเนอะ นี่ออมแกว่ายัยต้นหลิวอะไรนั่นจะจับท่านประธานเราได้ไหม”
เหมยทักทายพอเป็นพิธีแล้วหันมานินทาต้นหลิวต่อโดยที่ไม่คิดรอให้พนักงานใหม่ทั้งสองออกจากห้อง
นลินยิ้มให้หัวหน้าฝ่ายก่อนจะเดินออกจากห้องพร้อมกับสายฝน ทั้งคู่มองหน้ากันเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนา
ข่าวลือนี้ยิ่งคนรู้ก็ยิ่งดี ทุกคนในบริษัทจะได้รู้ว่าเลขาผู้แสนเก่งกาจความจริงนั้นเป็นคนอย่างไร เหมยไม่ได้จงเกลียดจงชังอีกฝ่ายแต่อดหมั่นไส้ในความนิ่งของอีกฝ่ายไม่ได้ ฝีปากต้นหลิวก็แซ่บพอตัวเคยหักหน้าเธอตอนเมาท์เรื่องเด็กฝึกงานท้องมาแล้ว ครั้งนั้นเธออายจนอยากลางานสักเดือนที่โดนอีกฝ่ายตำหนิต่อหน้าพนักงานเป็นสิบ ทั้งที่เธอเป็นรุ่นพี่
“สวยขนาดนั้นก็ไม่แน่หรอกนะ นิสัยก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ติดแค่ดูหยิ่ง ๆ เชิด ๆ หน่อย” อรวิภาชอบเมาท์แต่ไม่ได้มีปัญหากับต้นหลิว การมองจากมุมของเธอจึงดูปกติที่เจ้านายจะแอบกินกับเลขาสาวที่สวยมากอย่างต้นหลิว
นอกจากสวยและเก่ง ต้นหลิวยังเป็นคนเด็ดขาดมากในการทำงาน เธอไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียวในห้องประชุม ต้นหลิวนั้นเรียกว่าเป็นแขนขาให้กับคีรันเลยก็ว่าได้ เธอนึกภาพไม่ออกว่าหากต้นหลิวลาออกใครจะทำงานให้ท่านประธานได้ดีเท่า