ตอนที่ 5 อยู่ดี ๆ ก็ร้าย ?

792 Words
การทำงานในบริษัทของต้นหลิวไม่มีปัญหาแม้ข่าวลือจะหนาหูแต่เธอก็ไม่เคยคิดเก็บมาใส่ใจ เธอทำงานของตัวเองเต็มที่ สำหรับคีรันก็เป็นความสมัครใจของเธอและเขาที่จะสานสัมพันธ์กัน เธอไม่ได้ขายตัวหรือเรียกร้องเงินแต่หากเขาให้เธอเนื่องในโอกาสต่าง ๆ เธอก็รับไม่ได้ขัด สถานการณ์ด้านการเงินเธออาจไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี หน้าที่การงานมั่นคง อาชีพเสริมก็ทำให้มีเงินเก็บไว้มากพอควร เงินเก็บที่จะทำให้ชีวิตในอนาคตของเธอหลุดพ้นจากหลาย ๆ อย่างที่ตามหลอกหลอน เงินเก็บที่จะทำให้ชีวิตของเธอเป็นอิสระ “หลิวไม่เจอนานสบายดีไหม” หญิงสาวร่างบางส่งเสียงทักต้นหลิวที่กำลังเดินออกจากลิฟต์ผู้บริหาร การแต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าต่างจากคนทักที่สวมเพียงเสื้อผ้าธรรมดาเช่นพนักงานทั่วไป “แกมาทำอะไรที่นี่” ตาสีน้ำตาลเข้มเปลี่ยนเป็นดุดันเมื่อเห็นคนทัก ความเกลียดชังอัดแน่นในอกจนอยากตรงเข้าไปกระชากอีกฝ่ายมาถามว่าต้องการอะไรจากเธอหนักหนา “พี่เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้สามวัน ดีใจจังที่ได้เจอหลิว หลิวกลับบ้านเราเถอะนะ” นลินเดินมาจับมือต้นหลิวพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องสาวหลังจากไม่ได้พบกันมานาน ต้นหลิวไม่เคยติดต่อหาทางบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว “ฉันไม่ได้อยากเจอแกและแกไม่ใช่พี่ฉัน ไม่ต้องสาระแนอยากสนิทสนม” ต้นหลิวสะบัดมือออก ตะคอกใส่หน้าพี่สาวด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ในท่าทางไร้เดียงสาของนลิน “ฮึก ๆ ทำไมหลิวถึงพูดกับพี่แบบนี้ พี่คิดถึงหลิวมากนะ” หญิงสาวมองผู้เป็นน้องด้วยน้ำตา เธอคิดว่าต้นหลิวจะยอมกลับมาคุยด้วยจึงกล้าเข้ามาทักแต่ทุกอย่างกลับแย่ลงกว่าเดิม “เกิดอะไรขึ้นลิน ออ นี่น้องสาวแกนี่ แกทำอะไรลินอีก” สายฝนดึงเพื่อนมาหลบด้านหลังอย่างต้องการปกป้อง เธอไม่ชอบน้องสาวเพื่อนคนนี้เลย ต้นหลิวชอบทำร้ายนลินบ่อยครั้งเวลาพบหน้า ทั้งทางร่างกายและคำพูดรุนแรง พอเอาคืนบ้างกลับจองล้างจองผลาญไม่เลิก ก็แค่การแกล้งกันสมัยเรียนจะอะไรนักหนา… “ไม่ต้องมารู้จักหรือทักทาย ฉันไม่เคยอยากรู้จักพวกแก พวกนรกส่งมาเกิด!” ความเกลียดชังที่เธอมีต่อพวกมันมีมากยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น “ได้ดีแล้วลืมกำพืดตัวเองสินะ ลืมแล้วเหรอว่าตัวเองเคยทำตัวต่ำตมเน่าเฟะแค่ไหน” สายฝนใช้สายตาหยามเหยียดมองต้นหลิวตั้งหัวจรดเท้า “ถ้าอยากให้อีนี่ไม่มีที่ซุกหัวนอนก็ลองเอาเรื่องฉันไปพูดดูสิ เที่ยวตามมาว่าคนอื่นลืมกำพืดพวกแกสองคนวิเศษนักนี่ เคยทำเรื่องระยำอะไรไว้บ้างก็น่าจะรู้ตัวดี พี่กันต์คงรู้สันดานสินะถึงได้ไม่เคยคิดจะเอาพวกแก” ต้นหลิวตอบกลับด้วยถ้อยคำหยาบคายแบบที่ไม่เคยใช้กับใครมาก่อน หญิงสาวรู้ว่าเธอไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่เชื่อได้เลยว่าเลวสู้ผู้หญิงสองตรงหน้านี้ไม่ได้แน่ หน้าซื่อใจคดจนคาดไม่ถึง “อีหลิว!” สายฝนจ้องหน้าน้องสาวเพื่อนเขม็ง อยากพุ่งเข้าไปตบแต่ถูกนลินดึงแขนเอาไว้ “หลิวมีอะไรหรือเปล่า” คีรันเรียกหญิงสาวที่สีหน้าดูไม่ค่อยดีนักสลับกับมองหญิงสาวอีกสองคนที่กำลังมองต้นหลิวแตกต่างกัน คนหนึ่งมองอย่างโกรธเคืองส่วนอีกคนดูหวาดกลัว “พนักงานใหม่ค่ะคุณคี หลิวว่าเรากลับบ้านกันเถอะนะคะ ไหนคุณบอกว่าอยากกลับไปเคลียร์เอกสารเร็ว ๆ ไงคะ” หญิงสาวคล้องแขนเจ้านายหนุ่มเป็นการประกาศความเป็นเจ้าของกลาย ๆ คีรันมองคนข้างกายอย่างแปลกใจ ต้นหลิวไม่เคยแสดงท่าทางแบบนี้ต่อหน้าพนักงานคนไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทว่ากลับเปิดเผยทุกอย่างชัดเจนจนเขาเองยังตั้งตัวไม่ทัน “สวัสดีค่ะท่านประธานพวกเราสองคนเป็นพนักงานใหม่ค่ะ” นลินยกมือไหว้ก่อนจะก้มหน้างุดหลบสายตาต้นหลิว “ยินดีต้อนรับครับ ผมต้องขอตัวก่อน” ชายหนุ่มยิ้มให้พนักงานทั้งสองอย่างไม่ใส่ใจ ช่วงนี้มีข่าวลืออาจมีเรื่องไม่เข้าหูต้นหลิวก็เป็นไปได้ ปกติต้นหลิวก็ไม่ใช่คนงี่เง่าพูดไม่รู้เรื่อง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD