ตอนที่ 15 เที่ยวทะเล (1)
“ให้พวกฉันมาด้วยจะดีจริงๆ เหรอ”
มิ้นต์กับแยมเอ่ยถามราฟาเอลที่กำลังขนสัมภาระของฉันกับเพื่อนๆ ขึ้นรถตู้คันใหญ่
เพราะว่าได้วันหยุดยาวมาถึงห้าวันติด ราฟาเอลกับเพื่อนๆ ของเขาเลยจัดทริปไปเที่ยวทะเลสี่วันสามคืนมา คนที่ไปก็จะมีเขา นาวิน กังหัน แล้วก็รุ่นน้องที่ชมรมฟุตบอลอีกสามคน ราฟาเอลก็เลยมาชวนฉันไปด้วย โดยบอกให้ฉันชวนยัยสองคนนี้ไปได้ ก็เลยลงเอยที่จะได้ไปออกทริปใหญ่ด้วยกันเป็นครั้งแรก นัดที่เขาบอกให้ฉันยกเลิกไปตอนนั้นก็เพราะจะพาไปทริปนี้แทนนั่นแหละ
“ทำไมล่ะ พวกเธอก็เป็นเพื่อนฉันมาตั้งแต่มัธยมนี่”
“แต่พวกฉันเป็นแค่เพื่อนของนายนะ ไม่ใช่ของเพื่อนๆ นายกับคนในชมรม จะไม่อึดอัดกันใช่ไหม”
“ไม่หรอกน่า อย่าคิดมาก”
“ใช่ ไม่ต้องคิดมากหรอก เพื่อนของราฟก็เหมือนเพื่อนของพวกเรานั่นแหละ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อนาวิน เรียกวินเฉยๆ ก็ได้”
นาวินเดินยิ้มแย้มเข้ามาทักทายทั้งสองคนหลังจากช่วยกังหันขนของขึ้นรถหมดแล้ว รถตู้คันนี้ก็เป็นของบ้านนาวิน คนขับก็เป็นคนของบ้านเขา ส่วนบ้านพักที่เราจะไปพักกันเป็นของบ้านราฟาเอล คุณพ่อเขาซื้อเอาไว้สมัยที่คุณแม่ของราฟาเอลยังมีชีวิตอยู่เพราะท่านชอบทะเลมาก
“ฉันชื่อแยมนะ ส่วนนี่ก็มิ้นต์ ยินดีที่ได้รู้จักจ้า”
แยมยิ้มแย้มทักทายกลับ กังหันรีบเข้ามาผสมโรงแนะนำตัว พวกเขาสนิทกันอย่างรวดเร็ว อาจเพราะเป็นรุ่นเดียวกันด้วยก็เลยเข้าใจกันง่ายกว่า ขนาดมิ้นต์ที่เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยเปิดใจคุยกับคนแปลกหน้ามากนัก ยังตอบโต้ทั้งสองคนอย่างเป็นมิตรเลย
“รุ่นพี่ เหนื่อยไหมคะ”
เสียงหวานใสที่ดังขึ้นทำให้ฉันสนใจหันไปมอง เธอคนนี้...รู้สึกเมื่อกี้ราฟาเอลจะแนะนำว่าชื่อพีค เป็นรุ่นน้องในชมรมและยังเป็นผู้ช่วยผู้จัดการชมรมอีกด้วย เธอเดินเข้าไปหาเขา มือเล็กๆ แตะที่แขนของอีกฝ่ายก่อนที่อีกมือหนึ่งจะส่งขวดน้ำดื่มให้
“ไม่เท่าไหร่หรอก ขอบใจนะ”
เขารับน้ำไปเปิดดื่มก่อนจะหันมามองฉันแล้วส่งยิ้มให้ ฉันยิ้มตอบกลับ แต่สายตายังไม่ละไปจากรุ่นน้องคนนั้น
เธอมองราฟาเอลด้วยแววตาแปลกๆ ไม่ใช่แววตาของรุ่นน้องที่มองรุ่นพี่แบบทั่วไปแน่ๆ ฉันเห็นประกายในแววตานั้น แล้วยังแก้มที่แดงระเรื่ออย่างเขินอายตอนที่เขายอมรับน้ำจากเธอไปนั่นอีก
“จับตาดูยัยนั่นไว้ให้ดีนะ”
มิ้นต์กระซิบข้างหูฉัน ดูท่าฉันคงจะไม่ได้คิดมากไปเองคนเดียวแล้วสินะ มันมีรังสีน่าสงสัยบางอย่างจากตัวเด็กคนนั้นจริงๆ
“อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เธอคิดมากไปหรือเปล่า”
“ถามจริง ดูไม่ออกเหรอ รู้ทั้งรู้ว่าแฟนเขายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ยังจะกล้าแตะเนื้อต้องตัวแฟนคนอื่นอีก ถ้าไม่มีซัมติงกัน คงไม่กล้าขนาดนี้หรอก”
“นี่เธอกำลังจะบอกว่าสองคนนั้น...”
ฉันหันกลับไปมองทั้งสองคนอีกครั้งด้วยความกังวล
ราฟาเอลพูดคุยกับเธอแบบปกติ ไม่ได้มากหรือน้อยไปกว่าคนอื่นๆ เลย และไม่ได้ดูให้ความสนใจเป็นพิเศษใดๆ ด้วย ถ้าหากผู้หญิงคนนี้เองก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยล่ะ การที่เธอมาออกทริปด้วยครั้งนี้ มีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่านะ
“ขอพวกพี่ด้วยสิจ๊ะ คุณผู้จัดการคนสวย”
ดินกับปืน ฝาแฝดจอมกวนประจำชมรม เรียนอยู่ปีสองคณะเดียวกันกับราฟาเอลคืออีกสองคนที่ถูกชวนไปทริปด้วย เขาเอ่ยแซวพีคและแบมือขอน้ำในส่วนของพวกตัวเอง
“พวกรุ่นพี่ก็ไปหยิบเอาเองสิคะ ขวดนี้ฉันดื่มไปแล้ว”
“เฮ้ๆ ดื่มไปแล้วแท้ๆ แต่เอาไปให้พี่ราฟาเอลดื่มต่อแบบนี้ก็หมายความว่า...” ดินพูดค้างเอาไว้
“จูบทางอ้อม!” ปืนพูดสิ่งที่เหลือเสียงดังลั่น
คำพูดของพวกเขาทำให้บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่นาวินและกังหัน ที่กำลังเม้ามอยอย่างสนุกสนานกับแยมจะขอตัวเดินไปปิดปากสองคนนั้นแล้วลากขึ้นรถตู้ไป
“ขึ้นรถได้แล้ว ได้เวลาออกเดินทางแล้วนะ”
ราฟาเอลเดินมาตาม เขาเดินไปคุยกับคนขับรถก็เลยไม่ได้ยินสิ่งที่ดินปืนพูดเมื่อครู่
“ไปๆ ขึ้นรถกัน”
มิ้นต์กับแยมรีบเดินไปขึ้นรถ พีคที่ถูกพวกนาวินเรียกให้ขึ้นรถเดินตามขึ้นไปอีกคน ตรงนี้เลยเหลือแค่ฉันกับราฟาเอลสองคน
“เป็นอะไรไป เมื่อกี้ยังยิ้มแย้มอยู่เลย ทำไมทำหน้าบูดอีกแล้วล่ะ”
“นี่...รู้หรือเปล่าว่าน้ำขวดเมื่อกี้ รุ่นน้องนายเขาดื่มไปแล้วนะ”
ราฟาเอลทำท่าคิด ก่อนจะร้อง ‘อ้อ’ ออกมาเบาๆ แล้วส่ายหน้า
“ไม่รู้หรอก แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนะ ฉันก็กินน้ำขวดเดียวกับคนอื่นบ่อยไป ทั้งไอ้วิน ไอ้กังหัน ไอ้แฝดนรกนั่นด้วย ทำไมเหรอ”
“ไม่มีอะไร”
ฉันตอบเสียงเรียบๆ อาศัยความไม่สนโลกของหมอนี่แล้วทำเนียนเข้ามาแทรกกลางระหว่างฉันกับเขาอย่างนั้นสินะ คงคิดจะเยาะเย้ยว่าได้จูบทางอ้อมกันใช่ไหม
“อะไรกัน อย่าบอกนะว่าหึง”
“คะ...ใครหึง ฉันไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้นสักหน่อย”
“ไม่หรอกน่า เธอหึงแน่ๆ หึงใช่ไหม”
ราฟาเอลยังไม่หยุดหยอกฉัน เขาเอานิ้วชี้ชี้หน้าฉันก่อนจะยิ้มกว้างล้อเลียน เห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้เลยงับนิ้วเขาไปเบาๆ
หงับ!
“โอ๊ยยย นี่เธอเป็นลูกแมวหรือไงฮะ”
“สมน้ำหน้า แบร่!”
หมับ!
แค่เพียงแลบลิ้นใส่เขาไปยังไม่ถึงสามวินาทีดีด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็ดึงฉันเข้าไปหาก่อนจะก้มหน้าลงมาดูดลิ้นของฉันเข้าไปในปากของตัวเอง! การ กระทำอันอุกอาจของเขาทำให้ฉันตกใจจนตัวแข็งทื่อ
“เท่านี้ก็ลบร่องรอยจูบทางอ้อมนั่นได้แล้วนะ”
เขาขยิบตาให้ฉันหนึ่งทีก่อนจะหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถตู้ก่อน ทิ้งให้ฉันยืนงงในดงจูบ
ขะ...เขาได้ยินสินะ ได้ยินที่ดินกับปืนพูดและรู้ว่าฉันคงกังวลก็เลยทำแบบนั้น...
ฉันยกมือขึ้นจับริมฝีปากของตัวเอง สัมผัสที่เกิดขึ้นยังติดตรึงอยู่เลย ฉันนี่มันบ้าจริงๆ มัวหึงกับอีแค่จูบทางอ้อมงี่เง่านั่น ทั้งๆ ที่ทุกสัมผัสของราฟาเอล มันเป็นของฉันอยู่แล้วแท้ๆ
“จะขึ้นไหมครับคุณผู้หญิง ถ้าไม่ขึ้นจะถูกทิ้งแล้วนะ”
“อ๊ะ! เดี๋ยวสิ รอฉันด้วย”
ตะโกนตอบรับราฟาเอลที่ชะโงกหน้าออกมาถามกลับไป