EP 1.1 บิน!
“เราเลิกกันเถอะ”
น้ำเสียงเย็นชาราบเรียบจากริมฝีปากบางเฉียบที่เคยพูดว่า ‘รักลันที่สุดในโลก’ ทำให้ ‘ลัน’... เพื่อนรักของฉันได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ปล่อยให้ร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากคาเฟ่ไปโดยไร้ซึ่งคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น
ฉันอ้าปากน้อยๆ มองสถานการณ์มาคุตรงหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ก่อนหันมองหน้าประตูคาเฟ่ที่ ‘จิน’ เพิ่งเดินออกไปที หันกลับมามองเพื่อนรักอีกทีอย่างไม่เข้าใจ
“นี่มันอะไรกันน่ะ ลัน?”
ฉันถาม และสาวสวยหน้าใสที่เพิ่งถูก ‘อดีต’ คนรักที่คบกันมาสี่ปีเต็มเดินหนีไป ก็หันมายิ้มให้ฉันน้อยๆ โดยไม่ตอบคำถามนั้น ราวกับไม่สะทกสะท้านอะไรเลยกับการเลิกราที่มีฉันนั่งอยู่ด้วยเป็นประธานกิตติมศักดิ์
บ้าน่า...
คู่รักบันลือโลกที่ฉันเคยหมั่นไส้ความหวานหยดจนมดแทบอ้วกของพวกมันเนี่ยนะ บอกเลิกกันต่อหน้าฉันน่ะ...
นี่มันตลกร้ายอะไรกัน?
ฉันชื่อแฟร์... แฟร์รี่ เคยเป็นเพื่อนซี้ของจินตอนประถมเพราะชอบไปเตะบอลด้วยกัน และมาสนิทกับลันตอนมัธยมต้นเพราะเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นผู้หญิงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะไปวิ่งเย้วๆ ในสนามฟุตบอล แต่บางทีก็อดไม่ได้ที่จะลงไปวิ่งตามลูกกลมๆ ในสนามหญ้าบ้างเป็นบางครั้งอะนะ นั่นทำให้ลันที่มักไปไหนมาไหนกับฉันทุกที่ สนิทสนมกับจินไปด้วยอีกคน
แล้วจู่ๆ จินก็ลุกขึ้นมาประกาศห้ามใครยุ่งกับลันเพราะมันจอง โดยไม่ไต่ถามความสมัครใจของเพื่อนฉันแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าทีแรกลันก็ประกาศเหมือนกันว่าจินมันบ้า และห้ามไม่ให้จินเข้าใกล้เกินห้าเมตร!
แต่อยู่ไปอยู่มา... ความบ้าของจินกลับเข้าตาลันไปได้ซะงั้น
แล้วมันก็คบกันมาสี่ปีแล้วเนี่ย สี่ปีเชียวนะ! ไหงจู่ๆ ก็บอกเลิกกันปานฟ้าผ่า จะว่าเป็นอาถรรพ์ปีที่สี่ก็ไม่น่าใช่ ตามตำนานของพวกผู้ใหญ่มันต้องเข้าปีที่เจ็ดนี่? โอ๊ย! งงโคตร! จะว่าไปลันมันออกจะดูรักจินมากมาย แต่ทำไมเมื่อวานที่โดนบอกเลิก ลันกลับไม่มีน้ำตาซักหยด
โคตรแปลก...
“ไงแฟร์ อรุณสวัสดิ์”
เสียงทักจากทางด้านหลังทำให้ฉันหันมองไป ก่อนคลี่รอยยิ้มกว้างทักทาย ‘พี่ใบตอง’ ที่ปั่นจักรยานตามมาทางด้านหลัง เธอเป็นประธานชมรมโยธวาทิตที่ฉันเพิ่งสมัครเข้าตอนขึ้น ม.5 ได้ไม่กี่วัน เพราะอยากตีกลองเป็นวงใหญ่ๆ หลังจากเคยเป็นมือกลองให้ ‘Nightmare’ วงเล็กๆ ที่เล่นกันชิลๆ มานาน
จะว่าไปฉันนี่เกิดมาเพื่อกีฬาและดนตรีที่ไม่เหมาะกับสุภาพสตรีซักอย่างเลยสินะ แงๆ
พี่ใบตองชะลอจักรยานแล้วจอดลงข้างๆ ฉัน
“ไปด้วยกันมั้ย?”
“อีกสามสิบก้าวก็ถึงรั้วโรงเรียนแล้วนะพี่ -0-“
“เออ จริง งั้นเดินต่อไปเพื่อร่างกายที่แข็งแรง!”
ว่าจบก็ตบไหล่ฉันดังป้าบแล้วปั่นจักรยานฟิกซ์เกียร์ฉิวเข้ารั้วโรงเรียนไป คนรู้จักฉันแต่ละคน... บ้าพลังไม่ต่างกันเลยสินะ (เจ็บบ่า T_T)
“หลบๆๆๆ!!”
ทั้งที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงหน้ารั้วโรงเรียนอยู่แล้ว แต่เสียงเอะอะมะเทิ่งจากทางด้านหลังก็ทำเอาฉันขมวดคิ้วมุ่น ก่อนหันกลับไปมองอย่างสงสัย และเป็นอันต้องยืนแข็งทื่อด้วยความตื่นตกใจ
ก็อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ผู้ชายสองคนในชุดวอร์มกีฬาสวมรองเท้าสเกตจะชนฉันแล้วน่ะสิ!
“เฮ้ย! หลบไปโว้ย!!”
จะหลบยังไงทันคะ? หักหลบไปสิ (วะ!)
ฉันเถียงมันในใจ T^T
เมื่อฉันยืนตัวแข็ง หลับตาปี๋ เตรียมตัวตายเต็มที่ ก็ราวกับสายลมเล่นตลกกับเรือนกาย เพียงเสี้ยววินาทีที่ลมวูบใหญ่พัดผ่านใบหน้า ฉันก็เผลอเปิดเปลือกตา พอดีกับที่ร่างสูงตรงหน้า กำลัง...
บิน!