ตอนที่ 3 เจ็บปวดจากความจริง

1168 Words
เธอส่ายหน้า จนเรือนผมนุ่มกระจาย แสงไฟสีส้มอ่อนสลัวตรงหัวเตียง ทำให้มองภาพคนใต้ร่างงดงาม จนไม่อาจหักห้ามใจ ปล่อยให้เธอไปได้ “ไม่ค่ะ ฉันไม่เปลี่ยนใจ” ดวงตาคนพูด สลึมสลืม มันพร่ามัวไปหมด แต่เธอยังคงเข้าใจคำถามอีกฝ่ายได้ดี “คราวนี้ ถ้าร้องให้ผมหยุด ผมคงไม่หยุดแล้วนะครับ” ริมฝีปากถูกครอบครองอย่างรวดเร็ว เรียวแขนโอบรัดรอบคอ ตอบสนองอีกฝ่าย มือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างอรชร ลิ้นตวัดควานหาความหวานในโพรงปาก จนกระทั่งถอนริมฝีปาก เธอหายใจหอบสะท้าน กระดุมเสื้อเริ่มถูกปลดทีละเม็ด สาปเสื้อแยกจากกัน จนเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่ม ภายใต้บราเซียสีดำ มือยกกอบกุม สูดกลิ่นความหอมหวาน ก่อนสอดเข้าด้านหลัง ปลดมันออก ยอดบัวสีชมพูอ่อน ทำเอาคนมองกลืนน้ำลายลงคอ ทิพย์วารีกัดริมฝีปากผิวแก้มแดงปลั่ง ต่อให้เมามายก็ยังคงรู้สึกอาย ที่ถูกชายแปลกหน้า จ้องมองดวงตาไม่กระพริบเช่นนี้ “อย่ามองแบบนี้สิคะ ฉันอาย..” เธอบอกเสียงแผ่วเบา ทว่าเสียงกลับทำเอาคนฟังรู้สึกผ่าวร้อนขึ้นมา เขากระตุกยิ้มมุมปาก “คุณสวยมากเลยรู้ไหม” มือข้างหนึ่งบีบเคล้น ส่วนอีกข้างกลับใช้ริมฝีปากดูดกลืนยอมอันงดงามเอาไว้ในโพรงปาก เจ้าของส่งเสียงครางในลำคอ ด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน ริมฝีปากถูกกัดแน่น เพื่อเก็บกลั้นเสียงร้องน่าอายเอาไว้ ริมฝีปากลากไล้ไปตามสัดส่วนอันงดงาม ส่วนมือทำหน้าที่ลูบไล้เรือนร่างจนถึงขอบกระโปรงยีนส์สีซีด เขาปลดกระดุม สอดมือเข้าสัมผัสจนคนตัวเล็กสะดุ้ง “อ๊ะ!” เธอร้องสีหน้าตระหนก ทว่าคนกระทำกลับไม่ได้สนใจ สอดนิ้วเข้าสำรวจวาดลวดลายตามกลีบดอกไม้งาม ร่างบางสั่นเทา ความรัญจวนทำเอาต้องบิดกาย ดวงตาปรือมองคนทำ ไตรทศไม่อาจทานทน รั้งชิ้นส่วนติดกายออกจากเรือนร่าง ความงดงามเผยต่อสายตา ทำเอาคนตัวใหญ่อยากครอบครองเสียตอนนี้ เขาปลดเสื้อผ้าออกจากร่างเช่นเดียวกัน เมื่อเรียบร้อย โน้มกายเข้าหาอีกครั้ง นิ้วสอดเข้าสำรวจ เพื่อตรวจดูความพรั่งพร้อม คนใต้ร่างสะท้านไหว กอดรัดอีกฝ่ายไว้แนบแน่น ริมฝีปากถูกจุมพิตลิ้นตวัดอย่างดูดดื่ม ทิพย์วารีหายใจหอบสะท้าน ริมฝีปากหนาลากลากไล้ จุมพิตไปทุกสัดส่วน ร่างอรชรบิดเร่าหอบโยน ความเสียดเสียวพุ่งทะยาน ไตรทศหยัดกาย มองดูใบหน้าสวยหวาน ของอีกคน เธอเป็นหญิงสาวคนแรก ที่ทำให้เขามีความปรารถนามากมายถึงเพียงนี้ โน้มกายเข้าหา จุมพิตหน้าผากมน “ผมจะใส่เข้าไปแล้วนะ” คนตัวเล็กปรือตามอง “ใส่เข้ามาเลยค่ะ” ตัวตนแข็งขืน มันกำลังต้องการปลดปล่อย เขาจับสะโพกมนขยับเข้าหา โน้มตัวกดแก่นกายเข้าสู่ช่องทางรัก เพื่อครอบครอง ทันทีที่มันเข้ามา ทำเอาร่างกายเธอสั่นเทา ทิพย์วารีกัดริมฝีปากน้ำตาปริ่มขอบ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน มองดูใบหน้าคนสวย อย่างไม่เชื่อสิ่งที่ตนเองได้เผชิญ ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ผู้หญิงที่เชิญชวนตัวเอง จะยังไม่เคยต้องมือชายใด “ผมขอโทษ อดทนหน่อยนะครับ ผมจะระวังที่สุด” ไตรทศบอกเสียงแหบพร่า ขบกรามแน่น “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอตอบ แล้วหลับตาลง เขาโน้มกายเข้าหา พยายามนุ่มนวลที่สุด จนกระทั่งกดแทรกตัวตนจนสุดทาง แล้วค่อย ๆ ขยับสะโพกหนา “อ๊ะ!” หญิงสาวร้องออกมา เมื่อความรู้สึกบางอย่างกำลังเข้าแทรก ปั่นป่วนในช่องท้อง ปวดร้าวผสมความซาบซ่านอันไม่เคยได้พบพาน นิ้วเรียวจิกแผ่นหลัง ยามเขาขยับสะโพกหน้า ทำเอาร่างกายมันสั่นสะท้านไปหมด “อดทนหน่อยนะครับ แล้วคุณจะชอบมัน” เขาบอกเสียงแหบพร่า ตนเองพยายามเบาแรงที่สุด เพื่อไม่ให้อีกคนต้องเจ็บปวดมากนัก ไตรทศขยับกายเป็นจังหวะหนักเบาสลับกัน เมื่อเห็นคนใต้ร่างไม่ได้มีอาการเกร็งเหมือนตอนแรก เขายกยิ้มพึงพอใจ ก่อนโถมกายเข้าหา ทำตามความปรารถนาตนเอง เสียงหอบหายใจสองคน เสียงเครื่องปรับอากาศ ผสานเสียงเนื้อเสียดสีกระทบกัน บทเพลงพิศวาสยังคงบรรเลงต่อเนื่อง จนกระทั่งรุ่งสาง ไตรทศหยุดลงเมื่อครบรอบที่สาม แห่งความหฤหรรษ์ หญิงสาวเองดูเหนื่อยอ่อน ครั้งแรก กลับต้องรักศึกหนักจากเขา ที่ไม่อาจทานทนต่อเรือนร่าง และแรงปรารถนาภายในส่วนลึกได้ โน้มใบหน้าดูดเม้มทรวงอก จนเกิดรอยแดง ราวกับเป็นเครื่องตีตราจอง เขาไม่อยากจบแค่ตรงนี้ ยังอยากสานความสัมพันธ์ต่อไป หากได้คบหา หรือศึกษากันและกัน ก็อยากทำเช่นนั้นเหมือนกัน พลิกกายลงนอนเคียงข้าง อีกฝ่ายหลับไปแล้ว เขาเลยผ่อนลมหายใจ ร่างกายยังต้องการอยู่เลย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงได้ปรารถนาต่อหญิงสาวแปลกหน้ามากถึงเพียงนี้ แทบหักห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย ไม่เป็นไร ยังมีเวลาอีกมาก หากตื่นขึ้นมา เขาอยากขอเบอร์ติดต่อ แล้วคุยกับเธอ เพราะไม่อยากเสียผู้หญิงคนนี้ให้ใครไป แสงแดดทำเอาตาลืมไม่ขึ้น ปวดเมื่อยร่างกายไปหมด เจ็บร้าวจนแทบขยับไม่ไหว ทิพย์วารีขยับกาย เสียงครางแผ่วเบา พร้อมเปิดเปลือกตา เมื่อปรับแสงเข้าที่แล้ว หญิงสาวเหม่อมองเพดานห้อง ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ หลับตาลงอย่างครุ่นคิด เมื่อคืนตนเองมีสติ และเข้าใจด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่คิดว่ามันจะเลยเถิด จนค้างอยู่ที่นี่ หันหน้าเหลือบมอง เห็นใบหน้าของเขาเด่นชัด มือยกปิดปาก เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังขยับ ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าแน่นอน มองดูเสื้อผ้าที่พื้น แบรนด์เสื้อผ้า ก็ราคาไม่ใช่ถูกเลย ตกลงเขาเป็นใครกันแน่ เธอไม่ต้องการอยู่ถาม นอกจากออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เรื่องระหว่างเราควรจบเพียงเท่านั้น ตอนนี้เธอต้องหาทางจัดการเรื่องที่บ้านให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อย ๆ หย่อนเท้าลง แล้วย่องหยิบเสื้อผ้า ที่กองกับพื้น หอบเข้าห้องน้ำ จัดการแต่งตัวเรียบร้อยในทันที เพราะไม่มีเวลามาร้องไห้ เสียใจ เหมือนนางเอกละคร ต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด ก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมา เปิดประตูห้องน้ำออกมา หากระเป๋าสะพาย เธอหยิบแล้วสาวเท้าอย่างเงียบเชียบ ไปยังหน้าประตู เห็นรองเท้าตนเองกระเด็นคนละทิศทาง เก็บมา เปิดประตูออกจากห้อง แล้วสาวเท้าไปยังลิฟท์ เธอสวมรองเท้าในนั้น ยืนพิงผนังสีหน้าเครียด ริมฝีปากบางเม้มสนิท ความรู้สึกเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ยังคงครุกรุ่นภายในอยู่เลย มันสับสนไปหมด เธอทำเรื่องผิดพลาด ไม่น่าเลย เพราะความเมาแท้ ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD