ตอนที่ 4 ดื่มด่ำความหวานของเธอช่างไม่เหมือนใคร 2/2

2134 Words
ไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้เขายังจำได้หรือเปล่า แต่สำหรับเพทายแล้ว ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน มันเหมือนเป็นความรักที่ดูเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังอยากจะใช้ใจรักแค่พี่ตรีของเธอเพียงคนเดียว ความปวดร้าวเข้ามาปะทะตัว เมื่อคืนเป็นศึกที่หนักเกินไปสำหรับมือใหม่อย่างเธอ เพราะความเอาแต่ใจของชายหนุ่ม และความต้องการของตัวเธอเอง มันเลยส่งผลให้ร่างกายตอนนี้ เหมือนจะมีไข้อ่อน ๆ “อืม~” ร่างเล็กซึ่งหลับไปโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ กำลังขยับอยู่ภายใต้ผ้าห่มหนา เมื่อเห็นดังนั้น คนกำลังจัดการแต่งตัวเพื่อเตรียมไปประชุมสำคัญ เลยเดินเข้ามาดู “ตื่นแล้วเหรอ?” เขาหย่อนตัวนั่งข้างร่างสาว แม้ใจอยากจะเล่นสนุกกับเธอต่ออีกหน่อย แต่เรื่องงานก็สำคัญไม่แพ้กัน “คุณตรี” เพทายพยายามจะลุกขึ้น แต่ความเจ็บและจุกบริเวณช่วงล่าง มันทำให้เธอฟุบลงไปนอนต่อ “โอ๊ย!” “นอนต่อเถอะ นอนเท่าที่เธออยากนอน” ตรีศูลพลิกร่างนิ่มขึ้นมา พร้อมเอามืออังหน้าผากหญิงสาว เพื่อตรวจเช็กร่างกายอีกรอบ “อืม... เดี๋ยวให้คนเอาข้าวกับยามาให้ เธอนอนพักจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้นดีกว่า” “คุณตรี จะไปแล้วเหรอคะ?” เธอถาม พร้อมปรือตามมองคนตรงหน้า “ใช่ มีประชุมสำคัญ เลยต้องรีบไป” เขาโถมกายเข้าหา พร้อมประทับจูบนุ่มลงริมฝีปากนิ่ม อ้อยอิ่งมันอยู่แบบนั้น “อยากสนุกกับเธอต่อนะ แต่ต้องพอแค่นี้” ‘เสียดายจัง’ เพทายคิด “เดี๋ยวจะมีคนเอาเสื้อผ้าและเงินมาให้ แต่ถ้าเธออยากจะอยู่ต่อ ฉันก็ไม่ห้าม” ตรีศูลลุกขึ้น และติดกระดุมข้อมือเม็ดสุดท้ายพอดี ก่อนจะหันไปหยิบเนกไทขึ้นมาสวมที่คอ “และก็นั่น... ฉันให้ ที่ข้อมือเธอ” แม้จะยังตั้งสติได้ไม่เต็มร้อย เพทายเองก็พยายามลุกขึ้นเพื่อดูสิ่งที่เขามอบให้เป็นของขวัญ มันเป็นสร้อยข้อมือเส้นเล็กมีจี้รูปหัวใจ ดูเหมาะกับผิวขาวละเอียดของเธอเสียจริง อีกทั้งยังดูมีราคาแพงไม่ใช่เล่น “เมื่อคืนเธอทำให้ฉันสนุกมาก ถือว่าเป็นค่าตอบแทน ส่วนเรื่องเงินก็ตามที่ตกลงกันเมื่อคืน หนึ่งแสน สำหรับตัวเธอและความบริสุทธิ์ของเธอ” ดวงตากลมจ้องไปยังชายหนุ่ม เธอแค่อยากมองก่อนจะไม่ได้เห็นมันอีก ค่ำคืนที่ผ่านมา มันเหมือนดังฝัน ดั่งกับสิ่งมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นกับเธอ ได้เจอคนในใจที่คิดถึงมาตลอด ได้พูดคุย และได้มีสัมพันธ์กันในที่สุด มันเกินพอแล้วหรือเปล่า เพทาย... เธอจะโลภเกินไปหรือไม่ หากต้องการจะครอบครองเขา “มีอะไร? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?” เมื่อผูกเนกไทเสร็จ ชายร่างสูงก็ตรงปรี่มาหา พร้อมทิ้งตัวข้างหญิงสาวอีกครั้ง “หรืออยากทำต่อ?” “มะ... ไม่ใช่นะคะ ฉันแค่... แค่...” “แค่อะไร?” ชายหนุ่มจ้องเธอด้วยรอยยิ้ม “แค่คิดว่า... มันอาจจะมากเกินไป... เท่านั้นเอง” เสียงอ้อมแอ้มในลำคอมันช่างน่าเอ็นดู ตรีศูลรั้งร่างอันเปลือยเปล่าของเธอเข้าไปใกล้ พร้อมมอบจูบให้เธออีกครั้ง จูบแสนหวานที่ได้ลิ้มลองมาทั้งคืน มันไม่รู้สึกเลี่ยนเลยสักนิด มีแต่จะโหยหามันมากขึ้นเสียอีก เพทายหลับตาพริ้มรับจูบของเขาแต่โดยดี เป็นความหวานนุ่ม หากมีใครสักคนจะตายเพราะจูบมันรู้สึกดีเกินไป เธอเองคงเป็นหนึ่งในนั้น “ไม่มากเกินไป จะขอเยอะกว่านี้ฉันก็ให้...” ริมฝีปากเลื่อนมาที่แก้มนุ่ม กดจูบมันเบา ๆ และถอนออก เพราะถ้าเกินเลยไปกว่านี้ มันอาจทำให้การประชุมสำคัญต้องเลื่อนออกไปก็ได้ “... อยู่ต่อได้หรือเปล่า ฉันอยากให้เธออยู่ต่อนะ” “คุณตรี อยากให้ฉันอยู่ต่อหรือคะ?” เธอถามด้วยเสียงกระเส่า “อืม จะเพิ่มเงินเท่าไหร่ก็ได้ ฉันยินดี” อ่า~ แค่คืนเดียวเอง ติดใจเสียแล้ว หญิงสาวไม่ตอบอะไร ทำได้แค่ยิ้มด้วยความเขินอาย แม้จะเสียดาย แต่ตรีศูลต้องปล่อยเธอออก และหวังว่า เมื่อกลับมา จะยังเห็นเจ้าหล่อนอยู่บนเตียงนี้ รอเขามาเล่นสนุกด้วยกันอีกครั้ง “คุณตรีคะ” หญิงสาวเรียกคนกำลังเดินออกจากห้องไป เขาจึงหันหลังกลับมาอีกครั้ง “ขอบคุณนะคะ” “หืม?” แม้จะไม่เข้าใจ แต่ก็ตอบรับแต่โดยดี “อืม พักผ่อนเถอะ” เขาออกไปเสียแล้ว มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ที่เพทายจะได้เจอตรีศูลที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอ แต่ถึงกระนั้นก็อยากจะเดิมพันอะไรบางอย่าง... บางอย่างที่ค่อนข้าง... “อันนี้เป็นเงินที่คุณตรีให้ไว้ครับ และก็ยา...” ชายหนุ่มแปลกหน้าดูท่าทางสุภาพคนนี้ ยื่นซองสีน้ำตาลหนามาตรงหน้า ทั้งซองยา และถุงกระดาษดูดีใบใหญ่หนึ่งใบ “... ส่วนถุงนี้เป็นเสื้อผ้าที่คุณตรีให้ผมเตรียมให้คุณครับ” ... จะมากเกินไปหรือเปล่า? “ขอบคุณนะคะ” เพทายซึ่งอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ กำลังยิ้มให้ชายแสนสุภาพตรงหน้าอย่างเป็นมิตร แม้สำหรับคนสนิทอย่าง ‘ติณณ์’ แล้วจะเห็นได้บ่อยครั้ง แต่เธอตรงหน้ากลับแตกต่างออกไป ช่างดู... ‘อ่อนหวานจังเลยแฮะ ผู้หญิงคนนี้’ “เดี๋ยวอีกสักครู่อาหารจะมาส่ง เชิญคุณทานได้เต็มที่เลยนะครับ และอีกอย่าง คุณตรีแจ้งมาว่าคุณจะอยู่ต่ออีกคืน จะให้ผม...” “เปล่าค่ะ ฉันจะกลับเลย” “ครับ?” ชายหนุ่มเหมือนหูฝาด มองหน้าหญิงสาวด้วยความไม่เข้าใจ ตรีศูลผู้เป็นนายไม่เคยให้ใครค้างมาก่อน เจ้าหล่อนเป็นคนแรก แต่ดูเหมือนเธอจะปฏิเสธน้ำใจเสียแล้ว “คุณจะบอกว่าจะไม่อยู่ต่อแล้วหรือครับ?” “ค่ะ ฉันจะกลับเลย ขอบคุณที่เตรียมของไว้ให้นะคะ” เธอยิ้มอย่างสุภาพให้กับชายหนุ่ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินโดยหิ้วถุงเสื้อผ้าติดมือไปด้วย โดยทิ้งให้คนไม่เข้าใจมองตามพร้อมคำถามอยู่แบบนั้น “คุณตรีเปิดทางให้ขนาดนี้แล้วนะ... แปลกคนจริง” หลังจากจัดการตัวเองในห้องน้ำเสร็จ หญิงสาวออกมาด้วยแก้มทั้งสองแดงก่ำ แน่ล่ะ ทั้งตัวเธอแทบไม่เหลือที่ว่างเลย มันเป็นรอยจากชายหนุ่มเกือบทั้งร่าง โดยเฉพาะที่หน้าอก เขาเหมือนชอบมันเป็นพิเศษ แต่ก็คงไม่มีอะไรที่ทำให้เธอใจเต้นเท่ากับชุดที่เธอใส่ ไม่ว่าจะด้านนอกหรือด้านใน มันช่างพอดีตัวราวกับเธอไปซื้อเอง เพราะตรีศูลสำรวจร่างกายเธอทั้งคืนนั่นแหละ จะพลาดได้อย่างไรกัน เลยจัดแจงบอกไซซ์ตรงเสียทุกอย่าง เลือกสีที่เข้ากับเธอมาให้ด้วย แค่เห็นตัวเองในกระจก ยังรู้สึกถึงความใส่ใจที่เขามีต่อเธอ แล้วแบบนี้... จะไม่เดิมพันได้อย่างไรกัน ดวงตากลมมองซองสีน้ำตาลหนา ไม่ผิดแน่ ในนั้นบรรจุเงินสดจำนวนหนึ่งแสนบาทตามที่ตรีศูลลั่นวาจาเอาไว้ สำหรับเพทายแล้ว เงินแสนมันหายาก และทั้งชีวิตก็อาจจะหาได้ไม่กี่ครั้งก็ได้ แต่ตอนนี้มันเป็นของเธอแล้ว แต่ถึงกระนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เธอต้องยอมตัดใจ... มือเล็กปลดตะขอสร้อยข้อมือออก และวางมันคู่กับซองเงิน มันอาจจะดูโง่ ที่เสียตัวทั้งทีดันเสียให้เขาฟรี ๆ แต่สำหรับเพทายแล้ว เธอไม่ได้ต้องการเงิน สิ่งที่เธอต้องการ... คือตรีศูลต่างหาก ‘การเดิมพันครั้งนี้ มันจะเป็นการเดิมพันครั้งเดียว และอาจจะไม่มีโอกาสอีกก็ได้’ ใช่ เธอรู้ ตรีศูลมีตัวเลือกมากมาย และเงินตรงหน้ามันก็เล็กน้อยสำหรับเขา แต่ถึงกระนั้นเพทายก็อยากเสี่ยง เพียงสักครั้งให้เขาได้จดจำเธอเอาไว้ ไม่ให้เลือนหายไปในความทรงจำอย่างที่ผ่านมา “พี่ตรี หวังว่าเราจะได้พบกันอีกนะคะ” เป็นคำขอที่มากไปหรือเปล่า แต่ช่างเถอะ เพราะสำหรับเธอ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น แม้จะเสียดายใจแทบขาด เงินหนึ่งแสนมันเยอะจนสามารถตั้งตัวได้เชียวนะ แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อเธอรักของเธอมา 15 ปีเต็ม จะให้กลับไปเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลยคงเสียใจแย่ “น้องพาย!” เสียงคุ้นหูเรียกให้หญิงสาวหันไปตามแหล่งที่มาของเสียง พอเจอกับคนคุ้นหน้า ใบหน้าระรื่นในตอนแรก ก็หงิกลงทันที “พี่แซนดี้” เธอร้องทักด้วยเสียงต่ำ มันเย็นยะเยือกเหมือนจะแช่แข็งเจ้าของชื่อได้ แม้จะรอดพ้นจากการคาดโทษจากตรีศูลมาได้ แต่แซนดี้กลับกระวนกระวายทั้งคืนจนแทบนอนไม่หลับ แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดของเธอ แต่สาวสองคนนี้ก็รีบมาเฝ้าหญิงสาวที่ล็อบบี้โรงแรมตั้งแต่เช้า ด้วยความกังวลใจจนกระทั่งเห็นเธอเดินออกมา “พะ... พี่ขอโทษนะน้องพาย พี่ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้เลย เรื่องทั้งหมดพี่ผิดเอง น้องพายจะด่า จะว่า หรือจะตบพี่สักกี่ที...” เพียะ! นี่คือโทษของคนโกหก หากว่าชายที่รอเธออยู่ไม่ใช่ตรีศูลล่ะก็ รับรองว่าแซนดี้ได้เละคาเท้าเจ้าหล่อนพร้อมกับชายคนนั้นแน่นอน “พายไม่เป็นไรค่ะ พี่แซนดี้ไม่ต้องห่วง” เธอพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง แต่ถึงกระนั้น คนที่เจ็บจนเลือดกบปากอย่างแซนดี้ ก็ดูน่าเป็นห่วงที่สุด “ระ เหรอ... น้องพาย พี่...” เสียงถูกหยุดไป เพราะสายตาของเธอมองขวางมาที่ตนเหมือนจะมีอีกฉากลงแก้มอีกฝั่ง จนต้องถอยออกห่างเพื่อระวังตัว “อย่าลืมโอนเงินให้พายด้วยนะคะ” เธอทวงสัญญาทันที “ได้สิ เดี๋ยวพี่โอนให้ตอนนี้เลย” ว่าแล้วก็รีบควักมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดทันที “สามหมื่นที่ตกลงกันไว้นะ” “ไม่ใช่ค่ะ” เสียงเธอช่างแข็งกร้าว ตวัดสายตามองไปยังสาวเทียมคนนี้อีกรอบ จนคนโดนมองเสียวสันหลังไปทั้งเส้น “สามหมื่น กับอีก หกร้อยบาท” “อ่อ... คะ... ค่าจ้างรายวันด้วยสินะ แฮะ ๆ” สาวเทียมคนนี้ยิ้มแหย แน่ล่ะ ปกติเพทายเป็นคนอ่อนโยน และดูไม่สู้คน แต่ใครจะคิดล่ะว่า เจ้าหล่อน จะมือหนักได้ขนาดนี้... จะว่าไปก็ยังมึน ๆ อยู่เลย “ระ... เรียบร้อยค่ะ น้องพายเช็กดูได้เลยนะ” “ได้รับแล้วค่ะ พายขอไม่ขอบคุณนะคะ” เด็กสาวผู้อ่อนโยนคนนั้นเปลี่ยนไปภายในข้ามคืน กำลังหย่อนมือถือใส่กระเป๋าผ้าซึ่งถือติดตัวมา แต่เมื่อจะเดินออกไป ก็ถูกรั้งเอาไว้อีกครั้ง “มีอะไรคะ พี่แซนดี้” “น้องพาย คือว่านะ... น้องพายได้นอน... กับคุณตรีหรือเปล่า?” เขาถาม มันเป็นเรื่องที่อยู่ในสมองของแซนดี้มาตลอดทั้งคืน “ทำไมหรือคะ?” “ปะ... เปล่า ๆ พี่แค่ถาม เพราะพี่เป็นห่วง...” “ถ้าเป็นห่วงพาย พี่แซนดี้คงไม่ส่งพายไปหรอก... ถูกมั้ยคะ?” มันเป็นประโยคที่ทำให้แซนดี้รู้สึกจุก ไม่คิดเลยว่าคนที่อ่อนนุ่มอย่างเพทาย จะพูดจาเชือดเฉือนคนอื่นได้คล่องปากขนาดนี้ หรือเพราะตนมีชนักติดหลังกับเจ้าหล่อนกัน เลยรู้สึกเจ็บในทุก ๆ ครั้งที่เธอเอ่ย “พะ... พี่ขอโทษ ถ้าพี่ไม่ทำ...” “พายขอไม่ยกโทษให้หรอกนะคะ หากว่านั่นไม่ใช่คุณตรี...” หากว่าไม่ใช่คุณตรี เจ้าหล่อนคงโกรธมากกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่าแน่ และไม่ใช่แค่ตบ อาจจะทำมากกว่านี้ก็ได้ “หากไม่ใช่คุณตรี น้องพายจะทำไมคะ?” “ไม่มีอะไรค่ะ พายกลับก่อนนะคะ และขอลาออกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ” แขนเรียวสลัดมือหนาออก พร้อมเดินออกห่าง ปล่อยให้คนสงสัยในคำพูดของเธอ ยืนงงอยู่แบบนั้นต่อไป เพราะไม่ใช่ธุระอะไรที่เธอต้องคอยรายงานคนคนนั้นเสียหน่อย “เพราะเป็นพี่ตรีหรอกนะ พายถึงยอม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD