บทนำ รักครั้งแรกของฉัน... ได้เจอกันแล้วนะ
จะมีใครบ้าง... ที่ยึดติดกับรักครั้งแรกเหมือนคนโง่แบบฉัน?
ยังคอยเฝ้าหวังว่าวันหนึ่ง... เพียงแค่สักครั้งจะได้พบกันอีก ไม่ว่าจะสถานะไหน...
แม้มัน... จะดูไม่ยั่งยืนก็ตาม
- เพทาย -
“ถอดออกสิ” ร่างสูงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกำยำ เดินเข้ามาใกล้สาวน้อย ซึ่งดูอย่างไรเธอก็เหมือนเด็กสาวธรรมดาในชุดนักศึกษาเท่านั้น รอยยิ้มกริ่มกระดกขึ้นมุมปากหยักลึก นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจ้องมองร่างแสนเย้ายวนด้วยความพึงพอใจ เธอคงใส่มาเพื่อเพิ่มราคาสินะ แต่ก็เอาเถอะ ต่อให้ใส่มาเพื่อเพิ่มราคาอย่างที่คิด แต่คนอย่าง ‘ตรีศูล’ คนนี้ พร้อมจะให้เท่าที่เธอต้องการ
เพราะเขากำลัง... ถูกใจเธอไปทั้งตัว!
“เออ... คือ...” หญิงสาวอึกอัก เธอขึ้นมายังห้องแห่งนี้ เพียงเพราะคำขอร้องจากหัวหน้างานของเจ้าหล่อนเท่านั้น เป็นเพียงลูกจ้างพาร์ตไทม์ธรรมดา แต่กลับกลายเป็นว่า... “ฉัน... ไม่ใช่...”
“จะเปลี่ยนใจก็ได้นะ ฉันไม่ได้บังคับหรอก” แม้จะเสียดายอยู่บ้าง เพราะเจ้าหล่อนดูน่ากินกว่าที่ได้ยินมา แต่ถ้าเธอไม่อยากทำ เขาก็ไม่คิดจะฝืน “ออกไปรับเงินแล้วก็ออกไป แต่ฉันจะจ่ายแค่ 10% จากที่ตกลงกันไว้นะ”
“คือ...” เธอยังอึกอักไม่เลิก ไม่กล้าเงยหน้ามองคนซึ่งจงใจเปิดเผยหุ่นแสนเซ็กซี่ และเขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันดูดีจนทำให้คู่นอนหลายคนเอ่ยปากชม แต่ถึงมันจะดูดีก็จริง แต่ไม่เท่ากับความคุ้นเคยที่อยู่บนใบหน้าหล่อ แม้กาลเวลาจะผ่านมา 15 ปี แต่เขา...
‘ยังหล่อเหมือนเดิมเลย’
หลายชั่วโมงก่อน...
[น้องพาย วันนี้มีงานพิเศษเข้ามา น้องพายสนใจรับหรือเปล่า...?]
“รับค่ะ ๆ พายทำได้ทุกอย่างค่ะ จะล้างจาน หรือซักผ้า หรือทำความสะอาด อะไรก็ได้ พายรับหมด”
‘เพทาย’ หรือ ‘พาย’ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ตอนนี้ทางบ้านกำลังประสบปัญหาทางการเงินขั้นรุนแรง เพราะสวนผักที่บ้านของเธอ โดนพายุจนเสียหายไปหลายแปลง ทำให้ผู้เป็นมารดาส่งเงินมาอย่างที่ควรไม่ได้
แต่ถึงกระนั้น เจ้าหล่อนก็คอยทำงานพิเศษ บวกกับเรียนไปด้วย เพราะรู้ดีว่าสวนผักเล็ก ๆ ที่เลี้ยงชีวิตสองแม่ลูก มันไม่ได้เพียงพอต่อค่าเทอมสักเท่าไหร่ พอเห็นว่ามีงานพิเศษเข้ามา เจ้าหล่อนก็ตะครุบทันที โดยไม่ถามด้วยซ้ำว่างานอะไร
... ถ้ารู้ว่างานอะไรล่ะก็ เธออาจจะไม่คิดทำมันเลยก็ได้
[ไม่ใช่งานลำบากแบบนั้นหรอกค่ะน้องพาย มันเป็นงานสบาย ๆ แต่ได้เงินดีมากเลยนะ] เจ๊แซนดี้ หัวหน้างานและเป็นสาวประเภทสองที่เธอสนิทด้วย พูดไปพร้อมปาดเหงื่อไป ไอ้งานที่เธอว่า มันกำลังทำให้เด็กคนหนึ่ง ชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล แต่ถ้าไม่ทำล่ะก็ เธอก็อาจจะกลายเป็นคนตกงานทันที
‘ฉันยังมีหนี้ก้อนโตต้องจ่ายนะ จะมาตกงานตอนนี้ไม่ได้’
“งานอะไรหรือคะ?” เพทายถามด้วยความไม่รู้ แต่ก็เตรียมตัวออกเดินทางเสียแล้ว จะงานอะไรก็ช่าง เธอยอมทำทุกอย่าง เพราะนี่ก็ปีสุดท้ายแล้ว ถ้าเธอไม่จ่ายค่าเทอมที่เหลือ รับรองว่าสิ่งที่พยายามมาทั้งหมด มันคงศูนย์เปล่า
[พี่อยากให้น้องพายไปดูแลแขกคนหนึ่งหน่อยค่ะ เขาค่อนข้างเรื่องเยอะ แต่กระเป๋าหนักใช่เล่น]
“พี่แซนดี้คะ แต่พายไม่รับงานพวกนี้นะคะ อีกอย่าง...”
[สามหมื่น คือค่าจ้างที่น้องพายจะได้ น้องพายสนใจหรือเปล่า ถ้าไม่สนใจ พี่จะได้...]
“สนค่ะสน พายสนอยู่แล้วค่ะพี่แซนดี้ มันเท่ากับค่าเทอมพายพอดีเลย พายจะทำค่ะ”
เพทายกระโดดรับงานทันที ปกติแล้วเธอจะรับงานทั่วไป ที่ต้องลงแรง เช่น ล้างจาน ทำความสะอาด หรือไม่ก็พวกซักผ้า จะอะไรก็ได้ ที่ได้เงินเธอทำหมด แต่คราวนี้ดูแปลกไป ไม่คิดว่าไอ้งานที่ต้องออกหน้าออกตาแบบนี้ พี่แซนดี้จะไว้ใจให้เธอทำ
ปลายสายถูกตัดไป เพทายรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เงินก้อนโต แต่ก็กังวลใจเรื่องแขกที่เธอต้องดูแลนี่สิ ถ้าเขาอารมณ์ร้ายขึ้นมาจะทำอย่างไร “เอาน่า~ พาย แค่ดูแลคนคนเดียวเอง ไม่เป็นไรสักหน่อย ตั้งสามหมื่นเชียวนะ จ่ายค่าเทอมได้เลย จะได้ไม่ต้องไปทำงานพาร์ตไทม์แล้วตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียวไง”
แต่ถึงกระนั้น...
“มันจะดีหรือคะพี่แซนดี้ น้องพายดูจะไม่เหมาะ...”
“หุบปาก! แกอยากโดนไล่ออกหรือทำงานที่นี่ต่อ แกก็รู้นี่ ว่า ‘คุณตรี’ อารมณ์ร้ายแค่ไหน ถ้าไม่ได้ดั่งใจ” ความจริงแซนดี้ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้เลย แต่นังเด็กบ้าที่ตัวเองหาไว้ดันเบี้ยวนี่สิ ก็มีแต่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น
ครั้งแรกที่ได้เจอเด็กพาร์ตไทม์ชื่อเพทาย ทำแซนดี้ตาค้างไปหลายวินาที เพราะเธอช่างน่ารักและมีเสน่ห์ อีกทั้งรูปร่างดูเซ็กซี่แบบไม่ได้ตั้งใจนั่นก็ด้วย แม้จะนึกเสียดายที่เธอมาทำงานอยู่หลังครัวก็ตาม แต่อีกใจก็ไม่อยากให้มีอะไรมาทำให้เธอแปดเปื้อน
แต่คราวนี้มันจวนตัวจริง ๆ ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้เด็กน้อยของเธอ รอดพ้นจากปากเสืออย่างตรีศูลก็พอ หวังว่าไอ้ความไร้เดียงสาของเจ้าหล่อน มันอาจจะทำให้ชายที่ได้ชื่อว่าหมาบ้าคนนั้น... สงสารและปล่อยเธอได้บ้าง
กลับมาช่วงเวลาปัจจุบัน
ใบหน้ารูปไข่รับกับคิ้วเรียงตัวสวย กำลังขมวดมุ่นด้วยครุ่นคิดอะไรในหัว เพทายไม่ได้โง่นะ ไอ้งานที่ให้ดูแลแขกอย่างที่พี่แซนดี้ว่า มันเป็นแบบไหน ความตึงเครียดเข้ามาจับใบหน้าจิ้มลิ้มให้ดูกังวล ริมฝีปากนุ่มถูกขบกัดเบา ๆ ยิ่งทำให้คนกำลังมองอยู่ เริ่มอยากกัดกินเธอเสียตอนนี้
“จะทำหรือเปล่า?” ชายหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ต ซึ่งตัวเองปลดกระดุมออกจนเห็นเรือนร่างอันเซ็กซี่ล่อตาเหยื่อมาสักพักออก พร้อมเดินเข้าไปใกล้เจ้าหล่อนจนเธอถอยกรูดหนีโดยไม่ได้ตั้งใจ “คำตอบล่ะ”
“คือฉัน...” สาวน้อยเลิ่กลั่ก ไม่กล้ามองคนตรงหน้าตรง ๆ เบือนหนีอาย เพราะพวงแก้มทั้งสองร้อนวูบวาบจนรู้สึกได้ “... ฉันขอทำใจก่อนได้หรือเปล่าคะ?”
“ไม่ทำสินะ” เพียงแค่เขาหันหลังกลับ...
“ทำค่ะ ฉันจะทำ” นี่คงเรียกว่าปากไวกว่าสมองหรือเปล่า เพทายกลอกตาเลิ่กลั่กกว่าเดิมหลังให้คำตอบ “แต่ฉัน... ยังไม่เคย”
“แบบนี้นี่เอง ยังบริสุทธิ์อยู่สินะ” ตรีศูลยิ่งถูกใจกว่าเก่า แซนดี้ทำงานดีเกินคาด ไปหาคนแบบนี้มาจากที่ไหนกัน ทั้งบริสุทธิ์ และน่าทะนุถนอมขนาดนี้ บางที... อาจจะเป็นค่ำคืนที่ตรีศูลลืมไม่ลงเลยก็ได้
เพทายเงยหน้ามองนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม มันไล้ไปทั่วร่าง บ่งบอกถึงความต้องการที่มีทั้งหมดออกมาโดยไม่ปิดบัง
‘นี่อาจจะเป็นโอกาสก็ได้ ที่จะได้ใกล้ชิดกับรักครั้งแรก และรักครั้งเดียวของฉัน... พี่ตรี’
มันอาจจะฟังดูโง่ แต่สำหรับเพทายแล้ว ตรีศูลคือคนที่เธอรักมาโดยตลอด รักโดยไม่สนว่าชายคนนี้จะหันมามองเธอหรือไม่ ยอมอดทนและตั้งใจเรียนเพื่อจะได้เข้าไปทำงานยังบริษัทที่ตรีศูลบริหารในสักวันหนึ่ง
แต่วันนี้ เหมือนว่าสิ่งที่เพทายหวังมาตลอด กำลังจะเป็นจริง
“พี่ตรี” เสียงแผ่วเบาจากลำคอ ดวงตากลมจ้องมองชายหนุ่ม มันเหมือนมีมนต์สะกดให้ร่างสูงชะงักไปชั่วครู่ จนหูทั้งสองข้างราวกับโดนปิด
“อะไรนะ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร?”
“ปะ... เปล่าค่ะ ฉันอยากจะถามว่า จะให้เริ่มจากตรงไหนคะ?”
คิ้วเข้มเลิกสูง มองดูเด็กสาวตรงหน้า แม้ตัวจะสั่นเพราะความประหม่าก็ตาม แต่ดวงตากลมซึ่งกำลังมองมาที่เขา มันช่าง...
...ได้อารมณ์ชะมัดยาด!
“ทำไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?” ตรีศูลเดินเข้าไปหาร่างนิ่ม แม้เธอจะพยายามกระถดหนีก็ตาม แต่ตอนนี้ หลังเล็กของเจ้าหล่อนมันได้ชนกับกำแพงห้องกว้างแห่งนี้แล้ว “ถ้าฉันบอกว่าให้เริ่มจากตรงไหนก่อน จะทำเป็นหรือไง?”
“ปะ... เปล่าค่ะ ฉันแค่... ฉัน...” เธอพูดแทบไม่มีเสียงออกมาด้วยซ้ำ แก้มนิ่มทั้งสองแดงก่ำและก้มงุดหนีเขาอีกแล้ว แม้อยากมองดวงตากลมสักแค่ไหน แต่ไอ้ความเขินอายเหมือนเด็ก ๆ แบบนี้ ตรีศูลก็ชอบไม่แพ้กัน
“นี่...”
“ว้าย!!”
ร่างนิ่มถูกรั้งเข้าไปหา พร้อมท่อนแขนแกร่งทั้งสอง โอบรัดเอวกิ่วของเธอเอาไว้แน่น ยิ่งได้สัมผัสเนื้อนิ่มเข้าไป ตรีศูลก็แทบคลั่ง โดยเฉพาะเจ้าก้อนนุ่มทั้งสอง พวกมันกำลังเบียดเสียดอกกว้างของเขาอยู่ ยิ่งทำให้อยากเห็นด้านในมากขึ้น
“...สนใจมาเป็นเด็กฉันมั้ย?” ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้ สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ มันช่างเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไม่ปรุงแต่ง ทุกอย่างเป็นธรรมชาติที่ออกมาจากเธอคนนี้ “...น่ากินชะมัด”
น่ากินไปทั้งตัวจริง ๆ เด็กคนนี้
“คะ... คุณตรี” เสียงกระท่อนกระแท่นออกมาจากลำคอ ดวงตากลมหลับปี๋ เธอไม่กล้าจะมองใบหน้าหล่อกำลังโน้มเข้ามาใกล้เลยสักนิด
“มีอะไร” เสียงแหบพร่ากระซิบอยู่ข้างใบหูเจ้าหล่อน พร้อมปลายจมูกโด่งเข้ม กดลงแก้มขาวนิ่มของเธอช้า ๆ “หอมจัง ใช้น้ำหอมอะไร บอกหน่อยสิ”
เธอส่ายหน้าพัลวัน มือเล็กพยายามดันร่างใหญ่ออก แต่ก็ถูกคนไวกว่ารวบเอาไว้ “ไม่ได้ใช้ค่ะ แค่... น้ำยาปรับผ้านุ่ม”
“อย่างนี้นี่เอง แต่หอมจัง” อีกครั้งที่แก้มนุ่มถูกช่วงชิงไป ปลายจมูกยังคงไล้ไปทั่วแก้มสาว และค่อย ๆ ลากลิ้มชิมรสหวานจากเนื้อนวลลงไปยังซอกคอขาว “ไปที่เตียงกันเถอะ”
“คะ... คือ ว้าย!!”
ต่อให้ปฏิเสธตอนนี้ก็คงไม่ทัน เพราะตรีศูลแทบจะหน้ามืดอยู่แล้ว อยากกินเธอจนปวดหนึบไปหมด อยากลิ้มลองไปทั้งตัว คงถูกใจไม่น้อย
ร่างเล็กถูกรวบอุ้มขึ้นและตรงไปยังเตียงกว้าง ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองดูคนในใจด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตื่นเต้น แต่ก็กลัวด้วยเช่นกัน ไม่รู้ว่าที่ทำอยู่ตอนนี้มันถูกหรือผิด แต่หากไม่มีโอกาสแบบนี้อีกล่ะ ถ้าไม่ได้เจอเขาอีกครั้ง... เพทายคงรู้สึกเสียดายไปตลอดชีวิตแน่ ถ้าปฏิเสธเขาคนนี้ออกไป
“มาเริ่มกันเถอะ”