ตอนที่ 2
ยุบหนอพองหนอ ยุบหนอใหญ่จังหนอ ไม่ยุบเลยหนอแน่นเหลือเกินหนอ
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อหันไปเห็นรูปร่างกำยำสมส่วนของคนตัวสูง หน้าท้องและแขนเต็มไปด้วยมัดกล้ามสวย เธอเผลอจ้องมองหุ่นกำยำนั่นจนลืมไปว่าอีกฝ่ายอาจจะจับได้ว่าเธอมองอยู่
“อะแฮ่ม”
ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะทำเป็นหันไปสนใจเสื้อผ้าตรงหน้า เนื่องจากเฮียเด่นชัยให้ชุดของแฟนลูกชายแก่โยเยเพื่อเอามาเปลี่ยนแทนชุดนักศึกษาที่เลอะน้ำก๋วยเตี๋ยว ส่วนจาร์กัว เฮียเด่นชัยก็ให้กางเกงของลูกชายตัวเองมาเปลี่ยนเช่นกัน
ตอนนี้ทั้งคู่เลยเปลี่ยนชุดกันอยู่หลังร้าน ด้วยความที่หลังร้านมีพื้นที่จำกัด ทั้งคู่เลยเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสลับกันเปลี่ยนโดยจาร์กัวเป็นคนเปลี่ยนก่อน
“เสร็จแล้ว”
พูดจบจาร์กัวก็ทำท่าจะเดินออกไป โยเยจึงรีบดึงแขนเขาเพราะเธอไม่กล้าอยู่คนเดียว
“เดี๋ยว”
โยเยคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ จาร์กัวเหลือบมองเธอและถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“มีอะไร”
“คืออยู่เป็นเพื่อนกันก่อนได้ป่าว”
คนตัวพูดพลางหันมองรอบๆด้วยความหวาดหวั่นเนื่องจาก บริเวณหลังร้านเฮียเด่นชัยใช้แค่เก็บของเท่านั้นซึ่งสถานที่ช่างดูเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่ของตุ๊กแกมาก
“ไร้สาระ”
จาร์กัวไม่ได้สนใจคำขอของเธอ เขาดึงแขนออกจากมือเธอแต่โยเยก็ไม่ยอม คว้าแขนเขาไว้อีกครั้ง ครั้งนี้ เธอยกเหตุผลเรื่องที่เขาทำน้ำหกเป็นเหตุให้เธอลื่นขึ้นอ้าง
“ห้ามไปไหนเลยนะ ต้องอยู่ชดใช้ความผิดก่อนสิ”
“ความผิด?”
“ใช่ เพราะนายทำน้ำหกไม่ใช่หรอ เรื่องทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้”
จาร์กัวไม่ได้ตอบแต่เขากลับหันมาประเชิญหน้ากับคนตัวเล็กก่อนจะเดินต้อนเธอไปจนกระทั่งแผ่นหลังบางชนผนัง
โยเยมองอีกฝ่ายด้วยความหวาดหวั่น เธอพยายามจะหันหน้าหนี ไม่สบตาอีกฝ่ายแต่ใบหน้าหล่อก็ยังคงเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าเธออยู่ดี จาร์กัวหยุดมองใบหน้าน่ารักนิ่ง เมื่อเห็นว่าคนปากเก่งหลับตาปี๋ เขาจึงยกยิ้มมุมปาก ยิ่งแก้มใสแดงขึ้น เขายิ่งยิ้มมากขึ้น ทั้งที่ปกติเขาไม่ได้เป็นคนยิ้มง่ายเลยสักนิด
ดวงตาคมยังคงมองสำรวจใบหน้าแสนน่ารักราวกับตุ๊กตาของคนตัวหน้า แผงขนตางอนยาวเป็นแพสวยช่างเข้ากับดวงตากลมโตของเธอ จมูกโด่งสวยเข้ากับใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากกระจับนั่นก็น่ากัดเสียเหลือเกิน
“ตั๊กแก!”
“วร้าย”
ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงสัตว์ที่ตัวเองกลัว เธอโผเข้ากอดร่างสูงด้วยความตกใจ คนโดนกอดก็กอดตอบอีกฝ่ายอย่างลืมตัวเช่นกัน กลิ่นหอมคล้ายขนมกับผิวนุ่มนิ่มของโยเยทำให้จาร์กัวเผลอกอดเธอแน่นขึ้นจนเธอรู้ตัว โยเยเลยรีบผละออกแล้วแกล้งพูดเสียงดังกลบเกลื่อนความเขิน
“ไม่รู้แหละ ยังไงนายก็ห้ามไปไหนเด็ดขาด”
ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ โยเยก็รีบเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปแต่ก็ไม่วายเปิดออกมาชะโงกหน้ามาย้ำอีกครั้ง
“ห้ามไปไหนนะ”
“จะให้เข้าไปด้วยเลยมั้ย?”
โยเยรู้ว่านี่ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นประโยคประชดประชัน เธอเลยย่นจมูกใส่จาร์กัวแล้วกลับเข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อประตูปิดลง จาร์กัวก็เผลอยิ้มอีกครั้ง ทันทีที่รู้ตัว เขาจึงรีบหุบยิ้มทันที อีกแล้วหรอเนี่ย เขาเผลอยิ้มอีกแล้ว
ใช้เวลาไม่ถึงสามนาที โยเยก็ออกมาในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กว่าตัวเล็กน้อยส่วนด้านล่างใส่เป็นกระโปรงนักศึกษาสั้นที่เธอใส่เป็นประจำแต่เธอไม่ได้ใส่เสื้อคลุมตัวยาวเหมือนตอนแรกเพราะไม่เข้ากับเสื้อยืดที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ ทำให้เธอเห็นเรียวขาสวยชัดกว่าตอนแรก
“เหอะ”
จาร์กัวมองคนตัวเล็กนิ่ง เขาจ้องเธออยู่อย่างนั้นจนโยเยกำลังจะเอ่ยถามว่าเขามีปัญหาอะไรกับเธอรึเปล่าแต่เสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นเสียก่อน
ติ๊งน๊อง ~
‘ลืมบอกว่าพวกฉันกลับบ้านกันแล้วนะ’ บีม
‘รอไม่ไหว หิวมาก’ นินิว
ข้อความจากเพื่อนรักในกลุ่มไลน์ส่งมาบอกว่าพวกเธอกลับบ้านแล้ว โยเยพิมพ์ตอบกลับก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า เธอกำลังจะถามจาร์กัวอีกครั้งแต่ก็มีเสียงโหวกเหวกจากทางด้านหน้าร้านดังแทรกเข้ามาอีก
โยเยรีบเดินนำออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ทันเดินพ้นขอบประตูหลังร้านก็ต้องถอยหลังกลับมาจนกระทั่งชนกับจาร์กัวที่เดินตามมา
“อะไร?”
“โยว่า โยซวยแล้ว”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นก่อนจะชะโงกหน้าไปดู สิ่งที่เห็นคิอผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำกำลังยืนอยู่เต็มร้านเหมือนกำลังหาใครสักคน ประตูร้านถูกปิด ภายในร้านมีเพียงแค่ลูกค้าไม่กี่คนและเฮียเด่นชัยเจ้าของร้านเท่านั้น
“บอกกูมาว่ายัยคุณหนูนั่นอยู่ไหน!!?”
จาร์กัวหันมามองคนตัวเล็กที่กำลังยืนนิ่งเหมือนใช้ความคิดก่อนจะถามออกไป
“เธอรู้จักพวกมัน?”
โยเยส่ายหน้า เธอหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออกหาบอดี้การ์ดที่เธอไล่กลับบ้านไปตั้งแต่เช้าแต่เคราะห์ซ้ำกรรมสัดเมื่อแบตเตอรี่มือดันหมดทั้งที่ยังไม่ได้กดโทรออกด้วยซ้ำ
“เฮ้ย มันอยู่นั่นไง”
ความซวยยังไม่จบเพียงเท่านี่เมื่อหนึ่งในชายชุดดำดันหันมาเห็นโยเย ผู้ชายคนนั้นเลยตรงมากระชากแขนโยเยแต่โยเยไม่ยอม เธอสะบัดออกนั่นทำให้ผู้ชายคนนั้นง้างมือหมายจะตบเธอแต่ไม่ทันที่จะได้ลงมือ ร่างของผู้ชายคนนั้นก็กระเด็นไปชนกับโต๊ะก๋วยเตี๋ยว
“มึงเป็นใครวะ!!?”
คราวนี้ทุกคนหันมาทางจาร์กัวแทน จาร์กัวไม่ได่สนใจจะตอบ เขาหันไปคว้าข้อมือเล็กของคนข้างกายแล้วเดินออกไปแต่ก้าวได้เพียงสองก้าว เขาก็โดนชายชุดดำล้อมไว้
จาร์กัวค่อยๆมองทุกคนด้วยท่าทางเรียบเฉยคล้ายกำลังประเมินสถานการณ์ เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเพราะคนอย่างเขาไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว
“นายจะไหวหรอ”
โยเยกระซิบถามจาร์กัวเสียงเบา ใบหน้าน่ารักฉายแววความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด จาร์กัวไม่ตอบอะไรเช่นเคย เขาดันให้เธอหลบด้านหลังและหันไปมองพวกที่ล้อมเขาอยู่ด้วยสายตานิ่งๆ
หลังจากนั้นชายชุดดำทั้งหมดก็เข้ามารุมจาร์กัวใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที จาร์กัวก็สามารถล้มชายร่างใหญ่ทั้งห้าคนได้
ทุกคนในร้านต่างปรบมือเชิญชม เมื่อเรื่องจบลง ตำรวจก็เดินทางมาถึงร้านพอดิบพอดีเหมือนกำลังรออยู่ เรื่องทุกอย่างคลี่คลายด้วยความรวดเร็ว
ตำรวจจับพวกชายชุดกับไป ส่วนเรื่องค่าเสียหายโยเยเป็นคนจัดการทั้งหมด นั่นทำให้จาร์กัวรู้ว่าคนตัวเล็กไม่ใช่พนักงานเสริฟของร้านและเธอคงไม่ใช่นักศึกษาปกติทั่วไป
“มึงว่าน้องน่ารักคนนั้นเป็นใครวะ”
นาวินถามขณะที่ทั้งคู่เดินออกจากร้าน
“ไม่รู้”
“มึงไม่อยากรู้หน่อยหรอ”
“ทำไมกูต้องอยากรู้”
“ก็เห็นมองเสียขนาดนั้น นึกว่าสนใจ”
จาร์กัวไม่ตอบเพียงแค่ปรายตามองเพื่อนนิ่งๆนาวินเองก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้ เพียงแค่ยิ้มกริ่มเท่านั้น สงสัยว่าเพื่อนหน้าตายของเขาจะเจอ คนถูกใจ ซะแล้วมั้ง
—————————