ตอนที่ 1
หลังมหาวิทยาลัยหรือที่ใครหลายคนเรียกว่าหลังม. เป็นสถานที่ที่นักศึกษามักมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายในช่วงเวลาเย็นแบบนี้เนื่องจากบริเวณนี้มีร้านอาหารเจ้าเด็ดมากมาย
โดยเฉพาะร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นเด่นชัย ที่มีนักศึกษามารอคิวเป็นจำนวนมาก แม้ว่าวันนี้จะต้องรอนานเป็นพิเศษแต่คุณหนูโยเย เจ้าของใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหวั่น
หลังเลิกเรียนเธอรีบลากเพื่อนทั้งสองอย่างบีมและนินิวตรงดิ่งมาที่ร้านทันทีเนื่องจากเธออยากกินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มาหลายวันแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้กินเสียที
“ทำไมวันนี้คนเยอะจังนะ”
นินิวชะเง้อคอมองแถวพลางบ่นออกมาด้วยความแปลกใจ ปกติร้านนี้คนเยอะก็จริงแต่ก็ไม่เคยต้องรอนานขนาดนี้เลย
“ได้ข่าวว่าวันนี้ลูกน้องเฮียเด่นชัยลาน่ะ ทั้งร้านมีพนักงานแค่คนเดียวเอง”
บีมพูดออกมา ไม่แปลกที่เธอจะรู้เพราะไม่มีเรื่องอะไรในมหาวิทยาลัยที่เธอไม่รู้
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นโยไปดูหน่อยดีกว่า”
โยเยเดินก้าวฉับ ๆ เข้าไปในร้าน ทักทายเฮียเด่นชัยอย่างสนิทสนม เนื่องจากเธอมากินบ่อยจนรู้จักกับเจ้าของร้านแต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่เคยขอลัดคิวเลยสักครั้ง การรู้จักเจ้าของร้านและลัดคิวคนอื่น ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำสักเท่าไร
“เฮียเด่นชัย หนูช่วยเสิร์ฟไหม”
“จะดีเหรอหนูโยเย เฮียเกรงใจ”
“ไม่ตอ...”
พูดไม่ทันจบ เฮียเด่นชัยก็ยื่นถ้วยก๋วยเตี๋ยวให้โยเยพร้อมทั้งบอกเลขโต๊ะเสร็จสรรพ
“อันนี้ของโต๊ะสองนะหนูโยเย”
โยเยยิ้มขำ ไหนตอนแรกบอกว่าเกรงใจ
สาวน้อยร่างเล็กเคลื่อนไหวรวดเร็วแลดูกระชับกระเฉง แก้วใสแดงระเรื่อเพราะอากาศ ผิวขาวอมชมพูดูบอบบางเสียจนน่ากลัวว่าจะรับน้ำหนักและความร้อนของชามก๋วยเตี๋ยวไม่ได้แต่เธอกลับทำหน้าที่เสิร์ฟได้อย่างดี
นอกจากนั้น เธอยังช่วยรับออร์เดอร์ได้อีกด้วย อุปสรรคไม่ได้อยู่ที่งานแต่อยู่ที่ลูกค้ามากกว่า เธอพยายามไม่สนใจคนที่พยายามจะจีบเธอ ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเดียว แม้ว่าบางที ในใจเธออยากจะกระโดดเตะปากคนพวกนั้นก็ตาม
“เอาก๋วยเตี๋ยวไก่ ใส่ใจน้องได้ไหมครับ”
“ขอโทษนะคะ ที่นี่ไม่มีใจขายค่ะ”
“โอ้ววว แห้วแตกเลยมึง”
“รอสักครู่นะคะ น้ำดื่มบริการตัวเองได้เลยค่ะ”
โยเยยิ้มน่ารักก่อนจะเดินออกไปส่งออร์เดอร์ให้เฮียเด่นชัย
เธอมัวแต่ตั้งใจทำงาน จนไม่ได้สังเกตเห็นสองหนุ่มรูปหล่อที่เข้ามานั่งได้พักใหญ่แล้ว ทั้งสองคนเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย พวกเขาไม่ค่อยได้มาร้านนี้สักเท่าไรเนื่องจากเรียนจบไปสอง สามปีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นความหล่อของทั้งสองคนยังคงเรียกความสนใจจากคนในร้านและผู้คนที่เดินผ่านไปมาเฉกเช่นเหมือนเมื่อก่อน ตอนเขายังเรียนอยู่ที่นี่
คนแรกที่นั่งหน้านิ่งไม่พูดไม่จาคือ จาร์กัว นักมวยและเจ้าของค่ายมวยชื่อดัง ผู้มีใบหน้าหล่อคม ไร้ที่ติที่ใครเห็นก็เป็นอันต้องหลงใหลแถมยังมีรูปร่างกำยำ แขนและหน้าท้องเต็มไปด้วยมัดกล้ามแลดูสวยงามเหมือนคนรักษาสุขภาพและออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ
อีกคนชื่อนาวิน นักบินหนุ่มรูปหล่อ พราวเสน่ห์ บุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความเจ้าชู้ ลือกันว่าตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นาวินมีแฟนอยู่เกือบทุกคณะเห็นจะได้
“น้องคนนั้นน่ารักฉิบหายเลยว่ะ”
นาวินพูดด้วยรอยยิ้ม สายตามองจับจ้องไปยังสาวน้อยตัวเล็กที่กำลังวิ่งเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวอยู่
“ตัวเล็กนิดเดียว แถมผิวยังขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะอีก”
“เพลา ๆ บ้างเถอะ แก่แล้ว”
จาร์กัวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เขาเห็นด้วยกับเพื่อนว่าหญิงสาวตัวเล็กน่ารักมาก เธอราวกับตุ๊กตาเดินได้หากเธอไม่กะพริบตาหรือพูดออกมา เขาคงคิดว่าเธอเป็นตุ๊กตาจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่สเปกเขาอยู่ดี จาร์กัวชอบผู้หญิงแนวเซ็กซี่ หน้าคมสวย
“กูก็ไม่ได้แก่ขนาดนั้นไหมวะ”
นาวินแย้งเพื่อนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คนตัวเล็กเดินถือก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟพอดีแต่รู้ว่าเพราะโชคชะตากลั้นแกล้งหรืออย่างไร มือจาร์กัวดันไปโดนแก้วน้ำ ทำให้แก้วน้ำตกลงบนพื้น
“เล็กตุ๋นมาแล้วค่า”
โยเยที่เดินมาไม่ทันระวังจึงสะดุดแก้วน้ำ เธอทรงตัวเองไว้ได้อย่างดีไม่ล้มแต่ก๋วยเตี๋ยวสองชามที่ถือมากลับหกไม่เป็นท่า
ถ้วยหนึ่งหกใส่เธอส่วนอีกถ้วยหกใส่เป้ากางเกงของบุคคลหน้านิ่งแบบพอดิบพอดี
“ว้ายหก หกแหกหมดแล้ว”
โยเยอุทานเสียงดัง จังหวะนั้นเองที่เธอลื่นน้ำที่หกอยู่บนพื้น ครั้งนี้เธอทรงตัวไม่ได้แต่โชคดีที่มือหนาของคนด้านข้างขวาเธอไว้ได้ทัน
ด้วยแรงที่มีมากกว่าทำให้คนตัวเล็กโดนดึงไปนั่งลงบนตักแกร่งได้อย่างง่ายดาย โยเยเงยหน้ามองเจ้าของตักพลางกะพริบตาปริบ ๆ
“หล่อมากแม่”
หญิงสาวอุทานออกมาเบา ๆ เธอยังถือวิสาสะสำรวจใบหน้าหล่ออย่างชื่นชม เธอเจอคนหน้าตาดีมาเยอะพอสมควรแต่ไม่เคยเจอใครที่เห็นแล้วใจเต้นได้ขนาดนี้เลย
จาร์กัวยื่นหน้าลงไปหาใบหน้าน่ารักของคนที่นั่งอยู่บนตัก เขาโน้มใบหน้าลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งหน้าของทั้งสองฝ่ายห่างกันเพียงคืบเดียวเท่านั้น
โยเยหลับตาพริ้ม เผลอจินตนาการถึงจูบแสนหวานเหมือนดั่งนิยายแต่แล้วความฝันก็ต้องสลายเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น ไม่ใช่จูบแสนหวานแต่เป็นมะเหงกแทน
โป๊ก!
“โอ๊ย เจ็บนะ”
“ลุกได้ยัง”
“....”
“หนัก”
———————-