เพลาร่วมเดือนที่เขาเฝ้ามองปานฤทัย แม้นเจ้าหล่อนจักผลุบโผล่มาให้เห็นแค่ชั่วกะพริบตา แต่กระนั้นเขาก็ยังรอ รอทั้งที่ในใจเคลือบแคลงสงสัย รอทั้งที่คิดว่าแท้จริงแล้วปานฤทัยอาจมิใช่คน สิงห์คำห่มผ้าให้จนถึงคอพลางปลดมวยผมออกให้ ร่างอรชรยังสะท้านด้วยแรงสะอื้นอยู่เล็กน้อย มองแล้วชวนเวทนาสงสาร ท้ายที่สุดเขาจึงลงใจได้ “วันพรุ่ง ข้าจักพาเอ็งไปที่เฮือนปัน” สิงห์คำกระซิบแผ่วเบา ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง วันต่อมา ปานฤทัยลืมตาตื่นแต่ยังไม่ยอมลุกจากที่นอน หญิงสาวนอนครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วรู้สึกว่ากระบอกตาปวดหนึบเหมือนน้ำตาจะไหล ลงมา จึงกะพริบตาหลายทีเพื่อหยุดมันไว้ โทรศัพท์มือถือยังวางอยู่ข้างตัว เธอลุกนั่งแล้วหยิบมันขึ้นมากดดูทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว ปานฤทัยสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วค่อย ๆ ผ่อนออกช้า ๆ จากนั้นลุกจากเตียงไปที่หีบเก็บของ เก็บโทรศัพท์เอาไว้ก้นหีบรวมกับเสื้