"จะ จะ เจทว่าอะไรนะ" หญิงสาวที่ยังยืนหันหลังให้เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงติดขัด แม้ทุกคำจะได้ยินชัดเจนแต่เธอแค่อยากฟังซ้ำอีกครั้งให้มั่นใจ สองมือกำชายเสื้อนักศึกษาแน่น หัวใจเต้นแรงแทบหลุดจากอก
"............." ชายหนุ่มไม่พูดโต้ตอบค่อย ๆ ก้าวขาเดินจนมาหยุดตรงหน้าของหญิงสาว ด้วยใบสีหน้าที่นิ่งเรียบ คำพูดที่บอกออกไปเขาตั้งใจเพราะความอัดอั้นมานาน...เจทจะไม่รออีกต่อไป จะไม่รอแม้ว่าต้องเสี่ยงยิ่งเลี่ยงหลีกหนียิ่งทำให้หัวใจของเขานั้นเจ็บร้าว
"..........." หญิงสาวที่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเงยหน้ามองชายหนุ่มตัวสูงด้วยดวงตาที่เบิกโต ความสับสนกับสิ่งที่ได้ยินทำให้สมองสองข้างนั้นปวดหนึบ
....คนทั้งคู่จ้องมองหน้ากันไม่วางตา จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสื่อความหมายให้รับรู้ถึงก้นบึ้งของหัวใจ
"มองอะไรหนักหนา" เเละเป็นเจทเองที่ยอมพูดขึ้นก่อน เพราะบรรยากาศตอนนี้มันอึมครึมเสียเหลือเกิน การเผชิญหน้าต่อคำบอกรักที่เก็บกั้นมานานหลายปี ตั้งแต่มีผู้หญิงที่ชื่อไอติมเข้ามาในชีวิต เจทมีความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเพื่อนแก่เธอตั้งแต่อายุสิบห้า แต่ไม่กล้าที่จะพูดเพราะยังเด็กเกินไป และยังไม่เข้าใจกับคำว่ารักที่ลึกซึ้ง
"............." คนหนึ่งยังยืนนิ่งไม่ไหวติง ทำเพียงจ้องมองหน้าของชายตัวสูงไม่ไหวติงดั่งกับเธอนั้นถูกต้องมนต์สะกดให้อยู่นิ่งไม่ไปไหว ร่างกายภายในร้อนรุ่ม ยิ่งได้มองหน้าชายหนุ่มหัวใจก็ยิ่งสั่นไหว คำพูดที่เขาพูดออกไปมันจะเชื่อถือได้แค่ไหน เธอจะยอมรับและไว้ใจได้ไหม? หากเธอตอบตกลงเพราะหัวใจของเธอมันก็มีเขาอยู่ในพื้นที่ของหัวใจเช่นกัน...แต่คำว่าเพื่อนที่ขวางกั้นจะมีผลต่อความสัมพันธ์ข้างหน้าหรือไม่...เพราะเธอไม่อยากจะเสียเขาไปไม่ว่าจะสถานะใดก็ตาม
"ไอติม" ชายหนุ่มจับกรอบหน้าสวยด้วยสองมือ พร้อมกับโน้มตัวลงต่ำเสมอกับใบหน้าของไอติม จ้องมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มจากที่ช่างใจอยู่นานว่าจะเรียกขานเธอให้คืนสติดีไหม? จนตัดสินใจเอ่ยออกไป
"อา อะ อะไร?" จนเธอนั้นพูดตอบกลับมา แม้ว่าจะติดขัดเล็กน้อยก็เพราะเธออึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
"ทำไมเงียบล่ะ?" ชายหนุ่มจับหน้าเธอเชิดเล็กน้อยให้มองสบตาคู่สวยสีน้ำตาลของเขา
...ดวงตากลมโตจ้องมองลึกเข้าสู่นัยน์ตาของชายตรงหน้า เธอจ้องมองอย่างต้องการหาคำตอบที่แท้จริงกับสิ่งที่ได้ยินก่อนหน้า
"เจท" หญิงสาวเอ่ยเรียกแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่สื่อได้จากนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นี้
"ที่พูดเมื่อกี้พูดจริง...ไม่มีสิ่งที่เจทต้องเก็บอีกต่อไป แม้ว่าไอติมจะไม่ยอมรับ...แต่เจทคงห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว" ชายหนุ่มพูดบอกออกไปกับสิ่งที่เก็บกลั้นมานานหลายปี จนตอนนี้แน่ใจถ่องแท้แล้วว่ามันเรียกว่า รัก
"เจทรักไอติมเหรอ?" หญิงสาวยังคงตั้งคำถาม พร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า ดวงตากลมเริ่มร้อนผ่าวและกำลังผลิตน้ำสีใสในดวงตา เมื่อคำว่า รัก มันหวนย้อนเข้ามาในส่วนของการรับฟัง รวมทั้งหัวใจที่อยู่ข้างในนั้นเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ มันเต้นตึกตักดังโครมครามอยู่ในอก
"อืม" ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับ มือหนายังไม่ละห่างจากกรอบหน้าสวย
"อึก เจท...ฮึก" รอยยิ้มละมุนที่เจทส่งให้ทำเอาหัวใจของหญิงสาวนั้นสะท้าน น้ำสีใสที่พร้อมไหลรินด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง เธอสะอึกสะอื้นออกมาทั้งน้ำตา นิ้วมือยาวของเจทเช็ดซับคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความรัก
"เจทไม่รู้ว่าไอติมจะ...มีใจตรงกันกับเจทไหม?" ชายหนุ่มยังคงไล้นิ้วมือเช็ดน้ำตาให้หญิงสาวต่อเนื่อง เมื่อมันยังไม่ไหลไม่มีที่สิ้นสุด ปลายจมูกเล็กเห่อแดงด้วยแรงสะอื้นร่ำไห้ ไม่มีใครตีเธอให้เจ็บปวดรวดร้าว แต่มันเป็นเพราะเขาที่เอ่ยคำว่า รัก ออกมาจนเธอนั้นซึ้งใจ
"บอกได้ไหมว่าตั้งแต่ อึก เมื่อไหร่? ฮึก อึก" เสียงสะอื้นที่ปะปนพร้อมคำถามเอ่ยพร่ำออกไปอย่างรอคำตอบ มือเรียวจับเบาๆ ลงข้อมือของชายหนุ่มทั้งสองข้าง เธอไม่ได้จับให้ออกห่างแต่จับไว้เพื่อไม่ให้เขาถอยหนีจากไป เธออยากรั้งเขาไว้เคียงกายเช่นกัน
"มัธยมต้น" ชายหนุ่มบอกออกไปด้วยน้ำเสียงละมุน
"นานจัง...แล้วทำไมเพิ่งบอก เป็นใบ้หรือไง" หญิงสาวต่อว่าทั้งน้ำตา เธอดีใจกับคำตอบที่ออกจากปากของชายหนุ่ม เธอไม่ได้คิดรักแค่ฝ่ายเดียว แต่สองหัวใจเกี่ยวพันกันมานานโดยที่ไม่มีใครพูดบอกไป
"แล้วไอติมล่ะ?...รู้สึกเหมือนที่เจทรู้สึกหรือเปล่า?" ชายหนุ่มขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ แล้วเอ่ยถามออกไปแผ่วเบาแค่เขาและเธอเท่านั้นที่จะได้ยิน
"ไม่บอกได้ไหม?" หญิงสาวต่อรอง
"สี่ห้องหัวใจของเจท...ไม่เคยคิดจะมีใครนอกจากไอติมคนเดียว" ชายหนุ่มพร่ำต่อเพื่อสร้างความมั่นใจในคำพูด ว่าสิ่งที่หลุดจากปากของเขาไม่ใช่แค่ลมปากพล่อย ๆ เท่านั้น แต่มันคือทั้งหมดของหัวใจที่ผู้ชายอย่างเขามี
"แต่ที่เจทพูดออกมา...ไอติมจะเชื่อได้แค่ไหน?"
"อาจจะไม่ใช่วันนี้หรือพรุ่งนี้ที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ อันนี้เจทเข้าใจว่าไอติมอาจจะกลัว....ใช่ไหม?" เขาเข้าใจดีกับความรู้สึกสับสนของเธอ ไม่อยากจี้ย้ำเอาคำตอบ เเต่เขาก็ไม่อยากจะรอเพราะเท่าที่เห็นมีคนจ้องจะครองหัวใจของเธออยู่...เขาจึงไม่อยากช้าและพลาดโอกาสไป รีบพูดสิ่งที่อยู่ในใจก่อนที่มันจะสายเกินไปจนเขาไม่มีสิทธิ์จะพูด
"ไอติมรู้สึกดีนะเวลาที่มีเจทอยู่ข้าง ๆ ไอติมยิ้มได้ไม่อ้างว้าง....และ........" หญิงสาวสบตาพูดบอกก่อนจะเว้นวรรคในคำหลังที่ยังไม่ค่อยกล้าเปิดเผย
"เวลาที่ผ่านมามันย้ำเตือนหัวใจเจทมากพอแล้ว" ดวงตาคมนัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองอย่างหยาดเยิ้ม...ในใจก็รอลุ้นกับสิ่งที่หญิงสาวจะพูดออกมา
"และ....ไอติมไม่อยากเสียเจทให้ใครเหมือนกัน" หญิงสาวตัดสินใจพูดความรู้สึกออกมา ทำให้คนที่มีสีหน้าลุ้นระทึกเผยยิ้มออกมาด้วยความตื้นตันใจ
"ไอติมไม่ได้พูดหลอกให้เจทดีใจเล่นใช่ไหม?" ชายหนุ่มจับไหล่มนแล้วเอ่ยถามออกไปอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
"รักเหมือนกัน :)"